ตอนที่ 825 : แมงมุมพิษมังกร

Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน

ตอนที่ 825 : แมงมุมพิษมังกร

 

“สายพันธุ์มังกรอย่างนั้นหรือ?” ฉินหยุนถามขึ้นภายในใจ

 

“เป็นไปได้มาก! มันน่าจะเป็นตัวตนพิเศษที่ถูกเก็บเอาไว้ที่นี่ จนกระทั่งกาลเวลาผันผ่านจนส่งผลให้พวกมันวิวัฒนาการขึ้นมา!” หลิงหยุนเอ๋อตอบคํา “เสียวหยุน แมงมุมเหล่านี้ไม่พบเจอตัวเจ้า ดังนั้นวางใจได้!”

 

ฉินหยุนรู้สึกโล่งใจขึ้นมาก เพราะเขาสัมผัสได้ว่าแมงมุมเหล่านั้นเมื่อครูมีออร่าของแก่นเต๋า อวัยวะภายในและแก่นเต๋ที่พวกมันกินเข้าไป จะต้องเป็นแหล่งพลังงานในร่างพวกมัน

 

เขากระทั่งลอบนับถือต่อความกว้างใหญ่และหลากหลายของโลกใบนี้ สิ่งมีชีวิตเช่นนี้ถึงขั้นสามารถถือกําเนิดขึ้นได้ เรื่องนี้คงเป็นสิ่งที่บรรพบุรุษตระกูลหลงไม่เคยคาดคิดถึงมาก่อนเป็นแน่

 

อย่างกะทันหัน เสียงอึกทึกพลันดัง ฉินหยุนสัมผัสได้ ว่าฝูงแมงมุมพลันลอยตัวขึ้น เขามองผ่านทางเนตรวิญญาณ แมงมุมจํานวนมากหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยและรวดเร็ว พวกมันมุ่งหน้าเข้าหาชายวัยกลางคนผู้ซึ่งเพิ่งลงมาเบื้องล่าง

 

ชายวัยกลางคนทั้งสอง เป็นราชันยุทธ์ของตระกูลหลง ขณะบินลงมา พวกเขาพลันต่อยหมัดออกซึ่งหน้า

 

ตู้ม!

 

อีกฝ่ายสมกับที่เป็นราชันยุทธ์ตระกูลหลง ยามเมื่อบินลงมา พวกเขาสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหว จึงตอบสนองในทันควัน ฝูงแมงมุมในที่สุดจึงถูกโจมตี

 

แมงมุมกว่าสิบตัวร่วงหล่นลงมาเมื่อถูกแรงปะทะ พวกมันร่วงหล่นเข้าใส่กองหีบเบื้องล่างก่อนจะถูกหีบเหล่านั้นกลบฝังอีกที่หนึ่ง

 

บริเวณซึ่งฉินหยุนอยู่เวลานี้ได้รับผลกระทบเช่นกัน ทําให้เขาไม่มีทางเลือก ต้องใช้ความสามารถเทวะทะลุทะลวงเผ่นหนีไปพื้นที่อื่นพร้อมหลบซ่อนตัวตน

 

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยยังคงเงียบ นางยังอยู่ระหว่างการผสานรวมกับเนตรศักดิ์สิทธิ์ ฉินหยุนเองก็เช่นกัน ทว่าเขาสามารถอดทนต่อความเจ็บปวดขณะพิจารณาสถานการณ์ไปด้วยได้

 

เมื่อครู่ ผู้คนของตระกูลหลงย่อมได้เห็นแมงมุมมังกร แม้เป็นเพียงชั่วพริบตา มันก็มากพอให้พวกเขาได้พิจารณาจากรูปร่าง ว่าพวกมันเหล่านั้นคือแมงมุมมังกร

 

ใบหน้าของพวกเขายิ่งน่าเกลียดและสยดสยอง ราชันยุทธ์ตระกูลหลงเหล่านี้เร่งรีบบินขึ้นบน

