ตอนที่ 398 คุณไว้ใจเธอขนาดนี้เลยเหรอ / ตอนที่ 399 เกลียดเขา

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 398 คุณไว้ใจเธอขนาดนี้เลยเหรอ

 

 

           เธอยังคงเป็นวิญญาณที่ตามมาหลอกหลอนจริงๆ ทำไมไม่ว่าไปที่ไหนก็มีเธอ?

 

 

           ฉู่เจียเสวียน เธอติดค้างอะไรเธอกันแน่ ถึงได้ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า?

 

 

           เธอกัดฟัน เมื่อละสายตาออกจากฉู่เจียเสวียน ก็พบว่าสายตาของเผยหนานเจวี๋ยยังคงจับจ้องอยู่ที่ฉู่เจียเสวียน ยื่นมือไปดึงๆ แขนเสื้อของเผยหนานเจวี๋ยทันที เสียงที่อ่อนนุ่มดังออกมาจากปากของฉู่อีอี “หนานเจวี๋ย กินข้าวเถอะ”

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยละสายตา กวาดตามองฉู่อีอีเล็กน้อย จากนั้นก็เอ่ยปาก “อืม”

 

 

           ห้องอาหารเป็นสถานที่ที่โรแมนติกมาก เหมาะแก่การนัดเจอของคู่รัก ถ้าหากได้นัดเจอกับคนที่ตัวเองรักมากินข้าวในสถานที่แบบนี้ล่ะก็ จะต้องมีความสุขอย่างมากแน่นอน แต่ว่าตอนนี้ในใจฉู่อีอีมีเพียงความเกลียดชังอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

 

 

           ตั้งแต่หลังจากที่เผยหนานเจวี๋ยเห็นฉู่เจียเสวียนเข้ามาแล้ว เขาก็ไม่ได้ละสายตาออกจากเธอเลย ในเวลานี้เมื่อเห็นฉู่เจียเสวียนลุกออกจากที่นั่งไป เผยหนานเจวี๋ยหาที่นั่งแล้วก็ออกจากโต๊ะกินข้าว ทิ้งให้ฉู่อีอีอยู่ที่นั่นคนเดียว

 

 

           ฉู่เจียเสวียน คนเลว คนเลว คนเลว! ฉู่อีอีด่าฉู่เจียเสวียนอยู่ในใจเป็นพันเป็นหมื่นครั้ง เผยหนานเจวี๋ยยังจากไปไม่ทันไร เธอก็รู้สึกว่าเขาจากไปนานนับศตวรรษแล้ว

 

 

           เงยหน้าขึ้นก็เห็นกงจวิ้นฉือนั่งรอฉู่เจียเสวียนอยู่ที่โต๊ะอาหารคนเดียว หลังจากครุ่นคิดแล้ว ฉู่อีอีลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหากงจวิ้นฉือ

 

 

           “คุณกง แล้วพี่สาวล่ะ” เสียงที่อ่อนโยนของฉู่อีอีดังขึ้น มองกงจวิ้นฉือด้วยรอยยิ้มสดใส ดวงตาเป็นประกาย

 

 

           เงยหน้าขึ้นก็เห็นฉู่อีอียืนยิ้มกว้างอยู่ข้างๆ ทันทีที่กวาดตามองก็พบว่ากงจวิ้นฉือไม่ได้นั่งอยู่ตรงที่นั่ง และมีแสงวาบผ่านดวงตาเลือนลาง

 

 

           “คุณหนูฉู่ เจียเสวียนไปห้องน้ำแล้ว มีอะไรหรือเปล่า” กงจวิ้นฉือมีความรู้สึกเกลียดชังที่ไม่สามารถอธิบายได้ต่อฉู่อีอี

 

 

           เขารังเกียจผู้หญิงที่เสแสร้งแบบนี้ที่สุด

 

 

           “อ๋อ ไม่มีอะไร” หลังจากฉู่อีอีกวาดตารอบหนึ่งแล้ว ก็นั่งลงข้างๆ กงจวิ้นฉือ มองกงจวิ้นฉือเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้มพร้อมเอ่ย “คุณกงนี่ไว้ใจพี่สาวจริงๆ เลยนะคะ”

 

 

           ประโยคที่พูดขึ้นมาลอยๆ นี้หมายความว่าอย่างไรนั้น ในใจของกงจวิ้นฉือเข้าใจดีที่สุด

 

 

           ความหมายของเธอก็คือจะบอกว่าฉู่เจียเสวียนไปยั่วยวนเผยหนานเจวี๋ยของเธอไม่ใช่เหรอ หึหึ กงจวิ้นฉือยิ้มเยาะในใจ แต่ใบหน้ากลับนิ่งเฉย

 

 

           “ฉันเชื่อใจคนที่ผมรักอยู่แล้ว มีอะไรเหรอ หรือว่าคุณหนูฉู่ไม่ไว้ใจคุณเผย” กงจวิ้นฉือสวนกลับ มองดูฉู่อีอีที่สีหน้าเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากบางๆ ยกยิ้ม

 

 

           เขาเชื่อใจความเป็นฉู่เจียเสวียนอยู่แล้ว

 

