ตอนที่ 817 : เขตแดนทะเลล่วงลึกล้ำ
แม่เฒ่าหม่าจัดแจงคนจํานวนหนึ่งดูแลศิษย์ที่ได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะหันมากล่าว “ฉินหยุน ดีที่สุดหากเจ้าไม่ไป ผู้คนเหล่านั้นมาที่นี่เพื่อท้าทายเจ้า”
ฉินหยุนเผยยิ้ม “พวกมันมาท้าทายข้าถึงที่นี่? ไม่ใช่ว่าดีเยี่ยมเลยหรือไร? ข้าจะไปเผชิญหน้ากับพวกมันเอง! ท่านยายหม่า เป็นท่านกังวลว่าข้าไม่อาจเอาชนะพวกมันได้หรือ?”
แม่เฒ่าหม่าพยักหน้ารับ “ข้าเป็นกังวลเช่นนั้นจริง ว่าเจ้าจะไม่อาจเอาชนะพวกมันได้!”
“ศิษย์พี่ที่บาดเจ็บเมื่อครู่นี้ เป็นราชันยุทธ์งั้นหรือ?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
“ถูกต้อง! ทว่าผู้ที่เอาชนะเขาได้ เป็นเพียงขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ!” แม่เฒ่าหม่าพยักหน้ารับ
“ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำระดับสูง หรือว่าระดับสูงสุด?” ฉินหยุนเอ่ยถามอีกครั้ง เพราะตอนนี้เขาเริ่มให้ความสนใจมากขึ้นแล้ว
“สูงสุด! หากเจ้าต้องการต่อสู้ อาวุธไม่อาจใช้งาน!” แม่เฒ่าหม่ากล่าว แข็งแกร่ง แต่หากไร้ซึ่งอาวุธ คิดเอาชนะคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งถือเป็นเรื่องยาก
นางทราบว่าฉินหยุน
ผู้คนล้วนทราบ ว่าฉินหยุนครอบครองอุปกรณ์เต่ามากมาย ก่อนหน้าเขาเคยสังหารราชันยุทธ์ไปมาก ที่เขาทําเช่นนั้นได้ ก็เพราะใช้งานหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกร และกระบี่ศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปรโลก
หากเขาไม่ใช้งานสิ่งเหล่านั้น คิดเอาชนะอีกฝ่ายก็ต้องทุ่มอย่างหนักหนา แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ยังคิดอยากไปทวงหนี้แค้นครั้งนี้กับผู้คนเหล่านั้นกลับคืนมา
แม่เฒ่าหม่าพบเห็นว่าฉินหยุนกระหายต่อสู้เพียงนี้ นางจึงได้แต่ร่วมทางไปด้วย
“ท่านยายหม่า แขกเหล่านี้มาจากแดนไกล พวกเขาเป็นคนเช่นไรกันหรือ? แล้วมาจากที่ใดกัน?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
“พวกเขาเหล่านี้มาจากเขตแดนทะเลล่วงลึกล้ำ มันเป็นเขตแดนทะเลที่ลึกลับอย่างถึงที่สุด!” แม่เฒ่าหม่ากล่าว “ตํานานกล่าวขาน ว่าเขตแดนทะเลแห่งนั้น มันมีประตูเชียนที่จะนําพาไปยังแดนเซียนอ้างว้างตั้งอยู่ ตราบเท่าที่พบเจอประตูเซียนภายในเขตแดนทะเล เจ้าจะสามารถเข้าไปยังแดนเซียนอ้างว้างได้เ”
“แล้วเขตแดนทะเลล่วงลึกล้ำนี้อยู่ที่ใดกัน?” ฉินหยุนถามอีกครั้ง
