ตอนที่ 211 ดึงอู่เยวี่ยลงหลุม + ตอนที่ 212 หมากัดกันเอง

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 211 ดึงอู่เยวี่ยลงหลุม + ตอนที่ 212 หมากัดกันเอง โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 211 ดึงอู่เยวี่ยลงหลุม

อู่เหมยรู้ว่าเธอตอนนี้สมควรจะพอได้แล้ว ไม่งั้นจะเป็นการทำให้อู่เจิ้งซือโมโหแล้ววันหลังจะไม่เป็นผลดีกับเธอ เธอจึงเงยหน้าไปทางอาจารย์แม่จางและขอบคุณเธออย่างซาบซึ้งในน้ำใจว่า “ขอบคุณค่ะอาจารย์แม่จาง หนูไม่เจ็บตรงคอเท่าไหร่แล้ว”

อาจารย์แม่จางเข้าใจถึงความกังวลของเธอ เพราะได้เห็นแววตาของเหอปี้อวิ๋นที่มองนั้นคล้ายกับจะกลืนลูกสาวคนเล็ก เธอยังไม่เคยเห็นแม่แบบนี้มาก่อน เทียบกับแม่เลี้ยงยังเทียบไม่ได้เลย!

“เหมยเหมยให้แม่ทายาให้เธอหน่อยนะ ดูสิ รอยช้ำม่วงหมดแล้ว จะไม่เจ็บได้ไง!”

อาจารย์แม่จางมองอู่เหมยอย่างเห็นใจ น่าเสียดายที่เด็กน้อยคนนี้ไม่ใช่ลูกสาวของเธอ เธอก็ออกหน้าแทนมากไม่ได้ ถึงอย่างไรสามีของเธอก็อยู่ในโรงเรียนแต่ไม่ได้เป็นที่ยอมรับเท่ากับอู่เจิ้งซือ คงไม่ดีถ้าจะล่วงเกินอู่เจิ้งซือ ทุกคนในบ้านต่างก็ต้องพึ่งพาเงินเดือนของสามีเพื่อกินข้าวอยู่!

เธอถอนหายใจ ตบอู่เหมยเบาๆ แล้วกลับบ้านของตัวเองอย่างจนปัญญา

อู่เหมยแอบเงยหน้ามองอู่เจิ้งซือที่หน้าดำครึ้มเหมือนเมฆฝนจนแทบจะมีน้ำหยดออกมาได้ เหอปี้อวิ๋นจ้องเขม็งไปที่เธอ พูดเสียงต่ำว่า “ยังไม่กลับเข้าบ้านอีก!”

“พ่อคะ หนูไม่ได้พูดเลยว่านี่เป็นเพราะพี่สาวบีบ” อู่เหมยพูดเสียงเบา ตากลมโตจ้องมองไปที่อู่เจิ้งซือ อู่เจิ้งซือเดิมทีนั้นโมโหมาก แต่ได้สบกับดวงตาที่คุ้นเคยแถมยังเห็นไฝสีแดงเม็ดนั้น ก็ใจอ่อนลงมา

ยังไงก็เธอก็เป็นลูกของเขา!

“ทายาแล้วก็กลับไปนอน!” อู่เจิ้งซือผ่อนคลายน้ำเสียงลง ไม่ได้ตำหนิอะไรอู่เหมย ทำให้เธอแปลกใจมาก

อู่เยวี่ยที่อยู่ในห้องโมโหจะตายแล้ว นังสารเลวคนนี้ก่อเรื่องจนเรื่องใหญ่ขนาดนี้ พูดกับไม่พูดต่างกันตรงไหน?

ตอนนี้กลัวอย่างเดียวว่าเพื่อนบ้านจะรู้เรื่องที่เธอสติไม่ดีถึงกับจะฆ่าน้องสาวตัวเอง พรุ่งนี้เธอจะออกจากบ้านไปเรียนอย่างไร?

