ตอนที่ 831 : คฤหาสน์ราชันมังกร

 

เฟิงอู่ฉิวกล้ำกลืนโทสะลงท้องจนหัวใจแทบหลั่งเลือดออกเป็นสายยามเมื่อเผยยิ้มให้แก่ฉินหยุน อย่างไรแล้ว แม้แต่นายใหญ่หลงยังต้องเสียเดิมพัน หากเขาหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดกล่าวคงเสื่อมเสียแย่ ดังนั้นจึงต้องเสแสร้งต่อหน้าผู้อื่น

 

บรรดาลิ่วล้อของเขาเองก็ฝืนยิ้มอย่างผิดรูปอย่างเสียมิได้ใบหน้าเปื้อนยิ้มนั้นมีแต่ความโศกอย่างเห็นได้ชัด

 

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยยินดีเป็นล้นพ้นอยู่ภายใน นางถึงกับลอบชื่นชมนายใหญ่หลงที่เป็นผู้ชาญฉลาดเขาเลือกขายคนของตนเอง และยังเอื้อเฟื้อให้ผู้อื่นที่เพิ่งรู้จักได้รับลาภก้อนใหญ่

 

นายใหญ่หลงเลือกที่จะขายเฟิงอู่ฉิว ทว่าอีกฝ่ายจะไม่มีทางได้ตระหนัก เพราะนายใหญ่หลงเองก็ต้องสูญเสียหนึ่งพันล้านเหรียญม่วง นี่ถือเป็นละครลวงที่นายใหญ่หลงละเล่นอย่างชาญฉลาด

 

ฉินหยุนยังได้ตระหนัก ว่าตนเองตอนนี้ติดค้างนายใหญ่หลงเข้าแล้ว บรรดาผู้เฒ่าชราที่สนับสนุนเฟิงอู่ฉิว เวลานี้ต่างรู้สึกไม่ยินดีภายในเนื่องด้วยสูญเสียหนึ่งพันล้าน

 

คล้ายกับพวกเขาพบเห็นความคิดของนายใหญ่หลงไม่มากก็น้อย อย่างไรแล้ว เหล่านี้ก็เป็นเฒ่าจิ้งจอกชราที่มีชีวิตยืนยาว

 

นายใหญ่หลงกล่าวคำจริงจัง “สาเหตุที่ข้าเรียกทุกคนมารวมตัวกันวันนี้ก็เพราะ ข้าคิดอยากประกาศเหตุการณ์สำคัญ ทุกคนที่นี้ต่างเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของหอแมกไม้มังกรของเรา ดังนั้นแล้วย่อมต้องได้รับสิทธิ์ทราบข่าวคราวของตระกูลหลงเราก่อนผู้ใด!”

 

ทุกคนที่นี้ต่างได้ตระหนัก ว่านี่จึงเป็นผลประโยชน์แท้จริงของการเข้าพักในหอแมกไม้มังกรแม้ว่าจะต้องใช้เหรียญม่วงมากมาย ทว่ามันก็คุ้มค่า ส่วนเรื่องสำคัญที่นายใหญ่หลงคิดประกาศ ผู้คนต่างคิดว่ามันต้องมีประโยชน์อย่างมหาศาล

 

“ดังทุกคนทราบ ตระกูลหลงแห่งแคว้นมังกรทะยานฟ้าของเราเวลานี้ กำลังเผชิญหน้ากับภัยคุกคามใหญ่หลวงเช่นตระกูลเจี้ยนจากแคว้นมหาดวงดาว และนอกจากตระกูลเจี้ยนพร้อมพันธมิตร ฝักฝ่ายใหญ่ทั้งหลายของแคว้นอื่น ไม่ว่าจะเป็นตระกูลหรือสำนัก ล้วนแต่พึ่งพาตระกูลหลงของเรากันทั้งสิ้น!”

