ตอนที่ 1643 เทพสวรรค์ขั้นสิบ

Monster Paradise

ตอนที่ 1643 เทพสวรรค์ขั้นสิบ

 

หลังออกกระท่อมอาณาจักรเสมือน หลินฮวงก็กลับอาณาจักรวัตถุอีกครั้ง

 

เขาได้รู้ว่าเขากําลังจะยกระดับความสามารถในอีกไม่กี่วัน

 

ก่อนท้องฟ้าจะมืด หงซวงได้เอาแหวนที่ปลดแล้วของจ้านจั่วมาให้หลินฮวง

 

เขาตรวจสอบของทันที

 

หลังตรวจด้วยจิตเทวะของในแหวน ก็ทําให้หลินฮวงอุทานด้วยความชื่นชมถึงความร่ํารวยของจ้าวเทวะ

 

จ้านจั่วมีอาวุธเต่ําอย่างเดียวถึงสิบเอ็ดชิ้น รวมถึงศพระดับจ้าวเทวะสองศพ เขายังมีก้อนพลังงานต้นกําเนิดปิดผนึกสามก้อน ผลึกสืบทอดร้อยชิ้น แหวนเก็บของรูปทรงต่างๆที่กองสูงเป็นภูเขา รวมถึงผลึกเทวะกับแร่จํานวนมหาศาล

 

หลินฮวงเดาว่าทรัพยากรมากมายในแหวนของจ้านงิ้วอาจไม่ได้มาจากมหาพิภพ มันเป็นไปได้ว่าเขาได้รับมาจากไรเดอร์คนอื่นเป็นการแลกเปลี่ยน

 

สําหรับก้อนพลังงานต้นกําเนิด เห็นได้ชัดว่ามันเป็นระดับจ้าวเทวะ จ้านจิ๋วต้องได้รับมาจากการฆ่าวอยด์ในอาณาจักรเสมือน

 

ส่วนว่าทําไมจ้านจั่วไม่ดูดซับมัน หลินฮวงเดาว่าอีกฝ่ายคงชนกับคอขวดแล้วและไม่อาจดูดซับได้ หรือเขาตั้งใจเก็บไว้ บางทีเขาคงอยากใช้มันเป็นของเพื่อแลกเปลี่ยนทรัพยากรกับคนอื่น

 

หลังตรวจดูของของจ้านงิ้วเสร็จ หลินฮวงก็ไม่นําอาวุธเต๋าทั้ง11ไปลงหน้าประมูลของราชันย์ทันที เพราะเขาได้คํานวณว่าจํานวนเขตแดนเทพกึ่งจ้าวเทวะที่เขาสามารถแลกได้สําหรับการขายวังโบราณของจ้านจิ๋วน่าจะพอ

 

เขานําแหวนเก็บของที่กองกันอยู่ด้านในออกมาและส่งมันให้หงซวงอีกครั้ง

 

ไม่ว่าจะเป็นความสามารถของเจ้าของแหวนเดิมจะเป็นไง เขาก็จะปล่อยให้หงซวงปลดพวกมันก่อนตัดสินว่าทําไง

 

หลังจัดการเสร็จ หลินฮวงไม่ได้เข้าอาณาจักรเสมือน หรือเข้าวังจอมเทพเพื่อปิดประตูบ่มเพาะ เขากลับรอผลของการประมูลอย่างอดทน

 

บ่ายวันต่อมา นาฬิกาปลุกที่หลินฮวงตั้งไว้ดังขึ้นทันทีที่เวลาประมูลหมดลง เขาหยิบตราราชันย์ออกมาทันทีและเข้าหน้าประมูล

 

การประมูลแสดงว่าวังโบราณขายไปที่ 1274 เขตแดนเทพ

 

จํานวนนี้เกินกว่าที่หลินฮวงต้องการไปมาก

 

ตอนเขาเห็นผลการประมูล อารมณ์ของเขาก็ดีขึ้นทันตาเห็น

 

หลังยืนยันธุรกรรม เขตแดนเทพทั้ง 1274 เขตแดนก็เข้าบัญชีเขาทันทีและเก็บไว้ในตราราชันย์ของเขา

 

เขานําของออกมาทันทีและเก็บพวกมันเข้าแหวน

 

ตอนนี้ที่เขาครอบครองเขตแดนเทพกึ่งจ้าวเทวะเหล่านี้ หลินฮวงก็ไม่รีรออีก

 

เขาให้เสี่ยวเฮยสร้างการ์ดกระท่อมอาณาจักรเสมือนอีกใบและเดินไปที่สวน จากนั้นก็บดขยี้มันทันที

 

การ์ดเปลี่ยนเป็นจุดแสงอีกครั้งและรวมตัวเป็นกระท่อมเสมือนที่มีแค่หลินฮวงถึงเห็น

 

เขาเข้าไปข้างใน ถอดแหวนและวางมันบนพื้น

 

หลังเปิดประตูออก เขาก็ให้ประตูทุกอาณาจักรสร้างร่างเสมือนให้เขา จากนั้นก็ก้าวเข้าอาณาจักรเสมือน

 

ตอนเขาเข้าอาณาจักรเสมือนใหม่ด้วยร่างเสมือน หลินฮวงก็พลันเห็นกระท่อมในสวน เขาเดินเร่งไปเปิดประตู

 

หลังหยิบแหวนบนพื้น หลินฮวงก็นั่งสมาธิลง

 

อึดใจต่อมา หลังจิตใจของเขาสงบลง เขาก็นําเขตแดนเทพกึ่งจ้าวเทวะออกจากแหวนที่ละหนึ่งและเริ่มหลอมพวกมัน

 

วันเวลาผ่านไปในอาณาจักรเสมือน

 

ไม่นานก็ผ่านไปหกหมื่นวัน

 

ตอนหลินฮวงหลอมเขตแดนเทพทั้ง 239 ชิ้นสําเร็จ ระดับพลังของเขาก็ทะลุผ่านเทพ สวรรค์ชั้นเก้า

 

ตามที่คาดไว้ เขาสามารถสัมผัสได้ว่าระดับเทพสวรรค์นี้ยังไม่ถึงคอขวด เขาจึงหลอมเขตแดนเทพเพิ่ม

 

ประมาณแสนสองหมื่นวันผ่านไป ตอนเขาหลอมเขตแดนเทพ 751 ชิ้นสําเร็จ ระดับพลังของเขาทะลวงผ่านอีกครั้ง และเขาก็กลายเป็นเทพสวรรค์ขั้นสิบ

 

จุดนี้ ในที่สุดหลินฮวงก็สัมผัสได้ว่าเขตแดนเทพของเขาอิ่มตัวแล้ว เขาไม่อาจดูดซับเขตแดนเทพถึงจ้าวเทวะได้เพิ่มอีก

 

ตอนนี้เขาดําดิ่งเข้าจิตตัวเองและเริ่มตรวจสอบสภาพร่างกาย

 

ระดับพลังของเขาเลื่อนเป็นเทพสวรรค์ขั้นสิบแล้ว หลังผ่านการยกระดับขั้นพลังถึงสองครั้ง สภาพร่างกายของเขาก็เทียบเท่าจ้าวเทวะโดยธรรมชาติ พลังของวิญญาณเทพของเขาได้กลายเป็นจ้าวเทวะขั้นกลางแล้ว

 

นอกจากนั้น บัญญัติเทพของเขายังแข็งแกร่งขึ้นด้วย จํานวนห่วงโซ่ลําดับเทพที่มันรองรับได้เพิ่มเป็นห้าหมื่น ในเขตแดนเทพของเขา จํานวนห่วงโซ่ลําดับเทพได้ทะยานไปอย่างน้อยแสนแปดหมื่น ขณะที่จํานวนกฏเทพมากจนนับไม่ถ้วน

 

การเพิ่มพลังสองขั้นติดได้เพิ่มความสามารถของหลินฮวงขึ้นมาก

 

อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ออกไป หรือหยุดการบ่มเพาะ

 

เขากลับมองภาพเสมือนจิตเทวะ

 

