“อะไรกัน! พวกเขาหนีไปต่อสู้กับบอส Athos เฉยเลย และไม่สนว่าพวกของ ThornyRose จะตายเลย” ซูหยี่ยี่เฝ้าดูพวกของ ThornyRose ทั้ง 3 คนที่คอยต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามทั้ง 5 คน และยังมีความได้เปรียบมากอีกด้วย แต่ทันใดนั้นทั้งสองฝ่ายก็หยุดชะงักลง
[Athos the Skeleton Demon ได้ถูกสังหารโดยทีม Thorn and Roses ได้รับ 300 แต้มวิญญาณ ค่าสถานะทั้งหมด +10%]
ThornyRose ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และอัพเกรดโล่ของเธออย่างรวดเร็ว ด้วยบัฟเพิ่มค่าสถานะทั้งหมด 10% ทำให้สมาชิกทีม Broken Halberd ทั้ง 5 คนถูกทุบตีโดยกลุ่มคน 3 คนของ ThornyRose ทำให้ Halberd ถอนหายใจ และฟื้นคืนชีพกลับมาที่ฐาน “ทรัพยากรของพวกเรากับพวกเขาแตกต่างกันมากเกินไป และมีเพียงแค่ CapableLiu คนเดียวที่มีเลเวล 6 หลังจากที่พวกเเราถูกฆ่า เราก็ไม่มีหนทางใดที่จะฉกฉวยโอกาสจากพวกเขาได้อีกต่อไป ตอนนี้พวกเราออกไปป้องกันป้อมกันก่อนเถอะ”
“นั่นคือทั้งหมดที่เราสามารถทำได้ ทุกคนใช้แต้มวิญญาณที่เหลือซื้อน้ำยาเพิ่มความแข็งแกร่งชั่วคราว แล้วค่อยใช้เมื่อพวกเขามาถึงตรงนี้แล้วกัน ถ้ามีโอกาสก็ฆ่าพวกเขาไปเลย” CapableLiu พยักหน้า
“ทุกคนรวมตัวบุกเลนกลางเลย!” ThornyRose ตะโกนออกมา
กลุ่มของเย่ฉางทั้งสามคนมาที่เลนกลาง และได้พบกับผู้หญิงทั้งสามคน เมื่อเห็นความเกลียดชังของ ThornyRose เย่ฉางจึงรีบกางแขนของเขา “ในเวลานั้น ฉันคิดว่าเธอไม่สามารถมีชีวิตรอดได้ แทนที่จะให้คนอื่นได้รับผลประโยชน์ เป็นฉันลงมือจัดการเองน่าจะดีกว่านะ เธอต้องมองภาพรวมสิ สิ่งนี้มันดีสำหรับทีมนะ เธอควรจะเข้าใจ…”
ThornyRose ชี้ไปที่เย่ฉาง แต่ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ หน้าอกของเธอกระชับแน่น สิ่งนี้ทำให้ ElegantFragrance แอบคิดกับตัวเอง ‘เธอใกล้ที่จะระเบิดเต็มที่แล้ว’ แล้วเข้าไปจับเธอไว้อย่างรวดเร็ว “เรายังต้องชนะ ต้องชนะอยู่นะ…”
ThornyRose หันกลับไปและถอนหายใจ ทุกคนได้เริ่มการโจมตีครั้งสุดท้าย ไล่ตีป้อมที่ 1 ป้อมที่ 2 จนมาถึงฐานฝ่ายตรงข้าม จางเจิ้งเฉียงคำรามเปิดใช้งานพลังซี่เพิ่มพลังป้องกัน จากนั้นเขาก็พุ่งตัวออกไปแท้งค์ป้อม เมื่อทุกคนพุ่งตามติดเขาไป เขาจึงเปิดใช้สกิล! [Qi Burst – Elements – Ice Ruin]! ฝ่ามือของเขาได้ปลดปล่อยหนามน้ำแข็งออกไปข้างหน้าหลายสิบเมตร ในขณะที่จางเจิ้งเฉียงกำลังแท้งค์ป้อม หลินหลี่ก็พุ่งมาถึงพร้อมกับเปิดใช้งานสกิล [Giant Beheader]! [Crushing Blow]! ก่อนที่ศัตรูจะมาถึง ป้อมของพวกเขาก็ถูกโจมตีอย่างรุนแรงไปถึงสองครั้งแล้ว
