นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 648 ขอแต่งงาน ( ตอนจบ)
ทั้งสองคนใช้เวลาหวานกันสักครู่ ซูฉิงก็กลับไปยังบริษัทของตน
ซูฉิงเพิ่งจะก้าวขาเข้าไปบริษัท ผู้ช่วยก็วิ่งมาหาเธอด้วยความเร่งรีบ
ซูฉิงทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ดูๆแล้ว น่าจะเกิดเรื่องอีกแล้วแหละ
” พี่เสี่ยวฉิง เกิดเรื่องใหญ่แล้วละ พวกที่คอยโจมตีพี่ทางอินเทอร์เน็ตจะควบคุมไม่อยู่แล้วนะ”
ได้ยินแบบนั้น ซูฉิงก็รีบกลับไปออฟฟิศเปิดเวยป๋อดู ไม่ผิดจากที่คาดการณ์ไว้จริงๆ บนการค้นหายอดฮิตประกฏหัวข้อเกี่ยวกับการคบซ้อนของซูฉิงมากมาย
ภาพที่ติดอันดับการค้นหานั้น ภาพพื้นหลังเป็นภาพดอกไม้สด ข้างหน้าของซูฉิงเป็นภาพคุกเข่าข้างเดียวของเฟิงรั่วเหยียน สายตาที่อ่อนโยนคู่นั้น เป็นสิ่งที่ผู้หญิงมากมายใฝ่ฝัน
ทั้งหล่อและรวยนั้น อาจจะบอกได้ว่าเป็นสเปคของผู้หญิงหลายๆ คน
แต่สิ่งที่แสดงออกบนใบหน้าของซูฉิงในภาพนั้นกลับเป็นการปิดปากเงียบ มองแล้วเหมือนกับประหลาดใจอะไรสักอย่าง
ภาพที่เห็นแบบนี้ทำให้แฟนคลับเกิดคิดว่าซูฉิงตอบตกลง สิ่งนี้ทำให้ซูฉิงทำอะไรไม่ถูกเลย
ซูฉิงลูบขมับ เมื่อคืนตัวเองมัวแต่ยุ่งอยู่กับเรื่องของฮ่อหยุนเฉิง จนไม่ได้จัดการเรื่องนี้ในทันที ทำให้การคาดเดาของแฟนคลับยิ่งไปกันใหญ่ ตอนเช้าก็เริ่มมีการโจมตีซูฉิงทางร่างกาย
ข้อความส่วนตัวที่ซูฉิงได้รับผ่านทางเวยป๋อนั้นล้วนแล้วแต่เป็นคำด่าทั้งนั้น มันทำให้เธอทำอะไรไม่ถูก
คิดไม่ถึงเลยว่าเวลาผ่านไปนานขนาดนี้ ตัวเองยังถูกแฟนคลับผลักเข้าไปท่ามกลางคลื่นยักษ์อีก
” พี่เสี่ยวฉิง เราจะทำยังไงดี”
ผู้ช่วยพูดอยู่ข้างๆ ด้วยความกังวล เพราะซูฉิงเป็นผู้จัดการของบริษัท ถ้าหากซูฉิงเกิดปัญหา บริษัทซิงเฉินก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย
” เป็นปัญหาที่จะมีไม่มีก็ได้ ไม่ต้องกังวลหรอก”
ซูฉิงไม่ได้เห็นด้วย กับเรื่องราวในการค้นหายอดฮิตนั้นเจอบ่อยจนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
ถ้าจะโทษก็ต้องโทษพวกสื่อและพวกที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านที่วันๆ ก็เอาแต่จับจ้องการเคลื่อนไหวของซูฉิงและบริษัทซิงเฉิน ขอแค่มีการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก็วิ่งออกมาใส่ฟืนใส่ไฟ
