ตอนที่ 334 คิดคด

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 334

คิดคด

วูม…!! ร่างของมังกรบินร่อนลงมาบนสนามภายในวังนอกเมืองอย่างรวดเร็วและนุ่มนวล แม้มังกรจะเป็นอสูรที่น่ากลัวและเจอได้ยาก แต่หากเป็นในอาณาจักรไป๋ ณ ตอนนี้ละก็มันไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไปแล้ว ถึงขนาดว่าเหล่าทหารที่เฝ้าอยู่ไม่ได้สนใจการมาของมังกรเสียเท่าไหร่ กลับพูดคุยกันตามปกติราวกับไม่เห็นมังกรเสียอย่างนั้น

“หลิวเมิ่ง มีอะไรงั้นหรือ”หลิวหลงพี่ใหญ่ของพี่น้องตระกูลหลิวถามพลางมองหลิวเมิ่งที่ลงมาจากหลังมังกรพร้อมกับหลิวอิง

“เปล่าเจ้าค่ะ ข้ามาหาพวกท่านเท่านั้นเอง”หลิมเมิ่งยิ้มพลางเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆกับหลิวมู่เฉินพี่สาวของนางด้วยความเคยชิน เพราะไป๋จูเหวินเดินทางไปต่างดินแดน ทำให้ขุนนางเองก็ได้พักบ้างเช่นกัน หลังจากจัดการงานที่ค้างคาอยู่หลิวเมิ่งก็เดินทางมาหาพี่น้องของนางทันที แม้พี่รองอย่างหลิวเซียนจะไม่อยู่ แต่ก็นับว่าเกือบครบหน้าครบตากันแล้ว

“ทำไมเจ้าถึงมาได้ล่ะ”หลิวหลงถามด้วยท่าทีงุนงง ไม่ใช่ว่าหลิวเมิ่งอยู่ในฐานะผู้ช่วยของจักรพรรดิองค์ใหม่หรือ นางควรจะไม่มีอิสระเสียเท่าไหร่ไม่ใช่หรืออย่างไร

“องค์จักรพรรดิเดินทางไปต่างแดนเจ้าค่ะ พวกข้าก็เลยมีเวลาว่าง”หลิวเมิ่งตอบออกมาตามตรง ในที่สุดนางก็มีเวลาพักบ้างเสียที

“มันไม่อยู่…”หลิวหลงเบิกตากว้างด้วยความยินดี มันมองไปทางทหารที่ทำการเฝ้าระวังอยู่หน้าวังนอกเมือง พวกมันเริ่มหล่ะหลวมกันแล้ว ความจริงหลิวหลงคิดหาวิธีจะหนีออกจากวังนอกเมืองเอาไว้นานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสลงมือเสียที

“ยอดเยี่ยม เช่นนั้นเราลอบเข้าวังกันเถอะ ท่านพ่อยังมีคลังอาวุธอยู่ใต้ปราสาท หากนำออกมาละก็…”หลิวหลงว่าพลางกำหมัดแน่น

“ห้องนั้นองค์จักรพรรดิเจอไปนานแล้วเจ้าค่ะ”หลิวเมิ่งตอบพลางถอนหายใจออกมา ไป๋จูเหวินมองผ่านกำแพงได้ แค่ห้องลับภายใต้ปราสาททำไมมันจะหาไม่เจอ

“งั้นพวกเราหนีไปอาณาจักรอิน หากขอความช่วยเหลือพวกมันน่าจะช่วยพวกเราได้”หลิวหลงว่าพลางกำหมัดแน่น ไม่นึกเลยว่าอาวุธลับของบิดาตนจะโดนเจอแล้ว

“เป็นไปไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ”หลิวเมิ่งตอบพลางส่ายหน้าออกมา

“อะไรกัน ทำไมเจ้าถึงขัดคอข้าแบบนี้กัน”หลิวหลงถามพลางขมวดคิ้วมุ่น ตลอดเวลาที่อยู่ในวังนอกเมือง มันพยายามครุ่นคิดหาวิธีเอาอาณาจักรหลิวคืนมา ทั้งขอความช่วยเหลือ หรือลอบสังหารองค์จักรพรรดิ แต่พูดออกไปหลิวเมิ่งกลับขัดมันเสียหมด

