ตอนที่ 178 เกลี้ยกล่อม

ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ

แต่เจ้าแผลเป็นก็ยังคงอยากถามให้ชัดเจนมากกว่านี้ เขายังไม่หลงเชื่อคำพูดของถังโจวโจวง่ายๆ “คุณจะรับประกันได้ยังไงว่าผู้อำนวยการของลั่วกรุ๊ปจะไม่ส่งเราเข้าคุกน่ะ” 

 

 

           ทันทีที่เจ้าแผลเป็นตั้งคำถามนี้ออกมา ลูกน้องที่อยู่ด้านหลังของเขาก็เห็นด้วยกับปัญหานี้เหมือนกัน เมื่อครู่นี้พวกเขามัวแต่นึกถึงว่าพวกเขาจะได้เงินจากสามีของผู้หญิงคนนี้คนละเท่าไร แต่พวกเขาลืมไปเลยว่าสามีของเธออาจจะจับพวกเขาเข้าคุกก็ได้ 

 

 

มีคนตะโกนเห็นด้วยขึ้นมา “ใช่เลยนาย เราจะปล่อยยายคนนี้เอาไว้ไม่ได้แล้ว บางทีเธออาจจะแค่พูดหลอกให้เราหลงกลก็ได้” 

 

 

เจ้าแผลเป็นไม่จำเป็นต้องให้ใครมาเตือน เพราะเขานึกถึงปัญหานี้อยู่ก่อนแล้ว เพียงแต่อีกปัญหาหนึ่งก็ติดอยู่ในใจของเขามานานเหมือนกัน หากเขาฆ่าถังโจวโจว หลังจากนี้เขาก็จะถูกตราหน้าว่าเป็นฆาตกร นี่มันไม่ใช่สิ่งที่เจ้าแผลเป็นต้องการเลย 

 

 

ถังโจวโจวอดกังวลใจขึ้นมาไม่ได้ เมื่อเธอเห็นว่าคำพูดที่เธอพยายามพูดอยู่นานนั้นใช้ไม่ได้ผล ขณะเดียวกันเธอก็คอยเงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหวจากด้านนอกอยู่ เธอคิดอยู่ว่าทำไมลั่วเซ่าเชินถึงยังไม่รีบตามมาที่นี่อีก? 

 

 

แม้ว่าถังโจวโจวจะหุนหันพลันแล่นแอบออกมาจากบ้าน แต่เธอก็มั่นใจว่าลั่วเซ่าเชินจะต้องรู้ว่าเธอหายตัวไปในเวลาไม่นาน หากเขาตรวจสอบเพียงเล็กน้อย เขาก็จะรู้แล้วว่าเธออยู่ที่ไหน ถ้าเป็นเช่นนั้นเขาก็จะหาที่นี่เจออย่างง่ายดาย 

 

 

แล้วที่เธอพยายามไกล่เกลี่ยกับผู้ชายกลุ่มนี้อยู่เป็นนาน ก็เพื่อถ่วงเวลาให้ลั่วเซ่าเชินมาถึงไม่ใช่หรือ น่าเสียดายที่เวลาไม่คอยท่า ชายหนุ่มเหล่านี้เริ่มสงสัยแล้วว่าคำพูดของเธอจะเชื่อถือได้จริงหรือไม่ และถังโจวโจวก็กลัวว่าหากพวกเขาไม่เชื่อ พวกเขาก็คงจะลงมือทันที 

 

 

แม้ว่าภายในใจจะกังวลมาก แต่ถังโจวโจวก็ยังคงรักษาท่าทางให้สงบนิ่งไว้ เธอคอยคิดอยู่ตลอดว่ายังมีวิธีไหนอีกที่จะสามารถรักษาความปลอดภัยของเธอกับลั่วอิงได้ 

 

 

จนกระทั่งได้เห็นความลังเลในสายตาของเจ้าแผลเป็น ถังโจวโจวคิดว่าโอกาสของเธอมาถึงอีกครั้งแล้ว เจ้าแผลเป็นคือหัวหน้าของคนเหล่านี้ ดูเหมือนว่าจะมีอำนาจไม่น้อย หากเธอสามารถเกลี้ยกล่อมเขาได้ ถังโจวโจวเชื่อว่าเธอก็จะรอดพ้นไปได้เช่นกัน 

