ตอนที่ 2175 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (16) / ตอนที่ 2176 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (17)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 2175 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (16)

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ลดปืนลงแล้วเม็ดเหงื่อก็ผุดขึ้นบนหน้าผากของพวกเขา

“ท่านอดีตประธาน พวกเรารีบมาที่นี่เพราะได้รับรายงานว่ามีใครบางคนพยายามทำการฆาตกรรมท่าน ท่านอย่าโทษพวกเราเลยครับ”

“ฮึ่ม!” อดีตประธานแค่นเสียงขึ้นจมูกแล้วพูดอย่างเฉยชาว่า “พวกคุณชี้ปืนมาที่ประชาชนแค่เพราะว่าได้รับรายงานงั้นเหรอ พวกคุณไม่แม้แต่จะสืบสาวเรื่องราวเลยรึไง นี่เป็นวิธีการที่เจ้าหน้าที่รัฐทำงานกันงั้นเหรอ”

เจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงสีหน้ากระอักกระอ่วน คนที่แจ้งคือลูกชายของท่านไม่ใช่หรือ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะเชื่อคนอื่นง่ายๆ ได้อย่างไร

“ทำไมยังไม่ไสหัวไปอีก” อดีตประธานพูดด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ ดูเหมือนว่าเขาจะยังมีอำนาจของเจ้าหน้าที่ระดับสูงอยู่

“เข้าใจแล้วครับ พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้” เจ้าหน้าที่ตำรวจพวกนี้เช็ดเหงื่อที่หน้าผากและทันทีที่พวกเขาหันหลัง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นช้าๆ “หยุด!” เสียงเย็นเยียบจนทำให้พวกเขาตัวสั่น

เจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งตัวสั่นแล้วหันมาอย่างงุ่นง่านขณะที่หัวเราะเบาๆ “ความจริงแล้วเรื่องนี้เป็นเพราะพวกเราไม่รอบคอบเอง ผมอยากทราบว่าคุณมีเรื่องอะไรจะแจ้งอีกไหมครับ”

พรึบ!

จู่ๆ ก็มีสายลมพัดมาและเขาก็เห็นร่างสีขาวร่างหนึ่งหายวับไปจากสายตา หลังจากที่ได้สติ ปืนในมือเขาก็หายไปและหัวใจของเขาก็เกือบจะหยุดเต้นไปครู่หนึ่ง มือของเขายังคงอยู่ในท่าถือปืนและเขาก็เผลอยกมันขึ้นชี้ไปยังสาวสวยแล้วกลืนน้ำลายเอื้อก

ปากกระบอกปืนเย็นๆ จ่ออยู่ที่ศีรษะของเขาจนทำให้เขาหวาดผวา ทั่วทั้งร่างแข็งค้าง ไม่กล้าขยับแม้แต่ปลายนิ้ว

“ถ้าในอนาคตนายกล้าชี้ปืนไปมาที่คนของฉันอีกล่ะก็ ฉันรับรองเลยว่าหัวของนายมีจุดจบเหมือนปืนกระบอกนี้…”

ปัง!

มือของอวิ๋นลั่วเฟิงออกแรงบีบทันที…แล้วปืนก็ระเบิดออกไม่ต่างจากฟองอากาศแล้วกลายเป็นผงในฝ่ามือเธอ

ถ้าการกระทำของอวิ๋นลั่วเฟิงก่อนหน้านี้ที่แย่งปืนไปทำให้เขาตื่นตระหนก การกระทำของเธอในตอนนี้ก็เกือบจะทำให้เขาหวาดกลัวจนร้องไห้ พวกเขาแต่ละคนถูกจ้องเขม็งราวกับว่าพวกเขาทำผิดเต็มประตู

นี่มันอะไรกัน ผู้หญิงคนนี้ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า เธอน่ากลัวยิ่งกว่าสัตว์ประหลาดเสียอีก!