“ความสามารถในการทำลายป้อมของนักรบดาบยักษ์จะน่ากลัวเกินไปแล้ว…” พี่ใหญ่เฉาจ้องมองอย่างว่างเปล่า พวกเขาเพียงแค่เลเวล 9 เท่านั้น…
“ปัญหามันอยู่ที่สกิลของเขา [Giant Beheader] และ [Crushing Blow] ทั้งสองสกิลนี้มีประสิทธิภาพที่รุงแรงมากต่อคนและป้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ และสิ่งก่อสร้างต่างๆ ฉันเคยคิดถึงการใช้งานในด้านใหม่ๆของนักรบดาบยักษ์ มันสามารถใช้ต่อสู้กับพวกตัวละครที่มีสัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่ และตัวละครประเภทที่สามารถเปลี่ยนร่างได้ดี ถ้าตัวละครเหล่านี้พบกับนักรบดาบยักษ์ พวกเขาจะเจอปัญหาที่ยุ่งยากเป็นอย่างมาก แต่การเล่นนักรบดาบยักษ์ของปีศาจหลี่คนนี้ เขาเน้นไปที่ป้อมและสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่เท่านั้น เขาใช้แทคติคการ PvP ที่ชาญฉลาดมาก เขาใช้นักรบดาบยักษ์เป็นคนแรกเพื่อยับยั้งศัตรูทั้งหมด แล้วใช้ความเสียหายมหาศาลของนักรบดาบยักษ์ จัดการศัตรูด้วยการระเบิดพลังเพื่อฟันเพียงครั้งเดียว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ตายด้วยการระเบิดพลังฟันครั้งนั้นก็ตาม แต่ศัตรูก็จะได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน” พี่ใหญ่จงพูดขึ้นมาขณะที่กำลังเฝ้าสังเกตสกิลของนักรบดาบยักษ์
“ฉันมีข้อสันนิษฐานว่าสามพี่น้องแห่งหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะ จะส่องประกายในการแข่งขันลีคครั้งนี้…” ซูหยี่ยี่ยิ้ม
“เธอไม่ต้องมาพูดเลย…” พี่ใหญ่เฉาและพี่ใหญ่จงกรอกตาของพวกเขาไปมา
“อ๊ะ…” ซูหยี่ยี่ค่อนข้างอับอาย เธอกำลังถูกดูถูกโดยคนที่ผู้ชายที่อยู่ในชุดนอน และผู้ชายที่มีทรงผมสีทองที่เหมือนกับตัวละครในอนิเมะ
“โอ้ พี่ใหญ่วีรบุรุษกำลังจะลงมือแล้ว…” พี่ใหญ่เฉาชี้ไปที่หน้าจอ นักดาบปีศาจของเย่ฉางกำลังเดินเข้ามาอย่างช้าๆ พร้อมกับเสียงของดาบที่ดังกริ๊กกริ๊กโดยไม่กังวลเกี่ยวกับศัตรูที่กำลังพุ่งเข้ามาแม้แต่นิดเดียว ในพริบตานั้น ดาบของเย่ฉางก็ถูกดึงออกมา การโจมตีคอบโบที่บ้าคลั่งของเขาปรากฏขึ้นเพื่อฆ่าศัตรูอีกครั้ง จากนั้นเขาก็เก็บดาบลงฝักอย่างสงบ และเริ่มเอาหัวแม่มือดันดาบจนส่งเสียงดึงกริ๊กกริ๊กจนดังสะท้อนไปทั่วทั้งฐานของศัตรู
“ทำไมเขาถึงเอาแต่เล่นกับดาบ? การกระทำของเขาเหมือนกับการกระทำที่ไร้ประโยชน์ไม่ต่างจากการเล่นไฟแช็กเลย” ซูหยี่ยี่รู้สึกสับสนมาก
