บทที่ 238 อยู่ได้แค่เดี๋ยวเดียว

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

“ไม่รีบ ช่วงนี้เขากำลังเร่งเอกสารสัญญาบริษัท ได้ยินว่าต้องการด่วนมาก หลายวันมานี้เขาก็นอนอยู่ที่ที่ทำงาน ที่บ้านมีฉันคนเดียว กลับไปก็เหงา อยู่กับพวกเธอยังพอมีชีวิตชีวาขึ้นบ้าง ”

ต้องอยู่คนเดียวในห้องขนาดใหญ่ เสียงที่ได้ยินก็น่าจะมีแค่เสียงสะท้อนของตัวเองเท่านั้น นอกนั้นก็คือความเหงา กับความโดดเดี่ยว

พอสี่ทุ่มครึ่ง เชอร์รีนกับยู่ยี่ก็ไปพาตัวนาโนกลับมานั่งที่ “พอได้แล้ว เธอเต้นมานานพอแล้วนะ !”

หลังจากที่ได้ระบายออกมา ในใจก็รู้สึกดีขึ้นมาบ้างเล็กน้อย ออกจากสถานบันเทิงไป ทั้งสามคนก็แยกย้ายกัน

ช่วงนี้ซารางเอาแต่งอแงอยากจะกินทาร์ตไข่ เชอร์รีนจึงคิดว่าจะไปซื้อทาร์ตไข่กลับบ้านสักหน่อย พอดีกับ ข้างๆนี้มีร้านทาร์ตไข่อยู่ร้านหนึ่ง

พอซื้อทาร์ตไข่เสร็จ ก็ซื้อขนมปังที่ซารางชอบไปด้วย เธอเดินไปข้างหน้า ในตอนที่เดินผ่านสี่แยก ก็บังเอิญเห็นสิงหากับสุนันท์

ดูเหมือนว่าทั้งสองจะเพิ่งกลับจากเมืองบีเจ สิงหาลากกระเป๋าเดินทางสองใบ รถเบนท์ลีย์สีดำคันหนึ่งหยุดจอด สุนันท์ก็ขึ้นรถไป

สิงหายังไม่ได้ขึ้นรถ พูดอะไรบางอย่างกับสุนันท์ด้วยเสียงเบา จากนั้นรถเบนท์ลีย์คันสีดำก็ขับออกไป

หลังจากนั้น ก็มีร่างที่เพรียวบางเดินเข้าไปหาสิงหา เห็นเพียงแค่ด้านหลัง ดูรู้ว่าเป็นผู้หญิง

รูปร่างของผู้หญิงคนนั้นเพรียวบาง และสง่างาม อรชรอ้อนแอ้น ส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจน แต่ เธอสวมหมวก และใส่หน้ากาก ดังนั้นก็จึงมองใบหน้าของเธอได้ไม่ชัดเจน

พฤติกรรมของคนทั้งสองก็ดูสุภาพ รักษาระยะห่างที่เหมาะสม ไม่ห่างกันเกินไป ดังนั้นก็จึงไม่ได้ยินว่าทั้งสองคนคุยอะไรกัน

ก้มหน้าลง ใกล้จะห้าทุ่มแล้ว เชอร์รีนละสายตาออก โบกรถแท็กซี่ ไม่ได้เก็บมาคิดมากอะไร แล้วจากไป

“เที่ยวบินกี่โมง ? ” สิงหามองดูผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า

“เที่ยงคืนค่ะ เหลือเวลาไม่มากแล้ว ”หญิงสาวยกมือขึ้น แล้วมองดูนาฬิกาบนข้อมือ

ขมวดคิ้ว สิงหาพูดว่า “เปลี่ยนเที่ยวบินไหม เที่ยวบินตอนกลางคืนรู้สึกเหมือนจะไม่ค่อยปลอดภัยยังไงไม่รู้ เปลี่ยนเป็นตอนเช้า ”

“จองตั๋วไปแล้ว นั่งตอนกลางคืนนี่แหละ ฉันขี้เกียจมายุ่งยาก ”น้ำเสียงของหญิงสาวเกียจคร้าน เห็นเพียงดวงตาเรียว นัยน์ตาคม หลากหลายอารมณ์

“อย่างนั้นเดี๋ยวผมจะเปลี่ยนให้เอง ”สิงหายังคงไม่วางใจ

“พอเถอะค่ะ อย่าทำให้มันยุ่งยากเลย นี่ก็ดึกมากแล้ว คุณกลับไปพักผ่อนได้แล้ว”

