บทที่ 893 ชีวิตน้อยๆ อยู่ในกำมือคุณ / บทที่ 894 เธออยากทำอะไร

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 893 ชีวิตน้อยๆ อยู่ในกำมือคุณ

เวลานี้ เนี่ยอู๋หมิงอยากเฆี่ยนตัวเองตายจริงๆ! เขาปลื้มปริ่มดีใจอะไรกัน!

ตรงไหนคือน่ายินดี น่ากลัวชัดๆ เลยมากกว่า?

เขาขุดหลุมให้ตัวเองกระโดดลงไปแท้ๆ…

เมืองหลวง โรงแรมข่ายตี๋

เนี่ยอู๋หมิงถาม “ดึกมากแล้ว ยังไม่นอนอีกเหรอ”

จอมมารน้อยตอบ “เจ็ตแล็ก”

เนี่ยอู๋หมิงตอบรับ “โอ้…”

เขาพูดต่อว่า “เอ่อ แกเอาชุดมากี่ตัวกันแน่ ทำไมลุงรู้สึกว่าทุกตัวหน้าตาเหมือนกันนะ เลือกๆ มาสักตัวก็ได้”

เลือกเสร็จแล้วก็รีบไปนอนซะ! เขายังต้องแอบแจ้งน้องโหย่วหมิงอีกนะ!

จอมมารน้อยพูด “ผมไปเจอแม่ จะทำส่งๆ ได้ยังไง”

เนี่ยอู๋หมิงนิ่งเงียบ

ต้องขอบคุณหลานแท้ๆ ในที่สุดเนี่ยอู๋หมิงที่นอนอยู่ใต้สะพานและถนนใหญ่มานานก็ได้อยู่ในห้องสวีทสักหน

แต่อยู่ห้องเดียวกับจอมมารน้อย เขาไม่มีกะจิตกะใจจะยินดีจริงๆ

ตั้งแต่ลงจากเขามังกรเร้นมา เขาก็หาโอกาสแจ้งข่าวเยี่ยหวันหวั่นตลอด แต่ก็จนปัญญาหาโอกาสไม่ได้เลย

เล่นลูกไม้ภายใต้สายตาของจอมมารน้อยนั้นอันตรายเกินไป ถ้าหากถูกมองพิรุธออกต้องซวยแน่

จนถึงสุดท้าย เนี่ยอู๋หมิงก็ค้นพบอย่างน่าเวทนาว่า ตอนนี้เหมือนเขาจะได้แต่ดูน้องโหย่วหมิงแสดงสดเมื่อถึงเวลานั้นเสียแล้ว…

เฮ้อ น้องโหย่วหมิงเอ๋ย ชีวิตน้อยๆ ของผมอยู่ในกำมือเธอแล้ว…

สองวันนี้ เยี่ยหวันหวั่นพบปะพูดคุยกับเบื้องบนและเครือญาติตระกูลซือกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า เมื่อถึงตอนเย็น ในที่สุดก็ว่างลงบ้างแล้ว เธอจึงรีบหาเวลาเข้าไปในกลุ่มแชทของบริษัท

ซือเยี่ยหานเพิ่งอาบน้ำเสร็จและกำลังเดินออกมาจากในห้องน้ำ เขานอนลงข้างเยี่ยหวันหวั่น อ่านเอกสารอย่างไม่สนใจสิ่งรอบตัว และก็ไม่รบกวนหญิงสาว แม้ว่าการมีอยู่ของเขาจะ ‘รบกวน’ เธอมากแล้วก็ตาม

[เยี่ยไป๋: ขอโทษนะทุกคน หลายวันนี้ฉันค่อนข้างยุ่งเรื่องธุระส่วนตัว เลยไม่ได้เข้าประชุมอ่านบท]

[เยี่ยมู่ฝาน: ไม่ต้องห่วง ฝั่งบริษัทมีฉันคอยดูแลอยู่นะ! ว่าแต่ ตกลงนายยุ่งเรื่องอะไรกันแน่]

ต้องออกไปเที่ยวเล่นกับเจ้าผู้ชายหยาบช้านั่นอีกแน่…

เยี่ยหวันหวั่นคุยงานกับเยี่ยมู่ฝานแล้วก็หานเซี่ยนอวี่อยู่สักพัก กงซวี่ก็พลันทักแชทส่วนตัวมา

[กงซวี่: พี่เยี่ยๆๆ แง! ในที่สุดพี่ก็มาแล้ว! ผมอัดอั้นจะตายอยู่แล้ว! มีข่าวซุบซิบ! ผมมีข่าวซุบซิบใหญ่มา!]