อดีตประธานเองก็ประหลาดใจเหมือนกัน ไม่ต้องพูดถึงว่าการกระทำของเธอก่อนหน้านี้ก็แข็งแกร่งกว่าทหารกองกำลังพิเศษเป็นร้อยเท่า แต่การป่นปืนจนเป็นผงทำให้เขาเกือบหัวใจหยุดเต้นแล้ว…

ถ้าประเทศนี้ครอบครองความสามารถแบบนี้ได้ล่ะก็ ยังมีอะไรต้องกลัวอีก

“ไสหัวไป!” คำพูดของอวิ๋นลั่วเฟิงคล้ายกับการให้อภัยโทษ เจ้าหน้าที่ตำรวจพวกนั้นวิ่งหนีหน้าตั้งและการเคลื่อนไหวของพวกเขาก็เร็วยิ่งกว่าสายลมเสียอีก เพราะกลัวว่าถ้าพวกเขาเผลอไปเขายั่วโมโหเธอเข้า สิ่งต่อไปที่โดนทำลายจะเป็นศีรษะของพวกเขาแทน

เทียบกับความกลัวของพวกเขา อดีตประธานกลับตื่นเต้น จ้าวเหม่ยเสวี่ยและลูกสาวของเธอก็มีสีหน้าดูไม่ได้

หนานกงอวิ๋นอี้มีเพื่อนแบบนี้จริงเหรอ ทำไม…พวกเราถึงไม่เคยได้ยินเรื่องของเธอมาก่อนเลย

“ลั่วเฟิง” หงหลวนยิ้มและเดินไปหาอวิ๋นลั่วเฟิงช้าๆ นางเลิกคิ้วขณะยิ้มกว้าง “เป็นอย่างไรบ้าง เจ้าเจอผู้มีพระคุณของเจ้าหรือยัง”

หนานกงอวิ๋นอี้รู้ว่าสิ่งแรกที่อวิ๋นลั่วเฟิงจะทำเมื่อกลับมาที่หวาเซี่ยก็คือการตามหาผู้มีพระคุณของนาง ดังนั้นเขาจึงโทรอาจารย์แล้วก็เป็นอย่างที่คิด เขาหานางเจอ!

อวิ๋นลั่วเฟิงพยักหน้า “เจ้ายังไม่ได้บอกข้าเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่! อย่างเช่นญาติๆ พวกนี้ของเจ้า…”

สายตาเย็นชาและเข้มงวดของนางมองจ้าวเหม่ยเสวี่ยโดยมีประกายน่าขนลุกอยู่ภายใน

เมื่อพวกเธอนึกถึงการกระทำก่อนหน้านี้ของอวิ๋นลั่วเฟิง พวกเธอก็หวาดกลัวจนแทบสิ้นสติและไม่กล้าพูดออกมาสักคำเดียว

ตอนที่ 2176 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (17)

ส่วนหนานกงหลาน…ดวงตาของเธอไม่ละไปจากอวิ๋นเซียวเลย

“เรื่องนี้…” หนานกงอวิ๋นอี้เกาศีรษะแล้วยิ้มเจื่อน “เรื่องมันยาว เดี๋ยวข้าจะอธิบายเจ้าสั้นๆ แล้วกัน” พูดจบเขาก็มองท่านปู่ของเขา “คุณปู่ครับ คุณปู่หายแล้วเหรอครับ”

“ฮะๆ ทั้งหมดต้องขอบคุณเด็กสาวคนนี้ที่ทำให้ปู่มีชีวิตต่อไปได้ แต่ว่าอวิ๋นอี้ หลานยังไม่ได้แนะนำพวกเขาให้ปู่รู้จักเลยนะ” อดีตประธานเบิกบานและไม่ชายตามองจ้าวเหม่ยเสวี่ยกับลูกสาวของเธอแม้แต่น้อยขณะที่มองหนานกงอวิ๋นอี้

ชายชราไม่ใช่คนที่ให้ค่าบุรุษและดูแคลนสตรี เขาก็แค่รังเกียจจ้าวเหม่ยเสวี่ยที่ทำให้ครอบครัวของคนอื่นแตกแยก ยิ่งไปกว่านั้นเทียบกับหลานชายของเขาอย่างหนานกงอวิ๋นอี้ เขาไม่ชอบเด็กสาวอย่างหนานกงหลาน หนานกงหลานเจ้าแผนการเกินไปจึงยากที่เขาจะทำใจชอบเธอได้…

ถ้าไม่ใช่เพราะลูกชายของเขายืนกรานจะแต่งงานกับจ้าวเหม่ยเสวี่ย เขาก็คงไม่มีทางยอมให้เธอก้าวเข้ามาในตระกูลหนานกงแน่

“อวิ๋นลั่วเฟิง เธอเป็นเพื่อนที่มหาลัยหวาเซี่ยของผมครับ และอีกคนก็คือสามีของเธอ อวิ๋นเซียวครับ ส่วนหงหลวน…” หนานกงอวิ๋นอี้หันไปหาหงหลวนแล้วรอยยิ้มในดวงตาของเขาก็ปิดไว้ไม่มิด “ไม่แน่ในอนาคตเธออาจจะมาเป็นหลานสะใภ้ของคุณปู่ครับ”