ซูฉิงนวดบนจุดไท่หยางด้วยความเซ็ง เห็นข่าวที่มากมายล้นฟ้าตรงหน้า ทำให้เธอไม่อยากไปสนใจมัน
ในเวลานี้ ถ้าตัวเองออกตัวเพื่อแก้ต่าง ก็จะถูกด่าทอกลับมาอีก ทางที่ดีคือ เงียบไว้เพื่อคอยดูสถานการณ์ต่อไปดีกว่า
ตอนนี้ สิ่งที่จะเอาชนะใจแฟนคลับได้ก็จะมีแต่ หลักฐานที่มีน้ำหนักมากพอเท่านั้น ถ้าไม่อย่างนั้น พูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์
ในช่วงเวลาแบบนี้ เฟิงรั่วเหยียนกลับโพสต์ลงในเวยป๋อ
” ทุกคนไม่ต้องไปด่าว่าเสี่ยวฉิงแล้ว มันเป็นความเต็มใจของผมเอง แต่ว่าผมเชื่อว่า เรื่องทั้งหมดเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นชั่วขณะเท่านั้น ต้องมีวันหนึ่งที่เสี่ยวฉิงจะตอบรับผมแน่นอน”
คำพูดนี้ได้โพสต์ออกมา ยิ่งทำให้เห็นว่าเฟิงรั่วเหยียนเป็นคนที่รักจริง
แต่ซูฉิงกลับถูกมองว่าเป็นผู้หญิงเลวที่ทำให้ผู้ชายที่มีใจบริสุทธิ์เสียเวลา ข้างหนึ่งเป็นฮ่อหยุนเฉิง อีกข้างหนึ่งเป็นเฟิงรั่วเหยียน ทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนคนเหยียบเรือสองลำ
เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ซูฉิงก็ถูกคนซุบซิบนินทาอีกครั้ง เธออ่านบทความที่เฟิงรั่วเหยียนโพสต์ ไม่รู้เลยว่า จริงๆ แล้วเขากำลังช่วยเธอล้างมลทินหรือกำลังทำให้ตัวเองดูดีในสายตาคนอื่นกันแน่
” คิดไม่ถึงจริงๆ เลยว่า คนที่เป็นถึงประธานบริษัทกลับทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้ เสียเวลาจริงๆ เลยที่ฉันอุตส่าห์ติดตามความหวานของเธอกับฮ่อหยุนเฉิง ถ้าว่าฉันมองคนผิดละกัน”
” ไม่ต้องพูดมากหรอกพวกเรา บล็อกมันแม่นเลย”
คำด่าทุกรูปแบบได้ทะลักออกมาในเวยป๋อของซูฉิง ภายใต้สถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ซูฉิงทำได้แค่ปิดกระทู้ของตน
กับนิสัยที่ไปตามกระแสของกลุ่มแฟนคลับนั้น ซูฉิงก็ปรับตัวได้ตั้งนานแล้ว
แต่ว่าการปล่อยไว้แบบนี้ก็ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ดี ถ้าไม่รีบออกมาแก้ต่าง อาจจะทำให้แฟนคลับยิ่งโกรธเคืองด้วย
ขณะที่กำลังหน้านิ่วคิ้วขมวดนั้น ซูฉิงก็ได้รับสายจากฮ่อหยุนเฉิง
” มีไรหรอ”
หลังจากที่ได้รับสายมือถือ เสียงของซูฉิงหอบเหนื่อย ในตอนนี้ยังต้องจัดการกับปัญหาทางโซเชียวอีก คิดแล้วก็รู้สึกเหนื่อยใจ
