ตอนที่ 945 อยากได้ร้านของคุณ

เนตรเซียนทะลุสมบัติ

ตอนที่ 945 อยากได้ร้านของคุณ

 

หลังจากกินข้าวอิ่ม หลูตงซิงก็ถือโอกาสจัดการสะสางงานที่บ้านเลย และยังนำหนังสือปัญหาเล่มที่เขาเตรียมเอาไว้ก่อนจะวางไว้ตรงหน้าหยางโปให้เขาดู

 

หยางโปพลิกดูแผ่นพับของหลูตงซิง ก็เห็นเขาเขียนคำถามไว้มากมาย ทั้งหมดเป็นคำถามที่เขาพบในการฝึกฝน แต่ข้อมูลเหล่านี้สำหรับหยางโปแล้ว มันไม่ใช่ปัญหาเลย เขามองแค่แวบเดียว จากนั้นก็วางมันลง

 

เมื่อหลูตงซิงเห็นหยางโปวางคำถามเหล่านี้ลง ก็อดไม่ได้ที่จะถาม “ นายไม่มีปัญหากับคำถามพวกนี้เลยเหรอ ? ”

 

หยางโปพยักหน้า ” ก็ถือว่าดี ”

 

เมื่อเห็นหยางโปตอบมาแบบนี้ หลูตงซิงก็หยุดอ่านเอกสาร และเดินตรงเข้ามาเพื่อขอคำแนะนำจากหยางโป

 

หยางโปก็ไม่ถือสา อธิบายปัญหาทั้งหมดอย่างละเอียดอีกรอบ เพราะเขาผ่านขั้นตอนนี้มาแล้ว และพบปัญหาเหล่านี้มาแล้วทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงสามารถอธิบายได้อย่างชัดเจน

 

ทางด้านหลูตงซิงที่อยู่ข้างๆก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้า

 

ถึงยังไงซะ หลูตงซิงก็สัมผัสกับของพวกนี้ได้ไม่นานเท่าไร ดังนั้นจึงมีคำถามเกิดขึ้นได้ง่าย

 

หยางโปใช้เวลาไปมากกว่าครึ่งชั่วโมงในการอธิบายคำถามทั้งหมดอย่างชัดเจน

 

ทันใดนั้น หลูตงซิงก็ตัดบทถามออกมาเลยว่า ” ฉันจะเริ่มฝึกได้เมื่อไร ? ”

 

“ อย่ารีบร้อนไป คุณควรพิจารณาประเด็นคำถามทั้งหมดให้ชัดเจนก่อน และรอจนกว่าจะฝึกซ้อม จะได้ไม่ต้องมาวิตกกังวลจนเกินไป ” หยางโปกล่าว

 

“ ฉันมักจะรู้สึกว่ามีคำถามอยู่เยอะมาก เรื่องบางอย่างก็คิดแล้วไม่เข้าใจ หรือว่าฉันจะไม่มีวันฝึกฝนได้ ? ” หลูตงซิงรู้สึกสงสัย

 

หยางโปส่ายหน้า “ คุณต้องผ่อนคลาย ผมเข้าใจสถานการณ์ของคุณดี ถ้าตามคำถามของคุณ

 

ผมสามารถวินิจฉัยสถานการณ์ที่คุณพบเจออยู่ได้ รอเมื่อไรที่คุณถามลึกกว่านี้ ก็สามารถฝึกฝนได้แล้ว เมื่อเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ ในอนาคตเมื่อลงทุนลงแรงน้อย แต่ผลตอบแทนที่ได้ถือว่ามากเป็นทวีคูณ ! ”

 

หลูตงซิงพยักหน้า “ ที่พูดมามันก็ใช่ ไม่เป็นไร ฉันจะฟังที่นายว่าก็แล้วกัน ”

 

หยางโปกำลังจะพูดอีกสองสามคำ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เมื่อก้มหน้าลงมอง ก็เป็นชุยอี้ผิงนี่เองที่โทรมา

 

หยางโปหันไปส่งซิกให้หลูตงซิง และรับโทรศัพท์

 

ชุยอี้ผิงดูจะค่อนข้างจะเป็นกังวล ” เสี่ยวโป นายไปไหนแล้ว ? ”

 

“ อ้อ พอฉันออกจากบ้านก็ถูกนักข่าวคนเมื่อวานตามตื้อ ฉันอยากจะสลัดเธอทิ้ง ตอนนี้ฉันเลยออกมาแล้ว ” หยางโปกล่าว

 

