ตอนที่ 388 ความเย็นชาของเขา / ตอนที่ 389 เมื่อไรจะมีแฟน

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 388 ความเย็นชาของเขา

 

 

           ขณะที่ฉู่อีอียังต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง ก็เหลือบไปเห็นแววตาที่ดุร้ายของคุณแม่เผย ในที่สุดเธอก็กลืนคำที่ต้องการจะพูดลงไป พยักหน้ากับเขา

 

 

           จนกระทั่งมั่นใจว่าฉู่อีอีจากไปแล้ว เผยหนานเจวี๋ยจึงถอนหายใจโล่งอก หันหลังกลับไปนั่งที่โซฟา

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยเพิ่งจะนั่งลงไม่ทันไร คุณแม่เผยก็พูดขึ้นทันที “แม่บอกลูกแล้ว ตอนนั้นทำไมถึงไปชอบผู้หญิงที่เจ้าเล่ห์แบบนี้ได้”

 

 

           ‘นั่นสิ ตอนนั้นทำไมตาเขาถึงไร้แววแบบนี้’ เผยหนานเจวี๋ยเห็นด้วยกับคำพูดของคุณแม่เผยในใจ

 

 

           “ฉู่อีอีเป็นผู้หญิงแบบไหนแม่ก็บอกลูกแล้ว เขาอยากเข้าบ้านเผยของพวกเรามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แน่นอน แม่ว่าทางที่ดีที่สุดคือลูกตัดใจซะเถอะ”

 

 

           คุณแม่เผยมองเผยหนานเจวี๋ยพร้อมพูดด้วยความโมโห พูดถึงฉู่อีอีทีไรเธอก็โกรธจนทนไม่ไหว

 

 

           เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าลูกชายสุดที่รักของเธอคนนี้ถูกฉู่อีอีกินจนเรียบได้อย่างไร ผู้หญิงที่จิตใจโหดร้ายอย่างฉู่อีอีแบบนั้น

 

 

           เขายื่นมือหยิบแก้วชาที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมา หลังจากที่จิบชาไปหนึ่งคำแล้วก็ต้องการจะพูดอะไรต่อ แต่ว่าโทรศัพท์มือถือของเผยหนานเจวี๋ยกลับดังขึ้น เขาหยิบมันออกมาดู พบว่าฉู่อีอีโทรมา ขมวดคิ้วจนแทบสังเกตไม่เห็น ลุกขึ้นแล้วเดินไปยังระเบียง

 

 

           “อีอี ว่ายังไง?”

 

 

           “หนานเจวี๋ย คุณกลับมาอยู่เป็นเพื่อนฉันได้ไหม ฉันคิดถึงคุณมากจริงๆ” เสียงที่อ่อนโยนของฉู่อีอีลอยมาเข้าหูของเผยหนานเจวี๋ย

 

 

เธอไม่ได้คุยกับเขามานานหลายวันแล้วจริงๆ และไม่ได้กินข้าวกับเขามาหลายวันแล้วด้วย วันนี้ได้เจอกันมันไม่ง่ายเลย เธอไม่อยากทิ้งโอกาสนี้ไปจริงๆ

 

 

“เด็กดี พรุ่งนี้ผมจะกลับไป” เผยหนานเจวี๋ยกล่าวอย่างหมดความอดทนเล็กน้อย คิ้วขมวดจนจะผูกกันอยู่แล้ว

 

 

คุณแม่นั่งรออยู่ที่โซฟาสักพักใหญ่ก็ไม่เห็นเผยหนานเจวี๋ยออกมา อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว รับโทรศัพท์นานขนาดนี้เลยเหรอ ไม่รู้หรือไงว่าเธอมีเรื่องจะคุยกับเขา

 

 

คงไม่ได้คุยโทรศัพท์กับฉู่อีอีหรอกนะ คิดเช่นนี้คุณแม่เผยก็รีบลุกขึ้นทันที และเดินไปหาเผยหนานเจวี๋ย

 

 

เมื่อเข้าไปใกล้ก็ได้ยินเสียงของเผยหนานเจวี๋ยตามคาด

 

 

 “อีอี ตอนนี้ผมมีธุระ พรุ่งนี้ผมจะกลับไปหาคุณ” คุณแม่เผยได้ยินเผยหนานเจวี๋ยแล้ว รู้สึกหงุดหงิดทันที เดินเข้าไป ต้องการจะแย่งโทรศัพท์มือถือของเผยหนานเจวี๋ยมาโดยตรง

 

 

แต่ว่าเผยหนานเจวี๋ยนั้นสูงกว่าคุณแม่เผยมาก มือของเธอยังไม่ทันจะแตะโทรศัพท์ เผยหนานเจวี๋ยก็หลบไปด้านข้างแล้ว

 

 

“อีอี แค่นี้นะ บายๆ” พูดจบเผยหนานเจวี๋ยก็วางหูทันที เห็นคุณแม่เผยที่ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้ากะทันหันก็รู้สึกขันเล็กน้อย

 

 

