บทที่ 578 แอบไปมาหาสู่กัน

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 578 แอบไปมาหาสู่กัน

หลินเซวี่ยไม่กล้าเฉยเมย รีบขับรถ พาฉินเทียนมาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง

อันที่จริงแล้วตลอดช่วงเวลานี้ หลินเซวี่ยก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก สถานะของเธอพิเศษมาก ไม่ใช่คนขับรถธรรมดาๆ คนหนึ่ง แต่รับคำสั่งให้ปกป้องอารักขาซูซู

นายหญิงที่ถูกอารักขา จิตใจยากที่จะรู้แน่ชัด อีกทั้ง เมื่อพิจารณาจากเค้าลางต่างๆ แล้ว ก็เป็นไปได้ที่จะนอกใจ

แล้วจะให้เธอทำอย่างไรล่ะ?

เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัวของนายหญิง เธอเป็นเพียงคนนอกคนหนึ่ง หรือพูดได้ว่า เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา จึงไม่กล้าไปตรวจสอบโดยพลการ ที่ยิ่งทำให้ลำบากใจก็คือ เรื่องนี้ เธอไม่รู้ว่าควรจะรายงานไปยังฉินเทียนอย่างไรดี

ที่ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้เจ็ดเมืองทางใต้ก็เกิดกระแสคลื่นโหมซัดสาด และฉินเทียนก็กำลังอยู่ในศูนย์กลางของคลื่นพายุอีกด้วย

ในช่วงเวลาสำคัญนั้น เธอก็ไม่สามารถใช่เรื่องราวนี้ ไปแบ่งความสนใจของฉินเทียนได้

อีกทั้งไม่มีทาง ที่จะไปเล่าให้ใครฟัง ฉะนั้นจึงเหมือนก้างติดคอ

ในที่สุด ตอนนี้ก็ถึงเวลาเปิดเผยความจริงแล้ว หลินเซวี่ยนั่งบนที่นั่งคนขับ มีสีหน้าท่าทางที่ขัดแย้ง

เธอไม่คาดหวังให้เรื่องราวเป็นความจริง หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ละก็ ไม่เพียงแต่ซูซูจะสูญเสียทั้งฐานะและชื่อเสียง สำหรับฉินเทียนแล้ว มันคือการถูกกระทบกระเทือนอย่างร้ายแรง

ถึงแม้ว่าภายนอกของฉินเทียนจะดูสง่าผ่าเผย แต่หลินเซวี่ยก็มองออกว่า เขาแคร์ภรรยาคนนี้มากแค่ไหน

ครั้งหนึ่ง ความรักความผูกพันของฉินเทียนและซูซู ในมุมมองของหลินเซวี่ย ก็เป็นความรักที่งดงามที่สุด

ด้วยเจตนาที่เห็นแก่ตัว เธอก็ไม่คาดหวังให้ผลลัพธ์ที่ดีเลิศนี้ถูกทำให้แหลกเป็นเสี่ยงๆ

แต่ตอนนี้ จะปิดบังก็คงจะไม่ได้แล้ว

เธอลังเลใจเล็กน้อย แล้วกล่าวด้วยเสียงเบาๆ ว่า: “อยู่ที่อาคารสอง”

“ฉันเห็นว่าตอนที่ท่านประธานขึ้นไป ลิฟต์หยุดอยู่ที่ชั้นแปด ส่วนรายละเอียดว่าห้องไหนนั้น ฉันไม่ทราบ”

“พี่เทียน ไม่อย่างนั้น คุณรออยู่ที่นี่สักครู่ ฉันจะขึ้นไปตรวจสอบสักเล็กน้อยก่อน”

มีหมายเลขอาคาร มีเลขชั้น ข้อมูลทั้งสองนี้ ก็เพียงพอที่จะไปล็อกเป้าหมายแล้ว

จนถึงตอนนี้ ฉินเทียนก็ยังคงลังเลใจ ภายในใจของเขาก็ยิ่งยุ่งเหยิง

ถ้าหากเป็นเหมือนกับที่คิดจริงๆ เช่นนั้นเขาควรจะไปเผชิญหน้าอย่างไรดี?

เผชิญหน้ากับซูซูอย่างไร เผชิญหน้ากับตนเองอย่างไร?

นั่นคือการล่มสลายของโลกทั้งใบ!

“รอไปสักครู่ก่อน” เขาพูดด้วยเสียงเบาๆ แล้วจุดบุหรี่ด้วยความร้อนใจ

เมื่อเห็นฉินเทียนมีสีหน้าท่าทางที่เปลี่ยนแปลงไป สูบบุหรี่ด้วยสีหน้าที่กลัดกลุ้มและหงอยเหงา หลินเซวี่ยก็รู้จักวางตัว และไม่พูดอะไร

“ฉันไปเอง!”

ผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดฉินเทียนก็ตัดสินใจ พูดประโยคหนึ่ง แล้วเตรียมจะเปิดประตูลงจากรถ

“เดี๋ยวก่อน!” ทันใดหลินเซวี่ยก็ตะโกนเรียก

เธอเห็นรถเก๋งสีแดงคันหนึ่งจากระยะไกลขับมาอย่างรวดเร็ว จึงกล่าวด้วยเสียงเบาๆ ว่า: “นั่นเป็นรถของบริษัทนี่คะ”

รถของบริษัทเหรอ?

ฉินเทียนตะลึงงันเล็กน้อย และรีบหันหน้าไปมอง

ก็เห็นรถเก๋งสีแดงคันหนึ่งจอดอยู่ที่หน้าประตูเล็กที่อยู่ไกลออกไป เมื่อเห็นเงาของคนที่ลงมาจากด้านใน คนทั้งสองก็ตกตะลึงจนอ้าปากค้าง

คือซูซู!

เธอพยายามสวมแว่นกันแดดขนาดใหญ่ เพียงแค่เห็นก็รู้ว่าอำพรางหน้าตา

แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด

ที่สำคัญคือ หลังจากที่เธอลงมา ก็มองซ้ายขวาว่าไม่มีคนด้วยความระมัดระวังอย่างมาก หลังจากนั้น ก็เปิดประตูหลังรถ และหยิบเสื้อผ้าหนึ่งชุดออกมาจากด้านใน

เป็นเสื้อสูทของสุภาพบุรุษ!

หลังจากสังเกตอย่างละเอียดอีกครั้ง แล้วพบว่าไม่มีคนสะกดรอยตาม เธอจึงม้วนเสื้อสูทแล้วกอดเอาไว้แนบอก ก้มหน้าก้มตา แล้วเดินไปยังสถานที่นั้นทันที

พูดกับป้อมยามสองสามคำ ป้อมยามก็คล้ายกับว่าคุ้นเคยกับเธอเป็นอย่างมาก ยิ้มแย้มแล้วเปิดประตูให้

แล้วภาพเงาของซูซู ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

ภายในรถLand Cruiser เงียบสงบราวกับตายไปแล้ว

เป็นเวลานาน หลินเซวี่ยกล่าวอย่างกังวลใจว่า: “อาจจะเป็น แค่เพื่อนธรรมดาทั่วไปก็ได้………”

เพียงแต่ เธอก็รู้สึกว่า คำอธิบายนี้ไร้น้ำหนักเกินไป

ซูซูถือชุดสูทของผู้ชาย ทำท่าทีลับๆ ล่อๆ เหมือนกับโจร อีกทั้ง คุ้นเคยกับป้อมยามเป็นอย่างดี แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่มา…….

ถ้านี่บอกว่าไม่ได้เป็นการมาหาคนรักเป็นการส่วนตัว ใครจะเชื่อ!

ฉินเทียนรู้สึกว่าเลือดที่หน้าอกระอุขึ้นมาหลายต่อหลายครั้ง จนแทบจะกระอักเลือดออกมา

สีหน้าของเขาซีดเผือด กัดฟัน พยายามอดกลั้นอย่างสุดชีวิต

หลินเซวี่ยรับรู้ได้ถึงภายในร่างกายของฉินเทียน เหมือนกับว่าน้ำป่าจะไหลหลากออกมา เธอจึงตกใจอย่างมาก

“คุณผู้ชาย คุณใจเย็นก่อนนะ……ฉันจะเข้าไปดูก่อน!”

“ไม่ต้องหรอก!”

“รอฉันอยู่ที่นี่!”

ฉินเทียนกัดฟัน พูดออกมาอย่างเยือกเย็น เปิดประตูลงจากรถ แล้วก้าวเท้าเดินเข้าไป

สถานที่แห่งนี้ค่อนข้างมีระดับ ประตูเหล็กเป็นประตูหน้า จะต้องรูดบัตรจึงจะสามารถเข้าไปได้

ฉินเทียนเดินมาถึงหน้าประตู นำมือหนึ่งคว้าไปที่ประตูเหล็ก และออกแรงเต็มที่ เสียงดังเคล้ง และคว้าประตูเหล็กทั้งบาน โยนออกไปด้านข้าง

หลังจากนั้น ก็เดินเข้าไปด้วยสีหน้าสุขุม

ยามในป้อมยามที่อยู่ข้างๆ ตกใจจนอ้าปากค้าง ราวกับเห็นมนุษย์ต่างดาว

เมื่อตอบสนองกลับมา เขาก็ตะโกนเสียงดังต้องการจะเรียกคน

หลินเซวี่ยจึงรีบวิ่งเข้าไป แล้วกล่าวด้วยเสียงที่เย็นชาว่า: “เจ้าหน้าที่พิเศษ ไม่ใช่เรื่องของคุณ อย่าปากมาก”

