ฝนนั้นเป็นข้อได้เปรียบของผู้มีพลังสายน้ำ อาจกล่าวได้ว่าทั้งโลกนี้ก็อาจเป็นถิ่นที่เหมาะแก่การต่อสู้ของผู้มีพลังสายน้ำทั้งหมดเลยก็ได้
ตอนแรกทั้งวัทลีย์และกรีเออร์ก็รู้สึกว่าตัวเองเตรียมตัวมาอย่างดี วัทลีย์แฝงตัวอยู่กับโจรสลัดมานานหลายปี เขาไม่เคยอ่านเรื่องดินฟ้าอากาศผิดไปสักครั้ง
เพราะฉะนั้นพวกเขาก็รู้ว่าจะมีฝนตกหนักที่นี่ แต่พวกเขาไม่คิดเลยว่ากรีเออร์ที่เป็นผู้มีพลังสายน้ำจะมาตายลงแบบนี้
เมื่อหลี่ว์ซู่ถามพวกเขาว่าได้คิดเรื่องผลที่จะตามมาบ้างไหม พวกเขาทั้งสองก็ไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร ชายหนุ่มคนนี้แข็งแกร่งมาก แต่ทำไมเขาถึงคิดว่าจะเอาชนะคนระดับ B สองคนได้ล่ะ
แล้วทันใดนั้นก็มีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดจากบ้านที่อยู่รอบๆ ในรัศมีร้อยเมตรขึ้นมา เป็นเสียงที่ผู้มีพลังสายโลหะดึงเหล็กออกมาจากโครงบ้านนั่นเอง แต่เมื่อเหล็กพวกนั้นอยู่กลางอากาศมันก็เหมือนกับเวลาหยุดไปเสียอย่างนั้น
“สงสัยจะไม่เข้าใจที่พูดไป เดี๋ยวพูดใหม่ให้ฟังอีกรอบนะ” หลี่ว์ซู่ยิ้ม “อยากตายกันใช่ไหม”
วัทลีย์ไม่ได้สังเกตเลยว่ามีกระบี่ล่องหนบินตรงออกมาจากจุดชี่ไห่มาปรากฏอยู่ที่ด้านหลังของหลี่ว์ซู่ กระบี่พวกนั้นลอยอยู่กลางอากาศและเริ่มรวมเป็นหนึ่งเข้ากับสายฝน กระบี่สายฝนได้ก่อตัวขึ้นแล้ว!
กระบี่แสงกำลังสั่นหึ่งๆ อยู่กลางจุดชี่ไห่ ตอนที่หลี่ว์ซู่อยู่ระดับ C เขารับมือกับคู่ต่อสู้กับระดับ C ห้าคนได้ เมื่อตอนนี้เขาได้เลื่อนระดับเป็นระดับ B กลิ่นอายของเขาได้รวมเข้ากับพลังแห่งฟ้าดิน เขากำลังยืนตระหง่านอยู่ท่ามกลางสายฝนกระหน่ำ
ตอนที่หลิวซิ่วตายไปหลี่ว์ซู่ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง และเขาก็เกือบเสียเจ้าหย่งเฉินไป หลี่ว์ซู่อยากจะให้ทั้งคนอย่างหลิวซิ่วและจ้าวหย่งเฉินนั้นกลับไปยังที่ที่พวกเขาฝันอยากจะกลับไป เขาอยากให้พวกเขาได้เห็นต้นไม้ที่ยังเขียวชอุ่ม สายน้ำที่ยังคงใสสะอาดและผู้คนที่เป็นมิตรเหมือนเดิม
ที่หลี่ว์ซู่อยู่อย่างสงบมาได้ตลอดสิบแปดปีก็เพราะมีคนจัดการอะไรให้เขาตั้งเยอะ แต่ตอนนี้เขาจะต้องแบกรับภาระนั้นไว้เอง
ไม่เสียใจเลยที่เกิดมาเป็นคนจีนงั้นเหรอ หรือเป็นสหายร่วมรบกันในชาติหน้างั้นเหรอ ไม่ต้องรอถึงชาติหน้าหรอก เพราะกว่าชาติหน้าจะมาก็อีกนาน ต้องสู้กันแค่ในวันเดียวเท่านั้นแหละ
แต่หลี่ว์ซู่รู้ว่าตัวเองเป็นหัวหน้าคนไม่ได้ เขาไม่มีความสามารถนั้น สันดอนขุดได้ แต่สันดานขุดยาก เขาไม่รู้สึกว่าตัวเองจะเป็นคนใหญ่คนโตได้เลย เขาไม่อยากเป็นด้วย เขาก็อยากเป็นแค่คนธรรมดาๆ
เขาเลยไม่อยากเอาเรื่องการเป็นราชันฟ้ามาคิดในตอนนี้ ตอนนี้เขาอยากฆ่าคนเท่านั้นแหละ!