 

“นั่น เป็นแมงมุมพิษมังกรโบราณ!” ราชันยุทธ์ผู้หนึ่งร้องตะโกนแจ้ง

 

“แมงมุมพิษมังกรยุคโบราณ? เจ้าตัวเช่นนั้นไปอยู่ในนั้นได้อย่างไร?” สองครึ่งเซียนเผยสีหน้าแปรเปลี่ยนทันที่ยามได้ยิน

 

“ข้าไม่อาจทราบ! หากความทรงจําจากตําราโบราณไม่ผิดเพี้ยน พวกมันมีแปดขาพร้อมกรงเล็บมังกร ร่างกายมีเกล็ดมังกร ทั้งตัวเป็นสีดํา เป็นดังตํานานกล่าวขาน แมงมุมพิษมังกรเหล่านี้เคลื่อนไหวได้รวดเร็วยิ่ง!” ราชันยุทธ์คนเดิมกล่าวเสริม

 

เมื่อครู่ แมงมุมพิษมังกรเพิ่งทะยานร่างออกโจมตี กระนั้นพวกมันไม่อาจกินราชันยุทธ์ได้สําเร็จ กระทั่งถูกทําให้ต้องถอยร่น ทว่าพวกมันหาได้บาดเจ็บใดไม่ นี่คือสิ่งที่ชวนสะพรึง

 

“ผู้อาวุโส พวกเราควรทําอย่างไรดีแล้ว? จับแมงมุมพิษมังกรเหล่านี้ หรือไปจากที่นี่?”

 

“แมงมุมพิษมังกรพวกนั้นยังอยู่สภาวะเพิ่งออกจากไข่ ร่างพวกมันยังไม่มีพิษ!” ครึ่งเซียนผู้หนึ่งลังเล “กระนั้นพวกมันก็ไม่ใช่ง่ายรับมือ แมงมุมพิษมังกรไม่หวาดกลัวน้ำหรือว่าไฟ นอกจากนี้แล้ว พวกมันยังมีพลังการเอาตัวรอดอันแข็งแกร่ง ทั้งยังฟื้นตัวได้รวดเร็วมาก!”

 

ได้ยินเช่นนี้ ฉินหยุนต้องลอบหวาดกลัว เขายังคิด ว่าแมงมุมพิษมังกรเหล่านี้วิวัฒนาการขึ้นโดยธรรมชาติ เขาไม่เชื่อว่าพวกมันจะเป็นแมงมุมพิษมังกรจากครั้งโบราณ

 

แม้เขาทราบว่ามีแมงมุมมังกรที่ถูกเรียกขานแมงมุมพิษมังกร ทว่าข้อสงสัยยังคงมี แมงมุมพิษมังกรเหล่านี้ไม่ได้กลืนกินเนตรศักดิ์สิทธิ์แม้ผ่านเวลามานานนับ นอกจากนี้แล้ว พวกมันยังคล้ายเป็นผู้ปกปักษ์เนตรศักดิ์สิทธิ์

 

ฉินหยุนเวลานี้ยังไม่อาจผสานรวมกับเนตรศักดิ์สิทธิ์ได้โดยสมบูรณ์ เขาจึงไม่ทราบว่าเนตรศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับมาครอบครองพลังอํานาจเช่นไร

 

ระหว่างที่ผู้คนของตระกูลหลงลังเล ว่าจะจับแมงมุมพิษมังกรหรือไม่ ยอดยุทธ์หลายคนเบื้องบนฟากฟ้า เวลานี้ต่างกรีดร้องกระอักเลือดสาดกระเซ็น หน้าท้องพวกเขาถูกขุดลึกเป็นรูเปิดให้เห็นเด่นชัด ว่าอวัยวะภายในและแก่นเต้ไม่มีอีกต่อไปแล้ว!

