ตอนที่ 404 คุณตั้งใจใช่ไหม / ตอนที่ 405 จงใจกลั่นแกล้ง

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 404 คุณตั้งใจใช่ไหม

 

 

           รู้สึกไปเองมั้ง? ฉู่เจียเสวียนคิดในใจ เขาจะเสียใจได้อย่างไรกัน ฉู่เจียเสวียนหัวเราะเยาะตัวเองอยู่ในใจ แล้วเอ่ยปาก “คุณเผย คุณพูดแบบนี้ไม่กลัวคนเข้าใจผิดแต่ฉันกลัว ฉันไม่อยากนำพาเรื่องที่ไม่ดีเข้ามา”

 

 

           เสียงที่ชัดเจนดังขึ้น ความถากถางปรากฏขึ้นในแววตาของฉู่เจียเสวียน แม้แต่ริมฝีปากแดงก็มีความเย้ยหยันเลือนลาง

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยได้ยินคำพูดของฉู่เจียเสวียนแล้ว สีหน้าเปลี่ยนเป็นน่าเกลียด

 

 

           “ฉู่เจียเสวียน!” เผยหนานเจวี๋ยกัดฟันพูด บนใบหน้ามีความเยือกเย็น มือที่กุมของเธอก็ออกแรงไม่หยุด

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเจ็บจนขมวดคิ้วเข้าหากัน มองเขาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “เผยหนานเจวี๋ย คุณไม่รู้สึกว่าคุณในตอนนี้ตลกมากหรือไง คุณวิ่งตามฉันทั้งวันแบบนี้เพื่ออะไร อย่าบอกนะว่าคุณหลงรักฉันเข้าแล้วจริงๆ”

 

 

           คำพูดของฉู่เจียเสวียนทำให้สีหน้าของเผยหนานเจวี๋ยยิ่งน่าเกลียดยิ่งกว่าเดิม เอ็นบนมือเต้นตุบๆ

 

 

           ริมฝีปากบางเม้มแน่น มองใบหน้าที่สวยงามของฉู่เจียเสวียนตาไม่กระพริบ ความสับสนเผยอยู่ในส่วนลึกของแววตา

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยมองจนฉู่เจียเสวียนตื่นตกใจ หัวใจเธอเต้นเร็วขึ้นโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า

 

 

           ขณะที่สองคนกำลังเผชิญหน้ากันอยู่นั้น โทรศัพท์มือถือของเผยหนานเจวี๋ยดังขึ้น เสียงที่ดังขึ้นกะทันหันลดบรรยากาศอันอึดอัดระหว่างพวกเขาสองคน

 

 

           ที่แท้คนขับรถโทรหาเขา บอกว่ากำลังออกรถแล้ว

 

 

           ฉู่เจียเสวียนสะบัดมือเขาออกอย่างแรง มุมปากยกยิ้มเยาะเย้ย หันหลังเดินไปที่รถ ขณะที่หันหลังไปนั้น เธอพยายามข่มอารมณ์ในใจให้เป็นปกติ

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยมองแผ่นหลังของฉู่เจียเสวียนอย่างเหม่อลอยเล็กน้อย ความเจ็บปวดปรากฏในดวงตาอย่างเห็นได้ชัด แต่น่าเสียดายที่ตอนนั้นฉู่เจียเสวียนหันหลังให้เขาแล้ว

 

 

           หลังจากฉู่เจียเสวียนเข้าไปนั่งในรถสักพัก เผยหนานเจวี๋ยจึงขึ้นรถ กวาดตามองเธอเล็กน้อย ฉู่เจียเสวียนหลับตาลงอีกครั้ง ต้องการจะนอนพัก

 

 

           “กินซะเถอะ” เพิ่งจะหลับตา ในมือของฉู่เจียเสวียนก็มีนมกับแซนวิชเพิ่มเข้ามา มันคือของที่เผยหนานเจวี๋ยเอาให้เธอกินเมื่อครู่ แต่เธอกลับไม่ได้ยื่นมือออกไปรับ

