ตอนที่ 1634 จับจ้านหัว

Monster Paradise

ตอนที่ 1634 จับจ้านหัว

 

หลินฮวง ใต้สวรรค์กับจ้านกวงกําลังเตรียมบินผ่านรอยแยกในเพดาน แต่ทันใดนั้นมุมมองด้านหน้าพวกเขาก็เริ่มสันอย่างรุนแรง จ้านจั๋วได้ย้ายทั้งหมดออกไป

 

เห็นได้ชัดว่าเขากังวลว่าหลินฮวงจะทําลายอาณาจักรของเขา เขาจึงย้ายทั้งหมดออกไปโดยไม่ลังเลเลย

 

ทั้งสามเพิ่งหยั่งเท้าได้อย่างมั่นคงก็ตอนรู้สึกถึงแรงดึงดูดมหาศาล

 

ทันใดนั้น พวกเขาก็ไม่อาจหยุดตัวเองจากการลอยกลับหลังไปทางประตูวัง

 

จ้านจั๋วกําลังควบคุมวังโบราณเพื่อขับไล่พวกเขา

 

หลินฮวงตัดสินใจ มีดบินของเขาเปลี่ยนเป็นเส้นแสงสีแดงที่พุ่งใส่จ้านจิ๋ว

 

เขารู้ว่าถ้าพวกเขาโดนขับไล่ออกวังโบราณกันจริง มันคงยากที่จะทําอะไรจ้านจั๋วได้อีก

 

การป้องกันของวังโบราณนั้นไม่ใช่สิ่งที่หลินฮวงจะสามารถทําลายได้

 

ไม่ใช่แค่นั้น มันมักมีระบบเคลื่อนย้ายด้วย

 

ทันทีที่ทั้งสามออกจากมิติที่วังโบราณตั้งอยู่ จ้านจั๋วจะกระตุ้นวังโบราณและหนีไปทันที จากนั้นมันคงยากที่จะหาตัวเขาอีก

 

จ้านจั๋วไม่กล้ารั้งความสามารถหลังเห็นมีดบินพลังจิตนับสิบล้านของหลินฮวงโจมตีใส่เขา

 

อาวุธเต๋าในมือของเขาแปรเปลี่ยนเป็นคลื่นกระบี่นับไม่ถ้วนที่พุ่งใส่มีดบินพลังจิต

 

คลื่นกระบี่แต่ละสายมีพลังสวรรค์ระดับสาม รวมถึงพลังลําดับเทพกว่าห้าพันสาย

 

แม้จะไม่มากเท่ามีดบินพลังจิต พวกมันก็ส่งมีดบินพลังจิตของหลินฮวง ซึ่งโดนผลาญพลังเทวะหมดแล้วให้กระดอนออกไปง่ายๆ

 

มีดบินพลังจิตของหลินฮวงรอบนี้เหมือนกับที่เขาใช้กับดาบดํา แม้กระทั่งพลังเทวะบนพวกมันก็ยังเดือดหาย นับประสาอะไรกับพลังสวรรค์

 

ตอนนี้ที่เขากําลังรับมือกับการโจมตีจากจ้านจั๋ว ผู้อยู่ในสภาพพร้อม มันจึงเลี่ยงไม่ได้ที่หลินฮวงจะดูเหมือนเหนื่อย

 

พอเห็นว่าทั้งสามกําลังจะโดนผลักไปที่ประตูวัง หลินฮวงก็แสยะยิ้มโดยไม่ตื่นตระหนก นิ้วของเขาขยับเล็กน้อย

 

วินาทีต่อมา การเคลื่อนไหวของจ้านจั๋วก็หยุดชะงัก

 

ทันทีทันใด ร่างของเขาก็บินไปทางหลินฮวงด้วยความเร็วที่เร็วกว่าหลายเท่า แต่ทว่า การเคลื่อนไหวของเขาดูแปลกประหลาดไม่ว่าจะมองยังไง

 