 

 

“ฉันรู้ว่าพวกนายอาจจะยังไม่เชื่อฉันในตอนนี้ แต่ฉันขอสัญญาด้วยชีวิตของฉันว่าถ้าพวกนายปล่อยฉันไป พวกนายไม่เพียงแต่จะได้เงิน ยังไม่ถูกจับเข้าคุกด้วย พวกนายสามารถเอาเงินก้อนนี้ไปสร้างเนื้อสร้างตัวอาศัยอยู่ที่เมืองอื่นได้เลย” 

 

 

คำพูดของถังโจวโจวฟังดูน่าสนใจ เจ้าแผลเป็นเองก็รู้สึกคล้อยตามเธอ เพียงแต่จิตใจที่ระแวดระวังของเขาทำให้เขาตัดสินใจไม่ได้ เขาไม่อยากตลบหลังนายจ้างของเขาง่ายๆ แบบนี้ 

 

 

เจ้าแผลเป็นเป็นคนที่มีหัวสมอง เป็นเพราะเมื่อก่อนเธอช่วยชีวิตเขาเอาไว้ ดังนั้นเขาจึงยอมทำเรื่องนี้ให้เพื่อตอบแทนบุญคุณของเธอ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมทิ้งชีวิตที่เหลือเพื่อนายจ้างของเขา เขาเองก็เป็นผู้ชายที่มีลูกมีเมียเหมือนกัน ดังนั้นเขาก็ควรคิดถึงครอบครัวตัวเองด้วย 

 

 

“พวกนายไม่มีลูกไม่มีเมียกันเหรอ พวกนายอยากจะให้พวกเขาเป็นทุกข์เพราะพวกนายใช้ชีวิตกันแบบนี้น่ะเหรอ หรือพอลูกของพวกนายโตขึ้น พวกนายอยากจะให้ลูกรู้ว่าพ่อของเขาติดคุก?” 

 

 

ถังโจวโจวพยายามอย่างมากเพื่อพูดหว่านล้อมพวกเขา แล้วเมื่อเห็นว่าเจ้าแผลเป็นเอนเอียงไปกับคำพูดของเธอ เธอก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก แต่น่าเสียดายที่เสียงไซเรนของรถตำรวจทำให้สถานการณ์ที่กำลังจะคลี่คลายลงกลับตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง 

 

 

ชายที่มีแผลเป็นได้ยินเสียงรถตำรวจด้านนอก ลูกน้องของเขาคนหนึ่งแง้มประตูออกไปดู ก่อนจะรีบรายงานเจ้าแผลเป็นว่า “ข้างนอกมีตำรวจเต็มไปหมดเลยนาย เราจะทำยังไงกันต่อดี?” 

 

 

แววตาที่ผ่อนคลายของเจ้าแผลเป็นเย็นเยือกขึ้นมาทันควัน เขาจ้องมองถังโจวโจวอย่างเย็นชา “นี่เธอเรียกตำรวจมาเหรอ!” 

 

 

“เปล่า ฉันไม่ได้เรียก ฉันมาที่นี่คนเดียวตามคำสั่งของพวกนาย พวกนายก็เห็นแล้วนี่” 

 

 

ถังโจวโจวเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าหลังจากที่เธอลงมาจากรถ คงจะมีใครบางคนสังเกตเห็นเธอ แต่หากเธอไม่มาคนเดียว ลั่วอิงก็อาจจะถูกส่งตัวไปที่อื่นทันที แล้วเธอก็จะไม่ได้เจอกับลั่วอิง 

 

 

เมื่อคิดได้ดังนั้น ตัวของถังโจวโจวก็สั่นไม่หยุด โชคดีที่เธอมาแค่คนเดียว มิเช่นนั้นลั่วอิงก็คงจะตกอยู่ในอันตรายอีกครั้ง ถ้าเป็นเช่นนั้นเธอจะทำอย่างไร 

 

 

เมื่อได้ยินเสียงไซเรนของรถตำรวจ ถังโจวโจวก็มั่นใจว่าเป็นลั่วเซ่าเชินที่พาตำรวจมาที่นี่ เธอจึงได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น เมื่อครู่นี้เธอเห็นทางสว่างอยู่ตรงหน้าแล้วแท้ๆ แต่มันถูกพวกเขาทำลายจนหมด และเมื่อมองดูท่าทีระแวดระวังของเจ้าแผลเป็น ถังโจวโจวก็รู้ได้เลยว่าเธอหมดโอกาสโน้มน้าวเขาแล้ว 

 

 

เจ้าแผลเป็นเห็นว่าถังโจวโจวไม่น่าจะโกหก เขาจึงยอมเชื่อคำพูดของเธอชั่วคราว “เธอน่าจะรู้ว่าใครเป็นคนเรียกตำรวจที่อยู่ด้านนอกนั่นมา รีบบอกให้พวกเขากลับไปซะ!” 