สิงหาไม่มีทางเลือก เดินเข้าไปในตรอกมืดที่อยู่ข้างๆ หญิงสาวก็เดินตาม

ตรอกลึกมาก และมืดสนิท พอเข้ามาได้ สิงหาก็ดันร่างของหญิงสาวแนบชิดเข้ากับผนัง ประกบจูบอย่างดุเดือด

ผ่านไปสักพัก มือของหญิงสาวก็ค่อยๆดันร่างของสิงหาออก ริมฝีปากแดงยกหยักขึ้น ยกยิ้มเล็กน้อย “ไปได้แล้วค่ะ ”

สิงหายังคงอาลัยอาวรณ์

……

กลับมาถึงบ้าน ทุกคนต่างเข้านอนกันหมดแล้ว เชอร์รีนเดินอย่างระมัดระวัง แล้วเข้าไปที่ห้อง จู่ๆโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ทำเธอตกใจจนหัวใจเต้นแรง

รีบหยิบขึ้นมา เธอกดรับสายทันที กดเสียงต่ำ “ ฮัลโหล?”

“นอนหรือยัง ? ”เสียงที่ทุ้มต่ำและมีเสน่ห์ของชายหนุ่มดังขึ้น

“ยังค่ะ ฉันเพิ่งกลับถึงบ้าน แล้วคุณล่ะ ?”ระหว่างที่คุย เธอก็เปลี่ยนรองเท้าแตะไปด้วย ซารางไม่ได้อยู่ในห้อง น่าจะไปนอนกับกนกอร

“ผมคิดถึงคุณ……”

“นี่คุณ!”แก้มของเชอร์รีนเห่อร้อน“ เมื่อก่อนคุณก็หน้าด้านแบบนี้เหรอ ?”

“ไม่ นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลังจากที่ได้ตกหลุมรักคุณ ต้องขอบคุณคุณเลย……”เขาหัวเราะเสียงเบา

เธอก็อดหัวเราะตามไม่ได้“ฉันมีฝีมือในเรื่องความรักขนาดนี้ ฉันก็อยากจะดูเหมือนกัน ว่าหน้าของคุณจะด้านได้เท่ากำแพงไหม แบบนั้นก็แสดงว่าฉันมีทักษะการสอนที่ดี”

“ช่างพูดจริงๆ รีบไปนอนเถอะ รอคุณปิดไฟ ผมก็จะกลับ ”เสียงของเขาแผ่วเบา

“คุณอยู่ที่บ้านพักคอนโดฉันเหรอ ?”ขมวดคิ้ว เชอร์รีนเดินไปที่หน้าต่าง ยื่นมือไปแล้วปัดผ้าม่านออก

ชายหนุ่มยืนอยู่ด้านล่างของหน้าต่าง ถือโทรศัพท์อยู่ในมือ มองเห็นใบหน้าไม่ชัดเจน แต่ก็เห็นร่างที่สูงสง่า ยืนอยู่ด้วยท่าสบายๆและเกียจคร้าน

ใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว นอกจากออกัส จะเป็นใครได้อีก?

“ดึกป่านนี้แล้วคุณมายืนทำอะไรที่ใต้บ้านพักคอนโดฉัน ?”

“ผมคิดถึงคุณ เลยอยากจะแวะมาดู……”

เมื่อได้ยินดังนั้น ความหอมหวานที่เกิดขึ้นจากใจของเชอร์รีนก็เหมือนกับน้ำผึ้ง หวานหยดย้อย“ดึกป่านนี้แล้ว คุณจะกลับยังไง?”

“รถเอาไปซ่อม เดี๋ยวนั่งแท็กซี่กลับ ไม่ต้องมายืนที่หน้าต่างแล้ว ไปนอนได้แล้ว”

“จากที่นี่ไปที่คอนโดคุณต้องใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง ตอนนี้ก็เที่ยงคืนแล้ว ละแวกนี้โบกรถยากมาก——”

หางเสียงของชายหนุ่มยกสูงขึ้นอย่างชวนฟัง พูดขัดเธอขึ้นมา ทุ้มต่ำ และน่าหลงใหล“ดังนั้น คุณจะชวนผมขึ้นห้อง……”

หัวใจเต้นแรงไปตามจังหวะคำพูดของเขา เชอร์รีนรู้สึกได้ถึงหัวใจตัวเองที่เต้นโครมคราม“อย่าพูดมาก มันดึกมากแล้ว”

“ตรงนี้เรียกแท็กซี่ยาก ใจคอคุณจะทนดูผมเดินกลับคอนโดได้เหรอ ?”

