ตอนที่ 591 โจรเด็ดบุปผาแสนอุกอาจ

พลิกชะตาชายาสยบแค้น

ตอนที่ 591 โจรเด็ดบุปผาแสนอุกอาจ

“ท่านอ๋องวางใจได้ พวกเราจักมินำเรื่องนี้ไปพูดแน่นอนขอรับ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วมู่จวินฮานก็เงยหน้ามอง แต่กลับทำให้พวกเขาตกใจกลัวจนตัวสั่น ส่วนมู่จวินฮานก็มิได้บีบบังคับอันใดอีก

“เอ่อ…หากข้าน้อยเดามิผิดคือเรื่องพวกนี้ต้องเป็นฝีมือโจรเด็ดบุปผาที่เคยขืนใจสตรีมาหลายต่อหลายครั้ง ถ้าไม่มีอันใดผิดพลาดเรื่องนี้ต้องเกิดขึ้นอีกแน่ โจรเหล่านั้นยังพุ่งเป้าไปที่วังหลวงด้วยขอรับ”

น่ากลัวที่สุดสำหรับเรื่องนี้ก็คือมันเกิดขึ้นในวังหลวงหลายต่อหลายครั้งและยังรวมถึงจวนขุนนางชั้นสูงกับเหล่าเชื้อพระวงศ์ด้วย

“ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้พวกมันจะยังทำต่อไป ดังนั้นพวกเจ้าจงเพิ่มกำลังทหารเพื่อเฝ้าระวังให้ดี”

 “เอาล่ะ พวกเจ้าออกไปก่อน ข้าอยากอยู่เงียบ ๆ ”

หลังจากนั้น ข่าวนี้ก็แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วจึงมักมีการจับกลุ่มพูดคุยเป็นธรรมดา

“ช่วงหลายวันนี้ต้องดูแลตัวเองให้ดี พอตกกลางคืนก็อย่าออกจากเรือน ประตูหน้าต่างปิดให้ดี มิเช่นนั้นโจรเด็ดบุปผาจะมา…”

หลังกล่าวได้ครึ่งประโยค สาวใช้กลุ่มนั้นก็มิกล้าพูดต่อเพราะกลัวจะพูดมากไปแล้วกลายเป็นจริง หากโจรเด็ดบุปผาแอบฟังอยู่ที่ไหนสักแห่งเล่า ? พวกนางจึงได้แต่ขอให้มันไม่พุ่งเป้ามาที่ห้องของตนในยามราตรี

“พอพอพอ เจ้าเลิกพูดได้แล้ว หากเจ้ายังพูดอีกข้าจะไปบอกโจรเด็ดบุปผาว่าเจ้าอยาก…”

แล้วความโกลาหลเล็กน้อยของสาวใช้เหล่านั้นก็ตกอยู่ในสายตาของมู่จวินฮานทั้งหมด หรือเรียกได้ว่าไม่มีแม้แต่การกระทำใดที่สามารถรอดพ้นสายตาของเขาไปได้

“ข้าต้องจัดการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด มิเช่นนั้นสตรีทุกคนในจวนคงกระวนกระวายกันไปหมด” หลังได้ยินสิ่งที่สาวใช้สนทนากัน มู่จวินฮานก็ยิ่งให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้จึงเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ชะล่าใจ

ทว่าโจรเด็ดบุปผายังมิทันมา คนที่มาถึงก่อนก็เป็นทัวป๋าถิงฟางที่เข้ามาออดอ้อนมู่จวินฮานอีกครั้ง

“เชี่ยเซินคารวะท่านอ๋อง ขอท่านอ๋องมีความสุขสำราญเจ้าค่ะ”

ทัวป๋าถิงฟางคารวะอย่างอ่อนช้อย จากนั้นก็ลุกขึ้นทันทีโดยไม่รอคำอนุญาตจากมู่จวินฮาน เวลานี้สาวใช้ก็ทยอยกันถอยออกไปให้ทัวป๋าถิงฟาง

วันนี้มู่จวินฮานเห็นทัวป๋าถิงฟางแต่งตัวเรียบร้อยเป็นพิเศษซึ่งต่างจากเมื่อก่อนมาก

“เหตุใดเจ้าไม่พักผ่อนอยู่ในห้อง ข่าวลือตอนนี้ไม่ทำให้เจ้ารู้สึกหวาดกลัวหรือ ? ” มู่จวินฮานยังมิทันกล่าวจบ ทัวป๋าถิงฟางก็ทำท่าทางออดอ้อนแล้ววิ่งมาหามู่จวินฮานแล้ว