 “แม่ครับ แม่อยากให้ผมตกใจตายหรือไง!” เผยหนานเจวี๋ยวางหู มองคุณแม่เผยเอ่ยปากทันที

 

 

 “ลูกคุยโทรศัพท์กับฉู่อีอีใช่ไหม” คุณแม่เผยจ้องเผยหนานเจวี๋ยเขม็งพร้อมพูด พูดจบ เธอก็ต้องการแย่งโทรศัพท์มือถือไป

 

 

“แม่ครับ โทรศัพท์แล้วจะเป็นอะไรไป ผมก็วางสายแล้ว” พูดจบ เผยหนานเจวี๋ยแกว่งโทรศัพท์มือถือไปมาตรงหน้าคุณแม่เผย จากนั้นก็เก็บมันใส่กระเป๋า

 

 

“แม่จะบอกลูกนะ แม่ไม่มีทางให้คนอย่างฉู่อีอีเข้าบ้านเผยของพวกเราเด็ดขาด ไม่รู้ว่าไปยั่วผู้ชายคนอื่นมากี่คนต่อกี่คนแล้ว” คุณแม่เผยขวางหน้าเขา พูดอย่างไม่เกรงใจ

 

 

“แม่ครับ ฉู่อีอีเขาไม่ได้แย่อย่างที่แม่พูด แม่อย่าว่าคนอื่นแบบนี้สิครับ” เผยหนานเจวี๋ยมองคุณแม่เผยพร้อมพูดอย่างไม่เข้าใจ ทั้งๆ ที่เธอไม่รู้จักนิสัยของฉู่อีอี ทำไมถึงพูดได้แม่นยำแบบนี้

 

 

ได้ยินเผยหนานเจวี๋ยแล้ว สีหน้าของคุณแม่เผยเปลี่ยนเป็นน่าเกลียด เมื่อกี้เขาพูดว่าอะไรนะ

 

 

เมื่อเห็นว่าสีหน้าของคุณแม่เผยนั้นโมโหจนเขียวคล้ำ น้ำเสียงของเผยหนานเจวี๋ยก็อ่อนลงอย่างช่วยไม่ได้ “แม่ อีอีไม่ได้เลวร้ายอย่างที่แม่คิด เขาก็แค่เอาแต่ใจนิดหน่อย ที่เหลือก็ไม่มีปัญหาอะไร”

 

 

 

 

           ตอนที่ 389 เมื่อไรจะมีแฟน

 

 

“ลูกน่ะ ไม่รู้ว่าทำไมลูกถึงได้หลงเขาขนาดนี้ แม่จะบอกลูกให้นะ ลูกตัดขาดกับเขาจะดีที่สุด แม่ว่าฉู่เจียเสวียนน่ะดีกว่าเขาไม่รู้ตั้งกี่ร้อยเท่า ไม่รู้ว่าลูกคิดอะไรอยู่จริงๆ!” คุณแม่เผยมองเผยหนานเจวี๋ยด้วยน้ำเสียงเหมือนกับโกรธที่ไม่ได้ดั่งใจ

 

 

 “ถ้าหากตอนนั้นไม่ใช่เพราะฉู่อีอี ลูกก็มีลูกกับฉู่เจียเสวียนไปแล้ว” คุณแม่เผยพูด ยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห

 

 

เห็นว่าคุณแม่เผยยิ่งพูดยิ่งอารมณ์เสีย เขาเอ่ยปากทันที “เอาล่ะ แม่ครับ ผมจะไปคิดดู แม่อย่าเป็นห่วงเลย” เผยหนานเจวี๋ยพูด มองคุณแม่เผยด้วยสีหน้าจริงจัง

 

 

“ลูกพูดเองนะ ห้ามโกหกแม่ล่ะ” ทันทีที่คุณแม่เผยได้ยินว่าเผยหนานเจวี๋ยจะไปคิดดู น้ำเสียงก็อ่อนลงโดยพลัน สีหน้าก็ค่อยๆ ดูดีขึ้น

 

 

“ครับ ผมพูดเอง งั้นตอนนี้ผมขึ้นไปนอนได้ไหมครับ ท่านแม่สุดที่รักของผม” เผยหนานเจวี๋ยสูดหายใจลึก จากนั้นก็พูดขึ้น

 

 

“อืม ไปเถอะๆ” เมื่อคุณแม่เผยได้ยินว่าลูกชายเหนื่อยแล้วก็รีบพูดขึ้น โบกไม้โบกมือให้เขาไปพักผ่อน

 

 

ทันทีที่เผยหนานเจวี๋ยเห็นคุณแม่เผยโบกมือ ก็วิ่งขึ้นชั้นบนไปทันที

 

 

หลังจากวิ่งไปที่ห้องแล้วปิดประตู เผยหนานเจวี๋ยผ่อนคลายลงทันใด มองดูห้องที่กว้างใหญ่ ในใจก็สับสนจนแทบทนไม่ไหว เขายิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ตั้งแต่ฉู่เจียเสวียนกลับมา หัวใจของเขาก็ราวกับเริ่มสับสน

 

 