ฝนตกลงมากระหน่ำและสายฟ้าก็ฟาดลงมา พวกคนทรยศจะต้องตาย นี่แหละเป็นหนทางของโลกใบนี้
ตอนนี้หลี่ว์ซู่มีแต่จิตสังหาร เมื่อแท่งเหล็กพวกนั้นพุ่งตรงมาหาเขา หลี่ว์ซู่ก็ก้าวออกไปข้างหน้าและวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว น้ำกระเซ็นไปทุกที่ทุกทางเมื่อเขาย่ำเท้าลงไป และแท่งเหล็กพวกนั้นก็พร้อมจะส่งเขาไปนรกแล้ว!
วัทลีย์ใช้พละกำลังของตัวเองถือมีดสั้นไว้ปะทะกับหลี่ว์ซู่ ผู้มีพลังสายโลหะนั้นยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนและควบคุมแท่งโลหะจำนวนนับไม่ถ้วนพวกนั้นไว้
วัทลีย์ร่วมต่อสู้กับผู้มีพลังสายโลหะมาหลายรอบแล้ว ในการต่อสู้กับศัตรูหลายๆ คน เขาจะใช้พลังของเขาปกป้องผู้มีพลังสายโลหะและให้พวกนั้นใช้พลังการโจมตีฆ่าพวกศัตรูให้สิ้นซาก
ต้องมีคนหนึ่งที่แข็งแกร่งพอที่จะสู้ระยะประชิดได้ และอีกคนหนึ่งจะต้องมีการโจมตีหลายๆ แบบที่มีพลังทำลายล้างสูง พวกเขาทำงานด้วยกันอย่างเข้าขา เลยมีแผนการไล่ล่าหาราชันฟ้าขึ้นมาได้นี่แหละ!
ผู้มีพลังสายโลหะคนนั้นยิ้มออกมา และลูกเหล็กจำนวนนับไม่ถ้วนก็หล่นลงมาจากแขนเสื้อเขาสู่พื้น แผ่นเหล็กพวกนั้นก่อตัวเข้ากับสายฝนและกลิ้งมาทางหลี่ว์ซู่ นี่แหละเป็นไพ่ตายของเขา!
แต่ทันใดนั้นเองกระบี่สายฝนก็โฉบลงมาโจมตีเหมือนกับเป็นการลงทัณฑ์จากสวรรค์
ผู้มีพลังสายโลหะคิดว่าหลี่ว์ซู่จะเก่งแค่การต่อสู้ระยะประชิดและมีกระบี่เฉวียอินเป็นตัวป้องกันพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เขาไม่คิดว่าการโจมตีหลี่ว์ซู่นั้นจะเหนือความคาดหมายของพวกเขาขนาดนี้!
เขายังไม่ได้ใช้กระบี่ล่องหนกว่าร้อยเล่มในการฆ่ากรีเออร์เลยนะ หลี่ว์ซู่ปล่อยกระบี่ที่เหลือออกมา เขาอยากจะเปลี่ยนพื้นดินที่ผู้มีพลังสายโลหะยืนอยู่ให้กลายเป็นฝุ่นผงไปซะ!
แล้วผู้มีพลังสายโลหะก็เพิ่งรู้ตัวว่ามีบางอย่างผิดปกติในน้ำฝน เพราะมันดูจะเจาะผ่านทุกสิ่งทุกอย่างไปได้เลยน่ะสิ!
พวกแท่งเหล็กพวกนั้นควรจะใช้ฆ่าหลี่ว์ซู่ แต่พวกมันกลับรวมตัวเป็นป้อมปราการเหล็กกันบนศีรษะของเขา ดัง ตึ๊ง ติ๊ง ติ๊ง
ดูเหมือนว่ามันจะเป็นน้ำฝนธรรมดา แต่มันกลับส่งเสียงใสกังวานชัดเจนเมื่อสัมผัสกับแท่งเหล็ก ผู้มีพลังสายโลหะเริ่มคันหนังศีรษะของเขาขึ้นมา ถ้าเขาไม่ได้ตอบโต้ไปอย่างรวดเร็วเขาคงตายไปแล้ว!
