บทที่ 246 ไม่มองเธอเลย

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

เชอร์รีนดึงร่างเล็กๆ ของเธอกลับมา “แด๊ดดี้ของหนูก็ไม่มีเงิน ถ้าหนูอยากจะกินสายไหมจริงๆ หนูก็ขายแด๊ดดี้ของหนูสิ หนูจะได้มีเงินเพื่อไปซื้อสายไหมที่หนูต้องการ”

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ซารางก็ร้องไห้ออกมา “แด๊ดดี้ขายไม่ออกไม่ได้แน่นอน”

“ทำไม” เธอสงสัย

“ทุกคนมีแด๊ดดี้กันหมด ใครจะต้องการเขากัน!”

เชอร์รีนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาดังๆ ออกัสที่เดินมาแต่ไกลเขาได้ใกล้เข้ามาและอุ้มซารางไว้ในอ้อมแขนของเขา และมองดูเธอด้วยความงงงวย “ตลกอะไรขนาดนั้น?”

ซารางโอบรอบคอของเขา “แด๊ดดี้คะ หม่ามี๊บอกว่าถ้าหนูขายแด๊ดดี้ หนูจะมีเงินซื้อขนมสายไหม แด๊ดดี้จะขายออกไหมคะ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของออกัสก็ดูแย่มากๆ และจากนั้นเขาก็ยกยิ้มริมฝีปากบางของเขา “ขายออกอยู่แล้ว คนที่จะซื้อแด๊ดดี้ของหนูมีเยอะแยะมากมาย มีเพียงหม่ามี๊ของหนูเท่านั้นแหละที่ไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ถึงได้เอาแต่ผลักไสแด๊ดดี้”

คิ้วของเชอร์รีนกระตุกเล็กน้อย เขาหลงตัวเองเกินไปหรือเปล่า?

“แด๊ดดี้คะ แด๊ดดี้ขายได้เท่าไหร่?” ซารางกระพริบตาเป็นประกาย

“นี่หนูคิดที่จะขายแด๊ดดี้ทิ้งใช่ไหม” เขาบีบจมูกเล็กๆ ของเธอ

ซารางส่ายหัว “หนูไม่ขายแด๊ดดี้ หนูไม่กินสายไหมแล้ว หนูต้องการแด๊ดดี้ ต่อให้ให้เงินหนูเยอะขนาดไหน หนูก็จะไม่ขายแด๊ดดี้”

ออกัสใจอ่อนระทวย ลูกสาวของเขาดีมาก “ไปเถอะ กลับบ้านกันเถอะ หม่ามี๊ของหนูกำลังจะขายแด๊ดดี้แล้ว หนูคิดว่าหม่ามี๊ควรไปทำความสะอาดไหม”

“ควรไปทำความสะอาด!” เสียงของซารางดังมาก!

“คนทรยศ!” เชอร์รีนเดินตามไปข้างหลังของทั้งสอง ก่อนที่เธอจะพูดออกมาด้วยความโกรธ

กลับไปที่คอนโด ยังไม่ทันที่เขาจะได้นั่งลง โทรศัพท์มือถือของออกัสก็ดังขึ้น เป็นสิงหาที่โทรมา และขอให้เขาพาซารางกลับไปที่บ้านตระกูลสิริไพบูรณ์

ออกัสขมวดคิ้ว เขาไม่ตอบอะไร

“เธอเป็นลูกสาวของแกและเป็นหลานสาวของฉัน ตั้งแต่เธอเล็กจนโตฉันก็ไม่เคยเจอเธอเลย แกลองดูสิว่ามันมากเกินไปหรือเปล่า”

หลังจากตอบรับ ออกัสก็วางสาย เชอร์รีนก็ได้ยินเช่นกัน เธอไม่ได้พูดอะไร ครอบครัวสิริไพบูรณ์มีสิทธิ์ไปเยี่ยมซารางได้อยู่แล้ว เธอไม่สามารถห้ามได้

“พรุ่งนี้ผมจะไปกับซาราง” เขาเงยหน้าขึ้นพูดกับเธอ

“อืม” แค่มีเขาอยู่เคียงข้างเธอ เธอก็สบายใจแล้ว นอกจากนี้ ซารางเองก็ยังเด็ก ดังนั้นคนอย่างสุนันท์คงไม่สามารถทำอะไรกับเด็กได้หรอก

หลังจากนั้น ซารางก็ดูการ์ตูนอีกครั้ง โดยที่เธอก็ยังอยู่ในอ้อมกอดของออกัส ในขณะที่เชอร์รีนก็วางหัวของเธอลงบนตักของเขา และมองดูด้วยความเบื่อหน่าย