“คำพูดของท่านอ๋องช่างร้ายกาจยิ่งนัก ที่เชี่ยเซินมาหาท่านเพราะเรื่องนี้เองเจ้าค่ะ”

ทัวป๋าถิงฟางยังเอ่ยด้วยท่าทางน้อยเนื้อต่ำใจราวกับว่าโจรเด็ดบุปผาพุ่งเป้ามาที่นางแล้ว อีกทั้งนางก็รู้ล่วงหน้าด้วย

เมื่อเห็นท่าทางของนาง มู่จวินฮานก็รู้ว่าทัวป๋าถิงฟางมีเรื่องบางอย่างจะขอร้องเป็นแน่

“มีเรื่องอันใดก็พูดมาตามตรง” มู่จวินฮานยังมิทันกล่าวจบ ทัวป๋าถิงฟางก็ดีใจยิ่งกว่าสิ่งใด นางจึงรีบลุกขึ้นขอบคุณทันที

“ถ้าเช่นนั้นเชี่ยเซินขอขอบพระคุณท่านอ๋องก่อนเจ้าค่ะ เชี่ยเซินมิอยากได้อันใดที่มากเกินไปอยู่แล้ว เพียงหวังว่าท่านอ๋องจะสามารถไปอยู่เป็นเพื่อนเชี่ยเซินได้หรือไม่เจ้าคะ”

หลังกล่าวจบ ทัวป๋าถิงฟางก็ยืนนิ่งเพื่อรอมู่จวินฮานตอบกลับ ทว่าผ่านไปครึ่งชั่วยามแล้วมู่จวินฮานก็ยังมิกล่าวอันใดออกมา

เมื่อเห็นมู่จวินฮานเหมือนมิพอใจ ทัวป๋าถิงฟางก็พยายามออดอ้อนอีกครั้ง

“ท่านอ๋องเจ้าคะ เชี่ยเซินกลัวมากเลย หากพวกโจรเด็ดบุปผามาหากลางดึกแล้ว เชี่ยเซินก็อาจไม่มีชีวิตมาพบท่านอ๋องอีกเลย เชี่ยเซินกลัวเจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นข้าจักส่งคนไปดูแลเจ้าเพิ่มอีกสองสามคน”

“ท่านอ๋อง เชี่ยเซินมาหาด้วยความหวาดกลัวแต่ท่านกลับผลักไสหรือเจ้าคะ”

ทัวป๋าถิงฟางค่อนข้างไม่พอใจจึงเขย่าแขนมู่จวินฮานอย่างต่อเนื่อง

ทว่าหลังโดนปฏิเสธถึงสามครั้งติด ทัวป๋าถิงฟางก็มิอาจตอแยต่อไปได้อีก

“ก็ได้เจ้าค่ะ เชี่ยเซินขอตัวก่อน แต่ท่านอ๋องอย่าลืมส่งองครักษ์มาเพิ่มนะเจ้าคะ”

ขณะมองมู่จวินฮานมิยอมรับปากเสียที ทัวป๋าถิงฟางก็ไม่ได้โง่เพราะของที่ควรมีไว้อย่างไรก็ต้องรับไว้

มู่จวินฮานพยักหน้าอย่างเบื่อหน่าย ทัวป๋าถิงฟางช่างหน้าด้านเสียจริง

“อืม”

จากนั้นทัวป๋าถิงฟางก็ออกมาอย่างเงียบ ๆ แม้รู้สึกมิพอใจแต่ก็ไม่กล้าทำอันใดใส่มู่จวินฮาน

เมื่อเวลาผ่านไปจนอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า มู่จวินฮานที่บอกว่าไม่ไปอยู่เป็นเพื่อนทัวป๋าถิงฟาง แต่เขาเลือกมาหาอันหลิงเกอแทน อันหลิงเกอกำลังเตรียมตัวจะเข้านอนทว่าเห็นมู่จวินฮานเดินเข้ามาแล้วนางก็ตกใจทันที

“ที่แท้ก็เป็นท่านเอง ทำข้าตกใจหมดเจ้าค่ะ”

อันหลิงเกอได้ยินเรื่องของโจรเด็ดบุปผามาบ้าง นางมีวรยุทธที่ยังเอาชนะแม้แต่ชิงเฟิงมิได้ ดังนั้นทักษะป้องกันตัวจึงด้อยกว่านั้นแน่นอน

หลังปิดประตูเสร็จ มู่จวินฮานก็เข้ามาอยู่ข้างกายอันหลิงเกอ เขามิได้พาองครักษ์หรือสาวใช้มาด้วย