“ได้ยินว่าอยู่ภายในเขตแดนลึกล้ำ ฉินหยุน เรื่องของประตูเซียนที่นําพาไปสู่แดนเซียนอ้างว้าง มันเป็นเพียงตํานานกล่าวขาน อย่าได้เก็บมาคิดเป็นจริงจังนัก” แม่เฒ่าหม่ากล่าว
“ตํานานมีการเล่าขาน เช่นนั้นมันต้องมาจากเรื่องจริง” ฉินหยุนยิ้มตอบ
“ผู้คนของเขตแดนทะเลล่วงลึกล้ำเหล่านี้แข็งแกร่งยิ่ง ทั้งยังอหังการอวดดี ดีที่สุดหากเจ้าเตรียมตัวให้พร้อมยามพบปะพวกเขา” แม่เฒ่าหม่ากล่าวเสริม
“อหังการอวดดี? เช่นนั้นให้ข้าสั่งสอนเสียหน่อยแล้ว!” ฉินหยุนหัวเราะเสียงดัง
แม่เฒ่าหม่าได้แต่คาดหวัง ว่าฉินหยุนจะไม่พ่ายแพ้ในการประลอง
ฉินหยุนเดินตามแม่เฒ่าหม่า จนกระทั่งมาถึงลานประลองภายในพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์ทั้งศิษย์นอกและศิษย์หลักของสํานักต่างมารวมตัวกันที่นี้ รวมถึงบรรดาผู้อาวุโส
ทันทีที่ฉินหยุนเข้ามาถึงพื้นที่ลานประลอง เขาจึงได้ยินเสียงกรีดร้องพร้อมโลหิตสาดกระเซ็นที่เขาได้เห็นตรงหน้า คือชายวัยกลางคนบนลานประลองที่ต้นขาระเบิดแหลกเละ
ชายวัยกลางคนผู้นี้ คือราชันยุทธ์จากพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์ ลานประลองมีขนาดกว้างกว่าสามร้อยเมตร อีกฝ่ายที่ประลองกับราชันยุทธ์ผู้นี้ เป็นชายหนุ่มในชุดสีแดงไว้ผมสั้น มือของชายหนุ่มนั้นถูกย้อมด้วยเลือด
บรรดาศิษย์ทั้งหลายต่างต้องลอบหวาดกลัว ราชันยุทธ์ถึงขั้นพ่ายแพ้จนมีสภาพเช่นนี้เพราะขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ!
ที่ด้านข้างของเปาเฉิงโจ่ว มีสิบคนในชุดแดงยืนเคียงข้าง ท่ามกลางพวกเขา มีทั้งชาย หญิง ชรา และหนุ่มสาว เหล่านี้ย่อมต้องเป็นคนของเขตแดนทะเลล่วงลึกล้ำ
และท่ามกลางคนกลุ่มนี้ ก็มีผู้ที่ฉินหยุนคุ้นเคยด้วย อีกฝ่ายเป็นชายชราสวมใส่ชุดสีแดง ฉินหยุนพบเห็นย่อมตระหนักทราบได้ทันที ว่าชายชราผู้นั้นคือหยิงเฉิงอ
หยิงเฉิงอวี้คืออดีตจ้าวสํานักพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์ เขาคือคนที่นําศิษย์ของตนมาที่นี่เมื่อครั้งก่อน และพ่ายแพ้ให้แก่ฉินหยุน ทั้งยังสูญเสียจารึกวิญญาณอัคคีคลั่งให้แก่ฉินหยุน
ครานี้ หยิงเฉิงอวี้เดินทางมาพร้อมคนของเขตแดนทะเลล่วงลึกล้ำ ฉินหยุนมองทางแม่เฒ่าหม่า จึงค่อยได้ตระหนักว่าเหตุใดนางไม่ต้องการให้เขามาที่นี้
หยิงเฉิงอวี้ย่อมต้องมีเหตุผลอื่นจึงเดินทางมา เป็นไปได้สูงว่าต้องการมาล้างแค้นต่อฉินหยุน
ชายหนุ่มบนลานประลองยุทธ์ตะโกนด้วยเสียงอันดัง “พระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์ของพวกเจ้ามีแต่สวะเช่นนี้หรือไร? เร่งรีบส่งตัวฉินหยุนออกมา ข้าจะได้เอาชนะและทําลายชื่อเสียงของมันเสีย!”