” เรื่องทางโซเชียล ผมเห็นแล้วละ” เสียงที่แหบแห้งของฮ่อหยุนเฉิงมาตามสาย เหมือนจะมีความโกรธเล็กน้อย ” เธอมาโรงแรมที่พักเมื่อคืนอีกรอบ ฉันจะรอที่นั่น”
ได้ยินเสียงที่เคร่งขรึมของฮ่อหยุนเฉิง ทำให้หัวใจของซูฉิงเต้นเร็วอย่างไม่สามารถควบคุมได้
หรือว่า ฮ่อหยุนเฉิงจะเชื่อคำพูดลอยๆ พวกนั้นแล้วหรอ
ซูฉิงทำได้เพียงแต่เก็บอั้นความรู้สึกนี้ไว้ เก็บของ จากนั้นก็ไปที่โรงแรม
ซูฉิงเพิ่งมาถึงหน้าประตู สิ่งที่ปรากฏอยู่ข้างหน้าคือ ฮ่อหยุนเฉิงถือดอกไม้ใหม่สดไว้ ยืนอยู่ใจกลางทุ่งดอกไม้
เธอตะลึงงัน คิดไม่ถึงว่าฮ่อหยุนเฉิงจะมาไม้นี้
ข้างๆ ก็มีสื่อและนักข่าวรุมล้อมกำลังถ่ายภาพ คิดๆ แล้วฮ่อหยุนเฉิงตั้งใจเรียกเธอมาโดยเฉพาะเลย
สิ่งที่เห็นมีแต่สายตาที่เต็มด้วยความจริงใจของฮ่อหยุนเฉิงมองมาทางซูฉิง ซูฉิงเดินไปข้างหน้าฮ่อหยุนเฉิงอย่างช้าๆ พร้อมกับแสดงสีหน้าที่เหลือเชื่อออกมา
เทียบกับความรู้สึกรังเกียจแล้วเบื่อหน่ายที่อยู่ต่อหน้าเฟิงรั่วเหยียนแล้ว เวลานี้ซูฉิงกลับดูมีความสุขมากกว่า
” ซูฉิง …” ได้ยินแต่เสียงที่ทุ้มต่ำของฮ่อหยุนเฉิงลอยมา ในมือถือไมโครโฟนไว้ นัยต์ตาเต็มไปด้วยความอบอุ่น ” ยังไม่ทันได้รู้สึกตัวอะไร คุณก็คอยอยู่ข้างผมและใช้ชีวิตด้วยกันมานานแล้ว คุณเป็นเพื่อนฟันฝ่าอุปสรรคไปกับฉันมากมาย แต่ฉันกลับไม่เคยได้ให้ฐานะอะไรกับคุณเลย”
พูดถึงประโยคนี้ เสียงของโฮ่วอวิ๋นเฉิวกลับสะอื้นเล็กน้อย ซูฉิงสัมผัสได้ว่ามือของเขาสั่นไม่หยุด น้ำตาไหลออกมาด้วยความดีใจ ยื่นมือออกไปจับมือที่สั่นของฮ่อหยุนเฉิงไว้
” คุณยินดีที่จะแต่งงานกับผมไหม ผู้หญิงของผม”
เห็นเพียงแต่ฮ่อหยุนเฉิงหยิบกล่องใส่แหวนออกมาจากช่อดอกไม้สด เปิดออก แล้วก็คุกเข่าข้างหนึ่ง ยื่นแหวนให้ซูฉิง
ซูฉิงปิดปาก น้ำตาจากหางตาได้ไหลออกมาอย่างไม่หยุด พร้อมกับพยักหน้า “ฉันยินดี”
ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของผู้คน ฮ่อหยุนเฉิงได้สวมแหวนให้กับซูฉิง ทั้งสองกอดกันอย่างแน่น
” ซูฉิง ผมรักคุณ”
คำบอกรักของฮ่อหยุนเฉิงดังมาข้างหู ซูฉิงคลี่ยิ้มออกมา ใบหน้าของทั้งคู่แสดงให้เห็นถึงความหวานชื่น
จากนั้นทั้งสองจับมือกันเดินเข้าไปกระทรวงกิจการพลเรือน
