อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 437 ทุกคนตื่นตะลึง
ธนูสิบดอก เข้าใจกลางเป้าทั้งหมด

ทุกคนปากอ้าตาค้าง โดยเฉพาะองค์หญิงตังตังกับฮ่องเต้เย่ ค่อนวันก็ยังไม่ได้สติ มองกู้ชูหน่วนสลัดมือตัวเองด้วยความตะลึง เอ่ยพึมพำกับตัวเอง

“คันธนูนี่หนักเกินไปแล้วกระมัง ง้างจนแขนหม่อมฉันเจ็บไปหมด องค์หญิงตังตัง ธนูสิบดอกเหมือนว่าจะเข้าเป้าหมดแล้วนะเพคะ รอบแรกหม่อมฉันชนะแล้วกระมัง?”

องค์หญิงตังตังดึงสติกลับมาพลัน “ได้ใจอะไร ยังมีการแข่งอีกสองรอบ”

“เช่นนั้นก็ทรงกำหนดมาเถอะเพคะ รีบๆ แข่งให้จบ หม่อมฉันจะได้เลือกเครื่องประดับสวมใส่บนตัว”

“หัวข้อที่สอง ยังเป็นธนูสิบดอก ขอเพียงเจ้ายิงเข้าจุดใจกลางได้ทั้งหมดอีกครั้ง ก็ถือว่าเจ้าชนะ แต่ก็นะ ครั้งนี้ด้านหน้าเป้าจะแขวนแผ่นทองแดงเอาไว้สิบแผ่น แล้วสิบแผ่นนี้จะแกว่งด้วย ลูกธนูของเจ้าต้องทะลุแผ่นทองแดงทั้งสิบ แล้วถึงจะเข้าใจกลางเป้า”

ซี้ด…

ทั้งสนามเต้นเร่าๆ

นี่จะยากเกินไปแล้วกระมัง?

องค์หญิงตังตังหาเรื่องคนก็โจ่งแจ้งเกินไปแล้ว จะเกินไปแล้วกระมัง?

แม้เป็นไทเฮากับฮ่องเต้เย่ก็ยังทนดูไม่ได้ ส่งเสียงเตือน “องค์หญิง พอเท่านี้เถอะ”

“นางบอกจะแข่งกับหม่อมฉันเองนี่เพคะ หม่อมฉันมิได้ขอให้นางแข่งกับหม่อมฉันสักหน่อย หากนางกลัว ก็ยอมแพ้สิ บางทีหม่อมฉันอาจเห็นแก่เสด็จอา ยังพอให้นางเห่าเลียนแบบสุนัขแค่สองสามหน”

พูดเป็นเล่น!

นางเป็นชายาเอกของเทพสงคราม ทั้งยังเป็นแก้วตาดวงใจของเทพสงคราม ใครกล้าให้นางคุกเข่าเห่าเลียนแบบสุนัขกัน?!

วันพรุ่งยังมิต้องถูกเทพสงครามบีบตายหรือ?

แผ่นทองแดงที่กวัดแกว่งสิบแผ่นร้อยเข้าด้วยกัน กลายเป็นลักษณะแนวยาว แม้นเป็นแม่ทัพใหญ่เซียว ก็ไม่แน่ว่าจะทำได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงลูกธนูสิบดอก แต่ละดอกต้องเข้าเป้า แม่นเฉเฉียงไปหนึ่งก็ถือว่านางแพ้

นี่ยากเกินไป

ยากเกินไปแล้ว!

พวกเขาคิดว่ากู้ชูหน่วนจะไม่รับคำเด็ดขาด

คิดไม่ถึง นางยังคงรับคำ

ไม่รู้จริงๆ ว่านางเป็นลูกวัวเกิดใหม่ไม่กลัวเสือหรืออย่างไร

“แผ่นทองแดงทั้งสิบนี้ แกว่งจนข้าปวดตาไปหมดแล้ว ช่างเถอะ ถึงอย่างไรข้าก็เห็นพวกมันขัดหูขัดตาเหลือเกิน ต้องจัดการพวกเจ้าให้ได้แล้วล่ะ”

โอหัง กำแหง นึกว่าเก่ง

ทุกคนต่างหัวเราะเยาะ

แต่อย่างไรพวกเขาก็คิดไม่ถึง

กู้ชูหน่วนยิงไปดอกหนึ่ง ลูกธนูที่ปราดเปรียวราวกับมีดวงตา พุ่งทะลุแผ่นทองแดงที่กำลังแกว่งไม่เป็นระเบียบสิบแผ่น สุดท้ายก็พุ่งเข้าใจกลางเป้า

ทั้งสนามเงียบกริบ

เพราะดวงแน่ๆ

ต้องเป็นเพราะดวงแน่ๆ

ลูกธนูดอกที่สองทะลุอากาศไป ทะลุแผ่นเหล็กและเข้ากลางเป้าอีกครั้ง

โอ้โห!

ดวงจะเฮงไปแล้วกระมัง? เข้าเป้าอีกแล้ว!

ธนูดอกที่สามยังคงเช่นนั้น

ทุกคนพึมพำ พระชายาหานเคยเรียนยิงธนูกระมัง? มิเช่นนั้นนางจะยิงเข้าใจกลางเป้าทุกดอกได้อย่างไร? แต่เหตุใดท่าทางการยิงธนูนางจึงพิลึกพิลั่นเช่นนั้น?

ดอกที่สี่…

ทุกคนสูดลมเย็น

เทพสงครามสอนนางยิงธนูหรือ? ต้องใช่แน่!

ดอกที่ห้า…

องค์หญิงตังตังแทบสติแตก

ทักษะธนูนี่ ยังว่านางยิงธนูไม่เป็นอีก ท่าทางนี้เหมือนไม่เคยเรียนยิงธนูหรือ?

ทั้งสนามไม่มีผู้ใดมีทักษะธนูเป็นเลิศยิ่งกว่านาง

ดอกที่หก

ฮ่องเต้เย่เลื่อมใสนางอย่างห้ามไม่อยู่แล้ว

เขาไม่เคยเห็นสตรีนางไหนสามารถเล่นธนูได้คล่องแคล่วเช่นนี้มาก่อน

กู้เฉิงเซี่ยงทำอะไร มีลูกสาวดีขนาดนี้ไม่เก็บให้เขาเป็นสนม กลับยุยงให้เขาพระราชทานมงคลสมรสให้กู้ชูหน่วนกับอ๋องหาน

ดอกที่เจ็ด

อารมณ์คับอกของไทเฮามากขึ้นทุกที

นางคนนี้ยิ่งเก่งก็ยิ่งอันตราย

เย่จิ่งหานคนเดียวก็ต่อกรด้วยยากแล้ว ยังมีกู้ชูหน่วนมาอีกคน

ดอกที่แปด

กู้เฉิงเซี่ยงตัวเป็นหิน แทบไม่อยากจะเชื่อ นั่นใช่ลูกสาวแท้ๆ ของเขาหรือ?

ดอกที่เก้า

กู้ชูหยุนกัดริมฝีปากแดง ดวงตาล้วนเป็นความริษยา

ดอกที่สิบ…

ทั้งสนามเงียบกริบ ทุกคนในงานเลี้ยงเหม่อลอยอยู่นานก็ไม่คืนสติ