ตอนที่ 366 เธอจะเป็นคนแบบนั้นได้อย่างไร / ตอนที่ 367 แคร์มากเกินไป

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนนี้ 366 เธอจะเป็นคนแบบนั้นได้อย่างไร

 

           ไม่ทันรู้ตัวก็มาถึงร้านชุดแต่งงานแล้ว ฉู่เจียเสวียนลงจากรถ

 

           กงจวิ้นฉือลงรถตาม “เจียเสวียน เลิกงานผมจะมารับคุณ”

 

           ฉู่เจียเสวียนได้ยินแล้วก็พยักหน้า “คุณขับรถระวังด้วยนะ” พูดจบ ก็หันหลังเดินไปที่ประตูร้านชุดแต่งงานแล้ว

 

           พนักงานในร้านชุดแต่งงาน เห็นกงจวิ้นฉือมาส่งฉู่เจียเสวียนทำงาน ทุกคนต่างมองหน้ากัน จากนั้นก็ยิ้ม

 

           “พี่เจียเสวียน คุณกงนี่ดีกับพี่จริงๆ เลยนะ” ผู้จัดการร้านเสี่ยวลี่เดินไปหาฉู่เจียเสวียน มองเธอด้วยสีหน้าอิจฉา ถ้าเธอมีแฟนหนุ่มที่ดีกับเธอแบบนี้ก็ดีสิ

 

           “เธอก็รีบหาสักคนสิ จะได้ไม่ต้องอิจฉาคนอื่นแล้ว” ฉู่เจียเสวียนยิ้มเอ่ย เดินเข้าไปในออฟฟิศ

 

           กงจวิ้นฉือรับส่งฉู่เจียเสวียนไปทำงานติดต่อกันหลายวัน กินดื่มอย่างเบิกบานใจ เพราะว่าชอบกินกับข้าวของซูซานซานที่ทั้งมีประโยชน์และรสชาติดี

 

           ในใจของฉู่เจียเสวียนทั้งซาบซึ้งทั้งอุ่นใจ

 

           บางคนมีความสุขและบางคนก็เศร้า ทางนี้หลังจากเผยหนานเจวี๋ยแก้ไขปัญหาของบริษัทแล้ว ก็มักจะขับรถไปที่ร้านชุดแต่งงานของฉู่เจียเสวียนโดยไม่รู้ตัวแล้ว

 

           หลายวันมานี้ เผยหนานเจวี๋ยตามฉู่เจียเสวียนกับกงจวิ้นฉืออย่างเงียบๆ คอยอิจฉาพวกเขาอยู่หลายวัน

 

           รู้สึกปวดใจอย่างแปลกประหลาด ม่านบางๆ ผุดขึ้นในดวงตาของเผยหนานเจวี๋ย เอาอีกแล้ว อารมณ์อึดอัดนี้กดดันเขาจนแทบหายใจไม่ออก

 

           บ้าเอ๊ย! เขาชอบเธอถึงขนาดนี้เชียวเหรอ เงยหน้าขึ้น มองดูฉู่เจียเสวียนหัวร่อต่อกระซิกกับกงจวิ้นฉือในรถ มือของเขาที่จับพวงมาลัยกำแน่นไม่หยุด

 

           เผยหนานเจวี๋ยดึงสติกลับมา กลับมาที่บริษัทด้วยความรู้สึกหงุดหงิด ทันทีที่เข้าออฟฟิศแล้ว เผยหนานเจวี๋ยก็บังคับให้ตัวเองเข้าสู่ห้วงของการทำงาน ฝืนตัวเองไม่ได้คิดอะไรมาก

 

           ขณะที่กำลังเข้าสู่สภาวะแห่งการทำงานอยู่นั้น เสียงเคาะประตูออฟฟิศดังขึ้น

 

           “เข้ามา” เสียงที่ทุ้มต่ำดังขึ้น เลขาจึงผลักประตูเดินเข้าไป

 

           “ประธานเผยคะ แผนงานนี้ต้องการลายเซ็นของคุณ และพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์ของบริษัทก็ต้องตัดสินใจเหมือนกันค่ะ”

 

           “ด่วนหรือเปล่า” ยกมือขึ้นนวดๆ คิ้ว เสียงของเผยหนานเจวี๋ยอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด

 

           “นิดหน่อยค่ะ จะถ่ายโฆษณาในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว” เลขาเอ่ยด้วยความนอบน้อม บนใบหน้ามีรอยยิ้มอย่างมืออาชีพ

 

           “วางไว้นี่ก่อนเถอะ” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปาก เลขาฟังแล้วก็พยักหน้า จากนั้นจึงหันหลังจากไป

 

           หลังจากเลขาออกไปแล้ว เผยหนานเจวี๋ยยื่นมือหยิบเอกสารชุดนั้นขึ้นมา กำลังต้องการจะเปิดดู โทรศัพท์มือถือบนโต๊ะก็ดังขึ้น

 