 

“เร่งรีบหนี!” ครึ่งเซียนร้องตะโกน

 

ผู้คนตระกูลหลงต่างไม่คิดอยู่รับชมเรื่องราวต่อ เวลานี้ต่างเริ่มเผ่นหนี ระหว่างบินหนี หลายคนต่างถูกโจมตีกันคนแล้วคนเล่า

 

ฉินหยุนควบคุมเนตรวิญญาณลอยขึ้นกลางอากาศ รับชมผู้คนเหล่านั้นที่พยายามหลบหนี ทว่ากลับต้องร่วงโรยกันไปทีละคน ทีละคน ภายในยังต้องลอบอุทานร้อง กล่าวได้ว่ากว่าครึ่งของผู้คนตระกูลหลงซึ่งมาที่นี้ เวลานี้ล้มหายตายจากไปเรียบร้อยแล้ว

 

แมงมุมพิษมังกรยังคงรวดเร็ว กระทั่งครึ่งเซียนยังไม่อาจจับตัวพวกมันไว้ได้ นอกจากนี้แล้ว พวกมันยังมีมากมาย มีแต่ราชันยุทธ์ จักรพรรดิยุทธ์ และครึ่งเซียนที่ไม่ถูกโจมตี คนหนุ่มบางคนที่ฉลาดพอ จะเลือกหลบใกล้ชิดครึ่งเซียนและจักรพรรดิยุทธ์ เพื่อที่จะได้หลบหนีพ้นจากภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้

 

“พี่ชาย ข้าไม่เป็นไรแล้ว!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยส่งเสียงเบาแจ้งบอก

 

“สบายดีแล้วจริงหรือ?” ฉินหยุนยังคงรู้สึกปวดหัวอยู่

 

“ใช่!” เสี่ยวเย่ว์เหม่ยเผยยิ้ม “พวกเราสองได้รับเนตรศักดิ์สิทธิ์คนละหนึ่ง แม้เป็นเพียงหนึ่ง ทว่ามันก็วิเศษมากพอแล้ว!”

 

“เย่ว์เหม่ย เจ้าเป็นผู้มีประสบการณ์ บอกต่อข้า ว่าพลังของเนตรศักดิ์สิทธิ์นี้คืออะไร ข้ายังต้องทนแบกรับความเจ็บปวดจากการผสานรวมกับเนตรศักดิ์สิทธิ์ เวลานี้ยังคงรู้สึกปวดหัวราวกับมันจะระเบิดออก!” ฉินหยุนเอ่ยถาม

 

“ตอนนี้ข้าไม่อาจทราบ… พลังของเนตรศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ! หากผู้คนมีความสามารถหรือวิญญาณยุทธ์ที่เหมาะสมร่วม พลังของเนตรศักดิ์สิทธิ์จะแตกต่างออกไปตามแต่ละคน! เป็นไปได้ว่าเนตรศักดิ์สิทธิ์ของข้าครอบครองพลังที่แตกต่างจากของท่าน!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเอ่ยอธิบาย

 

แม้ฉินหยุนแบกรับความรู้สึกปวดศีรษะจนแทบระเบิด เขาก็ยังไม่อาจหย่อนความระวัง เพราะเขาไม่อาจมั่นใจว่าแมงมุมพิษมังกรยังอยู่แถวนี้อีกหรือไม่

 

ไม่ช้า ฉินหยุนจึงบอกต่อเซี่ยวเย่ว์เหม่ย ถึงเรื่องของแมงมุมพิษมังกร เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเกิดความรู้สึกนึกถึงยามได้รับฟัง นางเร่งรีบนํากระจกออกมา

 

ฉินหยุนมองที่กระจก พบว่ามีจุดแสงเพียงหนึ่งในละแวกนี้ปรากฏในกระจก

 

“ร่างวิญญาณในกระจกที่ปรากฏนี้ มันไม่ใช่เนตรศักดิ์สิทธิ์ดังที่คาดเดา ทว่าเป็นสิ่งอื่น!” ฉินหยุนอุทาน

 

“ราชินีแมงมุมพิษมังกรยังอยู่ที่นี่!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยส่งเสียงสื่อสารบอกต่อฉินหยุน น้ำเสียงของนางหนักอึ้ง “ราชินีแมงมุม ก่อนหน้านี้คงอยู่เคียงข้างเนตรศักดิ์สิทธิ์ มันคงพยายามดูดกลืนพลังของเนตรศักดิ์สิทธิ์!”

