บทที่ 308 ชดใช้ค่าเสียหายของฉัน

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

แต่ ไม่ว่าจะพูดอย่างไร หลังจากโดนชนครั้งแรก ความเหนื่อยหน่ายบนหน้าของเย่เทียนในที่สุดก็เลือนหายไป ควบคุมพวงมาลัยไว้อย่างรอบคอบ โยกขึ้นมาตามจังหวะการส่ายไปมาของเฟอร์รารี่

ฉากนี้อยู่ในสายตาของคนนอก ทันใดนั้นเกิดภาพลวงตาขึ้นอย่างหนึ่ง นี่เดิมทีไม่ใช่รถสองคันที่กำลังฆ่าซึ่งกันและกันเหรอ

แต่ทว่ายังเหมือนการแข่งแสดงของสองคนมากยิ่งกว่า เฟอร์รารี่กับลัมโบร์กีนีทั้งสองคันอยู่ด้านซ้ายและขวา มีสัญญาลับที่รู้กันถึงขั้นสุด

เย่เทียนรู้สึกขมขื่นใจ นึกไม่ถึงโดยสิ้นเชิงว่าฮั่วเยี่ยนจือจะบ้าคลั่งถึงเพียงนี้

เมื่อสักครู่ยังขอร้องให้แข่งกันสักรอบแบบเป็นมิตรอยู่เลย นี่ผ่านมานานแค่ไหนกลับคิดจะแสดงอุบัติเหตุทางรถยนต์แบบฆ่าตัวตายออกมา

แต่ที่นี่เป็นเขตเมืองผู้คนพลุกพล่าน หน้าหลังล้วนมีรถสัญจรหนาแน่น ถ้าอยากหลุดพ้นจากพวกเธอเดิมทีไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลย

ภายใต้ความจำใจ เย่เทียนได้เพียงรักษารัศมีวงกลมการส่ายให้สอดคล้องกับที่เฟอร์รารี่ทำออกมา แบบนี้พอจะลดแรงพุ่งชนลงได้มาก

ถึงจะพูดเช่นนี้ แต่ตัวรถของลัมโบร์กีนีก็ยังคงโดนขูดเป็นรอยใหญ่อย่างเลี่ยงได้ยาก แม้กระทั่งตรงประตูรถมีรอยบุบลงไปที่โดนชนอันใหญ่กว่า

ถึงจะบอกว่าลัมโบร์กีนีให้ความรู้สึกของโครงร่างดูเต็ม ตัวรถสวยงดงาม แต่ขอเพียงมีจุดหนึ่งโดนทำพัง นั่นจะกระทบต่อความงามทั้งหมด ดูขึ้นมาแล้วให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างหัวมังกุท้ายมังกรระดับหนึ่ง

ฮั่วเยี่ยนจือกลับยิ่งชนดวงตายิ่งแวววาวเพิ่มขึ้น และแน่ใจเพิ่มด้วยว่าฝีมือการขับรถของเย่เทียนไม่ธรรมดาเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะควบคุมลัมโบร์กีนีหลบการจงใจชนของเธออย่างไม่ติดขัดได้อย่างไรล่ะ?

“พี่คะ ชนเข้าไป! ชนเข้าไปเลย! ประตูรถของเขาใกล้จะหลุดลงมาแล้ว!”

ฮั่วหลิงเยว่ฮึกเหิมจนแก้มน้อยๆ แดงระเรื่อขึ้น ชี้ลัมโบร์กีนีที่เย่เทียนขับพลางร้องตะโกนแข่ง ตื่นเต้นจนเหมือนกับเด็กน้อยที่ฉลองปีใหม่

ตึง!

เพียงแต่ คำพูดของฮั่วหลิงเยว่เพิ่งจบลงไป ประตูรถของเฟอร์รารี่กลับทนรับการชนที่ดุเดือดเช่นนี้ไม่ไหวไปก่อนก้าวหนึ่ง

ประตูรถส่วนใหญ่หลุดลงบนพื้น เหลือเพียงส่วนหนึ่งเกาะบนโครงรถอยู่ โดนลากไว้วิ่งไปแบบนี้ ขูดจนเกิดประกายไฟจ้าตาออกมาแล้ว

ฮั่วหลิงเยว่ทำปากอ้ำๆ อึ้งๆ พูดทอดถอนใจว่า “รถคันนี้ทำไมไม่กันกระแทกขนาดนี้? รู้แต่แรกคงขับฮัมเมอร์คันนั้นในบ้านออกมา……”

“นี่ พวกเธอยัยบ้าสองคนนี้ก่อกวนพอแล้วรึยัง!”

เย่เทียนตะโกนส่งเสียงมา พี่น้องสองคนนี้เป็นคนบ้าโดยสมบูรณ์ นี่กำลังเล่นเดิมพันชีวิตอยู่ชัดๆ

ฮั่วเยี่ยนจือพูดยืนหยัดว่า “งั้นนายยอมมาแข่งกับฉันสักรอบไหมล่ะ?”