เขาดูเหมือนจะโดนรัดด้วยบางสิ่งและไม่อาจขยับกล้ามเนื้อได้ ไม่ใช่แค่นั้น มันชัดเจนว่าเขากําลังพุ่งไปทางหลินฮวงโดยไม่ต่อต้าน มันดูเหมือนจะมีบางอย่างกําลังดึงเขาไป

 

แวบแรก ใต้สวรรค์กับจ้านกวงตกตะลึง แต่ต่อมา พวกเขาก็ตระหนักว่าหลินฮวงกําลังใช้ด้ายพลังจิต

 

แม้มีดบินพลังจิตของเขาจะกระดอนไป ด้ายพลังจิตก็ได้แอบพัวพันรอบตัวจ้านจั๋วที่ละเส้น โดยที่เขาไม่รู้ตัวเลย

 

และในที่สุดหลินฮวงก็สามารถรัดคู่ต่อสู้ไว้ได้

 

ต่อให้จ้านจั๋วจะเสียใจ มันก็สายไปแล้ว

 

ขัดกับสมอง ร่างกายของเขาโดนด้ายพลังจิตของหลินฮวงดึงไปขณะที่เขาเองก็โดนผลักออกวังโบราณด้วยแรงผลักดันของมัน

 

เขามองประตูขนาดมหึมาที่ปิดตัวอย่างรวดเร็วรวมถึงเท้าของเขาที่แตะขั้นบันได จากนั้นทั้งสามก็จับจ้องเขาเหมือนเหยี่ยว

 

จ้านจั๋วรู้สึกเหมือนกําลังจะร้องไห้ แต่เขาไม่อาจหลั่งน้ําตาได้

 

เขาทําได้แค่โทษวังโบราณที่ฉลาดเกินไปและดําเนินการตามคําสั่งที่เขาให้โดนไม่บิดพลิ้ว พอถึงเวลาที่เขาจะตอบสนองและยกเลิกคําสั่ง หลินฮวงก็ได้ลากเขาออกมาแล้ว

 

“มันสายไปแล้วที่เจ้าจะคิดหนี” พอหลินฮวงพูด ดาบใบแคบก็พาดคอจ้านจั๋ว ดาบแหลมเฉือนเข้าเนื้อเขา ทําให้เลือดไหลซึม

 

จ้านจั๋วรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดและความเย็นที่แผ่จากคอของเขา

 

“ใครคือพวกของแกที่โจมตีศูนย์ใหญ่เคียวแห่งความตาย?”ใต้สวรรค์ถามขึ้นมาทันที

 

จ้านจั๋วเหลือบมองใต้สวรรค์”เจ้าคิดว่าข้าจะบอกหรือไง?”

 

“ข้าจะฆ่าเจ้าถ้าไม่ยอมบอก!”ดาบในมือหลินฮวงกดลึกลงไปอีกสองเซนติเมตร เฉือนเนื้อบนคอของจ้านจั๋ว ทําให้เลือดเริ่มไหลมากขึ้น

 

จ้านจั๋วสามารถสัมผัสได้ถึงเลือดอุ่นของตัวเองที่ไหลลงไหปลาร้า

 

ตอนนี้ ในที่สุดจ้านกวงก็พูด

 

“เจ้าควรรู้ดีถึงวิธีสอบปากคําของวิหารเทพนักรบเรา”

 

จ้านจั๋วสั่นสะท้านกับสิ่งที่จ้านกวงพูด

 

“ข้าไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร รู้แค่ว่าเขาไม่ได้มาจากแดนเทพ มีไรเดอร์ไม่มากในมหาพิภพ เพื่อความปลอดภัย เราไม่รู้จักตัวตนจริงกัน สิ่งเดียวที่เรารู้ก็คือฉายา ฉายาของหมอนั่นคือพูดพล่อย ข้ารู้แค่ว่าความสามารถของเขาควรสูงกว่าข้า”

 

“ถ้าเจ้าไม่รู้จักกัน งั้นติดต่อกันได้ไง?” หลินฮวงถาม

 