 

“ราชินีแมงมุมไม่สามารถกลืนกินเนตรศักดิ์สิทธิ์ได้หรือ?” ฉินหยุนพบว่าเรื่องราวแปลก

 

“เนตรศักดิ์สิทธิ์จะพิจารณาเจ้านายด้วยตัวมันเอง! ราชินีแมงมุมไม่อาจกลืนกินมันได้” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าวทางเสียงสื่อสาร “พี่ชาย ใช้งานหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกร จับตัวราชินีแมงมุมนั้นมาให้ได้!”

 

ฉินหยุนดึงเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเข้ามาใกล้ เพื่อไม่ให้นางนุ่มบ่ามทําอะไร เขากล่าวผ่านเสียงสื่อสาร “เย่ว์เหม่ย เหตุใดราชินีแมงมุมจึงไม่โจมตีพวกเรา?”

 

“อาจเป็นเพราะท่านนําเอาค้อนเทวะเก้าตะวัน รวมถึงหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรออกมา!” เขียวเย่ว์เหม่ยคาดเดา

 

ค้อนเทวะเก้าตะวันของฉินหยุน รวมถึงหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกร มันคือตัวตนเลิศล้ำพร้อมสะกดข่ม เชี่ยวเย่ว์เหม่ยคิดอยากจับตัวราชินีแมงมุม ทว่าฉินหยุนคิดอยากถอย เขาส่งเสียงสื่อสารถามต่อเหยาเฟิง บอกเล่าเรื่องราชินีแมงมุมให้นางทราบ

 

เหยาเฟิงตอบสนองทันทีเมื่อได้ยิน “ไปจับตามที่เย่ว์เหม่ยแนะนํา แต่ยามลงมือให้ระวังอยู่เสมอ! เจ้าต้องมีสิ่งที่ราชินีแมงมุมหวาดกลัวอยู่กับตัว มันจึงไม่โจมตีเจ้า ทั้งยังหลบซ่อนจากตัวเจ้า!”

 

ฉินหยุนกําลังคิด ว่าอันใดกันที่เขาครอบครองและส่งผลต่อราชินีแมงมุม

 

“เลือดประหลาดจากเมืองภูตผีต้องห้าม!” หลิงหยุนเอ๋อร้องโพล่งบอก “เลือดประหลาดนั้นเป็นเลือดมังกร และยังเป็นถึงเลือดของบุตรแห่งจอมจักรพรรดิเซียนมังกร! มันถือเป็นโลหิตมังกรดั้งเดิมจากครั้งโบราณอันเลิศล้ำ! แมงมุมพิษมังกรมีความข้องเกี่ยวกับสายเลือดมังกร ดังนั้นจึงหวาดกลัวบุคคลที่ครอบครองเลือดมังกรนั้น!”

 

“เลือดประหลาดนั่นวิเศษได้เพียงนี้?” ฉินหยุนพบว่าเรื่องราวเกินเชื่อ

 

“เจ้าควรไปทดสอบด้วยตนเองแล้วจึงทราบ! เมื่อใดถึงเวลา ข้าจะปล่อยเลือดเหล่านั้นออกมาราชินีแมงมุมจะได้ไม่กล้าโจมตีเจ้า!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว

 

ฉินหยุนลังเลอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจบุกโจมตี ผู้คนตระกูลหลงต่างถูกบีบบังคับให้หลบหนีทั้งสภาพถูกแมงมุมพิษมังกรไล่โจมตี