“ข้ามาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าแล้วยังมิวางใจหรือ ? คิดว่าด้วยฝีมือของข้าแล้ว อีกฝ่ายน่าจะมิใช่คู่ต่อสู้” มู่จวินฮานมองอันหลิงเกอพร้อมรอยยิ้มสดใส

เป็นอย่างที่คิด หลังผ่านมาครึ่งคืนแล้วเสียงเอะอะด้านนอกกับเสียงองครักษ์ที่มารายงานก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นขึ้น “เรียนท่านอ๋อง ข้าน้อยมีเรื่องสำคัญขอรับ ! ”

หลังเสียงตะโกนดังขึ้น มู่จวินฮานก็ได้สติ ต่อจากนั้นก็ลุกมาใส่เสื้อผ้าเพราะดูจากท่าทางแล้วน่าจะเป็นเรื่องสำคัญทีเดียว

“เจ้านอนต่อเถิด ประเดี๋ยวข้าไปดูว่าเกิดอันใดขึ้น”

พอเปิดประตูออกมาแล้วองครักษ์ก็ยังยืนรออยู่หน้าประตูและทำความเคารพมู่จวินฮาน “เรียนท่านอ๋อง เราจับโจรเด็ดบุปผาได้และกำลังสอบสวนอยู่ ในคราวนี้โจรเด็ดบุปผาไปที่เรือนของถิงฟางเช่อเฟยขอรับ”

อันหลิงเกอลุกตามทีหลัง พอสวมเสื้อผ้าเสร็จแล้วนางก็กล่าวออกมาว่า “ข้าจักไปกับท่านด้วยเจ้าค่ะ”

พอนางกล่าวจบ มู่จวินฮานก็เดินออกไป ส่วนอันหลิงเกอก็เดินตามหลังไปติด ๆ และไม่มีทีท่าจะออกห่างแม้แต่น้อย

เวลานี้ทัวป๋าถิงฟางกำลังตกใจกลัวจนตัวสั่น เมื่อเห็นมู่จวินฮานมาหา นางก็พุ่งเข้าไปในอ้อมกอดเขาทันที

“ท่านอ๋อง เหตุใดเพิ่งมาเจ้าคะ ? เชี่ยเซินกลัวจะตายอยู่แล้ว ต้องโทษท่านอ๋องที่ไม่ยอมอยู่เป็นเพื่อน เชี่ยเซินจึงเกือบโดนโจรเด็ดบุปผารังแกเจ้าค่ะ” ทัวป๋าถิงฟางรู้สึกหวาดกลัวมาก

“…” กิริยาของทัวป๋าถิงฟางทำให้มู่จวินฮานมิอยากเข้าใกล้สักเท่าไร

“ท่านอ๋อง ท่านอยู่เป็นเพื่อนเชี่ยเซินเถิดเจ้าค่ะ เชี่ยเซินกลัวมากจริง ๆ มิรู้ด้วยซ้ำว่าจะยังมีชีวิตได้ยืนอยู่ตรงหน้าท่านอีกหรือไม่เจ้าค่ะ”

หลังกล่าวจบ ทัวป๋าถิงฟางก็จับแขนเสื้อมู่จวินฮานไว้แน่นโดยไม่สนว่ามีผู้ใดอยู่บ้างเพราะหวังเพียงมู่จวินฮานจะเห็นใจตนบ้าง

คนในจวนมักปากมาก ถ้าเขาไม่ทำตามที่นางต้องการก็เกรงว่ามู่เหล่าหวางเฟยจะรู้เรื่องเข้า แต่สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือคนภายนอกก็อาจรู้เรื่องด้วย

มู่จวินฮานครุ่นคิดขณะมองทัวป๋าถิงฟางออดอ้อนตนเช่นนี้ เขาก็จนปัญญาจึงได้แต่รับปากนาง

“ได้ คืนนี้ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนเจ้า ส่วนเจ้าก็วางใจได้เพราะเราจับโจรเด็ดบุปผาได้แล้ว”

เวลาเดียวกันนั้นอันหลิงเกอก็ไม่คิดอยู่ต่อ นางหมุนตัวแล้วเดินออกมาทันที ไม่คิดเข้าไปรบกวนมู่จวินฮานและทัวป๋าถิงฟางอีก

ขณะที่มู่จวินฮานกำลังไล่ตามนางออกมา ทัวป๋าถิงฟางก็วิ่งเข้ามากอดเขาไว้แน่นและไม่ว่าทำเช่นไรก็มิยอมปล่อยมือ