เมฆตัดผ่านอากาศอย่างเร่งรีบ เฟิงหลินยืนอยู่บนนั้น เสื้อผ้าของเขาโบกสะบัดไปตามสายลมที่พัดผ่าน ในพริบตาท้องฟ้าสีฟ้าและเมฆสีขาวก็ถูกผลักไว้ข้างหลังเขา
เมื่อเขาไปถึงจุดหมาย เขาเห็นเงาสองร่างที่คุ้นเคย พวกเธอรอมาซักพักแล้ว
สวบ!
เมฆเร่งตัวและเขาก็เข้ามาใกล้ทำให้สองพี่น้องตกใจ พวกเธอตื่นตระหนกและผ่อนคลายเมื่อเห็นเฟิงหลินบนเมฆ
นี่มันความเร็วอะไรกัน!
เฟิงหลินดูเหมือนจะมาถึงภายในเสี้ยววินาทีจากการรับรู้ของพวกเธอ
สองพี่น้องไม่ใช่คนธรรมดาและรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวเขา
“นายกลายเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูงแล้วหรอ?” เพื่อคลายความสงสัยของเธอ แอริสถามอย่างรีบเร่ง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความกระวนกระวายที่ควบคุมไม่ได้
เธอรู้สึกได้ถึงพลังงานหนาแน่นและแรงกดดันที่เปล่งออกมาจากเฟิงหลิน ซึ่งทำให้ร่างกายของเธอตึงเครียด เธออดไม่ได้ที่จะมองเขาด้วยความเป็นปฏิปักษ์
ก่อนหน้านี้เฟิงหลินแข็งแกร่ง แต่ในฐานะคนที่เคยภูมิใจว่าตัวเองเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูง เธอจึงอดรู้สึกแย่ไม่ได้
ด้วยการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในกลิ่นอายของเฟิงหลิน มีความเป็นไปได้สูงมากที่เขาได้กลายเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูงแล้ว นั่นเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกกดดันเช่นนี้
เฟินหลินยิ้มสดใส เขาไม่ได้พูดอะไร แต่ยอมรับด้วยการเงียบ ไม่มีทางที่เขาจะเปิดเผยความก้าวหน้าของเขาเอง
ความสามารถของผู้บ่มเพาะระดับสูงนั้นมีความสัมพันธ์โดยตรงกับลักษณะเฉพาะของผู้บ่มเพาะแต่ละคน มันเป็นความลับที่พวกเขาไม่ควรเปิดเผยง่ายๆ
เฟิงหลินยิ่งมีเอกลักษณ์มากขึ้น ในกรณีนี้ เส้นทางของเขาคือเส้นทางในตำนานของซุนหงอคง มันเป็นเส้นทางที่ไม่มีใครรู้นอกจากเขา
นี่เป็นไพ่ตายของเขา เขาไม่สามารถเปิดเผยมันได้
เมื่อมองแอริส เขาก็ยิ้มเล็กน้อย
มีครั้งหนึ่งที่เขาตกตะลึงกับสถานะผู้บ่มเพาะระดับสูงตั้งแต่อายุยังน้อยของเธอ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะไม่มีอะไรมากในสายตาเขา
ด้วยการประเมินของเฟิงหลิน เขาพบว่าพลังของเธอควรจะอยู่ที่ประมาณ 270 ซึ่งน้อยกว่าของเขาเล็กน้อย
ถึงกระนั้นแอริสก็เป็นผู้บ่มเพาะระดับสูงมาเป็นเวลานานแล้ว
สำหรับเฟิงหลินที่เอาชนะเธอได้ง่ายๆนั้นเป็นเพราะการสะสมพลังตอนยังเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาว เขาใช้เวลานานในการทำลายคอขวดของพลังเขา ดั่งที่พวกเขากล่าวว่าการเตรียมการที่ดีเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ แม้ในฐานะผู้บ่มเพาะระดับสูง เขาก็ไม่ได้เป็นหนึ่งในผู้อ่อนแอที่สุดอีกต่อไป และเป็นนักสู้ชั้นแนวหน้าในระบบสุริยะ
นอกจากนี้สิ่งที่เขาปลุกขึ้นนั้นคือยีนลิงหินวิญญาณขั้นสมบูรณ์ พลังของมันเหนือกว่าทุกยีนในระดับหลุดพ้น
คำว่า “ราชาแห่งระบบสุริยะ” อยู่ในมือของเขาแล้ว
…
สองพี่น้องมองหน้ากันทันทีหลังได้ยินคำตอบของเฟิงหลิน ไม่ว่าพวกเธอจะมีเหตุผลและใจเย็นแค่ไหน พวกเธอก็ยังตกตะลึงกับเรื่องนี้
ก่อนหน้านี้พวกเธอเพียงแค่หยิบเกลือมาจิ้ม แต่เฟิงหลินมองหาโอกาสที่จะข้ามไปได้
เฟิงหลินติดอยู่มานานแล้ว ดังนั้นเขาจึงข้ามอาณาจักรได้ทันทีหลังจากที่รู้วิธีจากเธอ ?