“มันอาจจะเป็นนิสัยส่วนตัวของเขา แต่การเล่นกับดาบของเขาไม่ใช่เรื่องไร้ประโยชน์ กระที่เขาดันดาบไปมาเพื่อเตรียมการใช้งานต่างหาก ลองดูฉากตั้งแต่ตอนที่เขาทำคอมโบ 65 คอมโบดูสิ หลังจากที่เขากวัดแกว่งดาบด้วยมือสองข้างแล้ว เขาก็คว้าดาบสั้นจากไหล่ที่อยู่อีกด้านหนึ่งออกมา นี่คือการเพิ่มประสิทธิภาพ และลดการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นออกไปเพื่อเพิ่มความเร็วให้กับเขา แม้ว่าจะเร็วกว่าเดิมเพียงเล็กน้อย น้อยมากจนไม่สำคัญอะไร แต่ก็ยังคงเร็วขึ้นอยู่ดี สำหรับการเคลื่อนไหวที่ส่งเสียงดังกริ๊กกริ๊กนั้นก็คือ การกำหนดจังหวะของเขา เธอไม่สังเกตเห็นเหรอ? เวลาที่เขาทำเสียงกริ๊กกริ๊กจะเว้นห่างกันทุก 1 วินาทีเป๊ะๆ ไม่มีมากหรือน้อยไปกว่านั้น ผู้ชายคนนี้อาจจะเป็นเหมือนกับ CloudDragon เขาน่าจะเป็นคนที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ในโลกแห่งความเป็นจริงด้วย” พี่ใหญ่เฉาพูดขึ้นมาพร้อมกับโชว์ฉากจากก่อนหน้านั้น
“ไม่เพียงแค่นั้นนะ…” พี่ใหญ่จงใช้ภาพซุปเปอร์สโลว์ในฉากคอมโบที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น และชี้ไปที่การเคลื่อนไหวของเย่ฉาง “นี่คือการชักดาบออกจากฝักที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา ตั้งแต่ช่วงเวลาที่ดาบออกจากฝักไปจนถึงการฟาดฟันไปที่ศัตรู มันเป็นการฟันที่ตรงไปตรงมาโดยไม่มีการเคลื่อนไหวที่ไร้ประโยชน์แม้แต่นิดเดียว การขยับดาบของเขายังทำเพื่อลดความต้านทานต่ออากาศมากที่สุดอีกด้วย ขั้นตอนทั้งหมดของเขามีความสงบ และมั่นคงเป็นอย่างมาก เธอเห็นขั้นตอนทั้งหมดนี่แล้วใช่ไหม? ไม่มีการเคลื่อนไหวที่ไร้ประโยชน์แม้แต่นิดเดียว แม้แต่การก้าวย่างของเขาก็สมดุลไปหมด นี่คือฆ่าที่มุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพสูงสุด…” พี่ใหญ่จงอธิบายอย่างละเอียด
CloudDragon ผู้ที่กำลังชมการแข่งขันเห็นด้วยกับคำพูดของพี่ใหญ่จง การเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันเหล่านี้คือปฏิกิริยาที่สมบูรณ์แบบ แม้ว่าพวกเขาจะดูเป็นปกติมาก แต่หลังจากที่มีการต่อสู้แลกเปลี่ยนกันแล้ว พวกเขาก็จะทราบว่าการกระทำเหล่านี้ มันยากลำบากมากแค่ไหน
MistyVeil ได้รับข่าวใหม่ว่าพี่ใหญ่วีรบุรษได้ทำลายสถิติการคอมโบของนักดาบปีศาจไปซะแล้ว เธอเดินออกจากพื้นที่อื่นเพื่อไปดูภาพรีเพลย์ เธอเฝ้ามองการฟันดาบ การดึงดาบ การเก็บดาบ และการเคลื่อนไหวต่างๆ การฟาดฟันที่สมบูรณ์แบบ 10 ครั้ง ยิ่งเธอมองดูมากเท่าไหร่ คิ้วของเธอก็ยิ่งขมวดมากขึ้นเท่านั้น นี่เป็นผู้เล่นที่มีการโจมตีที่ดุดันอย่างน่าเหลือเชื่อ เธอยังคงเฝ้ามองต่อไป