 

“แม้เป็นเช่นนั้น แต่หากตระกูลหลงของเราต้องเปิดศึกกับตระกูลเจี้ยน ผลลัพธ์ย่อมต้องมีความสูญเสียเกิดขึ้น! ทุกคนต่างทราบ ผู้ฝึกตนดาบของตระกูลเจี้ยนล้วนชวนสะพรึง ภายใต้ขอบเขตเดียวกัน พวกเขาหนึ่งคนสามารถต้านรับได้สิบ หรือไม่ก็อาจมากกว่าสิบ! ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลเจี้ยนยังครอบครองเจ็ดดาบเซียนอันชวนสะพรึง รวมถึงผู้พิทักษ์ครึ่งเซียนหกทัณฑ์พิบัติ ด้วยพลังอำนาจระดับดังกล่าว แม้เป็นฝักฝ่ายใหญ่ของเขตแดนลึกล้ำก็ยังไม่กล้ายั่วยุพวกเขาโดยง่าย!”

 

ฉินหยุนนึกย้อนถึงเจ็ดบรรพบุรุษดาบ พวกเขาล้วนเป็นตัวตนชวนสะพรึงอย่างแท้จริง! ตระกูลเจี้ยนมีอำนาจที่พร้อมเขย่าขวัญทั่วทั้งแดนวิญญาณอ้างว้างเขตแดนนอก ทั้งยังสามารถสังหารเปิดทางสู่เขตแดนลึกล้ำเพื่อปักหลัก ฝักฝ่ายเบื้องหลังกลุ่มคนในห้องโถงนี้ ต่างร่วมมือกับตระกูลหลงกันทั้งสิ้น เมื่อได้ยินคำกล่าวของนายใหญ่หลง สีหน้าพวกเขาเวลานี้จึงมืดมน

 

นายใหญ่หลงกล่าวคำต่อ “ทว่าไม่นานมานี้ ตระกูลหลงของเราได้ทำการติดต่อสำนักมังกรฟ้าแห่งแดนเซียนอ้างว้างได้สำเร็จ พวกเขาได้ส่งกลุ่มคนลงมาจากแดนเซียนอ้างว้าง เหล่านั้นล้วนพำนักอยู่ที่คฤหาสน์ราชันมังกรของพวกเราแล้ว!”

 

คำกล่าวเหล่านี้ เป็นผลให้ผู้คนต่างอุทานตื่นตระหนก คนของแดนเซียนอ้างว้างพำนักอยู่ที่คฤหาสน์ราชันมังกร เรื่องราวนี้มันมากพอที่จะทำให้ผู้คนตื่นตะลึง

 

“เหล่านั้นเป็นเซียนหรือ?” ชายชราผู้หนึ่งกล่าวถาม

 

“ย่อมไม่ใช่ ทว่าเป็นครึ่งเซียนที่แข็งแกร่งเหนือล้ำ! พวกเขายังนำเอาอุปกรณ์เซียน ค่ายอาคมเซียน รวมถึงเม็ดยาเซียนมาด้วย…” นายใหญ่หลงกล่าว

 

ถ้อยคำเหล่านี้ มันมากพอที่จะสร้างความฮือฮาได้อีกครั้งหนึ่ง ทั้งฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยต่างคาดเดาได้แต่แรกว่าเรื่องราวต้องเป็นเช่นนี้

 

นายใหญ่หลงกล่าวคำต่อ “แม้แข็งแกร่งที่สุดของกลุ่มคนจากแดนเซียนอ้างว้างคือครึ่งเซียนกระนั้นพวกเขาต่างเลิศล้ำ นอกจากนี้แล้ว พวกเขายังรับปากพวกเราว่าจะช่วยฝึกฝน! รวมถึงช่วยส่งต่อวิชาการต่อสู้สำหรับใช้ต้านรับผู้ฝึกตนดาบ! ในเมื่อข้ามีเส้นสายภายในตระกูลหลง จึงได้รับมาทั้งสิ้นห้าสิบสิทธิ์! ข้าสามารถให้ยอดฝีมือใดก็ได้เข้าสู่ตระกูลหลงเพื่อไปฝึกฝน! กระนั้น สิทธิ์เหล่านี้แก่งแย่งมาอย่างยากลำบาก ดังนั้นแล้ว หนึ่งสิทธิ์จำเป็นต้องจ่ายมากถึงหนึ่งพันล้าน!”