 

           “ไม่ใช่อยู่แล้ว ฉันก็แค่รู้สึกว่าคุณเผยเหมือนจะคบกับพี่สาวนานแล้ว ยังไม่คิดแต่งงานอีกเหรอ” มือของฉู่อีอีที่อยู่บนโต๊ะกำแน่น ข่มความโกรธในร่างกายเอาไว้

 

 

           ที่เธอเข้ามาเพียงแค่ต้องการบอกกงจวิ้นฉือให้ดูฉู่เจียเสวียนให้ดี คิดไม่ถึงว่าจะปล่อยให้เขามีโอกาสสวนกลับ แบบนี้มันช่างทำให้หัวใจของเธออึดอัดจริงๆ

 

 

อีกทั้งยิ่งโมโห ทำไมฉู่เจียเสวียนคนชั่วถึงได้โชคดีเช่นนี้ ที่ได้ความไว้ใจจากผู้ชายคนหนึ่งอย่างไม่มีเงื่อนไข

 

 

           “ถึงตอนนั้นคุณหนูฉู่ก็จะรู้เอง ผมจะไม่รบกวนคุณหรอก ถ้าไม่มีอะไรแล้ว คุณหนูฉู่กลับที่นั่งของตัวเองจะดีกว่านะ เดี๋ยวเจียเสวียนออกมา เห็นผมคุยกับคุณอย่างมีความสุขแบบนี้แล้วเข้าใจผิดจะไม่ดี” เสียงอบอุ่นของกงจวิ้นฉือดังขึ้น

 

 

           ฉู่อีอีได้ยินแล้วสีหน้าเปลี่ยนทันที ‘เก่งนักนะกงจวิ้นฉือ’ ความคมกริบวูบผ่านในดวงตา

 

 

           ฉู่อีอีกัดฟัน ลุกขึ้นกลับที่นั่งของตัวเองอย่างไม่เต็มใจ เดิมทีเธอคิดจะทำให้ฉู่เจียเสวียนอับอายต่อหน้ากงจวิ้นฉือเสียหน่อย คิดไม่ถึงว่าจะถูกเขาทำให้อับอายเสียเอง

 

 

           ตรงทางเดินห้องน้ำ ฉู่เจียเสวียนออกมาจากข้างใน กลับคิดไม่ถึงว่าจะชนกับผู้ชายที่รีบรุดเข้ามา ตัวของเธอล้มเซไปด้านข้างทันที เธอตกใจจนยื่นมือออกมาคิดจะประคองกำแพง แต่ว่ายังไม่ทันยื่นมือก็ถูกคนโอบเอวไว้

 

 

 

 

ตอนที่ 399 เกลียดเขา

 

 

           เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นดวงตาคู่หนึ่งที่ทั้งล้ำลึกดุจทะเลและเจือปนความเยือกเย็น หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัวแล้ว

 

 

           “คุณไม่เป็นไรนะ” เผยหนานเจวี๋ยกล่าว มองดูใบหน้าที่งดงามของฉู่เจียเสวียน แววตาเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม

 

 

           ฉู่เจียเสวียนดึงสติกลับมา รีบผละออกจากอ้อมอกของเขา จัดแจงเสื้อผ้าของตัวเอง ข่มความประหลาดในใจเอาไว้ ริมฝีปากแดงยกยิ้ม ดวงตาที่ดำดุจหมึกมองเขาพร้อมกับยิ้ม “ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณ”

 

 

           เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เหินห่างของฉู่เจียเสวียน เผยหนานเจวี๋ยปวดใจ เธอต้องเย็นชากับเขาถึงเพียงนี้เชียวเหรอ เขาเม้มปาก ทั้งสองคนยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความอึดอัดเล็กน้อย

 

 

           “ช่างนี้คุณก็ระวังตัวหน่อยนะ” หลังจากครุ่นคิดแล้ว ในที่สุดเผยหนานเจวี๋ยก็เอ่ยปาก แววตาที่มองฉู่เจียเสวียนมีความกังวล

 

 

           เวลาที่ไม่เจอเธอ เขามีเรื่องมากมายที่ต้องการจะบอกเธอ แต่ว่าเมื่อได้เจอกับเธอจริงๆ แล้ว เขากลับไม่รู้ว่าเขาต้องการจะพูดอะไร

 

 

           ราวกับว่าเมื่อเจอเธอแล้ว เขากลับพูดสิ่งที่เขาต้องการไม่ออกเลยสักคำ ยิ่งไม่รู้ด้วยว่าต้องพูดอย่างไร

 

 

           เมื่อได้ยินถึงความห่วงใยอันแปลกประหลาดของเผยหนานเจวี๋ยแล้ว มุมปากของฉู่เจียเสวียนก็ยิ้มเยาะเย้ย ความรู้สึกประหลาดในหัวใจได้หายไปแล้ว

 

 

           “ขอบคุณคุณเผยที่เป็นห่วง แต่ว่าต่อไปคุณเผยรักษาระยะห่างจากฉันไว้จะดีกว่า คนอื่นจะได้ไม่เข้าใจผิด” ฉู่เจียเสวียนพูดจบก็หันหลังจากไป แต่มือกลับถูกคนดึงไว้ หยุดยั้งไม่ให้เธอเดินจากไป