ฉินหยุนเก็บตัวฝึกฝนนานนับเดือน แม้ตระกูลหลงแห่งแคว้นมังกรทะยานฟ้าเดินทางมา ทว่าที่ทําได้ก็เพียงสร้างความวุ่นวายที่นอกเมืองอย่างไม่อาจหาญล่วงล้ำเข้าสู่ภายใน
นอกจากนี้ ผลงานความสําเร็จของฉินหยุน มันได้แพร่กระจายไปกว้างไกลทั่วทั้งแดนวิญญาณอ้างว้างเขตแดนนอก ดังนั้นแล้ว อัจฉริยะผู้มากพรสวรรค์จึงมาเยือนเพื่อท้าทายต่อฉินหยุน กระนั้นล้วนถูกเปาเฉิงโฉ่วปฏิเสธไปหมดสิ้น
ครานี้ หยิงเฉิงอวี้นําคนของเขตแดนทะเลล่วงลึกล้ำมาก่อร่างสร้างปัญหา เดิมเปาเฉิงโฉ่วต้องการให้ศิษย์ทั้งสองฝ่ายประมือต่อกันฉันท์มิตร ผู้ใดกันทราบ ว่าศิษย์ของเขตแดนทะเลล่วงลึกล้ำจะไม่ประมือฉันท์มิตรด้วย ทั้งยังลงมือด้วยกําลังอันเหนือล้ำชวนสะพรึง
หยิงเฉิงอวี้ตะโกนดัง “เปาเฉิงโฉ่ว เร่งรีบนําตัวฉินหยุนออกมาได้แล้ว! พระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์เจ้าเหลือคนให้ต่อสู้ได้อีกไม่มากแล้วกระมัง!”
“ผู้อาวุโสหยิงเฉิงอวี้ไม่พบกันนาน! ท่านคล้ายดูชราภาพไปไม่ใช่น้อย!” ฉินหยุนกล่าวออกด้วยเสียงหัวเราะอันดังขณะบินทะยานมา
ฉินหยุนมาถึงแล้ว! บรรดาศิษย์ของพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์ต่างส่งเสียงโห่ร้องดังสนั่นความมั่นใจภายในของพวกเขาเวลานี้พุ่งทะยานถึงขีดสุด
“ฉินหยุนงั้นหรือ?! เหอะ กว่าพวกเราจะได้พบกันอีกครั้งหนึ่งเช่นนี้ ข้าย่อมชราภาพลงไปบ้าง ทว่าเจ้ากลับแข็งแกร่งขึ้น กระทั่งถึงขั้นกวาดล้างตระกูลหลงแห่งแคว้นมหาดวงดาว… ได้ยินว่าจับตัวมังกรทองคําเอาไว้ได้ด้วย!” หยิงเฉิงอวี้เผยยิ้มกล่าวยามได้เห็นฉินหยุนมาถึง
ชายหนุ่มชุดแดงบนลานประลองยุทธ์เมื่อได้เห็นฉินหยุน เขาจึงพุ่งทะยานออก สีหน้านี้มีแต่ความอหังการอวดดี
“ฉินหยุน จงเร่งรีบมาต่อสู้กับข้า! เมื่อใดเจ้าพ่ายแพ้ จงส่งมอบมังกรทองคําและหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรออกมา!” ชายหนุ่มชุดแดงกล่าวด้วยน้ำเสียงอันดัง
“แล้วหากเจ้าพ่ายแพ้เล่า? คล้ายว่าเจ้าไม่มีอันใดมาใช้เดิมพันกับข้ากระมัง!” ฉินหยุนเผยเสียงหัวเราะดัง
“ข้าย่อมไม่พ่ายแพ้ต่อเจ้า! แต่หากข้าแพ้ เช่นนั้นข้าจะตัดมือตนเองออก!” ชายหนุ่มชุดแดงโต้ตอบด้วยเสียงดังเช่นเดิม
“เจ้าตัดมือตนเอง ไม่ต่างอะไรกับผายลมใส่ข้า! มือเจ้ายังไม่อาจคู่ควรกับอีมังกรด้วยซ้ำไป กระนั้นกลับคิดอยากใช้แลกเปลี่ยนกับมังกรทองคําและหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรอย่างนั้นหรือ! อย่างไม่รู้จักประมาณตน!” ฉินหยุนหัวเราะเสียงดังตอบโต้
“เจ้า… นี่เจ้ากําลังปรามาสข้า? แล้วเจ้าจะต้องสํานึกเสียใจ!” ชายหนุ่มชุดแดงเผยพลังเต๋าลึกพร้อมโจมตีใส่ฉินหยุน