พูดพลาง แสดงด้ามปืนสีดำบริเวณเอว ให้เห็นอย่างเลือนราง

ยามจึงตกใจจนไม่กล้าขยับตัว

หลินเซวี่ยนั่งสังเกตการณ์หน้าคอมพิวเตอร์ และสลับหน้าจอไปที่อาคารสอง ก็พอดีกับที่เห็นซูซูเดินเข้าไปในลิฟต์ และออกมาที่ชั้นแปด แล้วเคาะประตูห้องแปดศูนย์สาม

คนข้างในคล้ายกับว่ารออยู่นานแล้ว จึงเปิดประตูออกทันที

ซูซูหลบเข้าไปอย่างรวดเร็ว แล้วปิดประตูห้องทันที

หลินเซวี่ยจึงต่อสายไปยังมือถือของฉินเทียน แล้วกล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า: “พี่เทียน แปดศูนย์สาม!”

ตอนนี้ ภายในใจเธอโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ก่อนหน้านี้เธอยังเห็นใจซูซูอยู่ และแอบภาวนา ให้เรื่องราวไม่เป็นอย่างที่คิด

แต่ตอนนี้ ข้อเท็จจริงทั้งหมดอยู่ที่นั่น ซูซูมีชู้ เรื่องราวเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว

มีพี่เทียนเป็นสามีที่ดีขนาดนี้ คาดไม่ถึงว่าจะนอกใจ ผู้หญิงคนนี้ ไม่รู้จักว่าอะไรควรไม่ควรเลยใช่ไหม?

ทันใดหลินเซวี่ยก็รู้สึกว่าซูซูนั้นน่ารังเกียจ!

ปกติยังคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่บริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก ที่แท้ก็เป็นเพียงแค่กะหรี่!

มองผ่านห้องวงจรปิด หลินเซวี่ยก็เห็นฉินเทียนที่มีสีหน้าเศร้าหมอง เดินเข้าไปในลิฟต์ และมาถึงที่ชั้นแปด

ยืนอยู่หน้าห้องแปดศูนย์สาม ด้านหลังของเขากำลังสั่นสะท้าน!

เพราะเขาได้ยินบทสนทนาจากด้านในอย่างเลือนราง

“ฉันซื้อชุดตามขนาดที่คุณใส่ก่อนหน้านี้ คุณลองดูซิว่าใส่ได้ไหม…….”

“อาจจะใหญ่ไปสักหน่อย คุณค่อนข้างผอมลงกว่าเมื่อก่อน……” เป็นเสียงของซูซู

หลังจากนั้น ผู้ชายคนหนึ่งก็พูดอย่างเอาอกเอาใจว่า

“ไม่เป็นไร”

“เสื้อสูทจะต้องใหญ่หน่อยถึงจะดูดี……คุณเห็นว่าโอเคไหม?

“ไม่เลวนะ”

“แล้วหล่อมากด้วย”

ฉินเทียนอดทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงคำรามด้วยความโกรธ แล้วชกออกไปดังโครม จนประตูห้องเป็นรู

กำปั้นของเขา ถูกเศษไม้และเหล็กที่ประตู บาดจนเลือดซิบ

เขาเปิดล็อกประตู แล้วเดินเข้าไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม โดยไม่มีลางสังหรณ์แม้แต่น้อย

เวลานี้ ดวงตาของเขาลุกโชนไปด้วยความโกรธ แล้วอารมณ์สังหาร!

ซูซูสามารถไม่รักเขาได้ เพราะความผูกพันของคนทั้งสอง เดิมทีแล้วก็เป็นอุบัติเหตุ

เพียงแค่ซูซูชี้แจงกับเขาอย่างชัดเจน เช่นนั้นเขาก็จะไม่รั้งเธอเอาไว้!

แต่ไม่สามารถเป็นคู่สามีภรรยากับเขาอย่างเปิดเผย แล้วแอบคบหากับผู้ชายคนอื่นลับหลังได้!

อีกทั้งเมื่อได้ฟังบทสนทนาของพวกเขาแล้ว พวกเขาไม่ได้เพิ่งรู้จักกันแค่วันสองวันอย่างแน่นอน

คาดไม่ถึงว่าเธอจะพูดว่า เขาค่อนข้างผอมลงกว่าเมื่อก่อน……..

แล้วก็หล่อมาก?

ถึงจะอดทน ก็ไม่มีใครอดทนได้

แต่หลังจากที่เขาเข้าไป เมื่อเห็นภาพที่ปรากฏตรงหน้า ก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงงัน

คนทั้งสองที่อยู่ภายในห้องก็ตกตะลึง

ซูซูและชายรูปร่างผอมแห้งอีกคนหนึ่ง เมื่อมองไปยังผู้ชายที่หน้าซีดเซียวอย่างมาก ต่างก็อ้าปากค้าง