 

 

           อาจเป็นเพราะความโมโหเมื่อครู่ ตอนนี้เมื่อฉู่เจียเสวียนได้กลิ่นหอมของแซนวิชก็รู้สึกหิวเล็กน้อยแล้ว

 

 

           เมื่อครู่เธอยังนึกว่าเผยหนานเจวี๋ยจะทิ้งนมกับแซนวิชไปด้วยความโกรธเสียอีก คิดไม่ถึงว่าเขาเอามันขึ้นรถแล้ว

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเม้มปาก เหลือบมองเผยหนานเจวี๋ยที่นั่งอยู่ข้างเธอ พบว่าเขากำลังกอดอก หลับตาแน่น สวมเสื้อสูทสีน้ำเงิน ผมที่ดกดำยุ่งเหยิงเล็กน้อย บุคลิกที่เย่อหยิงสูงส่งแผ่ซ่านออกมาจากตัวของเขา เยือกเย็นราวกับมีดที่เย็นเยียบ

 

 

           ฉู่เจียเสวียนกลืนน้ำลาย กลิ่นหอมของแซนวิชลอยมาแตะจมูกของเธออีกครั้ง แม้ว่าเธอจะไม่อยากกินแต่ว่าท้องก็หิวจริงๆ ในที่สุดฉู่เจียเสวียนก็กินแซนวิชกับนมจนหมด

 

 

           หลังจากกินแซนวิชหมดแล้ว ฉู่เจียเสวียนต้องการจะเอาขยะในมือใส่ในกระเป๋า ใครจะรู้ว่ามีการสั่นสะเทือนรุนแรง ขณะที่รถกำลังเอียงนั้น ฉู่เจียเสวียนโงนเงนและพุ่งเข้าไปหาเผยหนานเจวี๋ยแล้ว

 

 

           ไม่รู้ว่าเผยหนานเจวี๋ยลืมตาตั้งแต่เมื่อไร ทันทีที่ยื่นมือออกไปก็กอดฉู่เจียเสวียนไว้ในอ้อมแขนแล้ว ส่วนใบหน้าด้านข้างของฉู่เจียเสวียนก็แนบชิดกับหน้าอกของเผยหนานเจวี๋ย

 

 

           “ขอโทษค่ะ” ฉู่เจียเสวียนตกใจ ผละออกจากอ้อมแขนของเขาอย่างง่ายดาย หลังจากกล่าวคำขอโทษกับเขาแล้ว ใครจะรู้ว่ารถจะเลี้ยวโค้งอย่างรวดเร็วและฉู่เจียเสวียนก็พุ่งเข้าหาเผยหนานเจวี๋ยอีกครั้ง

 

 

           ครั้งนี้ มือของเธอวางอยู่บนต้นขาของขาโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

 

           “ฉู่เจียเสวียน คุณตั้งใจใช่ไหม” เผยหนานเจวี๋ยกล่าว น้ำเสียงราวกับเจือปนความขี้เล่น แววตาก็ส่องประกายแปลกประหลาด

 

 

           ฉู่เจียเสวียนหน้าแดงก่ำ เงยหน้ามองเขาด้วยความเขินอายเล็กน้อย

 

 

           คนขับรถคนนี้นี่มันอะไรกัน ตั้งใจแกล้งเธอหรือไง ฉู่เจียเสวียนคิดในใจ รีบผละตัวออกจากเผยหนานเจวี๋ย

 

 

           แต่ว่าผมดันไปเกี่ยวกับกระดุมบนหน้าอกของเผยหนานเจวี๋ย

 

 

           คราวนี้ฉู่เจียเสวียนยิ่งรู้สึกเขินมากกว่าเดิม

 

 

 

 

       ตอนที่ 405 จงใจกลั่นแกล้ง

 

 

           หน้าของฉู่เจียเสวียนยิ่งแดงก่ำ สวรรค์จงใจกลั่นแกล้งเธอสินะ?