 

 

“สามีของฉันน่าจะพาพวกเขามา พวกเขามาตามหาฉัน” ถังโจวโจวจำต้องอธิบายอย่างช่วยไม่ได้ 

 

 

ในขณะที่เจ้าแผลเป็นกำลังถกเถียงกับถังโจวโจวอยู่ ทันใดนั้นก็มีเสียงโทรโข่งดังขึ้นมาจากด้านนอก “คนที่อยู่ด้านในฟังให้ดี พวกนายถูกล้อมเอาไว้หมดแล้ว รีบปล่อยตัวประกันออกมา ยังพอมีทางที่จะคุยกันได้” 

 

 

เจ้าแผลเป็นสั่งให้ลูกน้องสองคนมัดถังโจวโจวไว้ ส่วนคนที่เหลือก็ถือปืนเอาไว้ในมือคนละกระบอก เมื่อมองดูท่าทางของพวกเขาที่พร้อมจะปะทะทุกเมื่อแล้ว ถังโจวโจวก็รู้เลยว่าคงจะหมดหนทางเจรจาจริงๆ แล้ว เธอจึงทำได้แค่เพียงกัดริมฝีปากล่าง เพื่อรักษาท่าทางที่สงบนิ่งของเธอ 

 

 

“รีบบอกให้คนด้านนอกถอยออกไปซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะลงมือกับลูกของเธอก่อน” เจ้าแผลเป็นคุกคามเข้าไปใกล้กับใบหน้าของลั่วอิง 

 

 

ถังโจวโจวร้อนรนขึ้นมา “อย่ายุ่งกับเธอนะ! ฉันจะบอกเดี๋ยวนี้ บอกเดี๋ยวนี้เลย” 

 

 

ชายสองคนกดถังโจวโจวลงกับบานประตู พวกเขาผลักเธอเล็กน้อย ถังโจวโจวรู้ว่าเธอควรจะทำอย่างไร เธอรีบตะโกนออกไปด้านนอกว่า “เซ่าเชิน คุณอยู่ข้างนอกหรือเปล่า” 

 

 

“โจวโจว คุณอยู่ในนั้นจริงๆ ด้วย” น้ำเสียงของลั่วเซ่าเชินที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกลอยเข้ามากระทบกับโสตประสาทของถังโจวโจว เธอรู้ว่าลั่วเซ่าเชินอยู่ด้านนอก ถังโจวโจวเชื่อว่าเขาจะมีหนทางช่วยเหลือเธอกับลั่วอิงอย่างแน่นอน แม้ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แต่ถังโจวโจวก็มีความกล้าหาญเป็นอย่างมาก 

 

 

“ฉันอยู่ข้างในนี้ค่ะ เซ่าเชิน ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฉันกับลั่วอิงสบายดี” 

 

 

“อย่ามัวพูดไร้สาระอยู่! บอกให้เขาไล่ตำรวจออกไป ไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่ต้องมีชีวิตอยู่แล้ว!” ชายที่จับถังโจวโจวไว้เตะถังโจวโจวอย่างรุนแรง ถังโจวโจวเกือบจะล้มลงกับพื้นเมื่อถูกเตะอย่างกะทันหัน 

 

 

“คนที่อยู่ด้านในฟังให้ดี ผมคือผู้อำนวยการลั่วกรุ๊ป หากพวกคุณต้องการเงิน พวกคุณสามารถพูดออกมาได้เลย คุณอยากได้เท่าไร ผมจะให้คุณทั้งหมด ขอแค่คุณปล่อยภรรยากับลูกสาวของผมมาก็พอ” 

 

 

