ตอนที่ 1509 สาสน์จากเมืองจักรพรรดิ

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 1509 สาสน์จากเมืองจักรพรรดิ โดย Ink Stone_Fantasy

เย่หยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่พลางส่ายหัวกล่าวขึ้นว่า

“แม้ตอนนั้นข้าจะไม่รู้ว่านเหตุการณ์ระหว่างหารบรรยายของท่านบรรพชนโอสถเป็นอย่างไร แต่คิดว่าระดับชั้นของข้ายังแย่กว่าเขามากนัก เจาสามารถดูดซับเส่วนหนึ่งเพื่อนำมาสืบทอดต่อได้ ทว่าข้ากลับไม่สามารถ ดังนั้นแล้วขอบเขตปัจจุบันของข้ายังคงต่ำเกินไป หากเป็นเต๋าระดับสูงกว่านี้กลับไม่มีทางเข้าใจได้เช่นกัน สักวันหนึ่งหากข้าบรรลุกลายเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้ ข้าคิดว่าระดับชั้นคงไม่แย่ไปกว่าท่านบรรพชนโอสถกระมัง”

เย่หยวนคนนี้มีความมั่นใจเกินกว่านักหลอมโอสถทั่วไปเป็นทุนเดิม

แม้ว่าบรรพชนโอสถจะเป็นการดำรงอยู่ที่เหล่านักหลอมโอสถทุกคนทั่วมหาพิภพถงเทียนเสาะหา แต่เย่หยวนเองก็ค่อนข้างมั่นใจเช่นกันว่าจนจะสามารถไล่ตามได้ทัน

วาจาคำกล่าวเหล่านี้อาจดูหยิ่งผยองหาที่เปรียบไม่ หากคนอื่นๆได้ยินเข้า

แต่หวูเฉินกลับเลือกที่จะเชื่อเย่หยวน เพราะทั้งความแกร่งกล้าและพรสวรรค์สุดท้าทายฟ้าดินของเขา!

สิ่งหนึ่งที่ควรทราบคือ ตั้งแต่เริ่มที่เย่หยวนก้าวเข้าสู่มหาพิภพถงเทียนจวบจนตอนนี้ นี่ยังไม่ถึงร้อยปีด้วยซ้ำ

แต่พัฒนาการความแข็งแกร่งของเขากลับรุดหน้ารวดเร็วอย่างคาดไม่ถึง

อย่างน้อยที่สุด ภายใต้สรรพสิ่งสุดขอบฟ้าไกลในขอบเขตความเข้าใจของหวูเฉิน นอกเหนือจากท่านบรรพชนโอสถแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดสามารถเทียบเคียงเย่หยวนได้เลย

และเหตุการณ์ในวันนี้ที่เย่หยวนสร้างปรากฏการณ์ณ์ทำนองแห่งยอดเต๋ามาได้ สิ่งนี่ทำให้บรรดาเหล่านักปรุงโอสถปีศาจเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่

“ท่านปรมาจารย์บรรพกาลราตรีช่างน่าเหลือเชื่อนัก! สิ่งที่ท่านกล่าวสอนได้ทำลายความเข้าใจเก่าๆต่อศาสตร์แห่งโอสถของข้าไหปจนหมด!”

“กล่าวไม่ถูกต้องสักทีเดียว! ข้ารู้สึกดั่งความรู้ความเข้าใจของข้าในอดีตที่ผ่านมาทั้งหมด เป็นเพียงผิวเผินเท่านั้น ทว่าความรู้ความเข้าใจของท่านปรมาจารย์ราตรีกลับแตกต่างจากเราโดยสิ้นเชิง!”

“สิ่งนั้นแน่นอนอยู่แล้ว! มิฉะนั้นท่านจะเรียกปรากฏการณ์ณ์ทำนายแห่งยอดเต๋าขึ้นมาได้อย่างไร?”

“ข้าคิดว่า บางทีท่านปรมาจารย์บรรพกาลราตรีอาจกลายมาเป็นท่านบรรพชนโอสถคนที่สองก็เป็นได้?”

“อืมม…ยากที่จะกล่าวเช่นนั้น การดำรงอยู่ของท่านบรรพชนโอสถหาใช่สิ่งที่เจ้าจะจินตนาการได้ ตอนนี้ท่านปรมาจารย์บรรพกาลราตรียังเป็นเพียงนักปรุงโอสถระดับสอง หนทางยังอีกยาวไกลนัก อย่างไรก็ตาม หากเขายังคงใฝ่ศึกษาเรียนรู้ต่อไป นี่ถือเป็นสัญญาที่ดีในอนาคต!”