 

 

           กลับหลังหันแล้วเงยหน้าขึ้น ก็เห็นมือของเผยหนานเจวี๋ยรั้งตัวเองไว้ สายตาของฉู่เจียเสวียนมีความขุ่นเคืองอันแปลกประหลาด

 

 

           “คุณเผยจะทำอะไรน่ะ” ดิ้นรนต้องการจะสลัดออกจากมือของเขา แต่ว่าเขายิ่งจับแน่นกว่าเดิม

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยเห็นสีหน้าที่โกรธเคืองของฉู่เจียเสวียน มองไปที่ความโกรธแค้นในดวงตาของเธอ ความเจ็บปวดในใจก็ยิ่งหนักอึ้งขึ้น เธอเกลียดชังเขาขนาดนั้นเชียวเหรอ ฉู่เจียเสวียนเอ๋ยฉู่เจียเสวียน ผมควรจะทำอย่างไรกับคุณดี

 

 

           “เจียเสวียน คุณฟังผมได้ไหม” เผยหนานเจวี๋ยกล่าว แววตาที่มองฉู่เจียเสวียนมีความขมขื่น ตอนนี้เขาเป็นห่วงมากจริงๆ ว่าเธอจะเกิดเรื่อง

 

 

           โดยเฉพาะภายใต้เป้าหมายที่คลุมเครือของเฉิงเฮ่าในขณะนี้ เขากลัวจริงๆ ว่าเฉิงเฮ่าจะทำไม่ดีต่อเธอ

 

 

           “คุณเผยอยากจะพูดอะไรก็พูดมาตรงๆ ก็ได้ ไม่มีความจำเป็นต้องลงไม้ลงมือนี่นา” เสียงที่เย็นชาดังขึ้น แทงหัวใจของเผยหนานเจวี๋ญอย่างลึกซึ้ง เธอเกลียดเขาถึงขั้นนี้จริงๆ เหรอ

 

 

           เกลียดถึงขนาดไม่อยากพูดคุยกับเขาสักสองสามคำเชียวเหรอ

 

 

           ต่อให้เป็นคนแปลกหน้าเธอก็คงไม่เย็นชาและไร้เมตตาแบบนี้หรอกมั้ง

 

 

           เขาปล่อยมือที่จับเธอไว้อย่างช้าๆ สีหน้ามีความเศร้าสร้อย ฉู่เจียเสวียนเห็นเขาที่เป็นแบบนี้ ในใจบอกไม่ได้ว่ารู้สึกอย่างไร

 

 

           ทั้งๆ ที่เห็นท่าทางของเขาเช่นนี้แล้ว เธอควรจะมีความสุขถึงจะถูกสิ แต่ว่าตอนนี้ เมื่อเห็นเขาเป็นแบบนี้ หัวใจของเธอก็เริ่มมีความรู้สึกเจ็บปวดเลือนลาง

 

 

           ไม่ เธอจะไม่มีความรู้สึกต่อเผยหนานเจวี๋ยอีกอย่างแน่นอน สิ่งที่เธอมีต่อเขามีเพียงความเกลียดชัง ใช่แล้ว เธอมีแต่ความเกลียดชังต่อเขาเท่านั้น ไม่มีความรัก เธอจะไม่มีวัน ไม่มีวันปล่อยให้ตัวเองเดินกลับไปเส้นทางเดิมอีกอย่างแน่นอน

 

 

           “ช่วงนี้คุณอย่าออกไปข้างนอกคนเดียวจะดีกว่า แล้วก็อย่าทำโอทีที่บริษัทจนดึกขนาดนั้น จะไปไหนก็ให้…แฟนของคุณไปกับคุณ” เผยหนานเจวี๋ยมองฉู่เจียเสวียนพร้อมพูดคำที่ตรงข้ามกับใจ แววตายิ่งมีความเจ็บปวด

 

 

           เมื่อพูดคำว่าแฟนคำนี้ เขายิ่งเจ็บจนหายใจไม่ออก

 

 

           “ฉันรู้แล้ว ขอบคุณคุณเผยที่เป็นห่วง ถ้าหากไม่มีอะไรแล้ว งั้นฉันก็ขอตัวก่อน แฟนของฉันยังรอฉันอยู่ข้างนอก” พูดจบ ฉู่เจียเสวียนก็รีบเดินออกไปยังห้องอาหาร

 

 

           แต่คำพูดของเผยหนานเจวี๋ยกลับอยู่ในใจของเธอแล้ว

 

 

           ในห้องอาหาร หลังจากฉู่อีอีเห็นฉู่เจียเสวียนกลับมาแล้ว ก็รู้ทันทีว่าเผยหนานเจวี๋ยจะต้องกลับมาในอีกไม่ช้า รีบสงบอารมณ์ทันที แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู

 

 

           เมื่อกงจวิ้นฉือเห็นว่าฉู่เจียเสวียนกลับมาแล้วก็ยิ้มให้เธอ