[เยี่ยไป๋: ข่าวซุบซิบใหญ่อะไร นายจะเปิดเผยรสนิยมทางเพศ หรือว่าราชาจอเงินเซี่ยจะแต่งงาน]

[กงซวี่: ทำไมพี่เยี่ยพูดเหมือนเฟลิกซ์เป๊ะเลย! ผมไม่ได้จะเปิดเผยตัว แล้วราชาจอเงินเซี่ยก็ไม่ได้จะแต่งงานด้วย เป็นซือเยี่ยหานต่างหาก! หัวหน้าตระกูลซือในตำนานซือเยี่ยหานคนนั้นป่วยตายไปเมื่อไม่กี่วันก่อนพี่รู้ยัง?]

เยี่ยหวันหวั่นมองแชทส่วนตัวของกงซวี่บนมือถือ แล้วเหลือบมองซือเยี่ยหานด้านข้างซึ่งเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เส้นผมยังชื้นอยู่เล็กน้อย บนตัวสวมชุดนอน เธอส่งอีโมจิ ‘ถือดาบยักษ์สี่สิบเมตร’ ไปให้…

กงซวี่ส่งอีโมจิกุมผ้าเช็ดหน้าเหนียมอายมา จากนั้นก็ตอบกลับเธอ [กงซวี่: พี่เยี่ยสับเค้าทำไมอะแงๆๆ!]

[เยี่ยไป๋: รีบถอนคำพูดเลยนะ พูดเหลวไหลอะไร! ฝั่งตระกูลซือปล่อยข่าวว่าซือเยี่ยหานไม่เป็นไรแล้วไม่ใช่เหรอ]

[กงซวี่: ตายแล้ว ที่แท้พี่เยี่ยก็สนใจอยู่สินะ! แต่ว่าเค้าพูดเหลวไหลที่ไหนกัน ช่วงนี้กำลังโกลาหลวุ่นวายเลย ข่าวลือไปทั่วแวดวงสังคมชั้นสูงแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะซือเยี่ยหานเป็นอะไรไปจริงๆ จนทางตระกูลซือสถานการณ์วุ่นวาย ข่าวอย่างนี้ไม่มีทางถูกปล่อยมาหรอก สรุปแล้วนะ จากการตัดสินของผม ซือเยี่ยหานตายแล้วแน่ๆ ตระกูลซือเป็นห่วงว่าจะเกิดความวุ่นวาย เลยรีบร้อนลบข่าวทั้งหมด จากนั้นก็หลอกคนนอกว่าเขายังอยู่…]

กงซวี่วิเคราะห์อย่างมีหลักเหตุผล วินิจฉัยอย่างมั่นอกมั่นใจมาก

เยี่ยหวันหวั่นเห็นคำว่า ‘ตาย’ นั้นก็อยากซัดคน ขบกรามส่งข้อความหนึ่งไป

…………………………………

บทที่ 894 เธออยากทำอะไร

ซือเยี่ยหานที่อยู่ด้านข้างได้ยินเสียงเยี่ยหวันหวั่นขบกราม จึงเอียงหน้าหันมองเธอ หางตาตกบนหน้าจอโทรศัพท์ของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ

เขาเห็นเยี่ยหวันหวั่นกำลังพิมพ์อักษร…

[เยี่ยไป๋: แต่ฉันว่าเขามีชีวิตอยู่ดีเลยละ]

[กงซวี่: ทำไมพี่มั่นใจจังพี่เยี่ย หรือว่าพี่ดูดวงพยากรณ์ออกมา?]

[เยี่ยไป๋: เพราะหมอนั่นอยู่บนเตียงฉัน]

ซือเยี่ยหานพูดไม่ออก

[กงซวี่: …]

ทางฝั่งกงซวี่เครื่องรวนในพริบตา

ซือเยี่ยหานมองท่าทางกัดฟันของหญิงสาว แววอบอุ่นอ่อนโยนวาบผ่านในดวงตา

ผ่านไปหลายสิบวินาที กงซวี่ถึงค่อยตะกายขึ้นมาอย่างยากลำบาก

[กงซวี่: พี่เยี่ยก็ ล้อเล่นเรื่องอย่างนี้กับผมก็แล้วไปเถอะ ผู้ชายด้วยกันนี่นะ ผมเข้าใจ! แต่อย่าให้แฟนพี่รู้เด็ดขาดเชียว! ผมจะบอกอะไรให้ บางครั้งความอิจฉาของผู้ชายก็น่ากลัวกว่าผู้หญิงเยอะ…]

เยี่ยหวันหวั่นโยนมือถือทิ้ง ไม่สนใจคำพูดพล่ามของกงซวี่อีก “เจ้าปากเสียนี่ พูดไม่น่าฟังสักนิด พูดตายๆๆ เป็นลางอยู่ได้…”

ซือเยี่ยหานยื่นมือลูบหัวหญิงสาว “คำพูดคนอื่นไม่สำคัญ”

ในความคิดของซือเยี่ยหานมีคำพูดที่เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยกับซือหมิงหลี่ตอนอยู่ในห้องลับว่า ‘อยู่จนกว่าโลงศพคุณจะขึ้นรา’ ผุดขึ้นมา

เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า “ถูกต้อง! พวกเราต้องเชื่อวิทยาศาสตร์! คุณหมอซุนบอกแล้วว่าถ้าอาการคงที่ต่อไป คุณก็จะหายป่วยแบบสมบูรณ์!”