 

ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเวลานี้ต่างออกมาที่ภายนอก ฉินหยุนถือหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรเอาไว้ ตระเตรียมลงมือในทุกเมื่อ

 

ทางด้านเชี่ยวเย่ว์เหม่ย นางใช้นิ้วชี้บอกทิศ ทั้งยังคอยยืนระแวดระวังข้างกายฉินหยุน ตัวฉินหยุนเวลานี้มีอาการไม่ดีเท่าใดนัก เขายังคงมีอาการปวดศีรษะ กระนั้นก็เชื่อ ว่าตนสามารถจับกุมราชินีแมงมุมได้

 

แม้ว่าทั้งฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยต่างได้รับเนตรศักดิ์สิทธิ์ กระนั้นดวงตายังคงมีสภาพเหมือนดังเช่นปกติ ดวงตาหาได้แปรเปลี่ยนสี พวกมันธรรมดา หาได้โดดเด่นดังเช่นดวงตาสีฟ้าครามของหลันซูเหยา กระนั้นฉินหยุนก็สัมผัสได้ ว่าดวงตาของเชียวเย่ว์เหม่ยครอบครองพลังงานอันแข็งแกร่ง

 

วูบ!

 

ทันใดนี้เอง ร่างเงาขนาดใหญ่จึงปรากฏ ราชินีแมงมุมพิษมังกรเผยตัว ขนาดของมันยาวกว่าเมตร เป็นแมงมุมร่างใหญ่ มีแปดขาอันชวนสะพรึงพร้อมกรงเล็บมังกรดุดัน ยิ่งไปกว่านั้น ร่างของมันยังเป็นสีทอง

 

ที่ทําฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหมียตกตะลึง คือที่ตรงกลางร่างของราชินีแมงมุม มันมีรูปลักษณ์ของมนุษย์ มันถูกพันธนาการเอาไว้ด้วยเส้นใยแมงมุมสีทอง เป็นผลให้ผู้คนที่พบเห็นต้องรู้สึก ราวกับใยแมงมุมนั้นสามารถเข้าพันธนาการตนเองได้ทุกเมื่อ

 

“ราชินีแมงมุมสามารถแปรสภาพร่างเป็นมนุษย์!” เสี่ยวเย่ว์เหม่ยร้องโพล่งออก

 

ตอนนี้เอง ฉินหยุนจึงโบกมือ กลุ่มเลือดสีดําพลันลอยออก เหล่านี้คือเลือดประหลาดที่ได้รับจากเมืองภูตผีต้องห้าม

 

ทันทีเมื่อเลือดเหล่านี้ปรากฎ ราชินีแมงมุมถึงกับร่างสั่นหวาดกลัวหดตัวกลับ ฉินหยุนกลายเป็นยินดี เป็นดังที่หลิงหยุนเอ๋อกล่าว เลือดประหลาดนี้ คือต้นเหตุที่ทําให้ราชินีแมงมุมหวาดกลัว

 

ฉินหยุนควบคุมหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกร เข้าสะกดลงที่ร่างราชินีแมงมุม ตัวราชินีแมงมุมนี้หาได้แข็งแกร่งใด ไม่เช่นนั้นมันคงพุ่งทะยานออกมาสังหารราชันยุทธ์เหล่านั้นไปเรียบร้อยแล้ว

 

ตัวราชินีแมงมุมถูกผนึกไว้ภายในหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกร ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเวลานี้ค่อยผ่อนคลายได้มาก

 

“พี่ชาย มีปลอกคอควบคุมสัตว์หรืออะไรทํานองนั้นหรือไม่? เร่งรีบนํามันออกมา พร้อมกําราบแมงมุมพิษมังกรตัวนี้เสีย!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยยิ้มกล่าวเอ่ยถาม

 