ถังโจวโจวหันไปมองสีหน้าท่าทางของเจ้าแผลเป็น แล้วเธอก็พบว่าเขายืนอยู่ตรงนั้นโดยที่ไม่พูดอะไร ด้วยสีหน้าท่าทางของเขา ถังโจวโจวอ่านความคิดของเขาไม่ออก 

 

 

คนที่อยู่รอบๆ เอ่ยเตือนเจ้าแผลเป็น “นาย นายอย่าไปเชื่อคำพูดของคนข้างนอกนั่นนะ เขาพยายามจะหลอกเรา เขาอยากให้เรามอบตัว จากนั้นพวกเขาก็จะจับเราเข้าคุก” 

 

 

ถังโจวโจวรีบหาจังหวะพูดขึ้นมา “พวกนายคิดมากเกินไปแล้ว สามีของฉันเขาแค่อยากให้เราปลอดภัย แต่ถ้าพวกนายไม่สบายใจก็ให้ฉันยังอยู่ที่นี่ แต่ปล่อยตัวลูกสาวของฉันไป หากให้เธออยู่ต่อ เรื่องมันจะยิ่งวุ่นวายมากกว่านี้ได้” 

 

 

ถังโจวโจวกังวลว่าหากลั่วอิงไข้ขึ้นจนหมดสติไปจริงๆ จะทำอย่างไร ถังโจวโจวเชื่อว่าสองสามวันที่ผ่านมานี้เธอคงไม่ได้รับการดูแลที่ดี ผู้ชายตัวใหญ่มือเท้าหยาบกระด้างพวกนี้จะสนใจรายละเอียดเล็กๆ แบบนี้ได้อย่างไร บางทีลั่วอิงอาจจะยังไม่ได้กินอะไรเลย 

 

 

เสียง เพี้ยะ! ดังลั่น ลูกน้องคนที่ยืนอยู่ข้างถังโจวโจวฟาดมือลงบนใบหน้าของเธอ จนล้มลงไปกองกับพื้น ก่อนจะพูดว่า “นางตัวดี ยังจะกล้ามาพูดให้นายสับสนอีก แกเจอฉันแน่!” 

 

 

น้ำเสียงและท่าทางดุร้ายนั้นทำให้ถังโจวโจวกลัว แต่เธอรู้ว่าตอนนี้กลัวไปก็ไม่มีประโยชน์ หากเธอเผชิญหน้าอย่างกล้าหาญ บางทีก็อาจจะโน้มน้าวเจ้าแผลเป็นได้ ซึ่งนั่นจะทำให้เธอกับลั่วอิงปลอดภัย 

 

 

ถังโจวโจวรู้สึกได้ว่าที่มุมปากของเธอมีเลือดไหลออกมา เมื่อครู่ชายคนนั้นตบเธออย่างแรง ลำคอของเธอรู้สึกแห้งผากอย่างมาก 

 

 

“ฉันน่ะเหรอที่ทำให้พวกนายสับสน? ฉันแค่หวังดีกับพวกนายต่างหาก ถ้าพวกนายยังชักช้าอยู่อย่างนี้ แม้ฉันจะตาย พวกนายก็หนีไม่พ้นหรอก หรือพวกนายอยากจะติดคุกไปตลอดชีวิตก็ตามใจ” 

 

 

เจ้าแผลเป็นสงบนิ่งและเห็นด้วย นอกเหนือจากคนที่ยืนอยู่ข้างเธอด้วยความขุ่นเคืองใจ คนที่เหลือก็มีท่าทีลังเล และในที่สุดก็มีใครบางคนหลุดปากพูดออกมาก่อน “นาย ที่เธอพูดมามันก็มีเหตุผลนะ ผมไม่อยากติดคุก เมียผมกำลังรอผมอยู่นะ” 

 

 

คนที่เหลือก็พลอยรับคำไปด้วย “ใช่ๆ ตอนแรกพวกผมแค่เห็นแก่มิตรภาพของนายกับพวกผม พวกผมก็เลยช่วย แต่ตอนนี้คิดดูแล้ว ผมก็ไม่อยากเอาชีวิตมาเสี่ยงถึงขนาดนี้นะนาย!” 