“ข้าแค่บอกว่าเรื่องที่ท่านพี่คิดมันเป็นไปไม่ได้เท่านั้นเอง”หลิวเมิ่งตอบพลางถอนหายใจออกมา ไม่ใช่ว่านางจะยกโทษให้ไป๋จูเหวินแล้วไม่คิดจะทำอะไรเลยแต่อย่างไร เพียงแต่นางได้ทราบแล้วว่าเรื่องพวกนั้นทำอะไรไป๋จูเหวินไม่ได้เท่านั้นเอง

“เจ้า…หรือว่าเจ้าจะทรยศท่านพ่อแล้ว”ได้ยินพี่ชายของนางพูดแบบนั้น หลิวเมิ่งก็หวดฝ่ามือใส่พี่ชายนางทันที แต่เพราะพลังของนางต่ำกว่าหลิวหลงมันเลยรับเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย

“ท่าน….ท่านคิดว่าข้าไม่เคยคิดหรือยังไงว่าจะฆ่ามัน”หลิวเมิ่งว่าพลางกัดฟันแน่น แม้จะอยู่กับไป๋จูเหวินเป็นปกติ แต่แค้นสังหารบิดาไม่อาจปล่อยวางได้ในเวลาอันสั้น

“แต่แผนของข้า แผนของท่าน หรือต่อให้พวกเราร่วมมือกันก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น”หลิวเมิ่งว่าพลางดึงมือตัวเองกลับ

“ไม่หรอก ถ้าขอความช่วยเหลือจากอาณาจักรรอบๆได้…”หลิวหลงยังคงคิดจะไปขอความช่วยเหลือจากอาณาจักรอื่นๆอยู่ มันเป็นองค์ชายใหญ่มันจึงสนิทสนมกับองค์ชายอาณาจักรอื่นๆอยู่มาก

“อาณาจักรพวกนั้นตกลงค้าขายกับอาณาจักรไป๋แล้ว พวกมันคงไม่ช่วยพวกเราหรอก”หลิวเมิ่งตอบ เพราะนางได้เห็นเอกสารที่ไป๋จูเหวินต้องลงนามเกือบทุกแผ่น ความสัมพันธ์ของอาณาจักรไป๋และอาณาจักรข้างเคียงนั้นค่อนข้างดีทีเดียว โดยเฉพาะอาณาจักรอู๋และชิน พวกมันแทบจะเปิดอาณาจักรให้ไปมาหาสู่ได้ราวกับอาณาจักรเดียวกันเลยทีเดียว

“นั่นมันแค่เรื่องค้าขาย หากเราเอาเรื่องที่เจ้านั่นบุกอาณาจักรเราอย่างไม่เป็นธรรมละก็…”

“ท่านคิดว่าอาณาจักรอื่นโง่หรืออย่างไร พวกมันไม่มีทางก่อตั้งกองทัพมาสู้กับอาณาจักรไป๋ที่ใช้เวลาไม่กี่วินาทีบดขยี้ทัพหลักของอาณาจักรเราหรอก ต่อให้เอาชนะได้ตอนจักรพรรดิไม่อยู่ ท่านคิดว่าพวกมันต้องเสียทหารเพื่อพวกเราเท่าไหร่กัน แล้วหลังจากได้อาณาจักรคืนมาระยะเวลาหนึ่ง ท่านคิดจะตอบแทนชีวิตเหล่าทหารของอาณาจักรอื่นอย่างไร”หลิวเมิ่งว่าพลางจ้องมองพี่ชายของนางด้วยท่าทางเจ็บแค้น

“พูดก็พูดเถอะ ต่อให้อาณาจักรอื่นๆร่วมกันล้อมกรอบโจมตีอาณาจักรไป๋ ข้าก็ไม่เห็นวี่แววพวกมันจะชนะเลย ต่อให้องค์จักรพรรดิไม่อยู่ก็ตาม”หลิวเมิ่งว่าพลางถอนหายใจออกมา นางเดินทางไปทั่วกับไป๋จูเหวิน ได้เห็นกองกำลังของมันกับตา ทำให้เข้าใจดีเลยว่ากองทัพของไป๋จูเหวินนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน มันคือกองทัพอสูรที่หากคิดจะยึดครองอาณาจักรทั้งหมดก็สามารถทำได้ราวพลิกฝ่ามือ

“ข้าไม่เชื่อหรอก กองทัพของมันจะแข็งแกร่งขนาดนั้นได้ยังไง”หลิวหลงทุบโต๊ะเสียงดังไปทั้งห้องด้วยความโมโห