นับวันพ่อยิ่งจะทำดีกับอู่เหมยมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ในใจของพ่อ เธอจะยังมีตัวตนอยู่ไหม?

เหอปี้อวิ๋นไม่พอใจกับท่าทีของอู่เจิ้งซือเป็นอย่างมาก ยัยเด็กสมควรตายนี่ทำลายชื่อเสียงของเยวี่ยเยวี่ยหมดแล้ว จะให้อภัยง่ายๆ ขนาดนี้ได้อย่างไร ต้องตีให้ตาย!

“คุณคะ แล้วเยวี่ยเยวี่ยจะทำอย่างไรดี โดนยัยเด็กนี่ทำร้ายไปหมดแล้ว”

อู่เจิ้งซือขมวดคิ้ว หัวเริ่มปวดอีกครั้ง ลูกสาวคนโตมีปัญหาจริงๆ แต่ก่อนยังแค่ฝันร้ายว่าอู่เหมยจะฆ่าเธอ แต่พอถึงตอนนี้เริ่มพัฒนาไปจนจะฆ่าคนแล้ว ให้เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้

อู่เหมยรีบพูดขึ้นมาว่า “พ่อคะ ระยะนี้พี่สาวดูแปลกไปมาก ดึกดื่นก็มักจะส่งเสียง บอกว่าจะฆ่าหนู แต่หนูคิดไม่ถึงว่าคืนนี้พี่จะฆ่าหนูจริงๆ พ่อคะ หนูกลัว หนูไม่อยากนอนห้องเดียวกับพี่”

อู่เยวี่ยโมโหกัดฟันจนฟันแทบแตก วิ่งออกมาชี้อู่เหมยและสบถว่า “อู่เหมยเธอพูดจาเหลวไหล ฉันไม่เคยพูดแบบนั้นเลยสักนิด เป็นเธอที่อยากจะบีบคอฆ่าฉัน เป็นเธอ!”

อู่เหมยรีบวิ่งไปหลบหลังอู่เจิ้งซือ กอดแขนอู่เจิ้งซือแน่น พูดอย่างหวาดกลัวว่า “พี่ตอนนี้แม้แต่ความจริงความฝันพี่ก็แยกไม่ออกแล้ว เห็นได้ชัดว่าพี่อยากจะบีบคอหนูให้ตาย มองที่คอหนูสิยังมีรอยช้ำอยู่เลย พี่ดูคอพี่มีรอยช้ำไหมล่ะ? พ่อคะ พี่สาวเขาเป็นโรคประสาทแล้วใช่รึเปล่าคะ?”

เธอต้องใช้พลังอย่างมากในการระงับความลำพองใจนี้ได้ เมื่อเห็นอู่เยวี่ยในวัยสิบสี่ปีกับอู่เยวี่ยในวัยยี่สิบปีให้หลังนั้นเทียบกันไม่ติด เล่ห์เหลี่ยมยังต่ำกว่าร่องน้ำอันตื้นเขินนัก เธอไม่ต้องลงแรงเยอะก็สามารถทำให้นังสารเลวนี่โมโหได้แล้ว

การได้เห็นอู่เยวี่ยก้าวเดินทีละก้าวลงหลุมที่เธอขุดไว้ ทำให้ใจของอู่เหมยก็เต็มไปด้วยความปีติ ชาติก่อนอู่เยวี่ยทำอะไรกับเธอไว้ ชาตินี้เธอจะคืนให้เป็นร้อยเท่า

และเธอก็อยากจะผ่านไปอย่างสวยงาม ชีวิตของเธอจะดีกว่าใคร จะทำให้อู่เยวี่ยได้แต่มองอย่างอิจฉา!

…………………………………………………………………………………………..