พวกเธอคิดว่าเฟิงหลินติดอยู่นานจนเขาอดใจไม่ไหวแล้วลองดู ตอนนี้เขาควรยังอยู่ในช่วงการประเมินสภาพ เวลาเพิ่งผ่านไปไม่นาน แล้วเขาจะประสบความสำเร็จได้ยังไง?
ความล้มเหลวยังเป็นไปได้มากกว่า!
แต่ …
เฟิงหลินกลับประสบความสำเร็จ มันไม่สมเหตุสมผลเลย!
แม้ว่าจิตใจของยานาจะละเอียด แต่ตอนนี้เธอกลับดูว่างเปล่า สิ่งนี้เกินความคาดหมายของเธอโดยสิ้นเชิง
เฟิงหลินยิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไร
เมื่อยานาได้สติ เธอก็ปรับความคิดอย่างรวดเร็ว”มาตามล่าหาราชินีสัตว์ผิดปกติกันต่อเถอะ! ฉันเลือกสถานที่มานานแล้ว มันเป็นรังเล็กๆในระยะ 500 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงเหนือ! คราวนี้เราจะ … “
“เดี๋ยวก่อน!” เฟิงหลินเข้ามาแทรกแซง ตัดคำพูดของเธอ
ยานาอ้าปากค้างเล็กน้อย ด้วยความไร้เดียงสามันทำให้เธอดูบอบบาง
“นายจะคืนคำหรอ?” แอริสตะคอก เธอคิดว่าเฟิงหลินกำลังใช้โอกาสนี้ทิ้งพวกเธอหลังจากเขากลายเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูง
“เธอเข้าใจผิดแล้ว” เฟิงหลินมองผ่านความคิดของเธอและยิ้มอย่างขำขัน
“แล้วนายหมายถึงอะไร?” ยานาถามเบา ๆ
“ฉันแค่คิดว่าสิ่งนี้ไม่ได้ผล” เฟิงหลินกล่าวอย่างชัดเจนและเธอก็อดไม่ได้ที่จะเห็นด้วย
“นายหมายถึง?”
“ใช่แล้ว!” เฟิงหลินพยักหน้ายืนยันความคิดของเธอ “ฉันเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูงแล้ว และพลังการต่อสู้ของฉันก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก การล่าราชินีรังขนาดเล็กจะไม่มีความท้าทายอะไรอีก!นอกจากนี้มันจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับคนอื่น ๆ ที่จะได้คะแนนเท่าเราถ้าเขาทำเหมือนเรา เราควรไปล่าราชินีขนาดกลาง! “
ราชินีขนาดกลางนั้นเทียบเท่ากับผู้บ่มเพาะระดับสูงขั้นกลางที่มีพลังอย่างน้อย 300 มันไม่ง่ายเลยที่จะจัดการได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองดูความมุ่งมั่นของเฟิงหลิน พวกเธอก็กลัวว่าหากพวกเธอไม่เห็นด้วยเขาจะถือว่าพวกเธอเป็นภาระที่รั้งเขาไว้
“ก็ได้!” ยานาอาจอ่อนแอ แต่เธอมีนิสัยที่เด็ดขาด เธอเห็นด้วยทันที
“พี่…” แอริสตื่นตระหนกอยู่ครู่หนึ่ง
รังแม่ขนาดกลางนั้นอันตรายมากกว่ารังขนาดเล็ก มันไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอก
ในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนเช่นนี้ เธอไม่มีความมั่นใจในการรักษาความปลอดภัยให้พี่สาวของเธอ
เมื่อเข้าใจสถานการณ์ เฟิงหลินก็ยิ้มเบา ๆ “ไม่ต้องกังวล!”