เขามองมันเพราะก่อนหน้าเขาไม่มีเวลาจําแลงมัน แม้กระทั่งด้วยกระแสเวลาในวังจอมเทพที่เร่งขึ้นเป็นหมื่นเท่า สําหรับหลินฮวงมันก็ยังไม่พอ

 

แต่ทว่า การยกระดับพลังของเขาครั้งนี้ช่วยเพิ่มพลังวิญญาณเทพเขาเป็นจ้าวเทวะขั้นกลางโดยไม่ต้องสงสัย ความเร็วการจําแลงภาพต้องสูงขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น เขามีกระท่อมอาณาจักรเสมือน

 

หลินฮวงจึงตั้งใจใช้ประโยชน์จากมัน

 

หลังปล่อยให้จิตใจของเขาผสานกับร่างกาย ไม่ช้าเขาก็เริ่มทําการจําแลงภาพจิตเทวะ

 

เขาใช้เวลาประมาณ27 ปีเพื่อสร้างภาพที่ 103

 

จากนั้นก็ใช้เวลาอีก 55ปีเพื่อสร้างภาพที่ 104

 

ตอนจุดนี้ พลังของจิตเทวะเขาก็ได้ทะยานขึ้นถึงขีดจํากัดของจ้าวเทวะขั้นกลางแล้วเช่นกัน

 

แต่ทว่า หลินฮวงยังไม่หยุดขณะที่สร้างภาพต่อไป

 

เขาใช้เวลาอีก 500 ปีเต็มเพื่อสร้างภาพที่ 105

 

เขาใช้เวลาอีกพันปีเพื่อสร้างภาพที่ 106 จนเสร็จ

 

สําหรับภาพที่ 107 หลินฮวงแค่มองมันและละทิ้งความพยายามที่จะจําแลงมัน

 

ถ้าเขายังสร้างมันต่อด้วยพลังของวิญญาณเทพตอนนี้ เขาอาจต้องใช้เวลากว่าหมื่นปีเพื่อสร้างภาพที่ 106 ให้เสร็จ

 

เขารู้สึกว่าเขาต้องรอให้วิญญาณเทพของเขาแกร่งกว่านี้ก่อนทําการสร้างภาพต่อ

 

เขาพอใจกับพลังของจิตเทวะเขาในตอนนี้มาก เหนือสิ่งอื่นใด มันเป็นจุดสูงสุดของจ้าวเทวะขั้นสูงแล้ว

 

หลังเลิกจําแลงภาพ หลินฮวงก็มองวิญญาณต่อสู้รูปแกะสลักเทพภายในตัวเขาอีกครั้ง

 

พลังของวิญญาณต่อสู้ทั้งสิบนั้นยังติดที่เทพแท้จริงขั้นเก้า

 

ไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากพวกมันถูกจํากัดด้วยพลังของรูปแกะสลักเทพ

 

หลินฮวงจ้องรูปแกะสลักเทพทั้งสิบและคิดสักพัก จากนั้นก็ตัดสินใจ

 

“เสี่ยวเฮย เลื่อนขั้นรูปแกะสลักเทพทั้งสิบเป็นจิตวิญญาณบริสุทธิ์!”

 

“ได้ ให้พลังงานต้นกําเนิดของงูเหลือมมังกรหายนะทั้งหมดแก่ข้า และเพิ่มให้ข้าด้วยก้อนพลังงานต้นกําเนิดก้อนหนึ่ง”

 

“ตกลง!” หลินฮวงตกลงทันที จากนั้นก็นําก้อนพลังงานต้นกําเนิดออกมามอบให้เสี่ยวเฮย

 

พลังงานต้นกําเนิดของจ้าวเทวะคือวัตถุดิบระดับหก เพื่อเลื่อนจากสิ่งมีชีวิตชั้นห้าเป็นหก เขาจะต้องการการ์ดเลื่อนขั้นระดับห้า ซึ่งคือวัตถุดิบระดับห้า

 

นอกจากนี้ หลินฮวงได้ขอให้รูปแกะสลักเทพทั้งสิบเลื่อนและไม่ได้ให้วัตถุดิบอื่น เสียวเฮยจึงต้องการพลังงานต้นกําเนิด