“ฉันจะไม่แข่งกับพวกเธอหรอก รีบหยุดรถลงเดี๋ยวนี้!”

“เมื่อกี้ฉันเคยเตือนสติพวกเธอแล้ว รถคันนี้ไม่ใช่ของฉัน ตอนนี้ถูกพวกเธอทำจนเป็นสภาพนี้ ถ้าพวกเธอไม่ชดใช้ ฉันจะไม่ยอมเลิกรากับพวกเธอแน่!”

เย่เทียนถูกกระตุ้นความโกรธขึ้นมาไม่น้อย โดนชนแบบไร้สาเหตุ เกรงว่าเปลี่ยนเป็นใครคงต้องมีโกรธเคืองทั้งนั้น

เดิมทีฮั่วเยี่ยนจือไม่มัวพูดไร้สาระกับเย่เทียน ใช้การกระทำมอบคำตอบที่ดีที่สุดให้เย่เทียนโดยตรง

เฟอร์รารี่เอียงออกไปด้านนอกอีกครั้ง แล้วรีบชนกลับมายังลัมโบร์กีนีอย่างรุนแรงอีกที

ตึง!

โครม!

รถคันเล็กด้านหลังต่างลดความเร็วลงกันหมด กลัวว่าจะประสบภัยอันตรายที่ไม่มีเค้ามาก่อน แต่ลูกตาของพวกเขายังแอบเผยความหมายอิจฉาออกมากัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่ใช่ใครก็ได้ที่สามารถขับรถแข่งมาชนกันและกันได้ คนด้านในรถสองคันนั้นคงไม่ใช่ที่บ้านล้วนมีเหมืองกันหรอกมั้ง?

“นี่พอเทียบตัวเองกับคนอื่นแล้วมันน่าโมโหจริงๆ แอคคอร์ดคันนี้ของฉันเป็นสิ่งล้ำค่าเทียบได้กับเมียเลยนะ คนอื่นเขาแม้แต่เฟอร์รารี่ยังกล้าชนมั่วซั่ว”

“นี่คือคุณชายเสเพลของสองตระกูลไหนกัน? เล่นชนรถกันบนถนนใหญ่ นี่คืออยากตายงั้นเหรอ?”

“ตัวเองไม่อยากอยู่ก็ไปตายด้านข้างโน้น อย่าลากมาโดนพวกเราสิ!”

“ในเมื่อเป็นพวกเธอยากหาที่ตาย งั้นอย่ามาโทษฉันนะ!”

เตือนสองพี่น้องที่บ้าคลั่งด้วยความหวังดีแล้วไม่เป็นผล สีหน้าเย่เทียนค่อยๆ อึมครึมลงมา ตอนนี้ไม่เตรียมป้องกันอีกแล้ว

พิจารณาถึงตรงนี้ เย่เทียนหมุนพวงมาลัยกะทันหัน พยายามนำลัมโบร์กีนีชิดอีกด้านหนึ่ง ตอนที่ใกล้ชนเข้าแท่นปลูกดอกไม้ข้างทาง ก็หักพวงมาลัยทันใดอีกรอบ ชนเข้าไปยังเฟอร์รารี่

เฟอร์รารี่ในเวลานี้เพิ่งชนเข้ามาเหมือนกัน ภายใต้สถานการณ์ที่รถสองคันต่างฝ่ายต่างออกแรง แรงในการชนน่าตกใจแค่ไหนแค่คิดก็รู้แล้ว

ตูม!

เสียงระเบิดที่ดังก้องสะเทือนแก้วหูในชั่วพริบตาเดียว จากนั้นเป็นเสียงอะไหล่รถยนต์ตกพื้นดังเคร้ง

ท้ายรถของลัมโบร์กีนีถูกชนจนบุบยุบลงไปลึกมาก หลังจากหมุนวนสองรอบในที่สุดยังหยุดลงมาอย่างมั่นคงภายใต้การควบคุมของเย่เทียน

กลับไปมองที่เฟอร์รารี่สีแดงสด หลังเครื่องยนต์พ่นควันดำเข้มออกมา ชนบนแท่นปลูกดอกไม้ที่ข้างทางจนไฟดับหมดแล้ว

โชคดีว่าที่นี่คือถนนเขตเมืองที่เจริญคึกคัก ความเร็วของรถสองคันไม่ได้ไวเท่าไร ถ้าเป็นบนถนนทางด่วน นั่นมีแนวโน้มจะโดนชนจนรถพังคนตายไปเลย

ปึง!

เย่เทียนเขย่าศีรษะแล้ว ใช้เท้าข้างหนึ่งถีบประตูออกมา เดินไม่กี่ก้าวก็มาถึงข้างรถเฟอร์รารี่

“พวกเธอสองคนลงมาเดี๋ยวนี้!”