“มัน…เป็นอย่างพี่ที่เมิ่งบอกจริงๆ”หลิวอิงตอบพลางก้มหน้าลง มันได้ลองโจมตีอาณาจักรไป๋มาแล้ว เพียงเจ้าเมือง 2 ตนเท่านั้นก็สามารถจัดการกองทัพของมันได้อย่างราบคาบ มันยังไม่ได้เจอแม่ทัพของไป๋จูเหวินเสียด้วยซ้ำไป และที่สำคัญเลยคือ พวกน้าๆของไป๋จูเหวินที่มันได้เจอ แบ่งพวกท่านออกไปสู้คนละสมรภูมิก็คงจัดการกองทัพของข้าศึกได้ไม่ยาก

“ข้าไม่เชื่อ”หลิวหลงยังคงไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่พวกน้องๆพูดออกมา กองทัพของไป๋จูเหวินมันจะเกินจิตสำนึกเกินไปแล้ว

“ข้าเองก็เจ็บใจเหมือนกัน….”หลิวเมิ่งตอบพลางก้มหน้าลงด้วยท่าทีหดหู่ นางเข้าใจดีว่าไป๋จูเหวินสังหารบิดาของตน แต่มันก็ทำไปภายใต้ความชอบธรรม แต่ถึงอย่างนั้นนางก็โกรธมัน แต่อีกใจหนึ่งนางกลับมีความคิดอื่นแทรกเข้ามา

“แต่…บางครั้ง…..”หลิวเมิ่งพูดเสียงเบาพลางนึกภาพอาณาจักรหลิวที่โดนเปลี่ยนไปเป็นอาณาจักรไป๋ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตลอดเวลาที่ไป๋จูเหวินเดินทางเชื้อเชิญเหล่าอสูรจากเขตอสูรทั่วอาณาจักร นางได้ช่วยงานในวังรวมทั้งเดินทางออกไปดูแลประชาชนด้วย ทำให้นางได้เห็นถึงความแตกต่างสมัยที่บิดานางปกครองและสมัยที่ไป๋จูเหวินปกครอง แม้จะเป็นเวลาไม่นาน แต่นางก็สัมผัสได้ว่าอาณาจักรของตนดีขึ้น

“ข้าก็คิดว่าองค์จักรรพรรดิเข้ามาช่วยอาราจักรของเราอยู่เหมือนกัน”หลิวเมิ่งพูดออกไปจากเสี่ยวหนึ่งของความคิดที่ผุดขึ้นมาท่ามกลางความแค้น แต่เดิมอาณาจักรหลิวเป็นอาณาจักรขนาดกลางค่อยไปทางเล็ก ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น ดีแค่ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์ สามารถส่งออกเสบียงได้อย่างต่อเนื่อง แต่หากถามว่าจะไปรุกรานใครละก็คงเป็นเรื่องยาก กองทัพของอาณาจักรหลิวแต่เดิมไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น หากต้องปะทะกับอาณาจักรข้างเคียงจริงๆ ที่เอาชนะได้ก็คงมีแต่อาณาจักรชูที่โดนภัยแล้งเข้าเล่นงานจนประชาชนได้รับความเดือดร้อนเท่านั้น แต่หากโจมตีอาณาจักรชูอาณาจักรอู๋ก็ต้องเข้าช่วย แบบนั้นก็เท่ากับว่าจริงๆแล้วอาณาจักรหลิวอ่อนแอที่สุดก็คงไม่ผิด แค่มีกำลังพอจะปกป้องตัวเองได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น

แต่..เมื่อไป๋จูเหวินขึ้นมาครองตำแหน่ง กองทัพอสูรของมันทำเอาอาณาจักรรอบๆหวาดกลัว แถมยังเป็นปึกแผ่นกับอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่อย่างอาณาจักรอู๋และชินอีกต่างหาก ตอนนี้เรียกได้ว่าเป็น 1 ใน 3 อาณาจักรใหญ่ของทิศตะวันออกเฉียงใต้ของแผ่นดินแล้วก็ว่าได้

“นี่เจ้า..”หลิวหลงตะลึกกับคำพูดของน้องสาว แบบนี้ไม่เท่ากับนางยอมรับแล้วหรือว่าไป๋จูเหวินเป็นองค์จักรพรรดิของนาง

“ท่านพี่ หากท่านยังคาใจเรื่องที่ข้าพูด ท่านก็ออกไปกับข้าเถอะ”หลิวเมิ่งว่าพลางลุกขึ้นยืน ความจริงนางมาในวันนี้เพื่อพาพี่ๆของนางออกไปเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ก่อนไป๋จูเหวินจะเดินทางไปดินแดนอื่นนางได้ขอร้องไป๋จูเหวินไว้แล้วว่าจะพาพวกมันออกไป