มันเป็นเพียงราชินีระดับกลาง มีพลังที่ไม่สามารถเทียบกับเขาได้ มีอะไรที่ต้องกลัว?
ยานาหายใจเข้าลึก และตัดสินใจที่จะไม่ถอย ด้วยความมั่นใจจากคำพูดของเฟิงหลิน มันทำให้เธอทำได้เพียงไว้ใจเขาเท่านั้น
เมื่ออ่านท่าทางวิตกกังวลของสองพี่น้อง เฟิงหลินก็อดหัวเราะไม่ได้ แต่ไม่ได้พูดอะไร
ไม่นาน ยานาก็ยืนยันตำแหน่งของรังแม่ขนาดกลางได้
“ไปกันเถอะ!” เฟิงหลินเริ่มเคลื่อนไหวโดยไม่ลังเล พร้อมกับผู้หญิงสองคนบนเมฆ ผลักไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วจนถึงปลายทาง
ลมพัดกระหน่ำแหลมคมราวกับมีดมาฟันหน้า
ความเร็วที่ทั้งสามเคลื่อนไหวเกินกว่าจินตนาการ สร้างสิ่งกีดขวางที่เหมือนกระสวยอวกาศในอากาศ มันเร็วมาก แต่เงียบจนไม่มีเสียง
นี่เป็นตัวอย่างของความเร็วเหนือเสียง
สองพี่น้องมองหน้ากัน; พวกเธอรู้สึกทึ่ง แต่ก็ยังคงนิ่งเงียบ
ไม่นานนักถ้ำยักษ์ก็ปรากฏตรงหน้า มันดูเหมือนหลุมขนาดใหญ่ สิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่ตกลงไปจะไม่มีทางออกมาได้ มันให้กลิ่นอายน่าขนลุกทำให้ผู้อื่นกลัวเพียงแค่เข้ามาใกล้
หวืออ!
เสียงหวีดของลมหนาวก็แผดเสียงโหยหวนจากภายในหลุมอย่างต่อเนื่อง
พวกเขาสามคนเข้ามาใกล้ถ้ำและเห็นกลุ่มสัตว์ผิดปกติที่เดินออกมาทันที พวกมันมีกันสี่ตัวดูอันตราย
มันเป็นกลุ่มสัตว์ผิดปกติ แต่ละตัวมีเครื่องแบบและเติมเต็มซึ่งกันและกัน ดูมีอำนาจการต่อสู้ที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง
ดูจากหน่วยลาดตระเวนประจำวันนี้ สามารถบอกได้ว่ารังแม่กลางนั้นแตกต่างอย่างมากกับรังแม่ขนาดเล็กๆ ความปลอดภัยของมันแน่นหนามาก
โดยสัญชาตญาณ พวกเขารีบซ่อนตัว เฟิงหลินประเมินสัตว์ผิดปกติด้วยแสงแปลก ๆ
“การรักษาความปลอดภัยของรังแม่ขนาดกลางนี้แน่นหนาเกินไป! มันยากสำหรับเราที่จะแทรกซึมเข้าไป ดูจากสัตว์ผิดปกตินี้ เราสามารถบอกได้ว่าพวกมันแข็งแกร่ง ถ้าเราต่อสู้และสร้างความโกลาหลมากเกินไป ฉันกลัวว่ารังแม่จะพบความผิดปกติก่อนเราสามารถจัดการกับพวกมันได้ จากนั้นเราอาจถูกคลื่นพวกมันโถมใส่ … “แอริสพูดด้วยเสียงต่ำรู้สึกว่าสิ่งต่างๆชักไม่เข้าท่า เธอมีประสบการณ์มากมายในการต่อสู้และสามารถคาดเดาเหตุการณ์ได้
ยานาขมวดคิ้วเช่นกัน แต่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้แม้จะไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง เธอมองเฟิงหลิน
เนื่องจากเขาเป็นผู้ตัดสินใจมา เขาจะจัดการกับปัญหานี้ยังไง?