 

 

           ทำไมวันนี้ถึงไม่มีเรื่องอะไรดีเลย

 

 

           ฉู่เจียเสวียนยื่นมือต้องการจะแก้ผมที่พันกับกระดุมของเขา แต่ว่าเพิ่งจะยื่นมือออกไปก็สัมผัสกับผิวหนังอุ่นๆ ของเขา ฉู่เจียเสวียนรีบชักมือกลับ

 

 

           บ้าจริง แม้จะมีเสื้อผ้ากั้นกลาง แต่อุณหภูมิร่างกายของเขาก็สูงมากเหลือเกิน

 

 

           “คุณอย่าขยับ ผมจัดการเอง” เผยหนานเจวี๋ยเห็นศีรษะของฉู่เจียเสวียนบิดไปมาไม่หยุด ต้องการจะดึงผมของเธอออก เขาเอื้อมมือออกไปช่วยเธออย่างเบามือ ราวกับกลัวว่าไม่ระวังแล้วจะทำเธอเจ็บเข้า

 

 

           เมื่อเทียบกับอารมณ์ที่ผ่อนคลายของเผยหนานเจวี๋ย ฉู่เจียเสวียนกลับร้อนใจจนแทบจะร้องไห้

 

 

           “คุณเสร็จแล้วยัง ทำไมนานจังเลย” ฉู่เจียเสวียนกล่าวอย่างไม่พอใจ น้ำเสียงหมดความอดทนเล็กน้อย

 

 

           เขาแก้ผมอยากขนาดนั้นเลยหรือไง ไม่ได้แก้ปมที่ผูกตายสักหน่อย ฉู่เจียเสวียนพูดขึ้น

 

 

           คนขับรถที่อยู่ด้านหน้าได้ยินคำพูดของฉู่เจียเสวียนแล้วเงยหน้าเหลือบมองกระจากหลัง พระเจ้า ไม่ดูก็ไม่เป็นไร แต่พอดูแล้วก็ตกใจ

 

 

           หากมองจากมุมของเขา ฉู่เจียเสวียนกำลังปีนอยู่บนตัวของเผยหนานเจวี๋ยพอดี ท่าทางของทั้งสองคนคลุมเครือ ราวกับว่ากำลังทำอะไรกันบางอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นคำพูดประโยคนั้นของฉู่เจียเสวียน ทำให้เขาคิดไปไกลอยู่แล้ว

 

 

           หนุ่มสาวสมัยนี้ใจร้อนขนาดนี้เชียวเหรอ ดีเลวอย่างไรเขาก็อยู่บนรถนะ เฮ้อ

 

 

           ถ้าหากฉู่เจียเสวียนรู้ความคิดของคนขับรถ คาดว่าจะต้องอยากชนกำแพงแน่ๆ ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้ทำอะไรสักหน่อยโอเคไหม?

 

 

           “เสร็จแล้ว” รอสักพักใหญ่ๆ ในที่สุดเผยหนานเจวี๋ยก็แก้ผมของฉู่เจียเสวียนที่กระดุมของเขาได้แล้ว

 

 

           ฉู่เจียเสวียนรีบนั่งตัวตรงทันที ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ใบหน้าแดงระเรื่ออย่างแปลกประหลาด

 

 

           บรรยากาศภายในรถเปลี่ยนเป็นอึดอัดทันใด จู่ๆ ฉู่เจียเสวียนรู้สึกไม่กล้าเผชิญหน้ากับเผยหนานเจวี๋ยเล็กน้อย

 

 

           ในที่สุดรถก็มาถึงฟาร์มภายใต้การตั้งตาคอยของฉู่เจียเสวียน

 

 

           ทันทีที่รถจอด ฉู่เจียเสวียนรีบเปิดประตูแล้วลงไปจากรถทันที สูดอากาศบริสุทธิ์จากธรรมชาติ ในขณะนั้นเธอรู้สึกราวกับว่าเธอได้ชีวิตกลับคืนมา

