ตอนที่ 1501 ผงจองจำวิญญาณ

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 1501 ผงจองจำวิญญาณ โดย Ink Stone_Fantasy

ได้ยินเสียงหัวเราะสุดแสนป่าเถื่อนของไคซิน ร่างของคุนหมิงพลันสั่นสะท้านนัก

“ผงโอสถนี้ใช้เพื่อทำให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะสู้กับข้าอย่างยุติธรรม”

ทันทีทันใด คุนหมิงพลันได้ยินคำพูดของเย่หยวนในตอนนั้นดังก้องอยู่ในหู เขาตระหนักได้ทันทีว่า ผงโอสถนั้นมีไว้เพื่อมิให้ไคซินทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรจอมทัพปีศาจได้ในวินาทีสุดท้าย!

แต่ผงโอสถนั้นจะมีประสิทธิภาพจริงๆงั้นรึ?

“คุนหมิง เจ้าเป็นอะไรไป?”

ทันใดนั้นเอง อินทรีโลหิตก็เอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย

คุนหมิงส่ายหัวและกล่าวว่า

“ไม่มีอะไร! ข้าสงสัยเสียเหลือเกิน คุนหมิงจะเลื่อนระดับชั้นสำเร็จหรือไม่ หากทำได้สำเร็จ บรรพกาลราตรีจักตกอยู่ในอนาคต!”

แม้อินทรีโลหิตกับเขาทั้งคู่จะอยู่ในโถงโลหิตปรโลกเช่นเดียวกัน แต่เรื่องแบบนี้ยิ่งคนรู้น้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดี

ไคซินเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งตระกูลไค และยังเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าเมืองในอนาคตอีกด้วย

เมื่อข่าวรั่วไหลออกไป มันคงกลายเป็นเรื่องน่าลำบากใจนัก

ดังนั้นยิ่งมีคนรู้น้อยก็ยิ่งดี

การจะฆ่าใครไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธเสมอไป

โถงนักฆ่านั้นทรงพลังเพียงใด มีเพียงเขาที่เป็นประมุขโถงและประมุขใหญ่แห่งโถงโลหิตปรโลกเท่านั้นที่ทราบ

ในที่สองหลังจากที่เย่หยวนมอบถุงบรรจุผงโอสถให้ เขาก็ลอบใส่ลงไปในน้ำดื่มและให้ไคซินกินลงไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

และตอนนี้ดูเหมือนว่าถึงเวลาที่ผงโอสถชนิดนี้จะออกโรงแล้ว

แต่สีหน้าการแสดงออกของอินทรีโลหิตกลับบิดเบี้ยวน่าเกลียดยิ่ง เขากล่าวว่า

“อาศัยความแกร่งกล้าของไคซิน การเลื่อนระดับชั้นน่าจะไม่มีปัญหาอันใด ตอนนี้มันขึ้นอยู่กับว่าบรรพกาลราตรีจะฟื้นพลังปราณปีศาจได้เร็วพอหรือไม่”

ทั้งสองล้วนมาถึงจุดที่อ่อนล้าสุดขีดแล้ว ใครฟื้นพลังเสร็จก่อนเป็นผู้ชนะ!

เย่หยวนหาได้แยแสวาจาเย้ยเยาะของไคซินแม้แต่น้อย เขาหยิบโอสถออกมาเม็ดหนึ่งพร้อมตบเข้าปากทันทีเพื่อฟื้นฟูพลังปราณปีศาจ

หัวใจของทุกคนแทบจะกระโจนออกมาลำคอเมื่อเฝ้าดูภาพฉากนี้

พลังวิญญาณจากทั่วสารทิศระดมเข้าสู่กายาไคซิน มันระเบิดหัวเราะคลั่งไม่หยุดหย่อน

ตราบใดทีที่ไคซินเลื่อนระดับชั้นได้ พลังวิญญาณทั้งหมดโดยรอบจะถูกดูดซับและเข้ามาเติมเต็มกลายมาเป็นพลังปราณปีศาจเอง!

เผ่าปีศาจบ่มเพาะจิตวิญญาณปีศาจเป็นหลัก ไคซินปลดปล่อยพลังวิญญาณปีศาจออกมาทั้งหมด และเริ่มเชื่อมต่อกับศาสตร์แห่งสวรรค์ในทันใด

ตราบเท่านที่เขาได้การยอมรับจากศาสตร์แห่งสวรรค์ วิญญาณปีศาจของเขาจะพัฒนาไปอีกก้าวหนึ่ง และทะลวงขึ้นกลายเป็นจอมทัพปีศาจได้อย่างราบรื่น

แต่ทันทีทันใด สีหน้าการแสดงออกของไคซินพลันเปลี่ยนไปอย่างมาก

เขาพบว่าวิญญาณปีศาจของตนราวกับวิ่งชนกำแพงอย่างแรง และมิอาจข้ามฝ่าไปได้เลย!

ระดับชั้นจอมทัพปีศาจอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก แต่ตอนนี้กลับอยู่เหนือความเข้าใจ

ความรู้สึกราวกับภาพสะท้อนจันทราในธารน้ำ เขามองเห็นมันชัดแจ้ง แต่กลับไม่สามารถสัมผัสได้จนทำให้เขาแทบคลั่ง

“บัดซบ! จงเลื่อนระดับชั้น! เกิดอะไรขึ้นกัน?!”

ไคซินกรีดร้องอยู่ภายในใจ

“หื้ม? เกิดอะไรขึ้นกัน? ท่านไคซิน…สถานการณ์ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ถูกต้องนัก”

“ด้วยความแข็งแกร่งของเขา การข้ามฝ่าปัญหาคอขวดกลับมิใช่เรื่องยาก แต่ไฉนตอนนี้วิญญาณปีศาจของเขากลับแสดงสัญญาณไม่ค่อยสู้ดีนัก?”

“ไม่มีทาง? ท่านไคซินไม่สามารถเลื่อนระดับชั้นได้จริงหรือนี่? มันเป็นไปได้อย่างไร?”

ในไม่ช้า เหล่าฝูงชนก็เริ่มพบเห็นสิ่งผิดปกติ

พลังวิญญาณปีศาจที่กำลังรวมตัวผนึกเข้าหากับกลับเริ่มส่งสัญญาณกระจายตัวออก

สิ่งนี้ทำให้ทุกคนสุดแสนจะงงงวยยิ่ง

สีหน้าการแสดงออกของคุนหมิงเปลี่ยนไปดูจริงจังขึ้นหลายส่วน พลันก่อกำเนิดคลื่นยักษ์ถาโถมเข้าสู่จิตใจในทันใด

มันได้ผล!

หน้าที่ของผงโอสถนั้นคือ ป้องกันมิให้ไคซินเลื่อนระดับชั้นจริงๆ!

คุนหมิงในฐานะประมุขโถงนักฆ่า ย่อมกล่าวได้ว่าเขาเป็นคนที่มากทั้งประสบการณ์และความรู้

แต่เขากลับไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่า จะมีผงโอสถชนิดใดที่สามารถป้องกันมิให้ผู้ที่รับประทานเข้าไปไม่สามารถเลื่อนระดับชั้นได้

ผงโอสถนี้กระทั่งภูตผีเทพเซียนยังไม่รู้จักโดยแท้!

ยิ่งไปกว่านั้นคือ เย่หยวนยังด้วยว่า ผงโอสถนี้มีฤทธิ์ต่อเซียนระดับชั้นอย่างไคซิน

หากไม่เชื่อเรื่องนากรีตเช่นนี้ และเขาลองด้วยตัวเอง ปานนี้คุนหมิงคงไม่สามารถเลื่อนระดับชั้นได้แล้วชั่วชีวิตกระมัง?

บนอัฒจันทร์ระดับสาม อวี้หานจับจ้องไปที่เย่หยวนพร้อมคลี่ยิ้มขึ้นช้าๆ

“ดูเหมือนว่าบทสรุปใกล้มาถึงแล้ว! เจ้าเมืองไคหลง เรื่องนี้คงมิอาจโทษข้าได้กระมัง?”

อวี้หานเอ่ยกล่าวกับไคซินพร้อมรอยยิ้ม

ทว่าไคหลงกลับดูไม่สนใจใยดีนัก และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า

“ท่านประมุขโถงอวี้หานใจดีเกินไปแล้ว! เมื่อมาถึงระดับชั้นจ้าวทัพปีศาจ ล้วนมองเห็นผู้คนเป็นมดปลวก การที่ไคซินแพ้เย่หยวนนั้นหมายความว่าเขายังไม่แข็งแกร่งพอ ดังนั้นข้าจะโทษท่านได้อย่างไร? พวกเรามีหน้าที่เพียงเฝ้าดูเหล่าเยาวชนเติบโตเท่านั้น”

หากเย่หยวนมาได้ยินสิ่งนี้เข้า เขาจะต้องตื่นตะลึงอย่างยิ่ง

อวี้หานที่เล่นหูเล่นตากับเย่หยวนในครานั้น ปรากฏว่าตัวตนที่แท้จริงของนางคือ ประมุขแห่งโถงโลหิตปรโลก!

และนางเองก็ยังเป็นจ้าวทัพปัศาจระดับชั้นเดียวกับเจ้าเมืองไคหลงอีกด้วย!

เมื่อไคหลงเอ่ยกล่าวไปเช่นนั้น อวี้หานพลันยิ้มเอ่ยตอบว่า

“ขอบคุณที่เจ้าเมืองไม่ตำหนิข้า! เจ้ามั่นใจได้เลย ข้าเป็นหนี้บุญคุณของเจ้าในครั้งนี้”

ไคหลงขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนหันจับจ้องอวี้หานด้วยสายตาผิดแปลก

“ความดีความชอบของประมุขโถงอวี้หาน มีค่าเสียกว่าพวกเด็กเยาวชนเหล่านี้มาก”

เย่หยวนย่างก้าวตรงเข้าหาไคซินอย่างแช่มช้า และกล่าวเสียงเรียบนิ่งว่า

“ข้าบอกแล้ว เจ้าเอาชนะข้าไม่ได้ เห็นหรือไม่? ไม่มีใครให้กำลังใจเจ้าอีกต่อไปแล้ว?”