เธอไม่เคยคาดหวังว่าจะได้พบสไตล์การเล่นใหม่ๆสำหรับนักรบดาบยักษ์ ส่วนจอมหมัดเหล็กคนนี้ก็มีความแข็งแกร่งที่น่าอศัจรรย์มาก ด้วยความแข็งแกร่งนี้ได้ทำให้ใครหลายคนมองเห็นเขาเป็นภัยคุกคามอันดับ 1 อย่างไม่แปลกใจเลยทีเดียว แต่ CloudDragon กลับคิดแตกต่างออกไป สิ่งที่น่ากลัวที่สุดเกี่ยวกับจ้าวแห่งเพชรคนนี้ ก็คือกลิ่นอายของเขา กลิ่นอายของเขามันให้ความรู้สึกว่า แม้ว่าพระเจ้าจะยืนขวางทางเขา เขาก็จะพุ่งเข้าไป และฉีกกระฉากพระเจ้าออกเป็นชิ้นๆ กลิ่นอายนี้ทำให้เขาคิดถึงคำพูดของตัวตนทางประวัติศาสตร์ – เอจิส (เอจิส คือกษัตริย์องค์แรกของสปาร์ตัน) ที่เคยกล่าวไว้ว่า “ชาวสปาร์ตันจะไม่ถามว่าศัตรูมีจำนวนเท่าไร แต่ถามว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน…”
MistyVeil ดูรีเพลย์ของหลินหลี่ในการต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งจนถึงรอบที่สาม การได้รับชนะของเขาดูเหมือนจะได้รับมาจากความโชคดี “นี่เป็นผู้เล่นที่ถูกประเมินอย่างจริงจังโดยสโมสรอื่นๆ เขา และจักรพรรดิดอกเบญจมาศมีความคล้ายคลึงกันด้วยเหตุผลที่ว่า พวกเขาเป็นอัจฉริยะที่โง่เขลา แม้ว่าเขาจะเป็นโง่ แต่ก็ไม่มีใครสามารถขัดขวางเขาได้ เพราะคนประเภทนี้เป็นพวกที่ไม่มีขีดจำกัดล่าง พวกเธอมีแม้กระทั่ง DarkBlade อีกด้วย ThornyRose ได้เฟ้นหาผู้เล่นจากทั่วทุกแห่งหนเพื่อสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพขึ้นมาจริงๆ…”
“Thorns and Roses … ชักจะเริ่มน่าสนใจขึ้นมานิดหน่อยแล้วสิ …” Flame Emperor เลิกคิ้วขึ้น แต่แล้วเขาก็หันตัวเดินออกไปจากห้องนั่งเล่น
ThornyRose ขว้างดาบของเธอออกไปเจาะทะลุผ่านหน้าอกของ CapableLiu เมื่อเธอกำลังจะวิ่งถอยไป ThornyRose ก็ใช้บลิ้งมาอยู่ตรงหน้าเธอ ThornyRose ดึงดาบออกมา และใช้สกิล [Divine Cut] ตัดร่างของเธอออกไปครึ่งร่าง “ไปทำลายฐานศัตรูซะ…”
ThornyRose หันไปมองเย่ฉาง, จางเจิ้งเฉียง และหลินหลี่ผู้ที่ไม่มีจริยธรรมของมืออาชีพที่กำลังซ่อนตัวอยู่รอบๆ คอยดักซุ่มโจมตีตรงจุดเกิด ทีม Broken Halberd รู้ดีว่าพวกเขาได้พ่ายแพ้แล้ว พวกเขาจึงเดินออกจากจุดฟื้นคืนชีพ และวางแผนที่จะออกไปแสดงความยินดีกับอีกฝ่าย แม้ว่าพวกเขาจะพ่ายแพ้ แต่พวกเขาได้เรียนรู้มากมาย ในขณะที่พวกเขาเดินออกจากพื้นที่ปลอดภัย กลุ่มของเย่ฉางทั้งสามคนได้ปลดปล่อยสกิลที่มีทั้งหมดของพวกเขาออกไป จนฆ่าพวกเขาทั้งหมดไปอีกครั้ง
จากนั้นพวกเขาทั้งสามคนก็ยกมือทำท่าไฮไฟว์กัน
“เพื่อน สกอร์การฆ่าของนายเยอะมาก นายฆ่าไปตั้ง 12 ครั้ง ฉันเพิ่งฆ่าได้แค่ 7 ครั้งเอง” จางเจิ้งเฉียงยิ้มด้วยความอิจฉา
