ตอนที่ 338 ร่วมแรง

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 338

ร่วมแรง

“ท่านน้า…”หลายวันผ่านไปแล้ว ไก่ฟ้าหงอนทองก็ยังสาละวนอยู่กับการตกแต่งรังในรูปแบบวังของมันอย่างต่อเนื่อง แม้ในสายตาไป๋จูเหวินแล้วมันจะสวยงามและอลังการจนเกินคำบรรยายไปมาก แต่ดูเหมือนในสายตาของท่านน้าจะยังไม่พอใจเสียเท่าไหร่

“โอ้ จูเอ๋อ เจ้ามีอะไรหรือ”ไก่ฟ้าหงอนทองถามด้วยท่าทียิ้มแย้ม แถมมือของมันก็ยังไม่หยุดขยับ ใช้พลังธาตุจัดโน่นแต่งนี้ไปทั่ว ถึงขนาดไปขอให้น้ามังกรปลูกต้นไม้ตามที่มันต้องการรอบๆวังทองคำอีกต่างหาก

“ดูท่านตั้งใจมากเลยนะขอรับ”ไป๋จูเหวินยิ้มเจื่อนๆพลางมองรังของท่านน้าอยู่เงียบๆ

“ใช่ๆ สำหรับเผ่านกแล้วรังของผู้ชายถือเป็นเสน่ห์เชียวนะ”ไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางหัวเราะออกมา ทำเอาไป๋จูเหวินที่อยู่ด้านหลังได้แต่ยิ้มบางๆ ปกติท่านน้าไก่ฟ้าเป็นคนที่อารมณ์ดีที่สุด แม้จะขี้โวยวายไปหน่อยแต่ท่านก็ใจดีกับไป๋จูเหวินที่สุด เงินทองไป๋จูเหวินไม่เคยขาดมือก็เพราะท่านน้าไก่ฟ้าทั้งนั้น เห็นท่านกำลังมีความสุขเช่นนี้มันก็อดรู้สึกดีไปด้วย

“ท่านน้า ข้าว่าตรงนี้แต่งแบบนี้ดีหรือเปล่า”ไป๋จูเหวินยิ้มพลางเดินเข้าไปช่วยไก่ฟ้าหงอนทองแต่งรัง มันน้าหลานไม่ได้ทำอะไรด้วยกันมาพักใหญ่แล้ว ได้ทำแบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ

“ท่านพ่อ ข้าจะช่วย”ไป๋หลินที่พึ่งมาถึงเห็นพ่อกับท่านน้ากำลังช่วยกันตกแต่งกำแพงก็พลันกระโดดเข้าไปช่วยงานทันที ทำให้การสร้างรังเสร็จไปได้อย่างราบรื่น

“แบบนี้คงเสร็จทันก่อนจื่อหนิงจะมาแน่ๆ”ไก่ฟ้าหงอนทองเท้าเอวมองผลงานที่ร่วมมือกับหลานๆทำออกมา มันเป็นวังมองคำที่งดงามและแพงหูฉี่ชนิดที่ว่าคงไม่มีจักรพรรดิองค์ไหนสร้างของแบบนี้แน่ๆ

“นางชื่อจื่อหนิงหรือขอรับ”ไป๋จูเหวินถามพลางยิ้มออกมา วันก่อนมันได้ทราบจากน้ามังกรแล้วว่าอสูรที่ไก่ฟ้าหงอนทองเล็งเอาไว้คืออสูรตนไหน ละได้ลองไปพบแล้วในฐานะจักรพรรดิกับขุนพล นางเป็นอสูรปักษาสีม่วงอ่อนที่ดูสวยงามและลึกลับ ในร่างมนุษย์ของนางเองก็งดงามและดูสูงศักดิ์อย่างมาก นางเป็นคนฉลาดและใช้การวางแผนมากกว่ากำลัง จริงๆแล้วนางอ่อนแอที่สุดในกลุ่มขุนพล แต่ได้ยินมาว่าตอนนางเอาชนะอสูรตนอื่นๆจนขึ้นมาเป็นขุนพลได้ นางไม่บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย แถมยังปราบอสูรตนอื่นไปได้หลายตนเลยทีเดียว นับว่าสายตาของท่านน้าไก่ฟ้ายังไม่ฟ้าฟางเลย

“ใช่แล้ว ข้าเห็นนางตอนทดสอบขุนพล แวบแรกก็ตกหลุมรักทันทีเลย”ไก่ฟ้าหงอนทองยิ้มพลางทำหน้าเคลิ้มฝัน