“ข้า… ไม่มีของเช่นนั้นเลย” ฉินหยุนมักเป็นที่รักชอบของสัตว์ ยกตัวอย่าง กระต่ายหยกและหยางหยาง ทั้งสองอาสาเต็มใจติดตามเขาเอง ดังนั้นเขาจึงไม่เคยจําเป็นต้องใช้ปลอกคอควบคุมใด

 

“เช่นนั้นเร่งรีบสร้าง!” เสี่ยวเย่ว์เหม่ยเผยยิ้มกล่าวเร่ง

 

ฉินหยุนเบ้ปาก “ศีรษะพี่ชายเจ้าผู้นี้ปวดราวกับพร้อมจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว!”

 

“ไหนให้ข้ารับรู้บ้าง…” เสี่ยวเย่ว์เหม่ยเขย่งเท้าขึ้น สัมผัสที่หน้าผากฉินหยุนพร้อมเผยยิ้ม

 

ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยบินออกจากหีบยักษ์ ค้นหาถ้ำแห่งหนึ่งเพื่อพักผ่อน ฉินหยุนหลับไปในถ้ำ จนสุดท้ายแล้วจึงสามารถผสานรวมกับเนตรศักดิ์สิทธิ์ได้สําเร็จ

 

ตัวเขาเวลานี้ รู้สึกว่าดวงตาข้างซ้ายมีความแตกต่าง มันราวกับมีพลังอํานาจเพิ่มขึ้น นอกจากนี้แล้ว มันยังดูดกลืนพลังงานอย่างรวดเร็ว กระนั้น ยามคิดพยายามปลดปล่อยพลังงานผ่านทางดวงตา เขาพบว่าเรื่องราวไม่ราบลื่นเท่าใดนัก

 

“เสี่ยวหยุน เจ้ายังไม่อาจควบคุมพลังของเนตรศักดิ์สิทธิ์ได้โดยสมบูรณ์ มันจําเป็นต้องใช้เวลากว่าจะเชี่ยวชาญได้! เจ้าควรเร่งรีบขัดเกลาปลอกคอควบคุมสัตว์เพื่อกําราบราชินีแมงมุมเสียก่อน จากนั้นจึงค่อยใช้ราชินีแมงมุม ให้มันควบคุมพวกแมงมุมตัวเล็กตัวน้อยกลับมาและรับชมว่าทําอันใดกันได้บ้าง!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว

 

แมงมุมตัวเล็กน้อยเหล่านั้นครอบครองอํานาจชวนสะพรึง พวกมันสามารถกลืนกินแก่นเต๋าและวิญญาณยุทธ์ได้โดยไม่ส่งเสียงใด ฉินหยุนเพียงคิดถึงเรื่องนี้ ว่าหากตนสามารถควบคุมแมงมุมตัวเล็ก ภายหลังคิดลงมือใดคงสะดวกขึ้นมาก

 

อย่างรวดเร็ว ฉินหยุนนําเอาวัสดุและค้อนเทวะเก้าตะวันออกมา ทําการเริ่มสร้างปลอกคอควบคุมสัตว์

 

“ต้องใช้ปลอกคอควบคุมสัตว์ระดับเต๋เลยหรือไม่?” ฉินหยุนไม่มีอักขระเฝ้ควบคุมสัตว์ เขามีเพียงอักขระลึกล้ำ กระนั้น เขาก็สามารถใช้อักขระจันทราและดวงดาวกําราบสัตว์ได้

 

“คงต้องใช้อักขระดวงดาวและจันทราทดลองแทนดูแล้วกระมัง”

 

ฉินหยุนมีแต่ต้องใช้อักขระจันทราและดวงดาว สร้างขึ้นเป็นปลอกคอควบคุมสัตว์ ถึงเวลานั้นเขาจะให้เหยาเฟิงนําปลอกคอใส่แก่ราชินีแมงมุม หากไม่ได้ผล เขาก็ค่อยคิดหาวิธีอื่นในภายหน้า