 

เรื่องนี้เป็นผลให้เฟิงอู่ฉิวเผยใบหน้าซีดเผือดราวคนตาย รวมถึงบรรดาลิ่วล้อของเขาต่างก็มีสภาพไม่ต่างอะไรกับคนตาย พวกเขาเพิ่งพลาดโอกาสครั้งสำคัญไป!

 

“แม้ราคานี้อาจจะสูงไปบ้าง ทว่าข้ากล้ารับปากว่ามันคุ้มค่าอย่างแน่นอน! นอกจากนี้แล้วส่วนแบ่งนี้ข้าเก็บไว้ได้เพียงแค่หนึ่งในสิบ ส่วนอีกเก้าในสิบจำเป็นต้องส่งให้แก่บรรดาผู้อาวุโส! ข้าได้รับสิทธิ์เหล่านี้มาจากเส้นสาย หวังว่าทุกคนที่นี้คงเข้าใจ!” นายใหญ่หลงกล่าว

 

นายใหญ่หลงผู้นี้กำลังจะหาเงินห้าหมื่นล้านจากสิทธิ์ทั้งห้าสิบ กล่าวได้ว่าเป็นธุรกิจครั้งใหญ่มหาศาล! บรรดาชายชราที่นี่ เวลานี้ต่างพิจารณากันเคร่งเครียด

 

“นายใหญ่หลง ตระกูลหลงของท่านคงต้องประกาศเชื้อเชิญฝักฝ่ายอื่นด้วยกระมัง? พวกเขาจะยังมีสิทธิ์คงเหลืออยู่ใช่หรือไม่?” หนึ่งในชายชราเอ่ยถาม

 

“เปิดนั้นต้องเปิด ทั้งสิ้นมีห้าร้อยสิทธิ์ ข้ามีห้าสิบที่ตรงนี้ ส่วนที่เหลือสี่ร้อยห้าสิบจะถูกนำประมูลแก่ฝักฝ่ายทั้งหลาย ถึงตอนนั้น ราคาจะไม่มีทางถูกเช่นหนึ่งพันล้านอย่างแน่นอน! ยิ่งไปกว่านั้นที่นี้ยังมีคนเกินกว่าหนึ่งร้อย” นายใหญ่หลงยังไม่ทันกล่าวจบ เขาก็พลันต้องถูกขัดไว้เสียก่อน

 

เป็นฉินหยุนที่กล่าวคำขัดขึ้น เขาตะโกนแจ้ง “ข้าซื้อสองสิทธิ์!”

 

“ยินดียิ่งนักแล้ว!” นายใหญ่หลงเร่งรีบยิ้มรับ “มอบเหรียญม่วงให้แก่ผู้ดูแลไป นางจะช่วยลงทะเบียนให้!”

 

เฉินหยุนมีเงินสำรองมากมายเหลือเฟือ สองพันล้านแทบไม่นับเป็นอะไร! ถึงตอนนี้ บรรดาผู้ร่ำรวยในห้องโถงต่างเริ่มตะโกนซื้อหาสิทธิ์กันทีละคนแล้ว

 

หลายคนต่างตั้งแถวตรงหน้าผู้ดูแลไป ผู้คนที่ซื้อหาสิทธิ์ล้วนเป็นราชันยุทธ์และจักรพรรดิยุทธ์ในเมื่อเหรียญม่วงเหล่านี้เป็นของพวกเขาเอง สิทธิ์เหล่านี้ก็ต้องเป็นของพวกเขา

 

แม้ว่าบรรดาคนหนุ่มทั้งหลายจะมีหนึ่งพันล้านในมือ ทว่ามันไม่ใช่ของพวกเขาเอง ดังนั้นจึงไม่กล้าตัดสินใจว่าจะซื้อดีหรือไม่

 

เฟิงอู่ฉิวเกลียดชังฉินหยุนรุนแรงอยู่ภายใน หากเขาไม่สูญหนึ่งพันล้าน เช่นนั้นเขาจะอหาสิทธิ์นั้นได้โดยตรง ตอนนี้หลงเหลือเพียงหนึ่งพันล้าน หากซื้อสิทธิ์ดังกล่าวไป เมื่อใดกลับสู่สำนักก็ยากอธิบายเรื่องราวแล้ว ระหว่างที่เขาลังเล สิทธิ์ทั้งหมดก็ถูกขายจนหมดสิ้นเรียบร้อย!

 

“ทุกท่าน ในเมื่อต่างเข้าพักที่หอแมกไม้มังกร เช่นนั้นคงทราบว่าพวกเราเชื่อถือได้เพียงใด ข้ารับประกัน ว่าหนึ่งพันล้านเหล่านี้คุ้มค่าอย่างแน่นอน!” นายใหญ่หลงหัวเราะเบากล่าวคำ “เรื่องนี้ขอให้เก็บไว้เป็นความลับ อย่างไรแล้วข้าก็ดำเนินธุรกิจครั้งนี้เพราะเส้นสาย หากรั่วไหลออกไปเช่นนั้นข้าคงมีปัญหาแล้ว!”

 

ผู้คนที่นี่ต่างพยักหน้ารับ นายใหญ่หลงเมื่อออกไป ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยจึงกลับห้องชุดกลับมาถึงได้ไม่นาน นายใหญ่หลงจึงมาเคาะประตูห้อง

 

“พี่ชาย แม้อีกฝ่ายเป็นคนของตระกูลหลง ทว่าก็เป็นคนรักชอบเรื่องสนุกเล่ห์ร้าย พวกเราคิดหลอกใช้ต้องระมัดระวังให้มาก!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยยิ้มกล่าว

 

“ข้าทราบดี!” ฉินหยุนกล่าวพลางเดินไปเปิดประตู

 

นายใหญ่หลงเผยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ราวกับเขาได้พบพานมิตรสหายเก่าแก่ก็ไม่ปาน

 

“นายใหญ่หลง ยินดีต้อนรับแล้ว” ฉินหยุนยิ้มกล่าว

 

นายใหญ่หลงก้าวเดินไปยังห้องโถงรับรอง นั่งลง ก่อนเชี่ยวเย่ว์เหม่ยจะโยนผลไม้ให้แก่เขา

 

“ขอบคุณท่านหญิงน้อยเชียวแล้ว!” นายใหญ่หลงหัวเราะ

 

“พวกเราจึงยินดี ผลไม้เหล่านี้เป็นของท่าน!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะ

 

“นายใหญ่หลง เป็นท่านช่วยเหลือข้าล่อลวงหลายผู้คนจนได้รับเหรียญม่วงมากมายมาเมื่อครู่” ฉินหยุนกล่าวขอบคุณอีกฝ่ายตามตรง

 

“ยินดีแล้ว ยินดี! หน้าโง่เฟิงอู่ฉิวดวงตามืดบอด สมควรแก่การสอนสั่งมานานแล้ว!” นายใหญ่หลงยิ้มกล่าว

 

“ข้าจะคืนหนึ่งพันล้านเหรียญม่วงนั้นให้แก่ท่าน!” ฉินหยุนนำเอาบัตรผลึกม่วงออกมา ส่งคืนหนึ่งพันล้านแก่นายใหญ่หลง

 

นายใหญ่หลงผู้นี้ไม่ปฏิเสธ เพียงแต่รับตามตรง ฉินหยุนชื่นชอบการพูดคุยกับคนไม่พิพิไรเช่นนี้เป็นที่สุด

 

“แขกทั้งสอง บอกตามตรง ห้าสิบสิทธิ์นั้นเป็นเพียงเรื่องฉ้อโกง!” นายใหญ่หลงเผยยิ้ม “หากต้องการถอนตัว ข้าก็ยินดีส่งมอบเหรียญม่วงกลับคืนให้!”

 

“เหตุใดจึงกลายเป็นเพียงเรื่องฉ้อโกง?” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเอ่ยถาม

 

“มันก็มีผลประโยชน์อยู่บ้าง ทว่าไม่ใหญ่โตดังที่กล่าวอ้าง! ไม่เช่นนั้นแล้ว ข้าจะขายห้าสิบสิทธิ์เหล่านั้นโดยง่ายหรือ?” นายใหญ่หลงหัวเราะมีเลศนัย

 

“นายใหญ่หลง ข้าเพียงมองแทบไม่อาจกล่าวได้ว่าท่านแท้จริงเป็นคนมีเล่ห์ร้ายพร้อมใช้มากมายนัก!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยปุ๋ยปากกล่าวคำ

 

“จ้าวสำนักท่านนี้เองก็ไม่ต่างกันนัก!” รูปลักษณ์ของนายใหญ่หลงเป็นคนผ่าเผย เขาหล่อเหลาและพูดคุยด้วยง่าย กระนั้นผู้ใดทราบว่าเมื่อใดเขาคิดโกง

 

“พวกเราหาได้ใส่ใจเรื่องนั้นไม่! ได้พบเจอคนของแดนเซียนอ้างว้าง ก็กล่าวได้ว่ามีค่ามหาศาลแล้ว!” ฉินหยุนยิ้มกล่าว

 

“กล่าวถึงเรื่องนี้ แม้บอกมีห้าร้อยสิทธิ์ ทว่าจำนวนแน่นอนนั้นไม่ใช่ เมื่อใดถึงเวลา ทุกฝักฝ่ายใหญ่จะนำรุ่นเยาว์ของตนเองมายังคฤหาสน์ราชันมังกร! นอกจากนี้แล้ว คนของแดนเชียนอ้างว้างจะไม่ใช่หนึ่งในผู้แนะนำการฝึกฝนด้วยซ้ำ ข้าเองก็ไม่ทราบแน่ชัดเช่นกัน ว่าถึงตอนนั้นพวกเขาคิดทำอันใด” นายใหญ่หลงกล่าว

 

ได้ยินเช่นนี้ เชี่ยวเย่ว์เหม่ยจึงได้ตระหนัก ว่าเรื่องราวไม่ชอบมาพากลกำลังจะเกิดขึ้น

 

ฉินหยุนกล่าว “นายใหญ่หลง เมื่อใดพวกเราเข้าไปยังคฤหาสน์ราชันมังกร ตอนนั้นรบกวนช่วยดูแลพวกเราแล้ว!”

 

นายใหญ่หลงยิ้มรับ “แน่นอน! เมื่อใดเข้าไปได้แล้ว ตราบเท่าที่ไม่ก่อเรื่องราวใหญ่โต เพียงเอ่ยนามข้า ว่าเจ้าเป็นมิตรสหายข้าจากหอแมกไม้มังกร!”

 

นายใหญ่หลงไม่คิดกล่าวคำถามฉินหยุนอันใดมากนัก หลังพูดคุยเรื่อยเปื่อยพักหนึ่งเขาค่อยออกจากห้องไป

 

“พี่ชาย นายใหญ่หลงผู้นี้ช่างน่าสงสัยนัก!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าวเสียงเบา

 

“พวกเราต้องไหลตามกระแสน้ำไปก่อน สิ่งสำคัญตอนนี้คือเข้าสู่ภายในคฤหาสน์ราชันมังกร!” ฉินหยุนถอนหายใจยาว ตัวเขาเวลานี้มีหลายเป้าหมายต้องทำให้สำเร็จ

 

เมื่อใดเข้าสู่คฤหาสน์ราชันมังกร เมื่อนั้นต้องหาทางช่วยเหลือสื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อให้พ้นจากคำสาป และยังต้องหาวิญญาณยุทธ์มังกรและหงส์อมตะของหลงเฉียวเฟิง เรื่องราวไม่ว่าทางใดล้วนยากลำบาก เดิมเขาคิดอยากร่วมมือกับเชียวเย่ว์เหม่ยจับตัวมังกรเซียน ทว่าตอนนี้ผู้คนของแดนเซียนอ้างว้างมาถึงคฤหาสน์ราชันมังกร เรื่องดังกล่าวจะยิ่งยากขึ้นไปอีก

 