โม่เสวียนบอกว่าเธอเป็น ‘จุดสมดุล’ ของซือเยี่ยหาน ถ้าเป็นแบบนั้นละก็ มีเธออยู่ข้างๆ รับรองต้องไม่เป็นไรแน่!

ตอนนี้ทุกวันนอกจากจัดการเรื่องที่บริษัทเล็กน้อย เธอก็เรียนรู้อยู่ข้างกายซือเยี่ยหาน ไม่ก็ไปเสริมความรู้ที่จำเป็นในโรงเรียน ชีวิตกับแวดวงสังคมเรียบง่ายเป็นพิเศษ ความสัมพันธ์กับซือเยี่ยหานก็ยิ่งมั่นคงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ‘จุดสมดุล’ ไม่มีทางพังแน่นอน…

หลังจากนั้นไม่นาน เยี่ยหวันหวั่นก็ได้รับบทเรียนล้ำค่าอย่างหนึ่ง คนคนนี้ปักธงส่งๆ ไม่ได้จริงๆ…

ซือเยี่ยหานวางเอกสารในมือลง “นอนกันเถอะ”

เยี่ยหวันหวั่นได้ยินก็กะพริบตาปริบๆ “หา? จะหลับอย่างนี้เลย ไม่ทำอะไรหน่อยเหรอ”

ซือเยี่ยหานมองเธอแวบหนึ่งอย่างเรียบนิ่ง “เธออยากทำอะไร”

เยี่ยหวันหวั่นเท้าคาง กะพริบตามองเขาพลางเอ่ยปาก “นั่นไง ถึงคุณไม่อยากมีลูก แต่ว่าขั้นตอนการทำลูกคุณก็ไม่ชอบด้วย? ร่างกายคุณทรงตัวขึ้นแล้วไม่ใช่เหรอ คุณหมอซุนบอกว่าตอนนี้ก็ไม่ได้เหรอ?”

ใจจริงคือเธอกลัวว่าซือเยี่ยหานจะอดกลั้นจนสุขภาพเสียก่อน…

ในดวงตาของซือเยี่ยหานวาบดวงไฟร้อนแรง แต่ก็ถูกบังคับดับลง กลับมาเย็นเยือกทันที

จากนั้นซือเยี่ยหานเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “คุณหมอซุนบอกว่าได้ แต่ต้องควบคุมเวลา”

“อ๋า? นานเท่าไร” เยี่ยหวันหวั่นถาม

ซือเยี่ยหานมองเธอแวบหนึ่ง สีหน้าท่าทางนั้นทำให้เยี่ยหวันหวั่นเกิดความรู้สึกอยากขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างบอกไม่ถูก

ต่อมาก็ได้ยินซือเยี่ยหานตอบว่า “สิบนาที”

“เอ่อ…” เยี่ยหวันหวั่นเห็นใจอย่างสุดซึ้ง “ล้างหน้าแปรงฟันนอนกันเถอะ…”

ด้วยพละกำลังของซือเยี่ยหาน จะควบคุมให้อยู่ในสิบนาทีได้ยังไง…

เช้าตรู่วันถัดมา

เยี่ยหวันหวั่นตื่นเช้ามาฝึกร่างกายเช่นทุกวัน ไม่รู้ทำไม คำพูดของซือเซี่ยเมื่อวันนั้นทำให้เธอครุ่นคิดบางอย่าง

สืออีที่ฝึกอยู่ด้านข้างเห็นเยี่ยหวันหวั่นไม่อยู่ในสภาพเต็มที่ ก็ถามไถ่อย่างเป็นห่วง “คุณหนูหวันหวั่น เป็นอะไรไปครับ”

เยี่ยหวันหวั่นพ่นใบหญ้าในปากทิ้ง ก่อนจะเงยหน้าถาม “สืออีฉันถามนายหน่อย ฝีมือฉันแย่มากหรือเปล่า”

สืออีงุนงง “…หา?” เมื่อครู่นี้เขาหูฝาดหรือเปล่า?

“ฉันถามนายว่า ฉันฝีมือกากมากไหม” เยี่ยหวันหวั่นนึกว่าเขาฟังไม่ชัด จึงถามอีกรอบ

………………….