 

 

เจ้าแผลเป็นรู้สึกกลุ้มใจไปชั่วขณะ เมื่อเห็นว่าคนส่วนใหญ่เริ่มคล้อยตามไปกับถังโจวโจวแล้ว ที่เขารับทำเรื่องนี้ก็เพื่อตอบแทนบุญคุณของคนๆ นั้น และในตอนแรกคนๆ นั้นก็แค่บอกให้เขาช่วยจับตัวถังโจวโจวไว้ ยังไม่ได้บอกว่าจะให้ทำอะไรต่อจากนี้ 

 

 

จนกระทั่งวันนี้ที่เขาส่งข้อความหาถังโจวโจว นายจ้างก็สั่งลงมาว่าให้เรียกถังโจวโจวออกมาและห้ามให้เธอกลับไป ในเวลานั้นเจ้าแผลเป็นก็เริ่มลังเลใจ 

 

 

และเมื่อเขาได้เห็นถังโจวโจว ความลังเลของเขาก็พุ่งสูงขึ้นไปอีก ถังโจวโจวดูเป็นคนดี แววตาของเธอไม่เหมือนคนคิดร้าย ไม่รู้ว่าทำไมคนๆ นั้นถึงต้องการชีวิตเธอ? 

 

 

เสียงตะโกนจากด้านนอกดังขึ้นมาอีกครั้ง “คนที่อยู่ด้านใน ผอ. ลั่วท่านพูดแล้ว ขอแค่ปล่อยตัวภรรยากับลูกสาวของท่านออกมา ท่านก็จะไม่เอาเรื่อง อีกทั้งจะให้เงินก้อนกับพวกนายด้วย ถ้าพวกนายตกลงก็ส่งสัญญาณออกมา” 

 

 

“ได้ยินหรือยัง คนด้านนอกเขาก็พูดขนาดนี้แล้ว พวกนายก็ยังไม่เชื่อฉันอีกงั้นหรือ หากมันเป็นไปไม่ได้จริงๆ ก็เอาอย่างนี้แล้วกัน พวกนายเก็บฉันไว้ก่อน พอได้เงินมาแล้ว พวกนายก็ค่อยปล่อยฉันออกไป แบบนี้โอเคกว่าไหม แต่ตอนนี้ต้องปล่อยลูกฉันออกไปก่อน” 

 

 

เจ้าแผลเป็นมองไปที่ถังโจวโจว ก่อนจะกวาดตามองลูกน้องที่อยู่รอบๆ ตัวของเขา และเมื่อเห็นสายตาขอร้องของพวกเขา เจ้าแผลเป็นก็ถอนหายใจออกมาหนักๆ “โอเค ทำอย่างที่เธอว่าก็แล้วกัน แต่ถ้าสามีของเธอหลอกเรา เราก็จะเอาชีวิตของเธอทันที” 

 

 

“วางใจได้ ฉันยังรักตัวเองอยู่” ถังโจวโจวลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เธอรู้สึกได้ว่าแผ่นหลังของเธอชื้นเหงื่อไปหมด และเมื่อมองไปยังลั่วอิงที่กำลังนอนพิงอยู่กับเสา ถังโจวโจวก็รู้สึกได้ว่าจิตใจของเธอสงบลงมาก 

 

 

“แก้มัดลูกสาวฉันก่อน” 

 

 

“รีบไปสิ!” ชายที่มีแผลเป็นส่งสัญญาณให้กับลูกน้อง ชายคนนั้นย่อตัวลงไปหาลั่วอิงและแก้มัดให้เธอทันที 

 

 

“ไปเปิดประตูแล้วก็พาเด็กออกไปส่ง จากนั้นพาผอ. ลั่วเข้ามาเจรจา” เจ้าแผลเป็นสั่งเป็นขั้นเป็นตอน เขาต้องการมั่นใจว่าเรื่องนี้จะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง มิเช่นนั้นลูกน้องของเขาคงจะไร้วิญญาณกันหมด 

 

 

“ครับนาย ผมจะจัดการให้เดี๋ยวนี้” 

 

 

ลูกน้องคนหนึ่งเปิดประตูโรงงานร้าง ส่วนอีกคนหนึ่งก็อุ้มลั่วอิงไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะเดินออกไปด้านนอก ถังโจวโจวถูกเจ้าแผลเป็นกักตัวไว้ เธอรู้สึกได้ถึงแข็งแรงของเจ้าแผลเป็น