ตอนที่ 372 เกิดคลื่นขึ้นอีกครั้ง

Mars เจ้าสงครามครองโลก

บทที่ 372 เกิดคลื่นขึ้นอีกครั้ง
“อะไรนะ? หยูฝานกล้าดียังไงที่ไม่เชื่อฟังฉัน? และจะตัดขาดกับตระกูลเย่งั้นหรือ?”
เมื่อได้ยินข่าวนี้ หลิวว่านจวินก็โกรธมากจนแทบจะกระโดดขึ้นมาจากโซฟา
หยูฝานนั่นคือบุคคลหลักที่เธอส่งไปจัดการบริษัทหัวหยวนที่เมืองเฉียนถัง และตอนนี้หยูฝานกลับทรยศเธองั้นเหรอ!!
สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าอย่างแรง!
“นายหญิง นี่คือของที่หยูฝานส่งมา”
หงหยวนวางกล่องไว้บนโต๊ะอย่างระมัดระวัง และพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันว่าหยูฝานไม่กลัวตายเลยจริงๆ กล้าที่จะทรยศต่อนายหญิง”
หลิวว่านจวินโยนกล่องลงกับพื้น แต่กลับมีมือข้างหนึ่งหลุดออกมาจากกล่อง ทำให้เธอตกใจจนต้องกรีดร้อง
“นายหญิง คุณเป็นอะไรไหม?”
หงหยวนรีบเอามือข้างนั้นขึ้นมา กัดฟันแล้วพูดว่า “หยูฝานช่างบังอาจมากจริงๆ ที่จะแสดงการทรยศของเขาด้วยวิธีนี้ เขารนหาที่ตายจริงๆ นายหญิง คุณจะต้องไม่ปล่อยตระกูลหยูไป!”
หลิวว่านจวินยังคงอยู่ในความตกใจ และกัดฟันพูดว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หยูฝานกล้าที่จะทรยศฉันงั้นเหรอ! เขาไม่รู้หรือว่า ไอ้ลูกชู้คนนั้นจะถูกฉันฆ่าตายในไม่ช้าก็เร็ว? ดี ดีมาก หยูฝานบังอาจมากนัก ร่วมมือกับไอ้ลูกชู้คนนั้นแล้วหักหลังฉัน…….หงหยวน นายไป ไปกำจัดตระกูลหยูทิ้งเดียวนี้! ถ้าไม่สั่งสอนเขาสักหน่อย เขาคงคิดว่าฉันหลิวว่านจวินเป็นคนที่ไม่มีทางสู้! นอกจากนี้ นายให้หลานชายของฉันหลิวจิ้น ไปที่เมืองเฉียนถัง ไปดูสักหน่อยว่าไอ้ลูกชู้คนนั้นจะสร้างคลื่นลูกใหญ่ได้ขนาดไหน!”
หลังจากหยุดชั่วคราว หลิวว่านจวินก็พูดอย่างขุ่นเคืองอีกครั้งว่า “นายสั่งให้หลิวจิ้นไปจับตัวภรรยาและลูกของไอ้ลูกชู้คนนั้นมาก่อน ฉันอยากจะคอยดูว่าไอ้ลูกชู้คนนั้นจะหยิ่งผยองได้แค่ไหนกัน เมื่อหลายปีที่แล้วฉันสามารถทำให้แม่ลูกพวกเขาเกือบจะต้องอดตายอยู่บนถนน และตอนนี้ฉันก็สามารถเหยียบเขาให้จมเข้าไปในขุมนรกสิบแปดชั้นได้อีกครั้ง!”
หงหยวนรีบพูดว่า “ผมจะรีบบอกให้คุณชายหลิวไปที่เมืองเฉียนถังเดี๋ยวนี้เลย ผมก็จะระดมสายสัมพันธ์ที่นั่น และให้คุณชายหลิวใช้ เขาจะต้องนำตัวลูกชายนอกสมรสคนนั้นกลับมาได้อย่างแน่นอน และใช้เลือดของเขาต่อชีวิตให้คุณชายใหญ่!”
หงหยวนถือโกรธเย้เซิ่งเทียนมานานแล้ว ก่อนหน้านี้เขาไปตามหาเย่เซิ่งเทียนไอ้ลูกนอกสมรสคนนั้นที่เมืองเฉียน ไม่เพียงแต่เขาไม่ให้ความเคารพแก่เขาเท่านั้น แต่ยังตบหน้าเขาไปหลายทีอีก และสุดท้ายก็ตีขาเขาหักอีกด้วย!