“องค์จักรพรรดิ ได้เวลาประชุมแล้วเจ้าค่ะ”ช่วยท่านน้าไก่ฟ้ามาได้พักใหญ่แล้ว ทำเอาไป๋จูเหวินลืมเวลาไปเลย นี่เป็นครั้งแรกเลยที่หลิวเมิ่งต้องมาตามไป๋จูเหวินไปเข้าประชุมเพราะปกติมันไม่เคยมาสาย

“รู้แล้ว ท่านน้า ข้าขอตัวก่อน”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มบางๆ

“ไปเถอะ น้าจะตรวจสอบรายระเอียดอีกหน่อย”ไก่ฟ้าหงอนทองตอบพลางตบบ่าไป๋จูเหวินเบาๆ ปกติอสูรอย่างพวกมันไม่ค่อยสนใจเรื่องความรักเท่าไหร่ เพราะพวกมันมีอายุขัยยืนยาว เรียกได้ว่าไม่จำเป็นต้องมีทายาทก็ยังได้ แต่ไม่จำเป็นก็ไม่ได้หมายความว่าไม่สามารถมีความรักได้ และคราวนี้ไก่ฟ้าหงอนทองก็โดนศรรักปักอกเข้าอย่างจังชนิดถอนตัวไม่ขึ้น

“ตายแล้ว เป็นวังที่สวยจริงๆ”เหล่าอสูรนกเพศเมียที่อาศัยอยู่ในวังหลวง ไม่ว่าจะเป็นขุนนางหรือทหารต่างก็มองเห็นวังทองคำจากระยะไกลได้อย่างง่ายดาย อย่างที่ไก่ฟ้าหงอนทองบอกเอาไว้ สำหรับเผ่าปักษาแล้ว รังของตัวผู้คือเสน่ห์ที่รุนแรงมาก

“พี่จื่อหนิง ท่านคิดว่าใครเป็นคนสร้างวังทองงั้นเหรอ”ทหารคนหนึ่งในสังกัดของจื่อหนิงขุนพลอสูรผู้พึ่งขึ้นมารับตำแหน่งได้ไม่นานถามพลางมองไปยังวังทองคำด้วยดวงตาเป็นประกาย

“เห็นท่านมังกรธรณีบอกว่าท่านไก่ฟ้าเป็นคนสร้างนะ”จื่อหนิงตอบพลางมองไปที่วังทองคำด้วยท่าทางแปลกๆ เห็นพวกสาวๆในกองทหารของตนเองวี๊ดว้ายกันใหญ่แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ สำหรับนางแล้วเรื่องหาตัวผู้มาเป็นคู่และอยู่ในรังเดียวกันมันออกจะไกลตัวไปเสียหน่อย แต่เดิมนางก็เป็นราชาอสูรในเขตอสูรเรือนพฤกษาอยู่แล้ว เรียกได้ว่าตำแหน่งสูงเกินกว่าตัวผู้ในเขตอสูรเดียวกันจะอาจเอื้อม การได้มาอยู่ร่วมกับอสูรตนอื่นๆและราชาอสูรจากที่ต่างๆแบบนี้นับเป็นประสบการณ์ใหม่เลยทีเดียว

“ท่านไก่ฟ้างั้นเหรอ ท่านเองก็นับเป็นเผ่าปักษาเหมือนกันนี่นา แบบนี้ข้าจะมีโอกาสไปอยู่ในวังของท่านหรือเปล่านะ”รองขุนพลของนางยังออกอาการขนาดนี้ พวกอสูรระดับกลางๆไม่หนักกว่านี้หรือ

“ตั้งใจฝึกซ้อม อย่ามัวพูดเรื่องไร้สาระ”จื่อหนิงเคาะพัดในมือตนกระแทกกับเก้าอี้เพื่อให้เหล่าทหารของตนรู้สึกตัวเสียที

“เจ้าคะ”เหล่าทหารตอบรับพลางเริ่มกลับไปฝึกบินตามคำสั่งของจื่นหนิงอย่างตั้งใจ

.

.