“แล้วผู้ช่วยเตโชไปไหนล่ะ?”เธอไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด ประธานของสิริไพบูรณ์กรุ๊ป จะไม่มีรถให้นั่งได้ยังไง ?

“เวลานี้ผู้ช่วยเตโชเขาหลับไปแล้ว แค่เรื่องส่วนตัวเล็กๆแบบนี้ จะต้องไปปลุกเขาเชียวเหรอ หืม ? ” เขาพูดเสียงสูง เห็นชัดว่าไม่พอใจ

ได้ยินดังนั้น คิ้วของเชอร์รีนอดไม่ได้ที่จะเลิกขึ้น “ คุณมีความเห็นอกเห็นใจพนักงานตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?”

“ผมเห็นอกเห็นใจพนักงานมาตลอด ไถ่ถามทุกข์สุข ดูแลห่วงใย คุณไม่เคยรู้เลยเหรอ ?”เขาพูดเหยียบจมูก ต่อจากประโยคของเธอ

“……”เขายังจะพูดอะไรที่มันหลงตัวเองได้มากกว่านี้อีกไหม ?

คำพูดที่ลึกซึ้งนุ่มนวล น้ำเสียงที่ลุ่มลึกของออกัสดังขึ้นอีกครั้ง “ให้ผมไปที่ห้องคุณนะ แค่แป๊บเดียว นะที่รัก……”

อดไม่ได้ หัวใจก็เต้นขึ้นมาอีกครั้ง เชอร์รีนรู้สึกเหมือนถูกอาคมจริงๆ และเหมือนจะมีอาการอ่อนปวกเปียก

“ผมจะเดินให้เบา และจะไม่ไปรบกวนพวกท่านอย่างเด็ดขาด คุณวางใจได้ ผมขอขึ้นไปพักแค่เดี๋ยวเดียว นะ?”

ถอนหายใจยาวด้วยความลำบากใจ เธอยอมแพ้แล้ว“คุณรอแป๊บหนึ่ง ”

ระหว่างที่พูด เชอร์รีนก็เดินย่องออกจากห้องนั่งเล่น เปิดประตูห้อง จู่ๆก็เจอเข้ากับร่างที่สูงโปร่งยืนอยู่ตรงหน้า เธอตกใจจนแทบจะร้องออกเสียง

และการเคลื่อนไหวของออกัสก็เร็วกว่าเธอก้าวหนึ่ง แขนยาวยื่นออกมาก็โอบเธอเข้ามาในอ้อมแขน ฝ่ามือใหญ่ปิดไปที่ริมฝีปากของเธอ ลมหายใจที่ร้อนผ่าวรดลงมาที่ลำคอเธอ “ชู่”

หายใจอย่างสงบกับหัวใจที่เต้นรัว เธอตีไปที่หน้าอกของเขา พูดย้ำอย่างไม่วางใจว่า“ คุณระวังด้วย อย่าส่งเสียงล่ะ”

“อืม……”เขารับคำ ลูกกระเดือกขยับขึ้นลง โอบเธอไว้ ให้ร่างเธอแนบชิดไปกับอกแกร่งที่เร่าร้อนและแข็งแกร่ง อย่างช้าๆ เดินผ่านห้องนั่งเล่นไปอย่างเงียบๆ เดินเข้ามาที่ห้องเธอ ขายาวก็เกี่ยว แล้วปิดประตูลง

“อยู่แค่เดี๋ยวเดียวนะ แล้วคุณก็รีบกลับไป”เชอร์รีนกล่าว

“ผมรู้แล้ว คุณนอนซะ พอคุณหลับ ผมก็จะกลับ……” เขาห่มผ้าให้เธอ ก้มศีรษะลงแล้วจูบไปที่ริมฝีปากสีแดงของเธอ

เขาดูเหนื่อยๆ ดวงตาที่ลุ่มลึกมีเส้นเลือดฝอยจางๆ จับไปที่มือของเขา เชอร์รีนขยับชิดไปด้านใน“ คุณก็นอนลงแล้วพักสักเดี๋ยวเถอะนะ ”