“ภารกิจเราทั้งหมดมอบหมายโดยเบื้องบน และเขาจะมอบเพื่อนร่วมงานให้เราด้วย” จ้านจั๋ว พูดต่อ” เพื่อภารกิจนี้ เราสองคนแยกกันทํางาน เราไม่ได้ติดต่อกันเลย เบื้องบนของเราได้กําหนดเวลาให้เราและบอกให้เราไปลงมือพร้อมกัน”

 

“งั้นเจ้าติดต่อเบื้องบนได้ไหม?” หลินฮวงถามอีกครั้ง

 

“เขาสามารถติดต่อข้าได้ แต่ข้าไม่สามารถ” จ้านจั๋วส่ายหัว

 

“แล้วถ้าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นและเจ้าต้องติดต่อเขาละ?”

 

“โดยทั่วไป เราจะพยายามแก้ปัญหากันเอง แต่ทว่า ถ้ามันเป็นเรื่องใหญ่จริง สายจะรู้ และพวกเขาจะติดต่อหัวหน้าเรา นั่นคือหน้าที่ของสาย มันไม่ใช่หน้าที่ของเรา”

 

“สายคือฉายาหรือเป็นตําแหน่งงาน?” หลินฮวงถามต่อ

 

“ข้าไม่แน่ใจ ข้าคิดว่าอาจเป็นไปได้ทั้งสอง”จ้านจั๋วตอบกลับหลังคิด

 

“เจ้าติดต่อสายได้ไหม?”

 

“ไม่ได้.”จ้านจั๋วพูดเสริม” ข้าคิดว่าเราควรข้ามเรื่องการคุยกับเขาไป ข้ามีความรู้สึกว่าเขาน่าจะอันตรายกว่าหัวหน้าข้า สายรู้ทุกอย่าง เขาอาจจับตาดูเราอยู่ก็เป็นได้”

 

หลินฮวงหรี่ตาลงทันที

 

“ บอกข้าเกี่ยวกับโครงสร้างภายในของไรเดอร์ เช่นอันดับสมาชิก ระดับพลังขอบเขตงาน”

 

“ระบบสมาชิกนั้นง่ายมาก มันคือระดับหนึ่งถึงห้า จากต่ําสุดไปสูงสุด มันเกี่ยวกับระดับพลังเป็นหลัก”

 

“จ้าวเทวะขั้นต่ําคือระดับหนึ่ง จ้าวเทวะขั้นกลางคือระดับสอง จ้าวเทวะขั้นสูงคือระดับสาม และจ้าวเทวะขั้นสูงสุดคือระดับสี่ เหนือกว่านั้นจะเป็นระดับห้า”

 

“จากสิ่งที่ข้าได้ยินมา ระดับห้าคือสูงสุด สําหรับว่าพวกเขามีอันดับที่สูงกว่านั้นไหม ข้าไม่แน่ใจ เหนือสิ่งอื่นใด มีข้อมูลมากมายที่ข้าไม่อาจเข้าถึงด้วยสิทธิ์ระดับหนึ่งของข้า”

 

“งั้นหัวหน้าเจ้าก็คือระดับสองรวมถึงสาย?”

 

“ข้าไม่แน่ใจเกี่ยวกับสาย แต่หัวหน้าข้าต้องเป็นระดับสอง ไม่งั้น มันคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสั่งการเรื่องทั้งหมดในมหาพิภพได้” จ้านจั๋วพูด

 

“มีสมาชิกมากแค่ไหนในมหาพิภพของเรา?” หลินฮวงถามอีกครั้ง

 

“ข้าไม่รู้จํานวนแน่ชัด แต่มีสี่คนที่มีฉายาต่างกันที่ข้าทํางานด้วย ถ้านับรวมข้า หัวหน้าข้ากับสาย ก็จะมีอย่างน้อยเจ็ด แต่ทว่า การคาดเดาของข้าคือมีไม่เกินสิบ”จ้านจั๋วเดา