“องค์จักรพรรดิ ข้ามีเรื่องอยากจะขอร้องเจ้าค่ะ”ระหว่างเดินทางไปเข้าประชุม อยู่ๆหลิวเมิ่งก็เอ่ยถามขึ้นมาด้วยท่าทีจริงจัง

“มีอะไรหรือ”ไป๋จูเหวินถามพลางมองไปทางนางด้วยท่าทีสบายๆ ความจริงไป๋จูเหวินรู้อยู่แล้วว่านางจะขออะไร เพราะน้ามังกรบอกแผนการที่มันพาหลิวหลงและหลิวมู่เฉินมาดูการประลองไปแล้ว เชื่อว่าหลิวหลงที่เป็นชายน่าจะตัดสินใจได้เสียทีว่าควรทำเช่นไร แม้แต่พวกทหารที่เคยไม่อยากติดตามไป๋จูเหวินก่อนหน้านี้ยังยอมออกมาทำงานกันหมดแล้วเลย

“ข้าอยากจะขอให้พี่ชายของข้าหลิวหลงได้เข้าพบท่านเจ้าค่ะ”หลิวเมิ่งตอบออกมาอย่างที่ไป๋จูเหวินคิดไม่มีผิด

“ได้ เจ้าให้มันมาพบข้าได้เลย”ไป๋จูเหวินตอบพลางเดินเข้าไปในห้องประชุม หลังจากส่งราชาอสูรไปประจำเมืองต่างๆเพื่อสร้างค่ายกลอสูรแล้ว งานของไป๋จูเหวินก็เบาลงมาก นอกจากจะได้พวกท่านน้าช่วยจัดการเรื่องต่างๆแล้ว ชาวเมืองของอาณาจักรหลิวยังเข้ากับอสูรได้เร็วกว่า แถมคราวนี้มันไม่ได้ส่งเหล่าอสูรไปทำหน้าที่เจ้าเมือง ทำให้มนุษย์ไม่รู้สึกเหมือนโดนเบียดเบียนอำนาจเท่าไหร่อีกด้วย ทำให้ค่ายกลอสูรที่กินพื้นที่ของอาณาจักรโฮ หลิว และ เขตอสูรผาไร้ก้นเสร็จสิ้นได้อย่างปลอดภัย

แถมเพราะหงเยว่ช่วยรับงานของกลุ่มนักล่าอสูรแทนเหม่ยหลิน ทำให้นางสามารถมาช่วยงานไป๋จูเหวินได้อีก ทำเอาการประชุมหลายๆวันมานี้ราบรื่นอย่างบอกไม่ถูก

.

.

“องค์จักรพรรดิ”หลังจากนั้นไม่กี่วัน หลิวหลงก็มาขอเข้าพบตามที่หลิวเมิ่งได้ขอร้องเอาไว้

“ข้าใช้เวลาไตร่ตรองอยู่นาน ข้าจึงตัดสินใจได้เสียที….”หลิวหลงพูดพลางกำหมัดแน่น มันทราบแล้วว่าตนเองไม่สามารถทำอะไรกับความแค้นที่มีกับไป๋จูเหวินได้ แต่สิ่งที่มันทำให้ประชาชนได้ยังมีอยู่

“องค์จักรพรรดิข้า…..”

“จูเอ๋อ”หลิวหลงยังไม่ทันได้พูดอะไรออกไป อยู่ๆจิ้งจอกเหมันต์กับราชสีห์เพลิงก็พุ่งเข้ามาในท้องพระโรงทันที เพราะเวลานี้สมควรเลิกประชุมแล้ว แต่หลิวหลงเข้ามาในช่วงหลังประชุมเสร็จเท่านั้น

“เจ้ามาช่วยน้าหน่อย เร็วเข้า”หลิวหลิงยังไม่ทันพูดอะไรออกไป ท่านน้าทั้งสองของไป๋จูเหวินก็ลากตัวมันออกไปเสียอย่างนั้น

“หลิวเมิ่ง ให้พี่ชายเจ้าออกมาช่วยงานกองทหารได้เลย….”พูดยังไม่ทันจบไป๋จูเหวินก็โดนลากออกไปเสียแล้ว ทำเอาทั้งหลิวเมิ่งทั้งหลิวหลงไม่ทราบจะพูดเช่นไรดี แต่เรื่องที่ตนจะมาขอร้องก็จบแล้ว ถึงจะยังไม่ได้พูดออกไปก็เถอะ

“ท่านน้า มีอะไรหรือขอรับ”ไป๋จูเหวินถามหลังจากโดนท่านน้าจิ้งจอกกับน้าราชสีห์ลากออกมา

“เจ้าก็รู้ว่าเจ้าไก่นั่นระยะสัมผัสกว้างพอๆกับพวกเราเลย แต่ถ้าเป็นตาของเจ้าละก็มันต้องไม่รู้ตัวแน่ๆ”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางกระโดดพาไป๋จูเหวินปีนขึ้นไปบนยอดหลังคา