วันนี้ไม่ได้เป็นวันพิเศษอะไร ทำให้คนที่มากระทรวงกิจการพลเรือนไม่ได้มากมายนัก แต่ท่าทางกระอ้อมกระแอ้มของซูฉิงทำให้เห็นว่า มีสายตาหลายคู่ของคู่หย่าร้างที่เต็มไปด้วยความบาดหมาง
ซูฉิงส่งสายตามายังฮ่อหยุนเฉิง ฮ่อหยุนเฉิงตบไหล่เธอเบาๆ ท่าทางเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น ” ไม่ต้องกังวลหรอก เราจะไม่เป็นอย่างนั้นแน่นอน”
จากนั้นทั้งสองก็ไปหน้าตากล้องถ่ายรูป ช่างถ่ายรูปก็ชมรูปร่างหน้าตาทั้งสองอย่างไม่รู้ตัว
” คุณทั้งสองเป็นคู่ที่เหมาะสมและสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่ฉันทำงานเป็นตากล้างมาเลยนะ ขอให้รักกันนานๆ เน้อ”
ได้ยินคำพูดของตากล้องแล้ว ซูฉิงพยักหน้าด้วยความเขินอาย
ฮ่อหยุนเฉิงกลับคลี่ยิ้มออกมา แล้วก็โอบกอดซูฉิงเข้ามาในอ้อมกอด
แบบนี้เอง ทำให้ตากล้องสามารถถ่ายรูปสีหน้าที่เขินอายของซูฉิงเอาไว้ได้ จากภาพคู่ในใบสมรสไม่ยากที่จะเห็นถึงความหวานชื่นของความรักของทั้งสอง
เวลาผ่านไปไม่นาน ซูฉิงและฮ่อหยุนเฉิงมาถึงแท่นปฏิญาณ พร้อมกับยกมือปฏิญาณ แล้วก็พูดตามคำพูดบนนั้น
ภายใต้การเป็นพยานของศิษยาภิบาลในโบสถ์ ทั้งสองได้จดใบสมรสอย่างเป็นทางการ
ซูฉิงมองหนังสือเล่มแดงทั้งสองเล่ม ในใจพรั่งพรูความสุขที่ไม่เคยมีมาก่อนออกมา
จากนั้น ซูฉิงหยิบมือถือออกมา แล้วก็ถ่ายรูปคู่กับ ใบสมรสและป้ายชื่อกระทรวงกิจการพลเรือน
นาทีต่อมา ซูฉิงก็ได้โพสต์ภาพถ่ายนี้ลงในโซเชียล ” ประกาศอย่างเป็นทางการ”
หลังจากที่ได้โพสต์ในเวยป๋อแล้ว ทั้งสองก็จับมือกันเดินกลับไปยังที่พักของตัวเอง
เพียงไม่นาน ข้อความที่ซูฉิงได้โพสต์ลงไปได้ทำให้เกิดการโต้เถียงกันมากมาย คนที่เคยด่าว่าซูฉิงถูกตีกลับอย่างหนัก
เห็นคำชมที่มีต่อความรักของทั้งสองมีมากขึ้นเรื่อยๆ ใจของซูฉิงก็รู้สึกมีความสุขมากยิ่งขึ้นไปอีก
เธอเอามือทั้งสองกอดรอบคอของฮ่อหยุนเฉิงไว้ ทั้งสองส่งสายตาให้กันด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้ง
ขณะที่ทั้งสองกำลังจะหวานกันต่ออีกนั้น กริ่งประตูกลับดังขึ้น
ซูฉิงกระแอมเสียงด้วยความเขินอาย ฮ่อหยุนเฉิงถึงปล่อยเธอไปด้วยความคาใจ
ซูฉิงมาถึงประตู มองผ่านช่องประตูเห็นว่าเป็นคุณนายเก่าโฮ่ว ก็รีบเปิดประตูให้เขาเข้ามา
” คุณปู่ ท่านมาได้ยังไง”
เห็นแต่ใบหน้าที่เคร่งขรึมของคุณนายเก่าโฮ่ว สายตาที่มองซูฉิงนั้น ยังคงเป็นหน้าบึ้งเหมือนเดิม