หงหลวนหน้าแดงแล้วจ้องหนานกงอวิ๋นอี้แต่ไม่ได้ตอบอะไรเขา

“ฮะ ฮะๆ” อดีตประธานหัวเราะอย่างตื่นเต้นและเสียงหัวเราะของเขาก็เต็มไปด้วยความเบิกบาน

“เด็กสาวคนนี้ไม่เลว หลานชายของปู่ตาดีจริงๆ ปู่ชอบเธอมากๆ”

สายตาของจ้าวเหม่ยเสวี่ยเข้มขึ้นเมื่อได้ยินที่เขาพูด ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นแค่เด็กสาวไม่รู้หัวนอนปลายเท้าดังนั้นเธอจะทำให้ตาแก่ชอบได้อย่างไร

ตัวเธอเป็นถึงลูกสาวคนสำคัญของบริษัทจ้าว แต่เธอกลับไม่ได้รับความโปรดปรานจากชายชราเลยหลังจากที่ผ่านมาหลายปี

ที่น่าตลกก็คือ จ้าวเหม่ยเสวี่ยลืมไปว่าหนานกงอวิ๋นอี้ยังไม่ได้แต่งงาน และผู้หญิงที่เขาชอบก็ย่อมได้รับความโปรดปรานจากชายชราไปด้วย ส่วนตัวเธอ เธอทำให้ครอบครัวเขาแตกแยก ในเมื่อเธอไม่เคารพตัวเอง แล้วเธอจะได้รับความเคารพจากคนอื่นได้อย่างไร

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ข้าก็จะกลับไปกับอวิ๋นเซียวก่อน เนี่ยนเฟิงและชูเทียนรอพวกเราอยู่ข้างนอก” อวิ๋นลั่วเฟิงพูดขณะที่มองหนานกงอวิ๋นอี้

เด็กน้อยทั้งสองอยากรู้อยากเห็นไปหมดทุกอย่าง ตอนนี้พวกเขาก็ไม่ยอมตามนางมาที่ห้องฉุกเฉินและกำลังเล่นกันอยู่ข้างนอก

แต่ว่า…ที่นี่ไม่ใช่แคว้นเจ็ดเมืองและนางก็เป็นห่วงพวกเขา หลังจากที่รักษาผู้เฒ่าหนานกงแล้ว นางก็บอกลาหนานกงอวิ๋นอี้

“รอก่อน ข้าจะไปกับเจ้าด้วย” ดวงตาของหงหลวนเป็นประกายเมื่อเห็นอวิ๋นลั่วเฟิงจากไปกับอวิ๋นเซียว นางก็รีบไล่ตามพวกเขาไปทันที

ที่บริเวณพักผ่อนของโรงพยาบาล หงหลวนก็สามารถไล่ตามอวิ๋นลั่วเฟิงได้ทัน “ลั่วเฟิง ข้ามีบางอย่างที่จำเป็นต้องให้เจ้าช่วยหน่อย” อวิ๋นลั่วเฟิงหยึดแล้วหันมาหาหงหลวนก่อนจะถามว่า “มีอะไรงั้นหรือ”

“ข้าขอยืมหนูหาทองของเจ้าหน่อย”

หนูหาทองงั้นหรือ

อวิ๋นลั่วเฟิงเลิกคิ้ว “ได้สิ ข้าจะให้เจ้ายืมตัวเหมิงเหมิง”

“เหมิงเหมิงเป็นถึงองค์หญิงของเผ่าหนูหาทอง มันคงเหมือนเอาค้อนใหญ่ไปกะเทาะเปลือกถั่ว แค่สุ่มเลือกหนูหาทองมาสักตัวก็พอ อีกอย่าง…” หงหลวนยิ้มเยาะ นางดูเปล่งประกายด้วยรอยยิ้ม “ไหน่ฉาจะยอมแยกจากนางหรือ”

อวิ๋นลั่วเฟิงเงียบ

ไหน่ฉารู้จักเหมิงเหมิงมาเป็นสิบปี และเขาก็อาจจะจัดงานแต่งงานหลังจากที่กลับไปยังแคว้นเจ็ดเมืองแล้ว สิ่งนี้จะช่วยไม่ให้ไหน่ฉาใช้สีหน้าน่าสงสารมองนาง…

“ลั่วเฟิง เจ้าไม่ถามหรือว่าข้าจำเป็นต้องใช้หนูหาทองไปทำไม” หงหลวนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถาม