ลู่ฝานส่ายหน้าพูดว่า “ผมไม่ใช่ผู้ฝึกวิชาชั่วร้ายจริงๆ ศิษย์พี่หานเฟิงต้องเชื่อผม”

ลู่ฝานพูดพลางเอาป้ายออกมายื่นให้ศิษย์พี่หานเฟิง

นิ้วมือเพิ่งแตะโดนป้าย จู่ๆ ศิษย์พี่หานเฟิงร้องตะโกนออกมา

“ให้ตายเถอะ เจ็บมาก ปวดมาก!”

เห็นได้ด้วยตาเปล่าว่านิ้วมือศิษย์พี่หานเฟิง มีควันขาวลอยขึ้นมา

กระแสลมเหมือนงูสีดำตัวเล็ก วนอยู่บนนิ้วศิษย์พี่หานเฟิง ศิษย์พี่หานเฟิงอดกลั้นจนหน้าแดง ใช้พลังปราณกำจัดออกไปอย่างสุดความสามารถ จึงทำให้กระแสลมหายไป

ลู่ฝานรีบเก็บป้าย ไม่กล้าเข้าใกล้ศิษย์พี่หานเฟิงอีก

“เกิดอะไรขึ้น”

ลู่ฝานถามขึ้น

ศิษย์พี่หานเฟิงมองลู่ฝานด้วยสีหน้าประหลาด “ศิษย์น้องลู่ฝาน นายเกี่ยวข้องกับจิตใจเต๋าสำนักมารจริงๆ ป้ายอันนี้ ไม่ใช่ผู้อาวุโสทั่วไปของจิตใจเต๋าสำนักมารที่มีได้ บอกฉันมา นายมีความสัมพันธ์กับเจ้าสำนักจิตใจเต๋าสำนักมารใช่ไหม”

ศิษย์พี่หานเฟิงทำหน้าทำตาใส่ลู่ฝาน

ลู่ฝานกลอกตามองบนอย่างหงุดหงิด

“ศิษย์พี่หานเฟิง คงไม่ได้อยากบอกเรื่องนี้กับผมใช่ไหม”

ศิษย์พี่หานเฟิงพูดว่า “เหอะๆ ศิษย์น้องลู่ฝาน ไม่ว่านายจะได้ป้ายนี้มายังไง ต่อไปอย่าเอาออกมาโชว์ง่ายๆ ถ้าต่อไปนายเจอผู้ฝึกวิชาชั่วร้ายยังดีหน่อย แม้พวกเขาโหดเหี้ยมชั่วร้าย แต่ก็ต้องไว้หน้าจิตใจเต๋าสำนักมาร นายมีป้ายจิตใจเต๋าสำนักมารอยู่ในมือ พวกเขาต้องคิดให้มาก ก่อนที่จะลงมือกับนาย แต่ถ้านายเจอตระกูลนักบู๊อื่น หรือเป็นเจ้าหน้าที่ของประเทศอู่อาน นายจะซวย”

ศิษย์พี่หานเฟิงหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วพูดต่อ “พวกพละกำลังอ่อนแอ ไม่รู้จักจิตใจเต๋าสำนักมาร ไม่มีทางไว้หน้านาย ส่วนคนที่พละกำลังแข็งแกร่ง รู้จักจิตใจเต๋าสำนักมาร ยิ่งต้องการกำจัดนาย พวกเขาไม่สนใจว่าป้ายของนายมาจากไหน เพราะนายถือป้ายคำสั่งในมือ ไม่เหมือนฉัน ที่แตะแล้วโดนเผา นั่นแสดงว่านายเป็นพวกเดียวกับจิตใจเต๋าสำนักมาร”

ลู่ฝานหนังตากระตุก พูดแบบนี้ เก็บป้ายนี้เอาไว้กับตัวก็กลายเป็นหายนะน่ะสิ

เหมือนศิษย์พี่หานเฟิงรู้ว่าลู่ฝานกำลังคิดอะไร เขายิ้มแล้วพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน ตอนนี้นายอยากทิ้งป้ายแล้วใช่ไหม”

ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “อย่าบอกนะว่าทิ้งก็ไม่ได้”

หานเฟิงพูดว่า “ได้น่ะได้ แต่เมื่อนายทิ้งป้าย เท่ากับให้คนของจิตใจเต๋าสำนักมารมาฆ่านาย ให้ป้ายจิตใจเต๋าสำนักมารกับนาย แต่นายกลับไม่ต้องการ ทิ้งมันมั่วซั่ว ถ้าไม่ฆ่านาย จิตใจเต๋าสำนักมารจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน นายอยากให้จิตใจเต๋าสำนักมารออกคำสั่ง แล้วคนที่ฝึกวิชาชั่วร้ายทั้งหมดมาฆ่านายเหรอ”

ลู่ฝานอ้าปากค้าง

“ทำไมแบบนี้ก็ไม่ได้ แบบนั้นก็ไม่ได้ ป้ายอันนี้กลายเป็นสิ่งหลอกลวงคนอื่นไปแล้ว ทิ้งก็ทิ้งไม่ได้”

ศิษย์พี่หานเฟิงผายมือสองข้างอย่างช่วยไม่ได้ “ใครใช้ให้นายเอาป้ายอันนี้มาล่ะ ศิษย์น้องลู่ฝาน ศิษย์พี่ขอเตือนนาย ต่อไปถ้าเจอคนของสิบตระกูลใหญ่ ต้องระวังให้มาก พวกเขาฆ่าผู้ฝึกวิชาชั่วร้ายอย่างไร้ความปรานี แค่บนตัวมีออร่าชั่วร้ายเพียงนิดเดียว พวกเขาจะจับกลับไปสอบสวนอย่างทรมาน”

สิบตระกูลใหญ่!

ลู่ฝานหวาดกลัวในใจ แล้วพยักหน้าเบาๆ

หานเฟิงมองป้ายในมือลู่ฝานด้วยสายตาประหลาด

หานเฟิงพูดพึมพำว่า “เฮ้อ ทำไมฉันไม่มีป้ายแบบนี้บ้าง มีป้ายแบบนี้ไว้สักอัน พวกสาวๆ ที่ฝึกวิชาชั่วร้าย ต้องกรีดร้องโผเข้ามาหาฉัน ให้ฉันเอายังไงก็ได้”

การได้ยินของลู่ฝานไม่เลว เขาได้ยินเสียงพึมพำของศิษย์พี่หานเฟิงอย่างชัดเจน