“ออกไป?”หลิวหลงขมวดคิ้ว มันออกไปได้งั้นหรือ หรือว่าหลิวเมิ่งจะแอบพามันออกไปกัน

“มาเถอะท่านพี่ ที่หุบเขาหลิวขจีกำลังจัดการประลองอยู่พอดี”หลิวเมิ่งว่าพลางเดินออกมาจากตัววัง จะว่าไปตอนนางขอร้องให้พาพี่ๆของนางออกมาได้ ท่านมังกรธรณีก็อยู่ด้วย หรือว่าท่านจัดการประลองขึ้นแบบนี้เป็นเพราะเล็งผลตรงนี้เอาไว้แล้วกัน…

“เข้าใจแล้ว”หลิวหลงกัดฟันพลางเดินตามไปยังมังกรบินด้วยท่าทีฝืนๆ ทำให้หลิวมู่เฉินกับหลิวอิงที่ไม่มีความเห็นอะไรเป็นพิเศษตามขึ้นไปอย่างว่าง่าย

วูม…ร่างของมังกรทะยานไปยังหุบเขาหลิวขจีทางเหนือของวังหลวงในทันที ด้วยความเร็วของมันและระยะห่างที่ไม่ได้ไกลมาก ทำให้เหล่าพี่น้องตระกูลหลิวมาถึงยอดเขาแห่งหนึ่งของหุบเขาหลิวขจีกันอย่างปรอกภัย

“โอ้ หลิวเมิ่ง เจ้าพาพี่น้องของเจ้ามานั่งตรงนี้สิ”ไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางโบกมือเรียกหลิวเมิ่งเข้ามาหา พวกน้าๆจดจำหลิวเมิ่งในฐานะผู้ช่วยของไป๋จูเหวิน ทำให้มองนางเป็นมิตรมากกว่าพวกอสูรตนอื่นที่มองนางเป็นอดีตองค์หญิงของอาณาจักรหลิวมาก ทำให้หลิวเมิ่งชอบที่จะอยู่กับพวกท่านน้ามากกว่าพวกขุนนางอสูรเสียอีก

“ขึ้นมาสูงขนาดนี้จะเห็นอะไรงั้นเหรอ”หลิวหลงงุนงงอย่างมากเมื่อมาถึงยอดเขา ที่นี่มีแต่ที่นั่งและฉากกั้นสำหรับรับชมเท่านั้น ไม่มีสนามประลองตั้งอยู่อย่างที่คิดเอาไว้

“น้องเมิ่ง การประลองนี้จัดขึ้นทำไมเหรอ”หลิวมู่เฉินถามพลางนั่งลงข้างๆหลิวเมิ่ง ที่นี่นอกจากเหล่าขุนนางอสูรแล้วยังมีขุนนางเดิมของอาณาจักรหลิวอยู่ด้วย ทำให้พวกนางยังพอคุ้นชินกับบรรยากาศอยู่บ้าง

“องค์จักรพรรดิอยากจะแต่งตั้งตำแหน่งแม่ทัพให้อสูร 8 ตนเจ้าค่ะ ท่านมังกรธรณีก็เลยจัดการประลองขึ้นเพื่อค้นหาอสูร 5 ตนที่จะมารับตำแหน่ง”หลิวเมิ่งตอบพลางมองไปทางพื้นดินที่อยู่ใต้ยอดเขา แม้ตอนนี้จะเหมือนนั่งชมเขาก็จริง แต่เมื่อการประลองเริ่ม พื้นดินด้านล่างก็จะกลายเป็นสนามประลองขนาดใหญ่ทันที

“เอ๊ะ ทำไมเลือกแค่ 5 ล่ะ”หลิวมู่เฉิงขมวดคิ้ว ไหนบอกว่าจะแต่งตั้ง 8 ตนไง

“มี 3 ตนที่แข็งแกร่งมากจนไม่ต้องแข่งเจ้าค่ะ พวกมันนั่งอยู่ตรงนั้น”หลิวเมิ่งตอบพลางผายมือไปทางขุนพลอสูรทั้ง 3 ตนที่ถูกรับเลือกมา หากถามว่าทำไมพวกมันไม่ต้องแข่งละก็ นั่นเพราพวกมันคืออสูรระดับบรรพกาลอยู่แล้วไงล่ะ