“จุจุ…อย่าได้กล่าวเรื่องนี้อีกต่อไป ทางเบื้องบนสั่งให้พวกเราปิดปากเงียบ หากใครมาได้ยินอาจเกรงว่าตายไม่รู้ตัว!”

ภายในโถงโอสถปีศาจแห่งเมืองหลวงคาโปน เหล่านักปรุงโอสถจำนวนหนึ่งที่ได้เข้าฟังการบรรยายของเย่หยวน ยามนี้กระซิบกระซาบต่างสนทนากันอย่างลับๆ

เว้นเสียแต่ ทางโถงโอสถปีศาจได้ออกคำสั่งชี้ขาดให้ปิดปากห้ามแพร่งพราย แต่พวกเขามิอาจสะกดความตื่นเต้นได้ลง จึงต้องจับกลุ่มคุยกันเงียบงัน

ทุกคนต่างคาดเดากันไปว่า ท่านปรมาจารย์บรรพกาลราตรีจะสามารถไต่เต้าถึงระดับชั้นของท่านบรรพชนโอสถได้หรือไม่

ท้ายที่สุดแล้ว นักปรุงโอสถปีศาจที่สามารถสร้างปรากฏการณ์ณ์ทำนองแห่งยอดเต๋าขึ้นมาได้ สิ่งนี้นับเป็นเครื่องการันตีได้ว่าพรสวรรค์ของเขามิได้ด้อยไปกว่าเหล่าบรรพชนแห่งเต๋าเลย!

แน่นอน มหาพิภพถงเทียนแห่งนี้กว้างใหญ่ไพศาลเกินไป บางทีอาจมีนักปรุงโอสถปีศาจคนอื่นๆที่สามารถสร้างปรากฏการณ์ณ์ทำนองแห่งยอดเต๋าขึ้นมาได้เช่นกัน เพียงว่าพวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนเท่านั้น

สามารถสร้างปรากฏการณ์ณ์ทำนองแห่งยอดเต๋าขึ้นได้ขณะที่เป็นเพียงนักปรุงโอสถปีศาจระดับสอง ไม่ว่าใครเห็นต่างต้องกล่าวกันเป็นเสียงเดียว นี่เป็นภาพเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นที่สุดแล้ว

ผัวะ!

ผัวะ!

ผัวะ!

ภายในโถงโอสถปีศาจแห่งเมืองหลวงมรกตทมิฬ โม่หานกระหน่ำตบหน้าคงเซียวครั้งแล้วครั้งเล่าจนเละเป็นหัวหมู

เมื่อเขาได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในการบรรยาย เขาก็โมโหแทบคลั่ง

ภาพในหัวของเขาตอนนี้ชัดเจนยิ่งกว่าอะไร มาตรฐานความสามารถของโถงโอสถปีศาจสาขาเมืองหลวงมรกตทมิฬจะถูกโถงโอสถปีศาจสาขาอื่นๆแซงหน้าพัฒนากันไปหมดในอีกไม่ช้า!

“ทำนองแห่งยอดเต๋า! นั้นคือปรากฏการณ์ณ์ในตำนาน ทำนองแห่งยอดเต๋า!! เจ้าเป็นหมูโง่หรืออย่างไร? ถึงกล้าสบประมาทนักปรุงโอสถปีศาจที่สามารถสร้างปรากฏการณ์ณ์ในตำนานได้?!”

“มีนักปรุงโอสถปีศาจสองดาวที่เข้าฟังบรรยายเลื่อนระดับชั้นถึงสี่สิบสามคน!”

“ครึ่งเดือนต่อมามีคนเลื่อนระดับชั้นได้อีกสองร้อยยี่สิบแปดคน!”

“แล้วตอนนี้ยังมีคนที่อยู่ระหว่างการเก็บตัวนับพันคน! ไม่สิ มากกว่าพันคนไปแล้ว!”

“แล้วพวกเราล่ะ? ไม่มีสักคน! ไม่มีแม้แต่คนเดียว!”

“ไอ้หมูโง่! ตอนนี้รู้สึกมีความสุขหรือไม่? อยากเสียหน้าก็เสียไปคนเดียว ไฉนถึงต้องลากประมุขโถงผู้นี้ลงไปด้วย!”