ตอนที่ 212 หมากัดกันเอง

ตอนนี้หน้าตาท่าทางของอู่เยวี่ยไม่ค่อยน่าดูเท่าไร ผมเผ้ากระจัดกระจาย ใบหน้าบิดเบี้ยว ดวงตาเบิกกว้างอย่างน่าเกลียด อู่เจิ้งซือที่มองอยู่ก็รู้สึกไม่พอใจยิ่งขึ้น พูดเสียงต่ำว่า “เยวี่ยเยวี่ย ระยะนี้หนูดูแปลกไปมาก เรียนกดดันเกินไปเหรอลูก?”

“ไม่ค่ะ หนูไม่ได้กดดันอะไร พ่อคะอย่าไปฟังเหมยเหมยพูดจาไร้สาระ หนูว่า หนูเรียนได้แบบสบายๆ ผ่อนคลายจะตายไป!” อู่เยวี่ยรีบร้อนอธิบาย

อู่เหมยพูดอีกว่า “พี่คะ เดือนนี้ตอนสอบพี่ก็ทำได้ไม่ดีจะต้องเป็นเพราะเรียนหนักเกินไปแน่ๆ หนูได้ยินสยงมู่มู่บอกไว้ว่าถ้าคนเราเครียดจนเกินไปจะท้องเสียได้ พี่คิดดูดีๆ นะ พี่กับหนูกินซาลาเปาเหมือนกัน แต่หนูท้องเสียแค่สองครั้ง แต่พี่กลับท้องเสียสิบกว่ารอบ พี่จะต้องเครียดมากเกินไปแน่ๆ”

“เหลวไหล สยงมู่มู่มันจะไปรู้อะไร มันก็แค่พูดเหลวไหล!” อู่เยวี่ยด่าออกมา

อู่เจิ้งซือตำหนิ “เยวี่ยเยวี่ย ระวังคำพูดหน่อย!”

พูดเสร็จก็หันไปพูดกับเหอปี้อวิ๋นว่า “เสาร์อาทิตย์นี้เธอพาเยวี่ยเยวี่ยไปตรวจที่โรงพยาบาล ให้คุณหมอเขาแนะนำหน่อย”

“คุณพ่อ หนูไม่ได้เป็นบ้านะคะ อู่เหมยพูดมั่วๆ เธอกำลังพูดจาเหลวไหล เธอมันคนไร้สาระ!” อู่เยวี่ยตาเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ นึกไม่ถึงว่าอู่เจิ้งซือจะเห็นด้วยกับคำพูดของอู่เหมยด้วย?

เหอปี้อวิ๋นไม่เห็นด้วย “คุณคะ ทำไมคุณถึงไปเห็นดีเห็นงามกับเหมยเหมยด้วยล่ะ? เยวี่ยเยวี่ยเธอสบายดีจะตาย ไปหาทำไมหมอ? หากคนอื่นรู้ จะพูดถึงเยวี่ยเยวี่ยยังไง?”

อู่เจิ้งซือชี้ไปที่คอของอู่เหมย ทำหน้าเย็นชาพูดว่า “นี่คือสบายดีมาก? เหอปี้อวิ๋น ทำไมเธอถึงหลอกตัวเองแล้วก็หลอกคนอื่น? อีกอย่างนะ มีอะไรที่คนในโรงเรียนยังไม่รู้อีก? แค่นี้ก็ทำให้ผมขายขี้หน้าจะแย่อยู่แล้ว!”

พอได้ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ อารมณ์ของอู่เจิ้งซือก็คงที่ขึ้น ความจริงแล้วจิตใจของเขาตอนนี้คือผิดหวังมาก เขาคาดหวังกับอู่เยวี่ยไว้มาก ตั้งใจให้ลูกสาวคนโตเป็นหน้าเป็นตานำเกียรติยศมาให้ ถ้าเป็นแบบนั้นวันหลังเขาคงจะได้พูดกับคนอื่นได้ว่า เขา อู่เจิ้งซือไม่เพียงแต่สอนเด็กบ้านอื่นให้ได้ดี แต่ก็สามารถสอนลูกสาวบ้านตัวเองได้ดีมากเหมือนกัน!