“ดวงตาของข้า?”ไป๋จูเหวินงุนงงพลางมองไปรอบๆ แต่สายตาของมันก็หยุดลงที่หน้าวังทองคำของน้าไก่ฟ้าเสียอย่างนั้น แถมดวงตายังเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินอย่างรู้งานอีกต่างหาก ระยะขนาดนี้หากไม่ใช่ดวงตาของไป๋จูเหวินคงมองไม่เห็นแน่ๆ

“เป็นยังไง นางเข้าไปหรือยัง”น้าจิ้งจอกถามพลางพยายามเพ่งมองภาพตรงหน้า แต่ระยะสายตาของนางสั้นกว่าไป๋จูเหวิน แถมไม่อยากทำให้ไก่ฟ้าหงอนทองรู้ตัวเสียด้วย

“….เข้าไปแล้วขอรับ ท่านน้าไก่ฟ้าพานางเข้าประตูหน้าไปแล้ว”ไป๋จูเหวินตอบพลางมองภาพตรงหน้าด้วยท่าทีสนใจเช่นกัน นี่พวกท่านน้าพามันออกมาเพื่อใช้แทนกล้องส่องทางไกลนี่เอง

“ท่านไก่ฟ้าหงอนทอง ท่านเรียกข้ามามีธุระอะไรหรือเจ้าคะ”ทางฝั่งวังทองคำ จื่อหนิงที่พึ่งเดินเข้ามาในตัววังก็ต้องอดประหลาดใจไม่ได้ เห็นจากระยะไกลว่างดงามแล้ว แต่พอมาเห็นใกล้ๆแบบนี้แล้ววังทองคำก็ช่างงดงามจริงๆ

“เรื่องนั้น……เอ่อ…..เข้ามาก่อนสิ”ไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางพาจื่อหนิงเข้าไปในวัง แน่นอนว่าภายในวังทองคำเองก็ตกแต่งอย่างดงามเช่นกัน แถมยังงดงามกว่าที่เห็นภายนอกอีกต่างหาก

“ข้าไม่รู้จะพูดอย่างไรดี”ไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางหันมามองหญิงสาวด้วยท่าทางเขินอาย

“ข้าสร้างวังทองคำแห่งนี้เพื่อเจ้า”ในที่สุดไก่ฟ้าหงอนทองก็พูดออกไปด้วยความกล้าทั้งหมดที่มันมี

“….”แน่นอนว่าจื่อหยิงย่อมเข้าใจความหมายที่ไก่ฟ้าหงอนทองพูด เพียงแต่…

“แต่ข้า….”จื่อหนิงหน้าแดงจัดเพราะไม่เคยโดนอสูรตนไหนทำแบบนี้มาก่อน นางเป็นราชาของเขตอสูร แต่เดิมเหนือกว่าอสูรตนอื่นๆมากมายหลายเท่า ไม่เคยนึกฝันถึงเรื่องแบบนี้ ถึงขั้นไม่พอใจที่ลูกน้องเอาแต่พากันพูดเรื่องแบบนี้เลยทีเดียว

“แต่ข้าเป็นนก….ท่านเป็นไก่นะเจ้าคะ”ได้ยินคำนี้เข้าไปใจของไก่ฟ้าหงอนทองก็กระอักกระอ่วนทันที

“แถมระดับของข้ายังน้อยกว่าท่าน แถมท่านยังเป็นน้าขององค์จักรพรรดิอีก”จื่อหนิงว่าพลางหลับตาลง นางไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน บอกตามตรงว่ารับมือไม่ถูกเช่นกัน

“เรา..”จื่อหนิงว่าพลางถอยออกมาจากตัวไก่ฟ้าหงอนทองเล็กน้อย

“เราต่างกันเกินไปเจ้าค่ะ”พูดจบนางก็วิ่งออกไปจากวังทองทันที ทำเอาไก่ฟ้าหงอนทองวิญญาณแทบหลุดออกมาจากร่าง นี่มันโดนปฏิเสธงั้นเหรอ

“อะไรกัน เจ้าไก่โดนหักอกงั้นเหรอ”ทางฝั่งพวกน้าจิ้งจอกกับน้าราชสีห์เองก็ตกใจไม่แพ้กัน ไก่ฟ้าหงอนทองทั้งมีพลังอสูรที่สูงส่ง แถมมันยังสร้างรังอย่างอลังการอีกต่างหาก พวกมันไม่คิดเลยว่านางจะปฏิเสธ