พวกเขาควรดื้อดึงไปต่อ เสี่ยงต่อความสิ้นหวังหรือถอยกลับ?
…
แต่เฟิงหลินกลับหัวเราะเบา ๆ “เข้าไปข้างในกันเถอะ!”
“เข้าไป?” แอริสตกใจ “นายบ้าหรือเปล่า?”
“มันจะยากขนาดไหนกัน?” เฟิงหลินหัวเราะเบา ๆ ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็ส่องประกายในขณะที่เขาบัญชา “แปลงร่าง!”
นิ้วมือส่งพลังงานลึกลับที่มองไม่เห็น แต่ปกคลุมไปด้วยพลัง
พี่น้องชาวกรีกกำลังจะคัดค้านแต่รูปร่างหน้าตาของพวกเธอกลับเปลี่ยนไปก่อน พวกเธอจ้องมองการเปลี่ยนแปลงของกันและกัน พวกเธอกลายเป็นสัตว์ผิดปกติน่าเกลียดสองตัว
“เกิดอะไรขึ้น?” ปกติพวกเธอมักจะสงบและไม่ถาม แต่ครั้งนี้พวกเธออดไม่ได้ที่จะถามด้วยความตกใจ
พลังการเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดนี้ พวกเธอไม่เคยได้ยินมาก่อน
ถึงอย่างนั้นเฟิงหลินก็ไม่คิดตอบคำถามเหล่านั้น
สัตว์ผิดปกติได้ยินเสียงชัดเจนมาก และเสียงของพวกเขาก็ดึงดูดความสนใจของพวกมัน สายตาสองคู่จ้องมองกวาดไปทั่ว และจมูกดำของพวกมันก็ส่งเสียงฟุดฟิดสูดดมราวกับว่าพยายามที่จะจับกลิ่นแปลกปลอมในอากาศ รูปร่างหน้าตาของพวกมันดุร้ายและไม่เป็นมิตร ขณะที่พวกมันสำรวจไปทุกทิศทุกทาง
“ชู่ว!” เฟิงหลินทำท่าทางให้เงียบ ผู้หญิงสองคนเปลี่ยนร่างเป็นหน่วยลาดตระเวนปกติ
“ตามฉันมา!” เขาสั่งเสียงต่ำแล้วเดินนำออกไปก่อน สองสาวไม่รู้ว่าเขากำลังวางแผนอะไร แต่พวกเธอก็ติดตามเขาไปด้วยความสับสน
(นี่มันบ้าชัดๆ! ทำไมเราถึงร่วมมือกับคนบ้าแบบนี้ด้วย)
…
สัตว์ผิดปกติมองพวกเขาที่เดินเข้าไปใกล้
แต่เฟิงหลินก็ไม่เกรงกลัว เขากลับเดินหน้าต่อไป
หน่วยลาดตระเวนมองพวกเขาและสูดดมกลิ่น
เฟิงหลินขมวดคิ้ว เปิดปากที่น่าสยดสยองเต็มไปด้วยฟันคมกริบและปล่อยเสียงแหลมรุนแรง กรงเล็บทั้งสองของเขากระแทกกับเกราะที่หน้าอกของพวกมัน การกระทำของเขาดูคล้ายกันมากกับสัตว์ผิดปกติ ทำให้ยากที่จะแยกแยะระหว่างของจริงหรือของปลอม
นี่เป็นเสียงร้องแสบแก้วหูและลักษณะที่น่าประทับใจของสัตว์ผิดปกติระดับสูง
เมื่อได้ยินเสียงของมัน สัตว์ผิดปกติทั้งสองก็รีบหมอบคลาน
เฟิงหลินเตะสัตว์ผิดปกติทั้งสองที่อยู่ใกล้ที่สุดกับเขาอย่างไร้ความปราณี ส่งพวกมันลอยก่อนที่จะเดินทางหน้า
สองสาวทำหน้าประหลาดใจและเดินตามเขาต่อด้วยความหวาดกลัว
ในไม่ช้าพวกเธอก็พบเส้นทางสู่รังแม่ หลังพบกับเฟิงหลินแล้ว สัตว์ผิดปกติเหล่านั้นดูเหมือนจะมองว่าเขาเป็นนักล่าและตัวสั่นเมื่อเห็นเขา ไม่มีใครกล้าหยุดยั้งเฟิงหลินและสองพี่น้อง
รังแม่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยอันตรายเหมือนสระมังกรและถ้ำเสือในสายตาของสองสาว ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นภัยคุกคามที่ว่างเปล่า
เมื่อเทียบกับความสับสนของแอริสและความตื่นตระหนก ยานากลับหายหวาดกลัวชั่วคราวและเริ่มไตร่ตรอง
นี่เป็นภาพลวงตาที่เขาพยายามสร้างด้วยความสามารถในการเปลี่ยนร่างหรือเปล่า?