 

 

           หลังจากเผยหนานเจวี๋ยลงจากรถและมองฉู่เจียเสวียนอย่างลึกซึ้งแล้ว ก็เอ่ยปากพูดกับเธอ “ไปกับผมเถอะ” พูดจบก็หันหลังเดินล่วงหน้าไปก่อน

 

 

           ฉู่เจียเสวียนได้ยินแล้วก็เดินตามไป

 

 

           เธอตามเผยหนานเจวี๋ยมาถึงลอบบี้ ต้องการจะหาที่พัก

 

 

           ทางผู้จัดได้เตรียมห้องเดี่ยวให้กับผู้เข้ารอบการแข่งขันและที่ปรึกษาแต่ละคู่ เมื่อฉู่เจียเสวียนได้ยินคำพูดของพนักงานโรงแรมเช่นนั้นแล้ว อึ้งไปชั่วขณะ

 

 

           “คุณบอกว่ามีแค่ห้องสแตนดาร์ดห้องเดียวเหรอ?” ฉู่เจียเสวียนได้ยินคำพูดของพนักงานแล้ว ดวงตาก็เบิกกว้างทันที สีหน้าประหลาดใจ

 

 

           บริษัทใหญ่โตแบบนั้น ให้นักออกแบบอยู่ห้องเดียวกับที่ปรึกษาได้อย่างไร ถ้าหากเป็นผู้หญิงก็แล้วไป แต่ว่านั่นคือผู้ชายนะ!

 

 

           ถ้าหากเธอจำไม่ผิดล่ะก็ ควรจะเป็นห้องละคนถึงจะถูกนะ

 

 

           “คุณหนู คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า พวกเรามาแข่งขันนะ” ฉู่เจียเสวียนมองพนักงานพร้อมพูดอีกครั้ง ดื้อรั้นต้องการคำตอบ

 

 

           เธอจะต้องฟังผิดไม่ก็ผู้จัดผิดพลาดแน่ๆ เธอจะพักห้องเดียวกับเผยหนานเจวี๋ยได้อย่างไร

 

 

           “ขอโทษนะคะคุณผู้หญิง ทางผู้จัดจองเป็นห้องส่วนตัวมา แต่ว่าห้องของพวกเราไม่พอ ก็เลยต้องรบกวนให้ทั้งสองท่านอยู่ห้องเดียวกันแล้ว” พนักงานมองฉู่เจียเสวียนพร้อมเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด

 

 

           อารมณ์ของฉู่เจียเสวียนที่ไม่ดีอยู่ก่อนแล้ว ในตอนนี้ยิ่งไม่พอใจมากกว่าเดิม

 

 

           ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันบังเอิญเกินไป? ตั้งแต่ที่เธอเข้าร่วมการแข่งขันนี้และตั้งแต่ที่ได้เห็นเผยหนานเจวี๋ย สวรรค์ก็ราวกับว่าล้อเล่นกับเธอตลอดเวลา?

 

 

           “พวกเราไปเถอะ” ริมฝีปากของเผยหนานเจวี๋ยยกยิ้ม น้ำเสียงราวกับว่าพอใจ เขายื่นมือดึงมือของเธอแล้วเดินไปยังห้องเดี่ยว

 

 

           หลังจากฉู่เจียเสวียนถูกเขาลากเข้าไปถึงภายในห้องแล้ว เธอก็เพิ่งจะรู้สึกตัว ออกแรงสะบัดมือของเขาที่จับมือเธอ

 

 

           “พักผ่อนกันก่อนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยเริ่มมองหาแรงบันดาลใจ” เผยหนานเจวี๋ยไม่รู้สึกไม่สบายใจเพราะการกระทำของฉู่เจียเสวียนเลย ในทางตรงกันข้ามกลับอารมณ์ดีเป็นพิเศษ