แต่ช่วงระยะสั้นๆ มานี้อู่เยวี่ยทำให้เขาผิดหวังเป็นอย่างมาก ถึงอย่างไรก็เป็นเด็กผู้หญิง พอถึงมัธยมต้นความสามารถก็สู้เด็กผู้ชายไม่ได้!

อู่เจิ้งซือถอนหายใจอีกครั้งด้วยความเสียดาย ถ้าหากว่าเขาสามารถมีลูกที่ยอดเยี่ยมเหมือนเหมยซูหานแบบนั้น คงจะดีมาก!

“ตกลงเอาตามนี้แหละ เยวี่ยเยวี่ยก็รีบไปพักผ่อน ไม่ต้องใส่ใจเรื่องสอบมาก ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ ไปนอนกันได้แล้ว!” อู่เจิ้งซือไม่อยากเสียเวลานอนพักผ่อนอีก ตอนดึกหากไม่นอนพักผ่อนให้ดี ตอนเช้าไปทำงานคงมีผลกระทบอย่างแน่นอน เขารีบไปนอนจะดีที่สุด

“เหมยเหมยถ้ากลัวก็นอนบนโซฟาที่ห้องรับแขกแล้วกัน!” อู่เจิ้งซือพูดอีกครั้งก่อนจะกลับห้อง

เหอปี้อวิ๋นสีหน้าดูไม่ได้เป็นอย่างมาก เธอหันไปพูดกับอู่เจิ้งซือ “คุณคะ ฉันนอนเป็นเพื่อนเยวี่ยเยวี่ยแล้วกัน”

“อืม!”

อู่เจิ้งซือส่งเสียงตอบโดยไม่ได้หันกลับมามองด้วยซ้ำ ในใจเหอปี้อวิ๋นค่อนข้างไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพียงแต่ว่าเธอก็ไม่มีเวลาคิดอย่างอื่น ตอนนี้ในใจของเธอและในสายตาของเธอมีแต่อู่เยวี่ย หัวใจเหมือนโดนบีบรัดไปหมด

อู่เหมยคร้านที่จะสนใจผู้หญิงสองคนนี้ เธอกลับห้องไปหยิบหมอนกับผ้าห่ม วางแผ่ลงบนโซฟาก็เริ่มหลับ ส่วนเรื่องยา เหอปี้อวิ๋นเลือกที่จะลืม เธอก็ไม่คิดอยากจะทา ถึงอย่างไรก็เป็นแต่แผลภายนอก ผ่านไปไม่กี่วันก็หายแล้ว อีกทั้งจะให้คนอื่นมองได้อย่างชัดเจนมากขึ้นอีกหน่อยด้วย

อู่เยวี่ยจ้องมองอู่เหมยอย่างเคียดแค้น โมโหจนตัวสั่น เกลียดแต่ไม่สามารถบีบคอเธออีกรอบได้ เหอปี้อวิ๋นหันไปส่งสายตาเตือนเธอพลางพูดเสียงปลอบโยน “เยวี่ยเยวี่ยรีบไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องสอบอีก!”

 “สอบๆ แม่ก็คิดแต่เรื่องสอบ เป็นเพราะเนื้อเน่าชิ้นนั้นของแม่นั่นแหละ สอบครั้งนี้ที่หนูทำได้ไม่ดี ทั้งหมดเป็นเพราะแม่ทำร้ายหนู!”

อู่เยวี่ยพอได้ยินคำว่าสอบในใจก็โมโห หันไประเบิดอารมณ์ใส่เหอปี้อวิ๋น น้ำตาไหลกลับเข้าห้องไป ทิ้งเหอปี้อวิ๋นให้ยืนตะลึงอยู่ตรงที่เดิม

อู่เหมยที่ขดตัวอยู่บนเตียงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ พวกเธอสองคนไม่ใช่แม่ลูกที่กตัญญูกันหรอกหรือ?

สุดท้ายก็กลายเป็นหมาที่มันกัดกันเองจนได้!

…………………………………………………………………………………………..