เฟิงหลินไม่เคยแสดงทักษะการเปลี่ยนร่างเหนือธรรมชาติเช่นนี้มาก่อน นี่เป็นความสามารถที่เขาปลุกขึ้นมาหลังจากกลายเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูงหรือเปล่า?
…
ด้วยระยะเวลาสั้นๆในการสังเกตและด้วยความฉลาดของยานา เธอสามารถเดาความสามารถที่เพิ่มขึ้นของเฟิงหลินได้
เฟิงหลินไม่สนใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้เช่นกัน
แม้ว่าเขาจะพัฒนาเป็นลิงหัวใจ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ยีนวิญญาณของเขาไร้ประโยชน์
เมื่อปลุกขึ้นมาแล้วยีนจะคงอยู่ตลอดไป และไม่มีใครสามารถกำจัดความสามารถได้
เขากระจายแรงวิญญาณของเขาไปรอบ ๆ เพื่อค้นหาโครงสร้างของรังแม่ขนาดกลางและได้ตำแหน่งที่แม่นยำของราชินี
เมื่อเทียบกับรังแม่ขนาดเล็กก่อนหน้านี้ โครงสร้างภายในของที่นี่มีความซับซ้อนมากขึ้นและใหญ่กว่ามาก แม้จะมีพลังวิญญาณของเฟิงหลินในการกำหนดขอบเขตพื้นที่ เขาก็ไม่สามารถเข้าใจตำแหน่งที่ถูกต้องได้ในเวลาอันสั้น
“ตามฉันมา!” เฟิงหลินใช้พลังจิตของเขาเพื่อชี้ทาง พุ่งไปข้างหน้าเงียบๆ
สองสาวรีบตามไป
เป็นไปได้ไหมว่าเขาต้องการที่จะ…
เมื่อเห็นท่าทีของเฟิงหลินที่เดินไปข้างหน้าด้วยความกล้าหาญ ยานาสามารถเดาแผนของเขาได้แล้ว
สิ่งที่ทำให้ยากสำหรับเธอที่จะยอมรับก็คือเธอรู้ว่าเฟิงหลินสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของพวกเธอได้อย่างเต็มที่หลังจากที่เขากลายเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูง
สถานะของพวกเธอลดลงอย่างมาก กลายเป็นเพียงผู้ติดตาม
ดูเหมือนว่าเฟิงหลินจะไม่ลังเลที่จะเดินเข้าไปตามกลิ่นอายในอากาศ พุ่งเข้าหาส่วนลึกสุดของรัง
สิ่งที่ยานาคิดนั้นถูกต้อง พวกเขากำลังจะจัดการกับรากเหง้าของปัญหาโดยใช้กลยุทธ์ความแปลกใจและความเร็วในการลอบสังหารราชินี
ในไม่ช้าพวกเขาก็พบว่าตัวเองอยู่ในปลายสุดของรังแม่ ภายในนั้นมีสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวอยู่ในถ้ำ มันมีรูปร่างเหมือนแมงมุมปีศาจและดูเหมือนจะใหญ่กว่า 20 เมตร
“ฆ่ามัน!” เมื่อเห็นเป้าหมาย เฟิงหลินก็ไม่เสียเวลาลังเล ด้วยกระบองเหล็กในมือของเขา เขาหวนกลับคืนสู่รูปแบบดั้งเดิมของเขาและกระโจนไปข้างหน้า
บูม!