ชุยอี้ผิงทำตัวไม่ถูก ” ไม่มั้ง นายจะทิ้งพวกเราไว้ที่นี่แบบนี้เลยเหรอ ? นี่มันไม่ใจร้ายเกินไปหน่อยเหรอ ? ”

 

“ กุญแจวางยู่บนโต๊ะอาหาร นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกนายมาที่จินหลิงกันแล้ว ถนนหนทางก็คุ้นเคยดี กุญแจรถก็อยู่บนโต๊ะอาหารด้วยเหมือนกัน เดี๋ยวรอสักพักพวกนายก็ขับรถออกไปหาอะไรกินกันเองนะ ” หยางโปกล่าว

 

ชุยอี้ผิงทำได้เพียงตอบรับ เขาวางสายอย่างไม่เต็มใจและเหลือบมองไปที่หงซิ่วซิ่วและเหอจี

 

” ช่วยไม่ได้ เขาจะไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว ”

 

เหอจีอดผิดหวังอยู่บ้างไม่ได้ “ ฉันมันแย่มากเลยเหรอ ? พวกคุณไม่เห็นตอนที่ฉันไล่ตามทัน

 

เขาตกใจจนขึ้นรถหนีไป ไม่ไว้หน้ากันเลยสักนิด ! ”

 

“ คุณไม่ต้องกังวลไป ครั้งหน้าผมต้องสั่งสอนเขาแน่ ! ” ชุยอี้ผิงกล่าว

 

หงซิ่วซิ่วจ้องมาที่เขา “ นักข่าวเหอ คุณก็เห็นแล้ว พวกเราทำกันเต็มที่แล้ว ตอนนี้มันก็สายมากแล้ว วันนี้พวกเรายังมีเรื่องให้ต้องออกไปทำอยู่อีก ”

 

หงซิ่วซิ่วเอ่ยปากไล่แขกทางอ้อม เหอจีเลยทำได้เพียงต้องขอตัวลากลับไปก่อน

 

ชุยอี้ผิงมองตามเหอจีที่เดินออกไปและอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ เมื่อวานเป็นเพราะคุณช่วยคนอื่นสัมภาษณ์แทนเสี่ยวโป ทำไมตอนนี้ไม่ช่วยอีกล่ะ ? ”

 

“ ฉันแค่อยากจะลองดู ว่าเสี่ยวโปชอบแบบนี้ไหม ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ชอบมันเลย ไม่อย่างนั้นคงจะไม่หนีแบบนี้ ” หงซิ่วซิ่วพูด “ นี่ฉันไม่ได้ทำเพื่อตัวคุณเองหรอกหรือไง เพื่อช่วยคุณทำภารกิจให้เสร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีไง ? ”

 

ชุยอี้ผิงมองไปที่หงซิ่วซิ่ว ” กลอุบายนี้ของคุณลึกล้ำเกินไปไหม ? ”

 

หงซิ่วซิ่วทำเสียงฮึดฮัดดูถูก ” ถ้าไม่มีกลอุบายอยู่เลยสักนิด แล้วจะเอาเหอจีอยู่ได้ยังไง ? ”

 

หยางโปกลับไม่รู้เรื่องนี้เลย เขาขับรถของหลูตงซิงมาที่มหาวิทยาลัยอีกครั้ง หลังจากรับฮัวชิงหยุน

 

ออกมาแล้ว เขาก็วางแผนที่จะพาฮัวชิงหยุนไปซื้อของ ในเมื่อจีบกันอยู่ มันก็ต้องทำตัวเหมือนเป็นคู่รักสิ

 

เห็นได้ว่าฮัวชิงหยุนมีความสุขมาก เธอนั่งอยู่ในรถและพูดไม่หยุดเลย

 

ทั้งสองคนเดินเล่นอยู่ในห้าง ฮัวชิงหยุนไม่ได้ซื้ออะไรเลย แต่ดูมีความสุขอยู่ตลอดเวลา

 

หลังจากเดินเล่นมารอบหนึ่ง ฮัวชิงหยุนก็รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย เธอหันไปเสนอกับหยางโป

 

“ นายมีร้านขายวัตถุโบราณอยู่ร้านหนึ่งไม่ใช่เหรอ ? พวกเราไปร้านขายวัตถุโบราณกันดีไหม ? ”

 

“ ในร้านไม่มีของดีอะไรแล้ว ” หยางโปพูด

 

“ ไม่เป็นไร พวกเราแค่ไปดู ฉันคิดว่าร้านของนายน่าสนใจมาก ” ฮัวชิงหยุนกล่าว

หยางโปพยักหน้า “ ถ้าอย่างนั้นก็ได้ เราไปด้วยกันเลย ”

 