วันถัดมา ไปเกือเซียนจึงส่งเสียงสื่อสารบอกต่อฉินหยุน แจ้งต่อเขาว่าสามารถเข้าสู่คฤหาสน์ราชันมังกรได้ในช่วงบ่าย เมื่อเข้าไปแล้ว หลงอ คงจะเป็นคนจัดแจงสถานที่อยู่อาศัยให้

 

คฤหาสน์ราชันมังกรค่อนข้างเข้มงวด การเข้าไปถือว่ายากเย็น ไม่เช่นนั้น ฉินหยุนและ เชี่ยวเย่ว์เหม่ยคงลักลอบเข้าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

ในช่วงบ่าย ด้วยหลงอ คังช่วยจัดการเรื่องราว คนทั้งห้าสิบจึงเข้าสู่คฤหาสน์ราชันมังกร พวกเขาไม่ได้เข้าผ่านทางประตูหลัก ทว่าเป็นประตูเล็กสำหรับรถลาก ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยในที่สุดค่อยมีโอกาสได้เข้ามา นอกจากนี้แล้ว มีแต่ทั้งสองคนที่โดยสารร่วมรถลากมากับหลงอวดัง

 

“จ้าวสำนักหยุน ท่านทั้งสองยังเยาว์ ภายหลังต้องไปร่วมกับรุ่นเยาว์ผู้อื่น! ถึงตอนนั้น ข้าจะจัดแจงเรื่องราวให้เป็นอย่างดี” หลงอวดังกล่าว “เพียงเอ่ยเตือนไว้ อย่าได้สร้างปัญหาใหญ่โตอันใดภายในคฤหาสน์ราชันมังกร!”

 

“นายใหญ่หลง ท่านคือใครกันแน่?” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเอ่ยถาม “ข้ายังไม่ทราบตัวตนท่านเลยด้วยซ้ำ!”

 

“ข้า… ท่านปู่ของข้าเป็นอาจารย์จารึกเต๋าที่เก่งกาจ สถานะจึงสูงส่งอย่างยิ่ง! บิดาข้าเองก็เป็นผู้อาวุโส! โดยสรุปแล้ว พื้นเพของข้าค่อนข้างภูมิฐานไม่ใช่น้อย!” หลงอ คงยิ้มตอบ

 

ทันใดนี้เอง รถลากพลันหยุด ชายวัยกลางคนเปิดประตู สีหน้าเวลานี้หนักอึ้ง เขากล่าว “อคัง บิดาเจ้าสิ้นชีพแล้ว!”

 

“ท่านลุงห้า นี่เรื่องล้อเล่นอันใดกัน?” หลงอ คงยิ้มรับ

 

“ไม่ใช่ นี่เป็นเรื่องจริง ร่างนั้นถูกสับออกเป็นแปดท่อน เป็นความตายอย่างอนาถ!” ชายวัยกลางคนกล่าวย้ำอีกครั้ง

 

รอยยิ้มที่ใบหน้าหลงอ คังแข็งค้าง เมื่อครู่เขายังกล่าวอย่างภาคภูมิต่อฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ย ว่าบิดาเป็นถึงผู้อาวุโส กระนั้นตอนนี้ ท่านลุงห้าตรงหน้าบอกกล่าวต่อเขาว่าบิดาสิ้นชีพทั้งยังถูกหั่นออกเป็นแปดท่อน เรื่องราวนี้ยากเกินรับได้

 

“ผู้ใดสังหาร? และเรื่องเกิดขึ้นที่ใด?” หลงอ คังเผยใบหน้ามืดมน

 

“เสียชีวิตที่ในคฤหาสน์ราชันมังกร คนของสำนักมังกรฟ้าคือผู้ลงมือสังหาร!” ชายวัยกลางคนเผยใบหน้าเย็นเยียบยามกล่าวถึง

 

ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยไม่อาจเข้าใจสถานการณ์โดยรวมได้ กระนั้นก็มั่นใจอย่างหนึ่ง คือผู้คนของสำนักมังกรฟ้าไม่ใช่ตอแยด้วยได้ การที่พวกเขามายังที่นี่ก็ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้น ย่อมเป็นฝักฝ่ายภายในของตระกูลหลงขัดแย้งกันเองอย่างแน่นอน