เปาเฉิงโฉ่วเข้ายืนหยัดตรงหน้าฉินหยุน พร้อมโบกมือเบาไหววูบเพื่อสลายการโจมตี ฉินหยุนค่อยตระหนักได้ตอนนี้ ว่าเหตุใดหยิงเฉิงอวี้จึงนําคนของเขตแดนทะเลล่วงลึกล้ำมาต่อสู้กับเขาเช่นนี้ นั่นก็เพื่อชิงเอาหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกร
“ฉินหยุน พวกเรามาที่นี่ครั้งนี้ก็เพราะหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรของเจ้า จงบอกมาว่าเจ้าต้องการสิ่งใดจึงตกลงยอมต่อสู้ด้วย!” หยิงเฉิงอวี้กล่าวถาม
“เหตุใดท่านไม่นําเอาสิ่งที่มีออกมาให้ข้าได้รับชมว่าอันใดบ้างที่มีค่า!” ฉินหยุนตอบกลับ
บรรดาศิษย์ของพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์ต่างนึกย้อนถึงครั้งก่อน ที่ฉินหยุนได้รับจารึกวิญญาณอัคคีคลั่งจากหยิงเฉิงอวี้ หากหยิงเฉิงอวี้ต้องการชนะเอาสิ่งของจากฉินหยุน เขาก็ต้องนําสิ่งที่มีค่าทัดเทียมจารึกวิญญาณอัคคีคลั่งออกมา
ชายชราชุดแดงข้างกายหยิงเฉิงอขึ้นําเอาวัตถุสีแดงออกมา มันราวกับหัวใจ ทั้งยังมีชีพจรเผยออก เมื่อพิจารณามองให้ใกล้ จะพบว่ามันไม่ใช่หัวใจ ทว่าเป็นผลไม้! และผลไม้ดังกล่าว ยังมีลวดลายวิจิตรงดงามตามธรรมชาติปรากฏ พวกมันล้วนเป็นอักขระ! ผลไม้นี้ถือกําเนิดขึ้นพร้อมอักขระโดยธรรมชาติ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่สุดแสนจะล้ำค่า!
“สิ่งนี้คือผลไม้ดวงใจอักขระราชันยุทธ์! กินมันเข้าไปหนึ่งผลจะทําให้เจ้าได้กลายเป็นราชันยุทธ์! สิ่งนี้พบได้เพียงแต่ในเขตแดนทะเลล่วงลึกล้ำของพวกเราเท่านั้น! มันต้องใช้กาลเวลายาวนานนับล้านปีจึงเติบโตออกมาเช่นนี้ได้! ไม่ว่าเจ้าอยู่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำระดับใดล้วนไม่ใช่ปัญหาเพียงกินผลไม้นี้เข้าไป มันจะทําให้เจ้าได้ก้าวขึ้นเป็นราชันยุทธ์!” ชายชรากล่าว
คํากล่าวของชายชราชุดแดง เป็นผลให้ยอดยุทธ์ทั้งหลายในที่นี้ต่างดวงตาเบิกโพลง พวกเขาล้วนต้องการก้าวขึ้นเป็นราชันยุทธ์ ทว่าเรื่องราวไม่มีทางง่ายดาย กระนั้น หากกินผลไม้ตรงหน้าเพียงหนึ่งผล พวกเขาจะได้กลายเป็นราชันยุทธ์ คํากล่าวนี้ออกจะเย้ายวนเกินไปแล้ว!
เฉินหยุนมองชายหนุ่มชุดแดงด้วยความสงสัยพร้อมกล่าวถาม “เขาคือยอดยุทธ์ เหตุใดจึงไม่กินผลไม้นี้ให้กลายเป็นราชันยุทธ์?”
ข้อสงสัยของเขาไม่ใช่ไร้เหตุผล ผลไม้แสนวิเศษเช่นนี้อยู่ในมือ กระนั้นกลับไม่ให้คนของตนเองได้กัดกิน แต่เลือกที่จะนํามาใช้พนั้นอย่างนั้นหรือ?
ชายหนุ่มชุดแดงกล่าวออกด้วยความอหังการ “เพราะข้าสามารถก้าวขึ้นเป็นราชันยุทธ์ด้วยตนเอง หาได้ต้องการผลไม้นั่นไม่!”
