ตอนที่ 635

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ทุกคนไม่อาจทำใจเชื่อได้ อัศวินระดับตัวอ่อนวิญญาณแปดสิบเอ็ดตนเพียงพอที่จะพลิกมหาสมุทร เพียงแค่หลิงฮันเพียงแค่สะบั้นดาบ รูปร่างของพวกมันสั่นสะท้านราวกับจะพังทลายลง

“อาวุธวิญญาณระดับแปด หรืออาจเป็นอาวุธวิญญาณระดับเก้า!” ใครบางคนกล่าวขณะตัวสั่น

อาวุธวิญญาณไม่ใช่อาวุธธรรมดา โดยปกติแล้วพวกมันจะถูกสร้างขึ้นจากแร่เหล็กระดับเจ็ดและเสริมพลังด้วยเจตจำนงของจอมยุทธ ทำให้พลังของมันน่าทึ่ง! แม้จะอยู่ในมือของจอมยุทธระดับบุปผาผลิบาน แต่ก็มีพลังของจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณ

อย่างเช่นพิณของหวังอีหยุนจะต้องเป็นอาวุธวิญญาณระดับเจ็ดที่สามารถเรียกอัศวินระดับตัวอ่อนวิญญาณออกมาได้แปดสิบเอ็ดตน แม้ว่ามันจะไม่มีกายหยาบ แต่พลังต่อสู้ของพวกมันนั้นไม่ได้หายไปและไม่กลัวการบาดเจ็บล้มตาย

ยิ่งระดับของอาวุธวิญญาณสูงเท่าไหร่ ยิ่งยากที่จะได้รับ เพราะมีจอมยุทธมากมายที่อยู่บนโลกใบนี้ และยิ่งนาน เจตจำนงที่อยู่ภายในก็จะลดลง

เว้นแต่ว่าอาวุธวิญญาณจะสามารถดูดซับพลังจากสวรรค์และโลกได้ด้วยตัวเอง และรักษาเจตจำนงไว้ได้

ดังนั้นที่พวกเขาทั้งสองคนนำอาวุธวิญญาณระดับสูงออกมาให้เห็นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนจะตกตะลึง

ในที่สุดสีหน้าของหวังอีหยุนก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด และดาบกำเนิดมารได้สร้างแรงกดดันให้แก่นาง ทำให้ความมั่นใจของนางลดลง

จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณไม่สามารถจัดการจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานได้งั้นรึ?

ภายในใจของนางเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แม้อัจฉริยะที่อยู่บนจุดสูงสุดของระดับบุปผาผลิบาน หรืออาจเป็นระดับตัวอ่อนวิญญาณขั้นต้น นางก็สามารถเอาชนะได้ แม้นางจะเป็นแค่จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณขั้นสองก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้นนางมีพลังต่อสู้ถึงสิบดาว นางต้องเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างแน่นอน

ทว่านางกลับไม่คิดเลยว่าจะถูกฝ่ายตรงข้ามคุกคาม

หวังอีหยุนรู้สึกกังวลมากยิ่งขึ้น และบทเพลงของนางทำให้อัศวินระดับตัวอ่อนวิญญาณทั้งแปดสิบเอ็ดร่างเปล่งแสงออกมาอย่างกะทันหัน ท่าทีของพวกมันเปลี่ยนไปและหวังที่จะฆ่าหลิงฮันให้จงได้

หลิงฮันยิ้มออกมาเล็กน้อย ด้วยความเข้าใจในเจตจำนงแห่งดาบของเขา ในที่สุดอักขระบนดาบกำเนิดมารก็เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้พลังของอาวุธวิญญาณระดับสิบของเขานั้นเพิ่มขึ้น

อะไรคืออาวุธวิญญาณระดับสิบที่สามารถเทียบได้กับจอมยุทธระดับทลายมิติ!

เมื่อหลิงฮันสะบั้นดาบ ปราณดาบยี่สิบเก้าเล่มหลอมรวมกันเป็นกึ่งรัศมีดาบปะทะอัศวินระดับตัวอ่อนวิญญาณ  อัศวินระดับตัวอ่อนวิญญาณหยุดเคลื่อนไหวทันที นั่นเป็นเพราะการโจมตีของหลิงฮันถูกใช้ออกมาจากอาวุธวิญญาณระดับสิบ ดังนั้นพลังทำลายล้างของมันจะต้องน่าหวาดกลัวกว่าปกติ

ดาบเดียวฆ่าอัศวินระดับตัวอ่อนวิญญาณ!

อึก!

ทุกคนรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่หนาวเย็น หลิงฮันเป็นคนที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง

ถ้าหลิงฮันเป็นคนที่มีพรสวรรค์ท้าทายสวรรค์อย่างย่าวหุยเยว่และราชันกระบี่น้อย ทุกคนก็ยอมรับ นั่นเป็นเพราะอัศวินพวกนั้นเป็นถึงระดับตัวอ่อนวิญญาณ ด้วยความแข็งแกร่งของพวกมัน มันสามารถกวาดล้างคู่ต่อสู้ทุกคนที่อยู่ในระดับเดียวกันได้อย่างง่ายดาย

แต่ปัญหาคือหลิงฮันเป็นเพียงแค่จอมยุทธระดับบุปผาผลิบานเท่านั้น

หลิงฮันยังไม่หยุดกวัดแกว่งดาบ จนกระทั่งเขากวัดแกว่งดาบไปทั้งหมดแปดสิบเอ็ดครั้ง และอัศวินระดับตัวอ่อนวิญญาณถูกจัดการจนหมด

รัศมีดาบที่ถูกใช้โดยดาบกำเนิดมาร ซึ่งเป็นถึงอาวุธวิญญาณระดับสิบ อีกฝ่ายจะตอบโต้ได้อย่างไร?