ออกัสชำเลืองมองดูเวลา ในขณะนี้มีเกมการแข่งขันของ NBA เขาอยากเปลี่ยนช่อง แต่เมื่อมองไปที่คนตัวใหญ่และคนตัวเล็ก สุดท้ายเขาก็ยอมแพ้

เห็นได้ชัดว่าทั้งแม่และลูกสาวไม่อยากดูบาสเก็ตบอล ริมฝีปากบางกระตุก เขาจะดูเป็นเพื่อนพวกเธอเอง

……

ยู่ยี่จอดรถไว้ที่ลานจอดรถนอกห้าง วันนี้เธอนัดไปซื้อของกับหัสดินเกี่ยวกับพวกของใช้สำหรับเด็ก

แม้ว่าเธอจะตั้งครรภ์ได้เพียงสองเดือนกว่า แต่เธอก็ตัวบวมขึ้นเล็กน้อยแล้ว รวมถึงต้นขาและใบหน้าของเธอก็บวมขึ้นเล็กน้อย

เมื่อเดินเข้าไปในห้าง เธอก็นั่งลง และก็กดโทรศัพท์ จากนั้นเธอรอ หลังจากนั้นไม่นาน หัสดินก็เดินเข้ามา

ทั้งคู่ไม่ได้ไปเดินเที่ยวอะไร พวกเขาเดินตรงไปที่ชั้นที่มีผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก มันยังเร็วเกินไปที่จะซื้อสิ่งอื่นๆ และสิ่งเดียวที่พวกเขาสามารถซื้อได้ในตอนนี้คือ

หัสดินถือหุ้นในห้างสรรพสินค้าอยู่ เขาถือว่าเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้น และเขาเป็นผู้ถือหุ้นที่มีส่วนแบ่งค่อนข้างมาก ผู้จัดการก็เข้ามาทักทายเขาทันที

หัสดินไม่ได้ถามอะไรมาก และเมื่อเห็นผลิตภัณฑ์สำหรับทารกที่เขาพึงพอใจเขาก็หยิบขึ้นมาทันที ยู่ยี่ห้ามเขาไว้ “ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าเป็นเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง ถ้าเกิดว่าเป็นเด็กผู้ชายล่ะ คุณซื้อเสื้อผ้าเด็กผู้หญิงเยอะขนาดนั้นคุณจะเอาไว้ใส่เองเหรอ?”

“ทำไมล่ะ? แต่งตัวข้ามเพศ แล้วให้ภรรยาของผมดูรายการเรียลลิตี้แต่งตัวข้ามเพศ แต่มีปัญหากับขนาด” หัสดินใช้ดวงตาที่มีเสน่ห์ของเขามองดู

ยู่ยี่ยิ้มและคว้าแขนของเขาไว้ “อย่าซื้อตอนนี้เลย แค่เดินดูก่อน แล้วค่อยมาซื้อทีหลัง ไม่ต้องรีบร้อนไป อีกอย่างต่อไปนี้อย่าสูบบุหรี่เลย มันไม่ดีสำหรับเด็ก”

“ได้เลย จะฟังคุณภรรยาทุกอย่าง” หัสดินบีบจมูกของเธอ “ผมไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าให้คุณนานแล้ว ไปที่ชั้นสองกันเถอะ”

ผู้จัดการเดินตามหลังอย่างใกล้ชิด พวกเขาไปที่ชั้นสอง ก่อนจะตรงไปที่เคาน์เตอร์ และมองดูเสื้อผ้าฤดูใบไม้ร่วงที่สวยงาม ยู่ยี่ยิ้ม เธอมองหาแต่เสื้อผ้าที่หลวมกว่านี้

ทันใดนั้น หลังจากที่เห็นร่างนั้นเดินไปมา หัสดินก็ก็เลิกคิ้วขึ้นสูง และดวงตาที่มีเสน่ห์ของเขาก็หรี่ลงเล็กน้อย

เมื่อหันกลับไป สายตาของยู่ยี่ก็มองไปที่ร่างนั้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอขมวดคิ้วก่อน และหลังจากก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะนึกชื่อเธอออก เรนนี่!