หยิงเฉิงอกล่าว “ผลไม้นี้หาได้ยากมากล้ำ มูลค่าของมันมหาศาล! ศิษย์ของฝ่ายเราหาได้ต้องกินมัน เพราะพวกเขาย่อมก้าวทะยานขึ้นเป็นราชันยุทธ์ได้อย่างรวดเร็วอยู่แล้ว! หากพวกเราเก็บผลไม้เหล่านี้ไว้ ผ่านกาลเวลาจึงค่อยนํามันออกมา เช่นนั้นมูลค่าจะยิ่งสูงล้ำมากขึ้นไปอีก!”
ฉินหยุนเผยเสียงหัวเราะ “ข้าเองก็สามารถก้าวขึ้นเป็นราชันยุทธ์ด้วยตนเอง เหตุใดจึงยังต้องการมัน? สิ่งนั้นหาได้มีค่าใดต่อข้าไม่ ท่านคิดจริงหรือว่ามันจะเทียบหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรของข้าได้?”
คํากล่าวนี้เป็นผลให้คนของเขตแดนทะเลล่วงลึกล้ำเกิดกระอักกระอ่วน ผลไม้นี้มีหรือไม่มีล้วนไม่มีผลใดต่ออัจฉริยะเช่นฉินหยุน อีกทางหนึ่ง หม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรต่างหากจึงเป็นวัตถุที่เป็นฝันร้ายของมวลมังกร!
“หากไม่นําของดีอื่นใดออกมา เช่นนั้นข้าก็ขอตัวแล้ว!” ฉินหยุนหาวก่อนจะหันกายคิดจากไป
การกระทํานี้ เป็นผลให้ชายหนุ่มชุดแดงกราดเกรี้ยวถึงที่สุด ตัวเขาคือบุคคลชั้นแนวหน้า เขาคิดอยากเอาชนะฉินหยุนฉกชิงชื่อเสียงมา เป็นที่ทราบกันว่าชื่อเสียงของฉินหยุนได้กระจายไปถึงเขตแดนลึกล้ำ และไม่นานหลังจากนั้น มันยังแผ่ขยายต่อไปจนถึงเขตแดนทะเลล่วงลึกล้ำ!
หากเขาสามารถเอาชนะฉินหยุน ไม่เพียงแต่สามารถได้รับหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกร แต่ยังจะได้รับชื่อเสียงอันมหาศาล!
“รอก่อน พวกเราจะนําเอาอักขระออกมาเดิมพันกับเจ้า!” ชายชราชุดแดงกล่าวคําขึ้น “อักขระตะวันนี้นามว่าอักขระตะวันยกสวรรค์! มันเป็นอักขระตะวันที่จะทําให้อุปกรณ์หรืออาวุธใดสามารถเพิ่มพูนกําลังถึงอีกระดับชั้นได้ หากใช้งานกับม่านพลังหรือค่ายอาคม พลังอํานาจของมันจะเพิ่มพูนมากขึ้น”
“อักขระตะวันยกสวรรค์ และผลไม้หัวใจอักขระราชันยุทธ์ เช่นนั้นข้าจึงตกลง!” พบเห็นอักขระตะวันตรงหน้า ดวงตาฉินหยุนจึงเผยประกาย
เจี้ยนหลิงหลงเร่งรีบดึงฉินหยุนพร้อมกล่าวเสียงเบา “เสี่ยวหยุน อักขระตะวันนั่นยังห่างไกลนักหากเทียบกับหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกร!”
“ข้าทราบดีว่ามันยังห่างไกล กระนั้นข้าย่อมไม่แพ้! ดังนั้นแล้วนี้ไม่ต่างอะไรกับนําอักขระตะวันมาให้ข้าถึงที่!” ฉินหยุนกล่าวพร้อมหัวเราะซุกซน
“เจ้านี่นะ เหตุใดจึงมั่นใจนักว่าสามารถเอาชนะได้?” เจี้ยนหลิงหลงครวญครางเสียงเบา
ฉินหยุนพุ่งทะยานขึ้นลานประลองยุทธ์ ชายหนุ่มชุดแดงก็ขึ้นมาด้านบนเช่นกัน อีกฝ่ายเผยรอยยิ้มภาคภูมิประดับใบหน้าไม่ขาด
คณะคนของหยิงเฉิงอได้เห็นฉินหยุนตกลงยอมรับ สีหน้าเวลานี้ล้วนเผยยิ้มกันเต็มที่ ราวกับพวกเขาได้ตกเอาสมบัติชิ้นใหญ่ขึ้นจากทะเลได้ก็ไม่ปาน!