โม่หานคำรามใส่คงเซียวด้วยความฉุนเฉียว พร้อมตบสั่งสอนไปอีกระลอกหนึ่ง

ส่วนคนอื่นๆโดยรอบต่างนั่งนิ่งปิดปากเงียบราวกับจักจั่นในฤดูหนาว

ในเวลานี้จ้าวทัพปีศาจโกรธแค้นอย่างที่สุด เพลิงพิโรธแทบผลาญสรรสิ่งนับพันลี้ในอึดใจ!

 แต่พวกเขาเองก็เข้าใจเหตุผลที่โม่หานโกรธเกรี้ยวเช่นกัน เพราะเรื่องนี้เองทำให้พวกเขาขุ่นเคืองใจไม่น้อยไปกว่าโม่หานเลย

ในความเป็นจริง เบื้องลึกภายในใจของพวกเขาทั้งหมดต่างก่นด่าสาปแช่งคงเซียวนับหมื่นแสนครั้งไม่มีสิ้นสุด

เพราะมันคนเดียวทำให้ทุกคนพลาดโอกาสดีๆเช่นนี้ไป!

ปรากฏการณ์ณ์ทำนองแห่งยอดเต๋า ชั่วชีวิตนี้พวกเขาไม่ได้เห็นอีกแล้ว

โม่หานโกรธถึงขีดสุด!

ตามข่าวสารจากโถงร้อยปัญญา ทุกคนที่เดินทางไปยังเมืองหลวงคาโปน ทั้งหมดล้วนแต่มีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด

คนที่ติดปัญญาไม่สามารถเลื่อนระดับชั้นได้เป็นเวลาเนิ่นนาน ยามนี้ต่างเลื่อนระดับชั้นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

การที่ได้เห็นปรากฏการณ์ณ์ทำนองแห่งยอดเต๋ากับตาตนเอง ต่อให้พวกเขาไร้ซึ่งพรสวรรค์เพียงใด แต่อย่างน้อยที่สุดพวกเขาเหล่านั้นก็ยังมีพัฒนาการขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย

แต่มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่ไม่มีอะไรคืบหน้าพัฒนาขึ้นเลยแม้แต่น้อย!

ทั้งหมดเป็นความผิดของคงเซียว

แล้วจะไม่ให้โม่หานโมโหได้อย่างไร?

หลังระบายดุด่ากระหน่ำตบไปครู่ใหญ่ ในที่สุดโม่หานก็บรรเทาความโกรธลงบ้างแล้ว

“เมฆาม่วง นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าคือประมุขโถงโอสถปีศาจคนใหม่! คงเซียวเจ้าจะถูกลดศักดิ์เป็นทาส และนำตัวไปขังคุกเพื่อหลอมกลั่นโอสถเป็นเวลาสามพันปี!”

เมื่อกล่าวจบ โม่หานก็จากไปทันที

เมฆาม่วงเป็นนักปรุงโอสถปีศาจระดับสามเช่นกัน แต่ทักษะฝีมือของเขาค่อนข้างแย่กว่าคงเซียวมาก

เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่าเรื่องดีๆจะมาเกิดขึ้นกะทันหันเช่นนี้

ส่วนคงเซียวถูกลดระดับลงให้กลายเป็นทาสถึงสามพันปี โดยพื้นฐานแล้วชั่วชีวิตนี้ คงเซียวคงไม่มีวันได้เชิดหน้าชูคออีกต่อไป

เป็นเวลาสองเดือนแล้วหลังจากที่เย่หยวนเปิดการบรรยายครั้งใหญ่

ในขณะนี้  เย่หยวนกำลังปลีกวิเวกเก็บตัวและบ่มเพาะพลังอย่างสงบ

คราวนี้ที่เขาสามารถกระตุ้นให้เกิดปรากฏการณ์ณ์ทำนองแห่งยอดเต๋าขึ้นมาได้ เขาเองก็ได้รับผลประโยชน์เช่นกันโดยธรรมชาติ

ทำนองแห่งยอดเต๋านี้จำต้องใช้เวลาในการย่อยกลั่นกรองลงไปอย่างคอยเป็นคอยไป

สองเดือนต่อมา เมืองหลวงคาโปนเข้าต้อนรับการมาของอาคันตุกะที่มีชื่อเสียงลือเลื่องเป็นอย่างยิ่ง

“ทำความเคารพท่านดาราสวรรค์!”

อวี้หานโค้งคำนับให้แก่ชายชราผู้นี้ วาจาน้ำเสียงเปี่ยมล้นไปด้วยความเคารพยิ่ง

“หุหุ อวี้หาน เจ้ามีส่วนช่วยอย่างมากในครั้งนี้!”