หลังจากจบการศึกษาจากวิทยาลัย พวกเธอแทบจะไม่ได้พบกันอีกเลย และความทรงจำของเธอที่มีต่อเรนนี่ยังคงอยู่ในวิทยาลัย

ในวิทยาลัย เรนนี่ชอบใส่เสื้อผ้าหลวมๆ และไม่แต่งหน้าบ่อยมากนัก แต่ตอนนี้ เธอสวมเสื้อแขนยาวสีขาวรัดรูป กางเกงยีนส์ทรงสกินนี่ รองเท้าส้นสูง รูปร่างมีส่วนเว้าส่วนโค้ง ผมของเธอพาดบ่าไว้ และเธอก็แต่งหน้าเบามาก

เมื่อเอาเรนนี่ในอดีตเทียบกับเรนนี่ในปัจจุบันมันแตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง

เรนนี่ก็เห็นพวกเขาเช่นกัน เธอได้ทักทายพวกเขาอย่างไม่เห็นแก่ตัว “ยู่ยี่ รุ่นพี่หัสดิน”

เมื่อเดินเข้าไป ยู่ยี่ทำสีหน้าไม่ค่อยดีใส่เรนนี่ เธอไม่แม้แต่จะมองเธอ เธอเพียงเดินเข้ามาและคว้าแขนของหัสดินไว้ “ไปกันเถอะ ฉันเพิ่งเห็นเสื้อผ้าตัวหนึ่ง คุณช่วยฉันดูหน่อยสิ”

เธอพยายามปล่อยวางสิ่งเหล่านั้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะลืมมันได้

ดวงตาของหัสดินกวาดไปที่เรนนี่ ก่อนที่เขาจะเดินไปข้างหน้ากับยู่ยี่

เธอไม่ได้โวยวายอะไร เรนนี่เองก็ไม่สนใจ เธอเลือกเสื้อผ้ากับเพื่อนของเธอต่อ บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม มันมีความรู้สึกบางอย่างที่เข้าใจยากแอบแฝงอยู่

“ในช่วงหลายปีที่ผ่านมารุ่นพี่หัสดินหล่อขึ้นเรื่อยๆ และชีวิตของยู่ยี่ก็ดีมาก เธอแต่งงานกับรุ่นพี่หัสดิน และตอนนี้ก็ตั้งครรภ์อยู่ มันน่าอิจฉาจริงๆ รุ่นพี่หัสดินยังคงเป็นบุคคลชั้นสูงที่มีชื่อเสียงในเมือง S” เพื่อนๆ เธอพูดชมเชย

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เรนนี่ก็ทำแค่ยิ้ม และเลือกเสื้อผ้าให้ตัวเองต่อไป ตอนนั้นที่เขามาหา เธอได้เห็นเบาะแสบางอย่างจากการแสดงออกของเขาแล้ว

ปกติแล้วตอนที่เขามาหา เขาจะโอบเอวเธอก่อน ทั้งสองจะดื่มไวน์แดง และพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่น่าสนใจ จากนั้นค่อยสานสัมพันธ์ ก่อนจะจูบ และหลังจากนั้นก็…

วันนั้นท่าทางของเขาบนโซฟาแตกต่างไปจากปกติอย่างเห็นได้ชัด สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือยู่ยี่กำลังตั้งครรภ์!

ไม่สำคัญหรอก ยู่ยี่จะผูกมัดเขาไว้ได้นานแค่ไหนกัน?

อารมณ์ในการดูเสื้อผ้าของเธอถูกทำลายหมด ยู่ยี่เลยหยิบเสื้อผ้าตัวหลวมๆ สองตัว จากนั้นก็พูดกับหัสดินว่า “กลับไปคุยกัน”

หัสดินชำเลืองมองเธอ รับเสื้อผ้ามา และยื่นให้ผู้จัดการจัดการ “คุณอยากดื่มอะไร ผมจะไปซื้อให้”

“น้ำส้มแล้วกัน”

เมื่อเดินออกจากห้าง หัสดินก็กดโทรออก จากนั้นเขาก็ซื้อน้ำส้มหนึ่งแก้ว แล้วก็กลับไป ยู่ยี่ก้มศีรษะลง ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่

“ไปกันเถอะ ดื่มไปด้วยเดินไปด้วย อีกอย่างผมก็รู้ว่าคุณอยากจะคุยอะไรกับผม เรื่องพวกนั้นจบแล้ว ผมก็ลืมไปหมดแล้ว นอกจากนี้ ตอนนี้ผมก็มีคุณกับลูกแล้ว นั่นเป็นเพียงความผิดพลาดที่ไม่ได้ตั้งใจ”

เธอดื่มน้ำส้ม ก่อนที่ยู่ยี่จะขมวดคิ้ว “เธอป่วยจริงเหรอ ทำไมฉันถึงคิดว่าสีหน้าเธอดูดีกว่าฉันอีก”

“เธอหายดีแล้ว อีกอย่างทางคุณหมอก็มีผลการตรวจอยู่ ถ้าคุณไม่เชื่อผม ผมจะขอให้หมอเอามาให้คุณ คุณดูสิ ว่าเมื่อกี้ผมไม่ได้มองเธอเลยนะ”