ตอนที่ 293 เลือดสาดห้าก้าว / ตอนที่ 294 มีสามีภรรยาคู่ใดบ้างไม่ทะเลาะกัน

ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง

ตอนที่ 293 เลือดสาดห้าก้าว

 

 

 

 

ตอนแรกที่นางบอกเขาเรื่องนี้ เพียงรู้สึกว่านกพิราบนั้นมาอย่างน่าฉงนนัก อยากจะให้เขาระวังตัวเองเสียหน่อย นึกไม่ถึงว่าเพียงกระดาษแผ่นเดียว สุดท้ายกลับมีชีวิตคนมากมายเข้ามาเกี่ยวข้อง มีหลายคนนางยังไม่เคยเจอ ไม่รู้ไฉนถึงได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ หาคนร้ายตัวจริงไม่ได้ก็ฆ่าพวกเขาหมดเลยงั้นหรือ นี่ไม่ใช่ว่าฆ่าคนบริสุทธิ์หรือไร

 

 

เฉาเต๋อหลุนนั้นได้โอกาส ในมือถือกระบี่ จ่อไปที่คอของคนแรกแล้วฟันลงไปทันที เลือดสาดยาวห้าก้าวจริงๆ เฝิงเยี่ยไป๋นั่งอยู่ห่างไปเพียงหนึ่งช่วงโต๊ะ ปลายชุดสีขาวนั้นก็ถูกเลือดสาด เขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพียงแค่ขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเปลี่ยนไปนั่งบนเก้าอี้หินที่อยู่ไกลออกไป จิบชาไปพลางดั่งดูละครอยู่ แววเย็นชาในแววตานั้นทำเอามองแล้วรู้สึกหดหู่ยิ่งนัก

 

 

เฉินยางเอามือปิดตา นางไม่เคยเห็นภาพคนถูกฆ่า เพียงแต่มือที่ปิดตาอยู่นั้นไม่รู้ทำไมถึงชุ่มด้วยน้ำตา นางรับรู้ความรู้สึกคนอื่นได้เก่งนัก พริบตาเดียวนั้นก็คิดวุ่นวายไปหมด หากในบ้านคนนั้นยังมีภรรยาหรือลูกที่ต้องเลี้ยงดู ยังมีแม่เฒ่าอายุแปดสิบหรือน้องชายน้องสาวที่เล่นดินโคลนอยู่เล่า แล้วก็เปลี่ยนมานึกถึงตัวเอง หากวันหลังนางมีลูกชาย เห็นเขาต้องตายไปเช่นนี้จะหดหู่เพียงใด ที่ห่างไกลกับนางไม่พูดถึงเอาเพียงใกล้ๆ นี้ หากท่านพ่อของนางรู้แล้วไม่ร้องไห้เจียนตายหรือ เช่นนั้นก็เป็นความอกตัญญูยิ่งนัก

 

 

ไม่ได้การแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งเศร้านัก อีกอย่างหากตามสถานะของนางตอนนี้แล้ว ห่างจากที่เฝิงเยี่ยไป๋จะปฏิบัติกับนางเช่นนี้ก็ไม่ไกลแล้ว เช่นนั้นนางยังทำอย่างไรได้อีก ทะเลาะกันถึงเพียงนี้ ความผูกพันก็เสียไปแล้ว ไม่รอแยกทางกันหรือ!

 

 

นางทนดูต่อไปไม่ไหว ตอนแรกคิดจะออกไปขอร้องให้ปล่อยพวกเขาไป เพียงแต่นึกย้อนกลับมาอีกที นางเป็นใครหรือ ตัวเองยังถูกกักขังอยู่เลย ออกไปร้องขอชีวิตแทนคนอื่น นางไม่มีหน้า เพียงแต่จะทนดูต่อไปก็ไม่ไหว เช่นนั้นก็ไปเสียเงียบๆ เช่นนี้เถอะ ไปแล้วค่อยหาพระมาทำพิธี สวดมนต์ให้คนเหล่านั้น ถือว่าใช้กรรมให้เขาครั้งสุดท้าย

 

 

ขณะที่เพิ่งตัดสินใจกำลังจะไปนั้น ขายังไม่ทันได้ก้าวออกไป ฝั่งนั้นก็เกิดเรื่องขึ้นเสียแล้ว คนร้ายตัวจริงพอเห็นว่ากระบี่กำลังชี้มาที่คอตัวเองแล้วก็นั่งไม่ติด แย่งกระบี่จากมือเฉาเต๋อหลุน พุ่งไปสองก้าวพาดกระบี่ไว้บนคอของเฝิงเยี่ยไป๋ ในมือเฝิงเยี่ยไป๋ยังถือแก้วชาอยู่ไม่ทันได้วางลงจึงดื่มลงไปเสีย ดื่มเสร็จก็ขว้างแก้วลงพื้น สีหน้าดูไม่ออกสักนิดว่ามีความตื่นตระหนก กลับกล่อมผู้หญิงคนนั้นว่า “หากเจ้าวางกระบี่ลง ไม่แน่ข้าอาจจะให้เจ้าตายอย่างไม่ต้องทรมานนัก”