ไอ้ลูกนอกสมรสคนหนึ่ง ก็กล้าที่จะดูหมิ่นเขางั้นเหรอ ไม่เคยประสบกับการถูกเฆี่ยนตีของสังคมจริงๆ
……
และในเวลานี้ ทางด้านบริษัทหัวหยวน คู่ค้าเดิมพวกนั้นก็ได้โทรเข้ามาทีละราย
“ประธานหวาง สวัสดี สวัสดี เรื่องมันเป็นเช่นนี้ ฉันไม่ร่วมมือกับทางหยุนฝานกรุ๊ปแล้ว ฉันยังคงคิดว่าเรามาร่วมมือกันจะดีกว่า คุณคิดว่า……”
หวางซีตอบอย่างใจเย็นว่า “คุณจาง ต้องขอโทษจริงๆ ตอนนี้ทางเราไม่ได้ขาดแคลนคู่ค้า ขอบคุณ”
“ประธานหวาง ฉันขอโทษคุณ ฉันยินดีที่จะร่วมมือกับบริษัทหัวหยวนด้วยราคาต่ำ……”
“คุณลี่เหรอคะ โครงการของเราในตอนนี้ไม่ได้ขาดแคลนคู่ค้า และก็ยังไม่มีธุรกิจอื่นในขณะนี้ โอกาสต่อไปเราค่อยมาร่วมมือกันอีกครั้งนะคะ”
สำหรับคนพวกนี้ หวางซีไม่ได้ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อยในครั้งนี้
ตอนที่เธอโทรไปเมื่อสองวันก่อน คนพวกนี้ไม่ใช่วางสายโดยตรงๆ ก็แสร้งทำเป็นสัญญาณไม่ดี และทุกคนต่างก็เฝ้าดูความตลกของเธออยู่
ในตอนนี้บริษัทหัวหยวนขาดแคลนทุกอย่าง ยกเว้นคู่ค้าที่ไม่ได้ขาดแคลนเลย
ตอนนี้เธอได้กลายเป็นเอเจนซี่ของตระกูลหลี่แห่งเกาะดาวในต้าเซี่ยแต่เพียงผู้เดียวไปแล้ว คู่ค้าของตระกูลหลี่ที่อยู่ในต้าเซี่ยทั้งหมดก็อยู่ในกำมือของเธอแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องไปมองสีหน้าไอ้คนพวกนั้นอีกแล้ว
“ทำแบบนี้ก็ถูกแล้ว สำหรับไอ้คนชั่วเอาแต่ใจพวกนี้ ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าพวกมันหรอก”
เย่เซิ่งเทียนนวดไหล่ให้หวางซี แล้วยิ้มพูดว่า
หวางซียังคงไม่เข้าใจว่าทำไมตระกูลหลี่ถึงเลือกตัวเอง และเธอก็คิดไม่ออกเลย “สามี คุณว่าตระกูลหลี่กำลังหวังอะไรจากเราหรือเปล่า? เป็นเพราะรู้ถึงความสัมพันธ์ของคุณกับเลขาเวิน ดังนั้นจึงอยากจะใช้วิธีการแบบนี้มาเปิดความสัมพันธ์กับทางเจ้าเทพหรือเปล่า?
แน่นอนเย่เซิ่งเทียนรู้ดีว่ามันเป็นเพราะอะไร และยิ้มแล้วพูดว่า “พวกเขาก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ พวกเขาถูกดึงดูดเพราะนิสัยใจคอและความสามารถของคุณ ดูสิว่าคุณมีความสามารถแค่ไหน สามารถแบกรับบริษัทแห่งใหญ่เช่นนี้ขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง ถ้าเป็นฉันฉันก็จะเลือกคุณเหมือนกัน”
หวางซีตบมือเขาอย่างโกรธเคือง “อย่ามาปากดีนะ บริษัทหัวหยวนสามารถลุกขึ้นมาได้ ที่เหล่าพวกตระกูลจ้าวและตระกูลอู๋สามารถช่วยเหลือเราได้ ก็คงเป็นเพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ของคุณกับเลขาเวิน ส่วนใหญ่เป็นเพราะคุณ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ฉันไม่ได้โง่นะ ฉันพอเดาได้ตั้งนานแล้วว่าคุณต้องใช้ความสัมพันธ์ระหว่างเลขาเวินและไอ้เกา และคอยช่วยเหลือฉันอย่างลับๆ”
เย่เซิ่งเทียนกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูเธฮว่า “โอ๊ย ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะเดาออกได้ ฉันยังคิดว่าคุณต้องใช้เวลาอีกสองสามวันถึงจะเดาออกได้ คุณเตรียมจะให้รางวัลฉันอย่างไรเหรอ? ฉันว่าสภาพแวดล้อมที่นี่ก็ดีนะ ฮิฮิ”
หวางซีหน้าแดง และถุยน้ำลายว่า “พูดบ้าอะไร ที่นี่มันออฟฟิศ! อย่าคิดที่จะทำอะไรฉันนะ ข้างนอกยังมีคนอยู่”
เย่เซิ่งทียนกลืนน้ำลาย ใช้มือไปสัมผัสโดยไม่ตั้งใจ และกล่าวว่า “ฉันยังไม่เคยมีประสบการณ์ในออฟฟิศมาก่อนเลย ที่รัก……”
ปัง ปัง ปัง
จู่ๆ เสียงเคาะประตูก็ทำลายบรรยากาศที่คลุมเครือนี้ ทำให้เย่เซิ่งเทียนหงุดหงิด
ใครอ่ะ ไม่รู้จักเวล่ำเวลา?
หวางซีเหลือบมองเขาด้วยความโกรธ และจัดเสื้อผ้าของเธออย่างรีบร้อนเหมือนขโมย “เข้ามา”
หลันรั่วรั่ววิ่งเข้าด้วยความรีบร้อน และพูดด้วยการหายใจแรงๆ ว่า “ไม่ ไม่ดีแล้ว พี่ซี พี่เขย ทางด้านตระกูลอู๋ และตระกูลจ้าวถูกสอบสวนแล้ว และทางเจ้าห้าในไซต์ก่อสร้างของเรา ก็ถูกสอบสวนเช่นกัน ยังมีอีก ทางสำนักงานพาณิชย์ก็จะมาตรวจสอบบัญชีที่บริษัทของเรา และคนของพวกเขาก็มาถึงแล้ว! คนของเราถูกควบคุมไว้หมดแล้ว!”