           ยื่นมือหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ขณะที่เห็นเบอร์ไม่คุ้นตา เผยหนานเจวี๋ยก็ขมวดคิ้ว ปลายนิ้วกดปุ่มรับสาย “ฮัลโหล”

 

           “เผยหนานเจวี๋ย ไม่เจอกันตั้งนาน” เสียงอันไพเราะดังเข้าหูของเผยหนานเจวี๋ย เสียงที่คุ้นเคยทำให้เผยหนานเจวี๋ยขมวดคิ้ว

 

           “ไป๋หลิง?” เธอโทรมาหาเขาทำไม หรือว่าบทสั่งสอนที่ให้เธอไปคราวก่อนไม่พองั้นเหรอ

 

           “ถูกต้อง” ไป๋หลิงหัวเราะเบาๆ มุมปากยกยิ้ม

 

           “คุณต้องการจะพูดอะไร” เสียงของเผยหนานเจวี๋ยเยือกเย็นลงเล็กน้อย เขาไม่มีเวลาเล่นใบ้คำกับเธอ

 

           “อย่าดุสิ ใจเย็นหน่อย ที่รัก” ไป๋หลิงเอ่ยปาก ไม่หวาดกลัวน้ำเสียงที่มืดมนของเผยหนานเจวี๋ยเลยสักนิด

 

           “ถ้าไม่พูดผมจะวางหูแล้ว” พูดจบ เผยหนานเจวี๋ยก็ต้องการจะวางสายจริงๆ แต่ปลายสายรีบพูดขึ้นห้ามไว้

 

           “เผยหนานเจวี๋ย คุณรู้หรือเปล่าว่าฉู่อีอีที่อยู่ข้างกายคุณเป็นผู้หญิงที่ความคิดชั่วร้ายแค่ไหน เพื่อที่จะได้อยู่ข้างคุณ เขาไม่กลัวที่จะทำร้ายพี่สาวของตัวเอง แม้แต่ทำให้ลูกในท้องของเธอแท้ง หึหึ” ไป๋หลิงเอ่ย จู่ๆ น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นมืดมน

 

           คราวก่อนเธอเสียผลประโยชน์ให้ฉู่อีอีมากมาย ทำให้เธอถูกปิดตายนานขนาดนั้น หากไม่ชำระความแค้นครั้งนี้ เธอก็ไม่ใช่ไป๋หลิง

 

           เธอหายไปตั้งนาน ก็เพื่อไปสืบเรื่องที่ฉู่อีอีทำทั้งหมดก่อนหน้านี้ หึหึ และก็หาเจอจริงๆ

 

           “คุณกำลังพูดเหลวไหลอะไร อีอีจะเป็นคนแบบนั้นได้ยังไง!” คำพูดที่เอ่ยออกมาโดยไร้ความคิดเช่นนี้ แน่นอนว่าเขาไม่มีทางเชื่อคำพูดข้างเดียวแน่นอน

 

 

     ตอนที่ 367 แคร์มากเกินไป

 

           “ฉันแค่ไม่อยากให้คุณถูกหลอกใช้อย่างคนโง่”

 

           “คุณน่ะเป็นคนบ้า!” เผยหนานเจวี๋ยโมโหจนขว้างโทรศัพท์มือถือลงพื้น อารมณ์ที่ไม่ดีอยู่แล้ว ตอนนี้กลายเป็นยิ่งมืดมน

 

           อีอี คุณอย่าทำให้ผมผิดหวังเด็ดขาด ผมเชื่อว่าคุณไม่ทำเรื่องแบบนี้แน่นอน

 

           หลังจากสงบสติอารมณ์โกรธที่มีอยู่ทั่วร่างกายแล้ว เผยหนานเจวี๋ยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสับสนเล็กน้อย นึกถึงพฤติกรรมของฉู่อีอีช่วงนี้ ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยเล็กน้อย

 

           จู่ๆ ก็นึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อคืนราวกับว่าเขามองดูเธอล้มไปกับพื้นและไม่ได้ใส่ใจ ยิ่งไม่ได้ประคองเธอ ทันใดนั้นในใจก็รู้สึกผิด

 

           ช่างเถอะ ไปดูเธอเถอะ เป็นไปได้ว่าเพราะช่วงนี้เขาใส่ใจเธอน้อยเกินไป ดังนั้นเธอจึงคิดฟุ้งซ่านแบบนั้น

 

           ที่วิลล่าบ้านเผย

 

           ฉู่อีอีอยู่ในห้องนอน ในตอนนั้นเธอกำลังนั่งอยู่บนพื้น ในมือถือขวดไวน์แดง ดื่มอยู่คนเดียว ใบหน้าน้อยๆ ที่สวยงามมีความเศร้าโศก

 

           เงยหน้าดื่มอีกคำ ของเหลวสีแดงกุหลาบไหลออกมาจากปากของเธอ ยกมือขึ้นเช็ด

 

           ทำไมทุกอย่างถึงอยู่นอกเหนือการควบคุมของเธอ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเผยหนานเจวี๋ยฟังเธอ ทำไมตอนนี้ถึงไม่แม้แต่จะสนใจเธอ