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคาดเข็มขัดนิรภัยไว้ บวกกับการป้องกันของถุงลมนิรภัย สองพี่น้องตระกูลฮั่วกลับไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากเกินไป

แน่นอนว่า การกระแทกของถุงลมนิรภัยไม่ได้รู้สึกดีสักเท่าไรเหมือนกัน ทำให้ศีรษะของสองพี่น้องตระกูลฮั่ววิงเวียนมึนงงแล้ว

เพียงแต่ ยังไม่รอให้ฮั่วเยี่ยนจือได้สติเข้ามา เย่เทียนกลับดึงเธอลงมาด้วยกำลังก่อนก้าวหนึ่ง

นี่คือเรื่องที่ทำอะไรไม่ได้ ใครใช้ให้เธอนั่งอยู่บนที่นั่งคนขับล่ะ? คนที่จงใจขับรถชนเมื่อสักครู่ก็คือเธอ ไม่ตามหาเธอจะไปตามหาใครกัน?

“นายปล่อยฉันนะ นายรู้รึเปล่าว่า……”

ฮั่วเยี่ยนจือตะลึง รีบรวบรวมสติเข้ามาทันที ยื่นมืออยากไปตีเย่เทียน

แต่ หมัดของเธอเพิ่งยื่นออกมา เย่เทียนกลับสกัดลงมาด้วยปฏิกิริยาว่องไว ใช้แรงผลักร่างกายเธอไว้ที่ประตูรถ ถือโอกาสกดทั้งตัวเข้าไปแล้ว

“อย่าโทษว่าฉันไม่ให้โอกาสเธอ ชดใช้ค่าเสียของฉันมา!”

“ทำไมฉันต้องชดใช้? รถของฉันก็……โอ๊ยๆ……เจ็บ……”

ฮั่วเยี่ยนจือกำลังอยากจะฝืนตอบโต้กลับสักหน่อย เย่เทียนดันยื่นมือออกมาบีบคางของเธอไว้ในทันใด ทำให้เธอกลืนคำพูดที่ยังพูดไม่จบกลับมาแล้ว

คุณหนูใหญ่ตระกูลฮั่วที่น่าสงสาร แต่ไหนแต่ไรถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก จะรับการทรมานโหดร้ายนี้ของเย่เทียนได้ที่ไหน ตอนนี้เจ็บจนน้ำตาไหลลงมาแล้ว

“เธอเป็นคนชนฉันเอง แน่นอนว่าเธอต้องชดใช้!”

เย่เทียนพูดซ้ำอย่างมีเหตุผลและถูกต้องอีกรอบ ร่างกายกลับจงใจถูไปบนตัวฮั่วเยี่ยนจือแล้ว แอบทอดถอนใจผู้หญิงคนนี้ไม่เสียแรงเป็นลูกหลานตระกูลเศรษฐี ดูแลผิวพรรณได้เนียนนุ่มอย่างกับเต้าหู้

เวลานี้ ซูเย่าหมิงที่เดิมทีขับนำอยู่ข้างหน้าจึงรีบเหยียบเบรกจอดลงมา นึกไม่ถึงโดยสิ้นเชิงว่าเรื่องราวจะวุ่นวายใหญ่ขนาดนี้

นี่คืออุบัติเหตุทางรถยนต์ใหญ่โตเลยล่ะ ถึงแม้ไม่ร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต แต่ถ้าปล่อยให้เกิดต่อไปอีก ใครจะรู้ว่าเย่เทียนโกรธขึ้นมาแล้วจะทำเรื่องราวที่เสียสติออกมาหรือไม่?

เขาหวังว่าเย่เทียนจะยั่วโมโหฮั่วเยี่ยนจือ ยั่วโมโหตระกูลฮั่ว แต่นั่นไม่ใช่การเอาชีวิตคนมาแลกกับการกระตุ้นความโกรธแค้นของตระกูลฮั่วอย่างแน่นอน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าฮั่วเยี่ยนจือลูกหลานที่โดดเด่นที่สุดในตอนนี้ของตระกูลฮั่วตายแล้วล่ะก็ งั้นตระกูลฮั่วคงคลุ้มคลั่งเป็นแน่ ถึงตอนนั้นไม่เพียงแค่เย่เทียน เกรงว่าตระกูลซูยากที่จะหนีความรับผิดชอบได้เช่นกัน

ถึงแม้เขาจะเป็นคุณชายเสเพล แต่สำหรับสถานการณ์ของจ๊กกลางยังรู้ชัดมาก ถ้าหาเรื่องตระกูลฮั่วเข้าจริงแล้ว คงไม่สนใจว่านายเป็นตระกูลซูหรือตระกูลหลี่….