“ผมฆ่าได้แค่ 4 ครั้งเอง แต่ผมก็ได้ทำลายป้อมไป 6 ป้อมเลยนะ!” หลินหลี่แสดงข้อมูลของเขาอย่างตื่นเต้น
“ไม่เลวเลยทีเดียว เราไปหาที่อื่นเพื่อซ่อนตัวกันอีกครั้งดีกว่า และฆ่าพวกเขาในกรณีที่พวกเขาพยายามที่จะออกมาจากจุดฟื้นคืนชีพอีกครั้ง” เย่ฉางเสนอแผนการ และแสดงท่าทางเหมือนนักยุทธศาสตร์ระดับแกรนด์มาสเตอร์ ทั้งสามคนกลับไปหาที่ซ่อนที่อื่นอีกครั้ง
“เอ่อ… พฤติกรรมแบบนี้ผิดต่อกฏระเบียบใช่ไหม?” ซูหยี่ยี่สั่นสะท้าน
“กฏไม่ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจน แต่มันก็ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดี และโดยทั่วไปก็ไม่มีใครทำแบบนั้น…” พี่ใหญ่เฉาพูดออกมา รู้สึกละอายใจในนามของพวกเขา
“แต่ตอนนี้มีแล้ว…” พี่ใหญ่จงอดยิ้มออกมาไม่ได้
กลุ่มผู้ชมเริ่มด่าทอเหยียดหยาม, หัวเราะ, เยาะเย้ย, ส่งเสียงเชียร์ไปทั่วบริเวณจนเกิดเป็นเสียงที่ดังกระหึ่ม สามพี่น้องจากหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากนับจากนี้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย กลุ่มแฟนคลับสามพี่น้องเพิ่งถูกก่อตั้งได้ไม่นานนี้เอง แต่พวกเขาถึงกับมีแฟนคลับที่เข้าร่วมมากกว่า 10 ล้านคนแล้ว ซูหยี่ยี่ที่เฝ้าดูได้ตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ “พวกเขามีชื่อเสียงมากขนาดนี้เลยหรือ?”
“ประการแรก พวกเขาทั้งสามคนเป็นคนที่ดูสนุกสนาน ประการที่สอง พวกเขามีความแข็งแกร่งมาก เป็นเวลานานมากแล้วที่ไม่มีผุ้เล่นที่น่าสนใจอย่างพวกเขาปรากฏตัวขึ้นในสโมสร เธอควรจะรู้ไว้ว่า กลุ่มสามพี่น้องแห่งหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะ มีแฟนคลับนับล้านในเกมเสมือนจริง แม้ว่าการแคมป์ปิ้งครั้งนี้จะดูน่าละอายใจมากก็ตาม” พี่ใหญ่เฉายิ้ม
“หลินหลี่ นายออกไปเต้นยั่วยุพวกเขาหน่อยสิ ทำให้แน่ใจด้วยว่า นายสามารถล่อพวกเขามาได้นะ” เย่ฉางสั่งให้หลินหลี่เป็นตัวล่อให้กับพวกเขา
หลินหลี่เดินตรงไปที่หน้าเขตปลอดภัย และเริ่มเต้นยั่วยุ ThornyRose และสาวๆที่กำลังทำลายฐานศัตรูกันอยู่ มองเห็นการเต้นที่น่ารักของหลินหลี่ เขาตบก้นไปมา ปั้นหน้าปั้นตา และทำท่าทางเหมือนกับลูกแมวน่ารัก เมื่อทุกคนเห็นฉากนี้ก็อดจะส่งเสียงออกมาไม่ได้ ‘ฮิ้ววว’ อย่างไรก็ตาม สำหรับสมาชิกทีม Broken Halberd พวกเขาไม่สามารถแบกรับความอัปยศครั้งนี้ได้อีกต่อไป “เมื่อฉันนับถึง 3 ให้ทุกคนพุ่งตัวออกไปพร้อมกันเลยนะ! ไม่ว่าผลการแข่งครั้งนี้จะเป็นยังไงก็ช่างมัน แค่เราจะต้องฆ่าไอพวกสามพี่่น้องบัดซบพวกนี้ให้ได้!”