 

           อีกทั้งฉู่เจียเสวียนเฮงซวยนั่นอีก ทำไมตอนนี้เธอถึงแข็งแกร่งขนาดนี้ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเธอเคยอ่อนแอ อะไรกันแน่ที่ทำให้พวกเขาเปลี่ยนไป

 

           เธอใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อให้ได้ทุกอย่างมา หรือว่าตอนนี้เธอต้องคืนทุกอย่างกลับสู่สภาพเดิมเพราะการกลับมาของฉู่เจียเสวียนงั้นเหรอ

 

           เธอคิดเสมอว่าเผยหนานเจวี๋ยจะไม่เปลี่ยนใจไปจากเธอ แต่ว่าตอนนี้ล่ะ? หัวใจของเขาผันไปหาฉู่เจียเสวียนแล้ว

 

           นึกถึงสองสามครั้งก่อนที่เธอไปหาเรื่องฉู่เจียเสวียน เผยหนานเจวี๋ยมักจะไม่ช่วยเธอ แต่กลับไปช่วยฉู่เจียเสวียนเลวคนนั้น ในใจของเธอเจ็บปวดเหลือเกิน

 

           นึกถึงว่าตอนนี้เฉิงเฮ่าก็โผล่มา เธอใช้ชีวิตอย่างหวาดกลัวทุกวัน ใช้ชีวิตด้วยความหวาดกลัวว่าจู่ๆ เฉิงเฮ่าจะเปิดโปงความลับของเธอ

 

           ทำไมเธอต้องรับสิ่งเหล่านี้ในตอนนี้ด้วย ทำไมเธอต้องทนทุกข์ทรมานทุกวันด้วย

 

           ตอนแรกนึกว่ากลับประเทศมา เฉิงเฮ่าจะปล่อยเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าเวลาสั้นๆ เพียงสามปี เขาจะกลับมาแล้วจริงๆ

 

           เงยหน้าดื่มไวน์อีกอึกใหญ่ ความเศร้าโศกในใจไม่ได้หายไปเพราะแอลกอฮอล์เลย

 

           จู่ๆ ประตูก็เปิดพรวด แสงสว่างจ้าส่องเข้ามา มันแสบตาจนเธอลืมตาไม่ขึ้น ยกมือขึ้นบัง เผยให้เห็นคางที่สมบูรณ์แบบ

 

           เผยหนานเจวี๋ยยืนอยู่ข้างนอก ได้กลิ่นเหล้าในห้อง ความเจ็บปวดก็ผุดขึ้นในดวงตา

 

           เดินเข้าก้าวมาหาฉู่อีอี ยื่นมือดึงเธอขึ้นมาจากพื้น โอบเธอพาไปนั่งลงบนเตียงที่อยู่ข้างๆ

 

           ปลายจมูกมีกลิ่นหอมสดชื่นที่คุ้นเคย จู่ๆ ฉู่อีอีรู้สึกระคายเคืองตา หันไปมองผู้ชายที่นั่งข้างๆ ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองเกิดภาพลวงตา

 

           “หนานเจวี๋ย?” ฉู่อีอีพูดขึ้น มือที่ถือขวดไวน์กำแน่นไม่หยุด

 

           ยกมือขึ้นต้องการจะดื่มอีก เผยหนานเจวี๋ยมือไวกว่า แย่งขวดไวน์ในมือมา “คืนไวน์มาให้ฉัน!”

 

           เอ่ยปากอย่างแข็งกร้าว ดวงตาของฉู่อีอีมีความโกรธ

 

           “อีอี อย่าดื่มอีกเลย” เผยหนานเจวี๋ยกล่าว ในน้ำเสียงมีอารมณ์คลุมเครือ

 

           วางขวดไวน์ด้านข้างๆ ยื่นมือกอดฉู่อีอี เห็นสภาพของฉู่อีอีในตอนนี้ เขารู้สึกเสียใจมาก

 

           แม้จะรู้ว่าตัวเองชอบฉู่เจียเสวียน แต่ว่าในใจของเขาก็ยังรู้สึกผิดต่อฉู่อีอี

 

           ถูกเผยหนานเจวี๋ยกอดและรู้สึกถึงความอบอุ่นของเขา ฉู่อีอีเงยหน้าขึ้นจากอ้อมกอดของเขา มองดูใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา เอ่ยปากขึ้นอย่างเหลือเชื่อ “หนานเจวี๋ย ใช่คุณจริงๆ เหรอ ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม”

 

           “ผมเอง” เผยหนานเจวี๋ยกล่าว ยื่นมือลูบไล้ผมของฉู่อีอี

 

           “หนานเจวี๋ย ฉันนึกว่า…คุณไม่ต้องการฉันแล้ว คุณอย่าโทษฉันเลยได้ไหม เมื่อก่อนฉันทำเรื่องไม่ดีพวกนั้นกับพี่สาว แต่เป็นเพราะฉันแคร์คุณมากก็เท่านั้น”