ดาราสวรรค์กล่าวขึ้นด้วยวาจาแสนปลื้มใจ

ดาราสวรรค์ผู้นี้เป็นนักปรุงโอสถปีศาจระดับสี่แห่งโถงโอสถปีศาจสาขาเมืองจักรพรรดิกล้วยไม้อริยะ ซึ่งเป็นถึงจ้าวทัพปีศาจเก้าดาว สถานศักดิ์ของเขาสูงส่งเป็นอย่างมาก

อวี้หานยิ้มและกล่าวตอบว่า

“อวี้หานไม่กล้าเรียกร้องความดีความชอบใดๆ”

ดาราสวรรค์ยิ้มและกล่าวว่า

“มีส่วนช่วยคือมีส่วนช่วยจริงๆ เจ้าจะแสร้งมีมารยาทดั่งพวกมนุษย์เพื่ออันใด? ข้าไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่าเมืองหลวงคาโปนเล็กๆแห่งนี้ จะให้กำเนิดนักปรุงโอสถปีศาจที่สามารถกระตุ้นให้เกิดปรากฏการณ์ณ์ทำนองแห่งยอดเต๋าขึ้นมาได้! เด็กหนุ่มคนนี้จะต้องเข้าสังกัดโถงโลหิตปรโลกของข้า!”

อวี้หานพยักหน้าและกล่าวว่า

“ท่านดาราสวรรค์โปรดมั่นใจ หลังจากที่เสร็จสิ้นการสำรวจซากโบราณสถาน ข้าจะพาเข้าไปยังเมืองจักรพรรดิเป็นการส่วนตัว”

แต่ดาราสวรรค์กลับส่ายหัวและกล่าวว่า

“ยอดอัจฉริยะเฉกเช่นเขา เจ้าจะกักขังไว้ได้อย่างไร? โถงโลหิตปรโลกของข้าขอต้อนรับด้วยความเต็มใจ!”

อวี้หายขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมกล่าวว่า

“นี่…คงยาก! ท่านดาราสวรรค์คงมิทราบ หากอวี้หานคนนี้ไม่มีพันธสัญญาเลือดกับเขาอยู่ คงไม่มีทางเช่นกันที่จะมัดเขาติดกับโถงโลหิตปรโลกได้นานขนาดนี้ ชายหนุ่มคนนี้มีจิตใจหยิ่งผยองและทะนงตนเป็นที่สุด และเป็นไปได้ยากยิ่งที่เขาจะยอมจำนนด้วยใจจริง”

แต่ดาราสวรรค์กลับมิใส่ใจนัก และกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้มประดับกว้าง

“ยอดอัจฉริยะที่สามารถสร้างปรากฏการณ์ทำนองแห่งยอดเต๋าได้ ไหนเลยจะไร้ซึ่งความหยิ่งผยองแสนทะนงตน? คนที่มีความสามารถมากพอเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์เย่อหยิ่ง! เราผู้นี้ทราบดีว่าเจ้ามิอาจปราบเขาได้ นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ข้าเดินทางมาเป็นการส่วนตัว! เจ้าพาเข้าไปอย่างให้คนนอกทราบเด็ดขาด เรื่องนี้ประมุขโถงใหญ่ออกคำสั่งห้ามแล้ว โดยไม่อนุญาตให้กลุ่มอำนาจอื่นๆ ล่วงรู้โดยเด็ดขาด”

แม้ว่าเรื่องนี้ที่เย่หยวนสามารถสร้างปรากฏการณ์ณ์ทำนองแห่งยอดเต๋าขึ้นได้ จะเป็นเรื่องน่าตื่นตะลึงยิ่ง แต่คนที่ทราบกลับอยู่ในวงจำกัด มีเพียงคนภายในโถงโลหิตปรโลกเท่านั้น

สำหรับข่าวการบรรยายในลานประลองเลือด เป็นเรื่องง่ายนักที่จะปิดข่าวมิให้ภายนอกทราบ

โถงโลหิตปรโลกเองก็ไม่จำเป็นต้องปิดข่าวทั้งหมดเช่นกัน เพียงเรื่องปรากฏการณ์ณ์ทำนองแห่งยอดเต๋าเท่านั้นที่คนภายนอกมิอาจล่วงรู้ได้

ทักษะความน่าเกรงขามของบรรพกาลราตรีในศาสตร์แห่งโอสถ หาใช่เป็นความลับของเมืองหลวงคาโปนมาเนิ่นนานแล้ว

…………………………………