“1, 2, 3 ไป!” Halberd ร้องตะโกน Buckwheat, InstantNoodles และ Kate, พากันพุ่งออกไปหาหลินหลี่ทั้งหมด และถูกฆ่าตายอย่างรวดเร็วโดยการฟาดฟัน, พลังซี่ และดาบยักษ์ของพวกสามเกรียน Halberd ที่พุ่งตัวออกมาจากเขตปลอดภัยได้เพียงเล็กน้อยรีบถอยกลับเข้าไปอย่างรวดเร็ว เขาสังเกตเห็นว่า CapableLiu และ WiseSea กำลังนั่งยองๆอยู่ที่เดิม และไม่ได้วางแผนที่จะเคลื่อนไหวไปไหนเลย จากนั้นเขาก็หันไปมองดวงวิญญาณทั้งสามดวงที่กำลังลอยตัวอยู่ในโหมดผี เขาลูบคางของเขา และพูดขอโทษออกมา “ฉันหุนหันพลันแล่นเกินไป เรามารอที่เขตปลอดภัยจนกว่าฐานจะพังกันเถอะ”
“เชี่ยเอ๊ย! พฤติกรรมของสามพี่น้องแห่งหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะ ทำให้ฉันขนหัวลุกชิบหายเลย… แต่ฉันก็ชอบนะ~~”
“ไร้ยางอายเกินไปแล้ว! พวกเขาสามารถทำสิ่งเหล่านี้กับใครบางคนที่จุดเกิดได้อย่างไรกัน! ช่างง่ายดาย! และเรียบง่ายยิ่งนัก! นี่มันจะน่ากลัวเกินไปแล้วน๊า~~”
“เอ่อ… พวกพี่คะ นี่เป็นพฤติกรรมที่ผิดศีลธรรมหรือไม่? กลุ่มสามพี่น้องทำผิดแปลกไปจากตำราจริงๆ ตอนต้นเกมก็ปล่อยป้อมทิ้งไว้และไปซุ่มรออยู่ในพุ่มหญ้าตั้งนาน แถมยังมาดักหน้าจุดเกิดฝ่ายตรงข้ามแบบนี้อีก”
“นี่เป็นเรื่องที่ไร้มนุษยธรรมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น…”
“กลุ่มสามพี่น้องกลุ่มนี้ สมควรที่จะเป็นคนของสหพันธ์เกาหลีของเราอย่างแท้จริง คุณสามารถบอกได้ถึงความเป็นเกาหลีของพวกเขา จากการที่พวกเขาแคมป์ปิ้งที่จุดเกิด…”
“ช่างเป็นคนจีนที่น่ารังเกียจมากจริงๆ คุณทำสิ่งที่น่ารังเกียจมากจริงๆ! คุณทำให้คนอื่นๆดูถูกจริงๆ”
“เฮ้อ ทุกครั้งที่ฉันเห็นทั้งสองภูมิภาคต่อสู้กัน ฉันไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยนอกจากอาการประสาทจะกิน แต่หลังจากผ่านไปนานฉันก็ได้เรียนรู้ว่าฉัน… มีภาวะทางจิตใจที่ไม่ได้จริงๆ!!!@!@$!@!@มึง$!@$!@$@!!!!”
“……”
“กลยุทธ์ของพี่ใหญ่วีรบุรุษได้นำชัยชนะมาสู่ทีม Thorns and Roses!”
“การแข่งขันครั้งสุดท้ายเป็นโหมดความบันเทิง มีผู้ชมหลายคนชื่นชอบโหมดความบันเทิงมากจริงๆ ฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน” ซูหยี่ยี่ยิ้ม