พอขับรถมุ่งหน้ามาที่หน้าร้านวัตถุโบราณ หยางโปก็เห็นว่ามีผู้คนมารุมล้อมอยู่นอกร้านจำนวนมาก ทำให้เขารู้สึกค่อนข้างแปลกใจ ทั้งสองจึงลงจากรถแล้วเดินตรงไปที่ร้าน

 

เมื่อเข้าใกล้ขึ้นมาหน่อย หยางโปถึงได้มองทะลุผ่านฝูงชน และเห็นหยางหลางและพ่อหยาง

 

ทั้งสองยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน เมื่อเห็นสิ่งนี้ เขาก็อดที่จะขมวดคิ้วขึ้นไม่ได้

 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หยางโปต้องเผชิญกับเรื่องแบบนี้ แต่เมื่อได้มาเห็นพวกเขาพ่อลูกปรากฏตัวขึ้นที่นี่อีกครั้ง มันทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เพราะการมาถึงของพวกเขานั้นหมายความว่าต้องมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นแน่ !

 

พวกเขามาที่นี่เพื่อมาหาเรื่อง !

 

หยางโปคว้าแขนของฮัวชิงหยุนไว้ ” พวกเราไม่เข้าไปกันแล้ว ไปกันเถอะ ! ”

 

แม้ว่า ฮัวชิงหยุนจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ยังคงเดินตามหยางโปกลับไป

 

ในขณะที่ทั้งสองกำลังเดินกลับ ก็ได้ยินเสียงตะโกนจากด้านหลังตามมา “ พ่อ ! พ่อ ! หยางโปอยู่ที่นั่น ! เขาอยู่ที่นั่น ! ”

 

“ อยู่ไหน ? เขาอยู่ที่ไหน ? ” พ่อหยางถามเสียงดัง

 

ทั้งสองผละออกจากฝูงชน หยางหลางมองเห็นหยางโปและตะโกนเสียงดังว่า

 

” หยางโป หยางโป ! แกหยุดเลยนะ ! หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ ! ”

 

หยางโปอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปทางด้านหลัง อาการบาดเจ็บบนหน้าของหยางหลางยังไม่หาย ยังดูค่อนข้างที่จะบวมช้ำ ตอนที่ไล่ตามมาขาก็เดินโซซัดโซเซ แต่เดินเร็วทีเดียว

 

ในเมื่อถูกเห็นเข้าแล้ว หยางโปก็ไม่สามารถจากไปได้ง่ายๆอีก จึงทำได้เพียงดึงฮัวชิงหยุนให้หยุดเดินก่อน

 

ไม่นาน หยางหลางก็ไล่ตามพวกเขาทั้งสองมาทัน

 

พ่อหยางดูเหมือนจะโกรธเล็กน้อย “ แกเห็นเราแล้วจะวิ่งหนีทำไมหะ ? ทำอย่างกับพวกเราจะกินแกอย่างงั้นแหละ ? ”

 

หยางโปขมวดคิ้ว “ แล้วผมวิ่งหนีไปแล้วหรือยัง ? ”

 

พ่อหยางถึงกับนิ่งอึ้งไปทันที

 

หยางหลางยิ้มเหยเก “ เสี่ยวโป มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ฉันกับพ่อมาที่นี่ในวันนี้ เพราะเห็นว่าร้านของนายก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ตอนนี้นายก็ไม่ค่อยอยู่ที่จินหลิงบ่อยนัก คิดว่าร้านนี้คงไม่ค่อยได้ใช้ ดังนั้นพวกเรา แค่คิด แค่คิดว่า… ”

 

ในขณะพูด สีหน้าของหยางหลางก็แสดงรอยยิ้มที่เขินอายออกมาเล็กน้อย สองมือถูไปมา

 

สีหน้ายิ้มอย่างอึดอัดใจ

 

แต่พ่อหยางกลับไม่สนใจอะไรมากนัก “ พูดสิ จะอายอะไร แกก็บอกเขาไปสิว่าเราต้องการใช้พื้นที่ร้านของเขาทำธุรกิจ เขาจะไม่ให้ได้ยังไง ? ”

 

หยางโปเหลือบมองไปที่พ่อหยาง จากนั้นก็มองไปที่ฝูงชน และถามออกมาด้วยความสงสัย

 

“ เมื่อกี้พวกคุณทำอะไรอยู่ ? ทำไมถึงมีคนจำนวนมากมารุมล้อมอยู่แบบนี้ ? ”

 

พ่อหยางตกตะลึงนิ่งอึ้งในทันทีและไม่ยอมเอ่ยปากพูดอะไร