ในท้ายที่สุดนี้ กลางใบหน้าของไคซินพลันฉายแววตื่นตระหนกขึ้นมาทันที

“เป็นไปไม่ได้! ไฉนข้าถึงเลื่อนระดับไม่ได้!? นี่…นี่เป็นไปได้อย่างไร?!”

คำว่าล้มเหลวและผิดหวังเปี่ยมล้นทั่วทั้งใบหน้าของไคซิน เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ตนจะต้องประสบความล้มเหลวในการเลื่อนระดับชั้นเช่นนี้!

เรื่องนี้ไม่นับเป็นอันใดสำหรับเย่หยวน เขาวางแผนนี้มานานกว่าหนึ่งปี เพื่อสกัดกั้นมิให้อีกฝ่ายเลื่อนระดับชั้นได้

ทุกอย่างล้วนถูกลิขิตไว้แล้วตั้งแต่ตอนที่ไคซินตัดสินใจหันคมมีดใส่เย่หยวน

เย่หยวนเคยเห็นฉินเทียนเลื่อนระดับชั้นในเสี้ยวหัวเลี้ยวหัวต่อสุดท้าย และทำให้ตัวเขาเกือบแย่ ดังนั้นเขาจะให้มันเกิดขึ้นซ้ำสองได้อย่างไร?

ผงโอสถนั้นเรียกว่า ผงจองจำวิญญาณ ซึ่งผลิตมาพิเศษสำหรับกักขังวิญญาณของเผ่าปีศาจ

ตราบใดที่พวกปีศาจได้รับผงจองจำวิญญาณเข้ากายไป มันจะเข้าทำลายวิญญาณปีศาจให้พิการโดยตรง และมิให้วิญญาณสามารถเชื่อมต่อกับศาสตร์แห่งสวรรค์ได้อีกชั่วชีวิต!

ผงจองจำวิญญาณไร้สีไร้กลิ่นและยังไม่ก่อเกิดอันตรายใดๆต่อความแข็งแกร่งของผู้บริโภค

ทว่าพวกเขาก็ลืมเรื่องเลื่อนระดับชั้นไปได้เลยในชั่วชีวิตนี้

พวกเขาจะไม่รู้อะไรเลยจนวันสุดท้ายของชีวิต

อย่างไรก็ตาม ผงจองจำวิญญาณนี้ไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อพวกคนอย่างคุนหมิง เพราะในชั่วชีวิตนี้ ถึงยังไงพวกเขาก็ไม่สามารถเลื่อนระดับชั้นได้อีกต่อไปแล้ว แต่สำหรับยอดอัจฉริยะผู้โดดเด่น ผงโอสถชนิดนี้นับเป็นการสกัดดาวรุ่งอย่างจัง

“เป็นไปไม่ได้! ข้าคือราชันแห่งลานประลองเลือด! ข้าจะแพ้แม่ทัพปีศาจชั้นปลายตัวนี้ได้อย่างไน! อ๊ากกก! ข้าจะฆ่าเจ้า!”

ไคซินคำรามลั่นด้วยความเกรี้ยวโกรธ แต่จู่โจมใส่เย่หยวนทันที

อย่างไรก็ตามแต่ ด้วยสถานะปัจจุบันของเขา กลับไม่สามารถสร้างภัยคุกคามใดๆต่อเย่หยวนได้เลย

เย่หยวนมองอีกฝ่ายด้วยความสมเพชใจและกล่าวขึ้นอย่างสงสารขึ้นว่า

“ยามเจ้าจมอยู่แต่ความสำเร็จในกาลอดีต เช่นนั้นวันนี้คือวาระสุดท้ายของเจ้า ราชันแห่งลานประลองเลือด? ช่างเป็นเกียรติยศที่ไร้สาระจริงๆ!”

ดาวยาวส่องประกายเหวี่ยงสะบัดใส่แกนวิญญาณปีศาจของไคซินโดยตรง ไม่มีเปิดโอกาสช่องโหว่ใดๆ

ทั่วทั้งลานประลองพลันเงียบสงัด

แม้ว่าพวกเขาจะทราบผลลัพธ์นานแล้ว แต่เมื่อมาเห็นกับตา พวกเขาก็ยังไม่อยากจะเชื่ออยู่ดี

ราชันแห่งลานประลองเลือด ตำนานแห่งสังเวียนเดือดกำลังจะพ่ายแพ้งั้นรึ?

ชายหนุ่มผู้หล่อเหลานั้นคือใครกันแน่!?

“การประลองครั้งนี้ บรรพกาลราตรีเป็นฝ่ายชนะ! ไคซินแพ้!”

ในที่สุดเสียงป่าวประกาศก็ดังขึ้นทำลายบรรยากาศอันเงียบงัดจนแตกเป็นเสี่ยง

 …………………………………