ในเสี้ยววินาที กระบองเหล็กก็มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นทวีคูณ มันกระแทกใส่ราชินีที่ไม่ทันตั้งตัว
ทุกสิ่งเปลี่ยนไปแล้ว เกราะที่แข็งแกร่งของราชินีแตกสลาย หลังจากถูกจู่โจมด้วยกระบองเหล็กและเลือดก็เริ่มไหล
ราชินีขนาดกลางได้รับบาดเจ็บสาหัสและเริ่มส่งเสียงคำราม มันสะท้อนกับอุโมงค์ของรังแม่และไม่หยุดเป็นเวลานาน ราวกับว่าเธอกำลังเรียกอะไรบางอย่าง
ทันใดนั้น รังแม่ขนาดใหญ่ก็เริ่มสั่นสะเทือน
ฝูงสัตว์ผิดปกติจำนวนมากเริ่มโจมตี จำนวนของพวกมันเเพิ่มขึ้นเป็นหมื่น สายตาของพวกพุ่งมาทำให้กระดูกสันหลังเย็นวูบ
“คุ้มกันฉัน!”เฟิงหลินสั่น
ในขณะนั้นสองพี่น้องดูเหมือนจะเชื่อมต่อกระแสจิตกับเฟิงหลิน ทิ้งความคิดอื่นทั้งหมดไป พวกเธอพลันลงมือ
รูปปั้นกลิ่นอายทรราช!
พลังกดขี่ของแอริสดูเหมือนจะรวมกันเป็นรูปปั้นครึ่งตัว ปล่อยแรงกดดันหนักหน่วงออกมา
กำปั้นของเธอใหญ่เท่ากับภูเขาในขณะที่เธอโจมตีอย่างไม่ลดละ ภายใต้การโจมตีที่ทรงพลัง สัตว์ผิดปกติถูกบดให้เป็นฝุ่นละเอียด
หวด, หวด, หวด!
ดวงตาของยานาทอประกาย แขนสีทองเรียวปรากฏขึ้นในอากาศอย่างเงียบๆ ยิงลูกศรออกไป ศัตรูล้วนถูกตัดเหมือนหญ้า ล้มลงกับพื้น
เฟิงหลินฉวยโอกาสและเริ่มกระหน่ำโจมตี เขาไม่ให้เวลาราชินีได้พักหายใจ กวัดแกว่งกระบองเหล็ก สร้างเป็นวงแหวนของการโจมตี ทำลายทุกสิ่งที่สัมผัสกับมันและไม่ปล่อยให้อะไรเล็ดรอดออกไป
ราชินีต่อสู้สุดชีวิต อวัยวะสืบพันธุ์ในกระเพาะอาหารของเธอสั่นอย่างไม่หยุดหย่อน โดยหวังว่าจะให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวอีกสักหนึ่งตัวและฉีกเฟิงหลินให้ฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
อย่างไรก็ตาม เฟิงหลินจะมอบโอกาสนั้นได้ยังไง? ในชั่วพริบตา กระบองเหล็กนับร้อยก็รวมเป็นหนึ่งขณะบดขยี้ใส่อวัยวะสืบพันธ์ของราชินี มันร้องโหยหวนไม่หยุดและสิ่งมีชีวิตภายในก็ตายก่อนจะได้เกิด
เฟิงหลินดีดตัวขึ้นอากาศ รวมพลังในชั่วพริบตาและเสยราชินีขึ้น
“ยืด!”
กระบองเหล็กยืดยาวไปตามทิศทางลมและทะลุผ่านยอดเขาพร้อมกับร่างใหญ่ของราชินี ภายใต้การสัมผัสของดวงอาทิตย์ที่แผดเผามันแห้งและไม่นานก็กลายเป็นศพแห้ง
สัตว์ผิดปกติอื่นๆในรังแม่ก็ถูกกำจัดเช่นกันเหมือนสายลมในฤดูใบไม้ร่วงที่กวาดใบไม้ร่วงหล่นลงมา
สัตว์ผิดปกติทุกตัวจะถูกนำไปนับเป็นคะแนน!
เฟิงหลินและสองสาวได้คะแนนทั้งหมด 176,800 คะแนนมาอย่างง่ายดาย