ซูฉิงกลืนน้ำลายไปทีหนึ่ง เห็นสีหน้าของคุณนายเก่าโฮ่วแล้ว ตัวเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาดี
ฮ่อหยุนเฉิงก็ตามออกมาติดๆ ซูฉิงส่งสายตาให้ฮ่อหยุนเฉิงแวบหนึ่ง
โฮ่วอว๋นเฉิงเข้าใจความหมายของซูฉิงทันที มาใกล้ๆ คุณนายเก่าโฮ่ว ” เป็นไรไหม”
ซูฉิงนั่งลงข้างๆ ฮ่อหยุนเฉิง ดูแล้วคุณนายเก่าโฮ่วจะรู้เรื่องที่ทั้งสองได้จดทะเบียนสมรสแล้วแหละ แต่ทำไมต้องทำหน้าบึ้งนั้น ซูฉิงก็ไม่รู้เหมือนกัน
” พวกคุณจดทะเบียนสมรสแล้วหรอ”
ได้ยินประโยคนี้ ใจของทั้งสองก็พร้อมกันพยักหน้าอย่างรู้ตัว
” เจ้าเด็กนี่” ใครจะรู้ ในนาทีต่อมา คุณนายเก่าโฮ่วก็ดีดแรงๆ บนหน้าผากของฮ่อหยุนเฉิงทีหนึ่ง ” เรื่องใหญ่แบบนี้ทำไม่แจ้งปู่ก่อน ถ้าทำให้เสี่ยวฉิงได้รับความอับอายจะทำยังไง”
” แฮ แฮ”
ซูฉิงคลี่ยิ้มออกมา เห็นสีหน้าที่เจ็บปวดของคุณนายเก่าโฮ่ว ยิ่งทำให้เธอยิ้มจนแทบหงายหลัง
” แต่ว่ารีบจดใบสมรสก็ถือว่าเป็นเรื่องดีเหมือนกัน ถ้าไม่อย่างงั้นก็จะทำให้คนในโซเชียลเอาไปพูดซี้ซั้ว
คุณนายเก่าโฮ่วรู้สึกพอใจกับลูกสะใภ้ซูฉิงคนนี้มาก เขากุมมือของซูฉิงไว้ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยไมตรีจิต ” จากวันนี้เป็นต้นไป ถ้าไอ้ลูกคนนี้มันรังแกหนู ขอให้บอกปู่เป็นคนแรกนะ เดี๋ยวปู่จะสั่งสอนมันเอง”
ซูฉิงพยักหน้า ตอบว่า” ค่ะ คุณปู่ ”
” ผมไม่รังแกเธอหรอก”
ฮ่อหยุนเฉิงปริปากตอบในเวลานี้ ทำให้คุณนายเก่าโฮ่วมองมาแวบหนึ่ง
จากนั้น สายตาของคุณนายเก่าโฮ่วก็กลับไปเคร่งขรึมเหมือนเดิม ” ตอนนี้ใบสมรสก็เอามาแล้ว วางแผนไว้ว่าจะแต่งงานเมื่อไหร่ละ”
สองคนสบตาเข้าหากัน คำถามนี้สองคนยังไม่เคยหารือกันมาก่อน
” งานแต่งก็ไม่มีหรอ ไอ้ลูกชาย ทำแบบนี้ยังคิดจะหาเมียเข้าบ้านหรอ”
ใครจะไปคิดถึงละว่า นาทีต่อมาฮ่อหยุนเฉิงจะต้องรับมือกับคำบ่นของคุณนายเก่าโฮ่ว
” โทษเขาไม่ได้หรอกค่ะคุณปู่ พวกเราต่างคนต่างยุ่งมาก สามารถเอาเวลาไปจดใบสมรสได้ก็ต้องจัดสรรเวลามาก”
ซูฉิงช่วยอธิบายเหตุผลแทนฮ่อหยุนเฉิง คุณนายเก่าโฮ่วถึงสบายใจขึ้นมา
” ปู่คิดว่าไม่กี่เดือนนี้มีเวลาที่ฤกษ์ดีเยอะเลย พวกคุณเลือกมาวันหนึ่งสิ”
ต่อมา คุณนายเก่าโฮ่วหยิบมือถือจากกระเป๋า แล้วก็อธิบายอย่างละเอียดว่าวันไหนมีฤกษ์ดีให้ทั้งสองเลือก