 

 

เวลาเช่นนี้แล้วยังพูดสิ่งไม่เข้าหูเช่นนี้อีก เห็นว่าที่คอเป็นแผลมีเลือดไหลออกมายังมีท่าทางยโสเช่นนี้ ผู้หญิงคนนั้นถึงได้โกรธจัด

 

 

เฉินยางไม่เคยเจอใครเป็นเช่นเขา เวลานี้ไม่ใช่ว่าควรจะหาวิธีต่อรองเพื่อเอาชีวิตรอดหรอกหรือ เขากลับทำตัวดีนัก ท่าทางยโสขึ้นเรื่อยๆ เฉินยางทนดูไม่ไหว ก็ไม่รู้เอาความกล้าจากที่ใดพุ่งออกไป พอวิ่งออกไปแล้วถึงเสียใจขึ้นมา

 

 

คนเขายังต้องให้นางช่วยอีกหรือ เขาสั่งกักขังนางเอาไว้แล้วนางยังวิ่งเข้าไปช่วยเขาอีก เท่ากับหาเรื่องตายไม่ใช่หรืออย่างไร

 

 

เฝิงเยี่ยไป๋เห็นเฉินยางวิ่งออกมาสายตาก็วาวโรจน์ทันที เขานึกไม่ถึงว่านางจะออกมา ความคิดแรกคือไม่ใช่ว่านางมาได้อย่างไร แต่คือกลัว กลัวนางจะเห็นศพที่นอนเกลื่อนพื้นแล้วหวาดกลัว นางชอบอิ๋งโจวไม่ใช่หรือ อิ๋งโจวเป็นหมอที่ช่วยชีวิตคน ส่วนเขานั้นฆ่าคน ความแตกต่างนี้ราวฟ้ากับเหว ยามนี้นางคงไม่ใช่ว่าเกลียดตัวเองเข้าไส้แล้วกระมัง

 

 

 

 

——

 

 

ตอนที่ 294 มีสามีภรรยาคู่ใดบ้างไม่ทะเลาะกัน

 

 

 

 

เฉินยางวิ่งออกมาถึงได้รู้สึกเสียใจขึ้นมา เพียงแต่เสียใจก็สายไปเสียแล้ว ศพนอนอยู่เกลื่อนพื้น เมื่อครู่ยังเป็นคนที่มีชีวิตอยู่เลย ยามนี้กลับกลายเป็นศพเย็นชืดเสียแล้ว เฉาเต๋อหลุนถือว่ายังตอบสนองได้ไว รีบเรียกคนมาหามศพออกไป เพียงแต่เฉินยางไม่ไหว คอของคนเหล่านั้นจะขาดก็ไม่ขาด เชื่อมติดกันเพียงผิวหนังบางๆ ท้องไส้ก็เริ่มปั่นป่วนขึ้นมา นางยันเสาก้มตัวอาเจียน เพียงแต่ไม่มีอะไรออกมา แค่คลื่นไส้อาเจียนเท่านั้น พออาเจียนเสร็จ สีหน้านางก็ขาวซีด นางไม่ได้มองเฝิงเยี่ยไป๋ แต่กลับพูดกับผู้หญิงที่ถือกระบี่ด้วยท่าทีอ่อนแรงว่า “เขาเป็นวิชา เจ้าสู้เขาไม่ได้หรอก รีบวางกระบี่ลงเสียเถิด”

 

 

ผู้หญิงคนนี้นางเคยเจอ ก็คือสาวใช้ที่ถามนางว่าไฉนไม่มีใครปรนนิบัติอยู่ข้างตัวนางยามที่นางไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้ด้านหลัง นึกไม่ถึงว่าตอนนั้นนางก็คิดไม่ซื่อแล้ว ตอนนี้พอมาคิดดูดีๆ ก็รู้สึกกลัวขึ้นมานิดๆ

 

 

ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ฟังนาง กลับหันหน้าไปพูดกับเฉาเต๋อหลุนว่า “เฉากงกง เจ้าและข้าล้วนเป็นสุนัขที่ฮ่องเต้เลี้ยงเอาไว้ เป็นสุนัขไฉนถึงได้ทรยศเจ้านายตัวเองเสียได้ เจ้าไม่กลัวว่าฮ่องเต้ทรงทราบแล้วจะประหารเจ้าหรือ”

 

 