เมื่อคิดถึงคำพูดของคุณแม่เผยเมื่อครู่ เขาก็รู้สึกปวดหัว

 

 

ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเขาต้องการอยู่กับฉู่อีอีมากที่สุด แต่ว่าตอนนี้หลังจากอยู่ด้วยกันแล้ว เขากลับเริ่มลังเล

 

 

เขายื่นมือนวดหว่างคิ้ว รู้สึกปวดหัวเป็นที่สุด บางทีอาจมีเรื่องอะไรบางอย่างระหว่างพวกเขาสองคนที่เขาไม่รู้

 

 

เวลาผ่านไปอย่างไม่รู้ตัวแล้ว ทุกอย่างไหลผ่านไปอย่างช้าๆ และเงียบสงบ

 

 

ถังถังกับฉู่เจียเสวียนนั่งอยู่ในร้านอาหารหม้อไฟ ถังถังยื่นตะเกียบคีบเนื้อวัวที่อยู่ในหม้อขึ้นมากิน

 

 

“เจียเสวียน เนื้อวัวนี่ไม่เลวเลย นุ่มมากเลยนะ” หลังจากถังถังกลืนอาหารในมือแล้วก็คีบเนื้อวัวหนึ่งชิ้นใส่ลงในถ้วยของฉู่เจียเสวียน มองเธอพร้อมพูด 

 

 

ทันทีที่เลิกงานถังถังก็ลากฉู่เจียเสวียนไปกินข้าวแล้ว

 

 

“อืม ไม่เลวจริงๆ” ฉู่เจียเสวียนกินเนื้อวัวแล้วก็เออออเห็นด้วย

 

 

“จริงสิ กลับมาเรื่องเดิม ต่อไปเธอคิดจะเอาไงต่อ”

 

 

ฉู่เจียเสวียนได้ยินถังถังแล้ว รอยยิ้มในบนหน้าแข็งทื่อไปชั่วขณะ จากนั้นก็คีบเนื้อแพะเข้าปากอันหวานฉ่ำ “กินเถอะ เนื้อนี่ก็ไม่เลว”

 

 

ในเมื่อถังถังเอ่ยถามแล้ว จะปล่อยให้ฉู่เจียเสวียนเปลี่ยนหัวข้อได้อย่างไรล่ะ

 

 

           “ฉู่อีอีคนเลวคนนั้นตอนนี้ยังมีอะไรกับแฟนเก่าของเขาอยู่นะ ผู้ชายคนนั้นเป็นยังไงเหรอ ก็ยังเป็นพวกค้ายา พอนึกถึงหน้าฉู่อีอี ฉันก็แทบทนไม่ไหวอยากฉีกหน้าเขาออกซะ”

 

 

           “เผยหนานเจวี๋ยก็ปัญญาอ่อน ถูกฉู่อีอีหลอกจนสมงสมองไปหมดแล้ว” ถังถังยิ่งพูดยิ่งมีอารมณ์ แววตาส่วนลึกเปี่ยมด้วยความโกรธ

 

 

           เพียงแค่นึกถึงบาดแผลของฉู่เจียเสวียนก่อนหน้านี้ เธอก็โมโหจนทนไม่ไหว

 

 

           เมื่อเห็นถังถังที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนเธอ ความอบอุ่นก็แผ่ซ่านในหัวใจของเธอ

 

 

           ที่จริงเมื่อสามปีก่อน ตอนที่เธอเสียลูกไป ยังดีที่มีเธออยู่ข้างกายของเธอ คอยปลอบโยนเธอ ไม่อย่างนั้นเธอไม่รู้จริงๆ ว่าต้องทำอย่างไร “เอาเถอะ ถังถัง เรื่องมันก็ผ่านไปตั้งนานแล้ว เธอก็อย่าโกรธอีกเลย อีกอย่าง ตอนนี้ฉันกับพวกเขาก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว”

 

 

           “เห็นเธอเป็นห่วงฉันขนาดนี้ ฉันรู้สึกว่าฉันควรเป็นห่วงเธอเหมือนกัน เมื่อไรเธอจะมีแฟนล่ะ” ฉู่เจียเสวียนไม่อยากคุยเรื่องนี้กับถังถังอีก เธอไม่อยากพูดถึงอดีตอีกแล้ว เธอแค่อยากจะมีชีวิตที่ดีในตอนนี้

 

 

           “ฉันจะรีบไปทำไม เธอยังมีเวลาดูแลฉันอีก สู้เธอไปดูแลตัวเองให้ดีจะดีกว่านะ เธอคิดจะคบกงจวิ้นฉือแบบนี้ต่อไปเหรอ” ถังถังเอ่ย แววตาที่สวยงามจ้องเธอตาไม่กระพริบ

 

 

           เมื่อคิดว่าฉู่เจียเสวียนกับกงจวิ้นฉือยังไม่มีความคืบหน้า เธอก็รู้สึกร้อนใจ

 

 

           ได้ยินถังถังพูดถึงกงจวิ้นฉือ แววตาของเธอก็ก็ปรากฏอารมณ์ที่เธอเองก็ไม่สามารถเข้าใจได้