ท้ายที่สุด ทุกคนตกลงกันว่า จะจัดงานแต่งขึ้นในวันที่ 15 ของสองเดือนถัดไป
เวลาของงานแต่งตกลงกันได้แล้ว ทุกคนก็ต่อด้วยรายละเอียดภายในของงานแต่ง
” ถ้าจัดงานแต่งในโบสถ์ พวกคุณคิดว่าดีไหม”
คุณนายเก่าโฮ่วเสนอความคิดเห็นของตัวเอง ต่อด้วยการส่ายหัวอย่างพร้อมเพรียงกันของทั้งสอง
” จัดบนชายหาดดีกว่า เพราะเสี่ยวฉิงเป็นคนที่ชอบทะเล”
โฮ่วอวิ๋นเฉินเสนอออกมา พร้อมกับมองไปยังซูฉิงด้วยความมั่นใจ
ซูฉิงพยักหน้า แสดงออกเป็นนัยว่าเห็นด้วย
” ดี แม้แต่ความชอบของเสี่ยวฉิงก็รู้เป็นอย่างดี เป็นผัวที่ใช้ได้เลยทีเดียว”
คุณนายเก่าโฮ่วตอบพร้อมรอยยิ้ม จากนั้นก็สั่งดอกไม้ผ่านอินเทอร์เน็ตทันที
เมื่อถึงเวลานั้น ดอกไม้ที่จะใช้นั้นเป็นดอกไม้ที่มีจำนวนมาก ฉะนั้นจึงต้องทำการจองกับร้านดอกไม้ไว้ก่อน
” กุหลาบแชมเปญกับดอกทันตะวัน ฉันคิดว่าต่างก็ไม่เลวนะ”
ซูฉิงชี้ภาพในมือถือ ทั้งปู่และหลานต่างก็จัดตามความชอบของซูฉิงทั้งนั้น
จากนั้น คุณนายเก่าโฮ่วก็ใช้คนไปร้านดอกไม้ หาเจ้าของร้านเพื่อจองไว้หลายๆ รายการ
จากนั้นทั้งสามก็หารือกันถึงสีหลักที่จะจัดในงาน รวมถึงชุดแต่งงานของซูฉิงด้วย
คำโบราณกล่าวไว้ว่า ชุดแต่งงานคือความฝันทั้งชีวิตของผู้หญิง ซูฉิงเองก็ไม่ถูกยกเว้น
ในสายตาของฮ่อหยุนเฉิงเต็มไปด้วยความมั่นใจ จะทำให้ซูฉิงกลายเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดแน่นอน
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสามคนหารือกันถึงรายละเอียดของงานแต่งจนถึงเย็น ซูฉิงนวดไหล่ของตน ทั้งบ่ายอยู่กับหน้าจอมือถือเพื่อดูการวางแบบในงานแต่งจริง ทำให้เธอรู้สึกตามืดตามัวไปหมดแล้ว…
จบบริบูรณ์
เรียนผู้อ่านที่เคารพทุกคน
ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง (นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น) ก็ขออยู่กับทุกคนถึงแค่ตอนนี้นะ ขอขอบคุณผู้อ่านทุกคนที่สนับสนุนหนังสือเรื่องนี้ ช่วงเวลาที่ผ่านมา ได้ผ่านอุปสรรคครั้งเล่าครั้งเล่า ในที่สุดนางสาวซูของพวกเรากับคุณพี่ฮ่อหยุนเฉิงก็ได้เดินเข้าสู่ชีวิตคู่ที่เต็มไปด้วยความสุขในพิธีแต่งงาน ผู้แต่งขออวยพรความรักของผู้อ่านทุกคนให้เป็นเหมือนกับหนังสือเล่มนี้ ได้มีตอนจบที่เต็มไปด้วยความหวานและความโชคดี…