เฉาเต๋อหลุนพูดว่า “ไม่ว่าฮ่องเต้จะทรงทราบหรือไม่ เพียงแค่พวกเรารู้ความลับอันใหญ่หลวงของฮ่องเต้เช่นนี้ เจ้าคิดว่าสุดท้ายฮ่องเต้ยังจะให้พวกเรามีชีวิตอยู่ได้หรือ”

 

 

“คำพูดฮ่องเต้ดั่งทองคำ เป็นเจ้าแผ่นดิน จะโกหกพวกได้อย่างไร”

 

 

“จะเชื่อหรือไม่ล้วนอยู่ที่เจ้า ดั่งเช่นที่ท่านอ๋องพูดไปเมื่อครู่ เจ้าวางกระบี่ลง ไม่แน่อาจจะให้เจ้ามีศพครบส่วนได้”

 

 

เฝิงเยี่ยไป๋เป็นห่วงเฉินยาง เห็นนางมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก คงไม่ใช่เมื่อครู่ทำเอาตกใจจนเป็นโรคแล้วกระมัง สาวใช้สองคนที่เฝ้านางอยู่สมควรถูกลงโทษ ไฉนถึงปล่อยให้นางออกมาได้

 

 

เฉินยางก็ท่าจะไม่ดีจริงๆ นางแอบถอนหายใจอยู่ในใจ ก็ไม่ถึงกับตกใจจนเป็นเช่นนี้กระมัง ยามที่มองก็น่าตกใจนัก เพียงแต่นางก็ไม่ได้ใจเสาะขนาดนั้น ท้องของนางปั่นป่วนไม่หยุด มือเท้าก็ออกแรงไม่ได้ ยืนก็ยืนไม่อยู่ เฉาเต๋อหลุนเข้ามาประคองนาง นางหลบเขา มือคู่นั้นฆ่าคน นางหวาดกลัว นางยอมยืนโงนเงนเช่นนี้ก็ไม่ยอมให้เขาประคอง

 

 

“เจ้าเชื่อข้าเถอะ เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาจริงๆ วางกระบี่ลงเสีย”

 

 

ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะด้วยความเย็นชาแล้วย้อนถามนางว่า “วางกระบี่ลงเพื่ออะไร? รอความตายหรือ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร เป็นพระโพธิสัตว์หรือพระพุทธเจ้าที่โปรดสัตว์ให้พ้นทุกข์หรือ ข้าวางกระบี่ลงก็คือตาย ไม่วางยังมีทางรอดอยู่ เจ้าก็อย่าได้แสร้งเป็นคนดีนักเลย ล้วนมาจากที่เดียวกัน จะแตกต่างกันได้หรือ”

 

 

คำพูดของผู้หญิงคนนี้เหมือนดั่งฟ้าผ่าที่ทำให้เฉินยางรู้สึกตัว เฉินยางกล่อมให้นางวางกระบี่ลงไม่เท่ากับกล่อมให้นางไปตายหรือ ใช่แล้ว ตัวนางเป็นใครกัน ถึงคราวของนางที่จะโปรดสัตว์ให้พ้นทุกข์อยู่ที่นี่หรือ ทั้งๆ ที่ตัวเองรู้อยู่ว่าเฝิงเยี่ยไป๋ไม่ปล่อยนางไปแน่ๆ คนร้ายตัวจริงถูกจับได้แล้ว ไม่ฆ่านางไป เฝิงเยี่ยไป๋ก็ต้องเดือดร้อนอย่างใหญ่หลวง พอคิดดูดีๆ ตัวเองก็ไม่มีฐานะที่จะพูด นางคิดจะช่วยคน เพียงแต่คนผู้นี้ก็คือคนที่ไม่อาจช่วยได้ ในสายตาของนาง ตัวเองก็กำลังแสร้งทำตัวเป็นคนดีอยู่ไม่ใช่หรือ

 

 

เฝิงเยี่ยไป๋ขมวดคิ้ว เขาอยากให้นางใช้ชีวิตโดยไม่ต้องกังวลเรื่องใดๆ แต่นางดันจะเข้ามาเกลือกกลิ้งอยู่ในดินโคลนให้ได้ เมื่อวานเขาเพิ่งทำร้ายนาง วันนี้ก็ถูกนางทำให้โกรธเสียจนเจ็บปวดหัวใจ คิดจะขังนางเอาไว้ ก็เพราะกลัวนางจะจากไปกับอิ๋งโจวอย่างไม่ไยดี เขาให้นางไปไม่ได้ ทั้งสองคนต่างทบทวนตัวเอง มีสามีภรรยาคู่ใดบ้างไม่ทะเลาะกัน ทะเลาะที่หัวเตียงปลายเตียงก็คืนดีกันแล้ว ผ่านไปสองวันกล่อมเสียหน่อยก็ดีขึ้นแล้ว