“แฮ่ก!” หวังอีหยุนกระอักเลือดออกมาและดวงตาที่งดงามของนางเผยให้เห็นถึงความตกตะลึง จิตใจของนางและพิณนั้นเชื่อมต่อกัน เมื่ออัศวินระดับตัวอ่อนวิญญาณแปดสิบเอ็ดตนถูกทำลาย นางก็จะได้รับผลกระทบด้วย

ถึงกระนั้นนางก็ยังไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ นางบรรเลงพิณต่อและมีดาบปรากฏออกมา

ดาบเล่มนี้บางมาก มันบางเหมือนกับเส้นไหม ถ้าไม่มองให้ดีเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมองเห็นมัน

ดาบที่บางคล้ายเส้นไหมเข้าไปล้อมรอบหลิงฮัน มันสามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้คล้ายกับทองคำก่อเกิดผลาญโลหิต

แต่ดาบเล่มนี้ไม่ใช่ทองคำก่อเกิดผลาญโลหิต มันคือปราณดาบและพลังปราณของนางที่ผสานกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

“นี่มันทักษะดาบของตระกูลหวัง!”

“สมแล้วที่เป็นอัจฉริยะอย่างหวังอีหยุน”

“ธิดาหวัง ฆ่าเจ้าเด็กคนนี้เลย!”

ฝูงชนส่งเสียงเชียร์หวังอีหยุนมากขึ้นและหวังว่าธิดาหวังจะเป็นฝ่ายชนะ

“น่าสนใจดีนิ” หลิงฮันพูดพึมพัม และกระตุ้นดาบกำเนิดมารปลดปล่อยปราณดาบที่ทรงพลังออกมา และตัดผ่านดาบที่กำลังล้อมรอบเขาอยู่ได้อย่างง่ายดาย ตราบใดที่ช่องว่างไม่ได้ใหญ่เกินไป อาวุธวิญญาณระดับสิบย่อมได้เปรียบอย่างท่วมท้น

ร่างของหวังอีหยุนพริ้วไหวอยู่บนท้องฟ้า ราวกับเทพธิดาที่ร่ายรำดวงจันทร์ แต่ปราณดาบแต่ละเล่มที่นางปลดปล่อยออกมานั้นแหลมคมเป็นอย่างมาก

หลิงฮันเรียกใช้ทักษะอสนีบาตเก้าทิวา พลังต่อสู้ของเขาพรั่งพรูออกมาไปถึงระดับตัวอ่อนวิญญาณสิบห้าดาวทันทีและหวังที่จะฆ่าหวังอีหยุน

ฉิง ฉิง ฉิง ดาบสองเล่มห่ำหั่นกันไม่หยุด เมื่อดาบกระทบกันทำให้เกิดแสงสว่างจ้า ทำให้เหล่าจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานหวาดกลัวที่จะจ้องมองเพราะอาจทำให้ตาของพวกเขาบอด

ทุกการปะทะ หวังอีหยุนรู้สึกร่างกายของนางด้านชา ราวกับถูกไฟฟ้าดูด

เมื่อเผชิญหน้ากับหลิงฮัน นางไม่ได้ต่างจากจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานเลย!

หรืออาจเป็นเพราะว่าทักษะอสนีบาตเก้าทิวานั้นทรงพลังเกินไป แม้แต่อัจฉริยะที่แข็งแกร่งอย่างหวังอีหยุนก็ไม่อาจต่อกรด้วยได้

หลิงฮันกำลังเล่นกับหวังอีหยุน แต่การโจมตีของเขานั้นทำให้นางถูกบังคับให้ล่าถอยไม่หยุด

หวังอีหยุนกัดฟัน นางสลัดการโจมตีของหลิงฮันและกระโดดขึ้นไปบนอากาศ แล้วปรากฏแสงสว่างระยิบระยับ

หลิงฮันขมวดคิ้วและพูดว่า “ถ้าเจ้าดิ้นรนอีกครั้ง ข้าจะเอาดาบกระแทกบั้นท้ายเจ้า!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นหวังอีหยุนรู้สึกโกรธ แต่นางก็ยังคงปลดปล่อยปราณออกมาก่อเป็นแสงสว่างที่น่าสะพรึงกลัวราวกับจะทำลายโลก

“ไม่เชื่อฟัง!” ร่างกายของหลิงฮันกลายเป็นสายฟ้า แม้จะไม่ใช่สายฟ้าที่แท้จริง แต่ความเร็วของเขาก็เพิ่มขึ้นถึงสามเท่า แล้วปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าหวังอีหยุน และดาบกำเนิดมารสะบั้นไปที่ใบหน้าของหวังอีหยุน

“อ๊ากกก–” หวังอีหยุนกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและละอายใจ

ผู้ชายคนนี้กล้าที่จะทำให้นางเสียหน้า!

ถึงกระนั้น นางก็ยังคงเป็นอัจฉริยะ แม้ว่าจะตกอยู่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ แต่นางก็ยังคงปล่อยลำแสงใส่หลิงฮัน

หลิงฮันดึงดาบกลับมาและทำลายลำแสงนั่นทิ้ง แต่เขารู้สึกมือขวาของเขาหนักอึ้ง แทบจะไม่สามารถยกขึ้นมาได้ ช่วยไม่ได้ที่หลิงฮันจะรู้สึกตกใจ ต้องรู้ก่อนว่ากายาของเขานั้นแข็งแกร่งแค่ไหน