ป้อมปราการเหล็กนั้นดูราวกับว่าเจอระเบิดหนักมาหลักจากโดนกระบี่สายฝนไป เป็นพลังของกระบี่สายฝนเองสินะ
เมื่อเขามองไปที่ชายหนุ่มคนนั้นเขาก็เห็นกระบี่บินสองเล่มรวมเข้ากับแผนที่ดวงดาวด้วยเสียงคำราม และมันก็บาดลึกเข้าไปในใจของวัทลีย์ วัทลีย์ป้องกันอะไรตัวเองไม่ได้เลย
พวกเขาทั้งสองไม่คิดว่าหลี่ว์ซู่จะมีการโจมตีมากมายขนาดนี้ ถึงเขาจะเป็นยอดฝีมือจากเครือข่ายฟ้าดินเขาก็ไม่ได้ใช้กระบี่บินตั้งแต่แรก เมื่อวัทลีย์เข้าไปประชิดแล้วเขาก็คิดว่าหลี่ว์ซู่คงจะไม่ใช้กระบี่บินหรอก ถึงแม้ว่าทั้งความแข็งแกร่งและความเร็วจะเหนือกว่าเขาก็ตาม
เมื่อพวกเขาคิดว่าหลี่ว์ซู่ได้ใช้การโจมตีไปหมดแล้ว เมื่อพวกเขาคิดว่าหลี่ว์ซู่คงเป็นนักกรบี่ที่ถนัดสู้นระยะประชิด จากนั้นหลี่ว์ซู่ก็ค่อยแสดงกระบี่สายฝนให้พวกเขาเห็น!
แต่นั่นก็ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดหรอก เขายังควบคุมกระบี่บินในเวลาเดียวกันอีกด้วย!
ชายหนุ่มคนนี้มีหลายอย่างให้ตกใจจริงๆ ตอนแรกพวกเขาก็ไม่เข้าใจว่ากรีเออร์ที่เป็นผู้มีพลังสายน้ำนั้นจะตายในสายฝนได้อย่างไร แต่พวกเขาไม่เข้าใจว่าไอ้คนบ้าแบบนี้ไปอยู่ในเครือข่ายฟ้าตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาสู้คนระดับ B สองคนแบบไม่สนใจอะไรเลยนะ!
วัทลีย์ล้มลงไปบนพื้นเสียงดัง หลี่ว์ซู่ที่ยืนอยู่กลางสายฝนนั้นมองผู้มีพลังสายโลหะอย่างเงียบๆ และเม็ดฝนใดก็ตามที่สัมผัสโดยกระบี่เฉิงอิ่งจะแตกออกเป็นสองส่วน
ทันใดนั้นลูกเหล็กสองอันที่ก็กลิ้งมาหาหลี่ว์ซู่ก็ลอยขึ้นมากลางอากาศ พวกมันเล็งเป้าไปที่ข้อเท้าของหลี่ว์ซู่ ลูกเหล็กพวกนั้นใช้โอกาสที่หลี่ว์ซู่กำลังจะชนะวัทลีย์เข้าโจมตีหวังฆ่าเขา!
พวกระดับ B สองคนนั้นต่อสู้มามาก พวกเขาไม่เคยปล่อยโอกาสที่จะฆ่าศัตรูให้ลอยผ่านไปสักครั้ง และผู้มีพลังสายโลหะก็รู้ดีว่าเขามาถึงที่ตายเสียแล้ว หลี่ว์ซู่ทั้งรวดเร็วกว่าเขาและวัทลีย์ แถมยังไม่มีทางจะหนีไปได้แน่นอน
ทันใดนั้นเองกระบี่แสงกว่าร้อยอันก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าพร้อมเสียงคำรามต่ำๆ พวกมันได้ก่อตัวกันเป็นตาข่ายไฟฟ้ารอบตัวหลี่ว์ซู่ และลูกโลหะที่เข้ามาสัมผัสก็เสียการควบคุมไป
หลี่ว์ซู่ตั้งใจเอากระบี่สายฟ้านี้ห่างออกจากตัวเพราะว่าฝนกำลังตกอยู่ ถึงแม้ว่ากระบี่สายฟ้าจะยังไม่โดนน้ำแต่เขาก็ต้องระวังไว้
เมื่อผู้มีพลังสายโลหะเห็นว่าไม้ตายของตัวเองล้มเหลวไปเขาก็ตกอยู่ในความสิ้นหวังทันที หลี่ว์ซู่หัวเราะออกมา “จะถามอีกเป็นครั้งสุดท้ายนะ พวกแกไล่ล่าราชันฟ้าเพื่อเกียรติยศของตัวเอง แล้วเคยคิดถึงผลที่จะตามมาว่าอาจตายบ้างไหม!”
เสียงฟ้าร้องดังไปทั่ว และกระบี่ก็ฟันเข้าไปที่ร่างของผู้มีพลังสายโลหะ
ฤดูใบไม้ผลินี้มีนักกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดปรากฏตัวขึ้นแล้วสินะ