 

ข้อตกลงนี้ถือว่ายุติธรรม ในความเป็นจริง หลินฮวงยังได้เปรียบด้วยซ้ํา

 

เหนือสิ่งอื่นใด วิญญาณต่อสู้รูปแกะสลักเทพทั้งสิบเป็นแค่ชั้นสี่ พวกมันต้องเลื่อนจากชั้นสี่เป็นห้าก่อน

 

ครู่ต่อมา การ์ดเลื่อนขั้นก็ปรากฏขึ้นในมือหลินฮวงที่ละใบ

 

หลินฮวงบดขยี้พวกมันและใส่เข้าได้ในร่างของวิญญาณต่อสู้ ไม่ช้า วิญญาณต่อสู้ทั้งสิบก็เลื่อนเป็นจิตวิญญาณบริสุทธิ์กัน

 

หลังจากทําเช่นนี้ หลินฮวงก็สื่อสารกับเพลิงนิรันดร์เพื่อให้มันเสริมพลังวิญญาณต่อสู้ทั้งสิบ ด้วยพลังงานวิญญาณเทพ

 

หลังได้รับพลังวิญญาณเทพจากเพลิงนิรันดร์ ระดับพลังของทั้งสิบก็พุ่งทะยาน

 

ขั้นหนึ่ง ขั้นสอง ขั้นสาม

 

หลังผ่านไปไม่กี่นาที พวกมันก็เลื่อนเป็นเทพสวรรค์ชั้นเก้า

 

อย่างไรก็ตาม นี่ยังไม่จบ พลังของพวกมันหยุดอยู่ที่เทพสวรรค์ชั้นเก้าเพียงชั่วขณะ จากนั้นพวกมันก็ทะลวงผ่านเป็นจ้าวเทวะ!

 

มอนสเตอร์จิตวิญญาณบริสุทธิ์จํานวนมากเกิดมาเป็นจ้าวเทวะ แม้กระทั่งพวกที่อ่อนแอสุดก็ยังกลายเป็นจ้าวเทวะเองพอเติบโตเป็นผู้ใหญ่

 

แต่ทว่า วิญญาณต่อสู้นั้นเป็นแค่ศพเท่านั้น

 

หลังเลื่อนเป็นชั้นหก การยกระดับพลังพวกมันนั้นต้องการเพียงเติมเต็มวิญญาณเทพของพวกมันเท่านั้น

 

เมื่อวิญญาณเทพพวกมันได้รับการเสริมพลังถึงจ้าวเทวะ พวกมันก็จะเลื่อนเป็นจ้าวเทวะ

 

นี่ทําให้หลินฮวงตัดสินใจใช้การ์ดเลื่อนขั้นกับมัน

 

เทียบกับการเลี้ยงมอนสเตอร์อัญเชิญกับทาสดาบ การยกระดับพลังของวิญญาณต่อสู้นั้นเร็วกว่าและสบายกว่ามาก

 

แต่ทว่า เพลิงนิรันดร์ได้หยุดการเติมพลังวิญญาณเทพหลังทั้งสิบกลายเป็นจ้าวเทวะขั้นต่ํา

 

แม้เพลิงนิรันดร์จะสามารถผลิตพลังงานได้ไร้ขีดจํากัด การสร้างสิบจ้าวเทวะพร้อมกันก็เป็นภาระที่ยิ่งใหญ่

 

หลินฮวงหยิบก้อนพลังงานต้นกําเนิดออกมาเพื่อตอบแทนเพลิงนิรันดร์

 

หลังจากนั้น เขาก็นั่งสมาธิอีกครั้งและเริ่มการจําแลงภาพรอบใหม่

 

แต่ทว่า ครั้งนี้เขาได้จําแลงภาพสารานุกรมจิตวิญญาณแท้จริงแทน

 

เขากําลังเตรียมจําแลงวิญญาณต่อสู้ทั้งสิบของเขาเป็นร่างที่มีอยู่ในสารานุกรมนั้น