ตอนที่ 837 : พลังงานลึกลับ

Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน

ตอนที่ 837 : พลังงานลึกลับ

 

ขณะที่เซียนหมูจิ้งเคลื่อนตัวเข้าไปด้านใน นางพลันเกิดความว้าวุ่นใจยากอธิบาย

 

“กลัวหรือ?” ฉินหยุนเอ่ยถามผ่านทางเสียงสื่อสาร

 

“ข้าจึงไม่ และไม่มีทางที่ฉวนอู่จะมาทําอะไรในสถานที่เช่นนี้ แม้ว่าเขาร่วมทางมากับ คนของตระกูลหลง ทว่าก็ไม่มีทางร่วมกิจด้วยเป็นอันขาด!” เซียนหมูจิ้งตอบกลับมา

 

ฉินหยุนเดินไปตามทางที่ยันต์สะกดรอยวิญญาณบ่งชี้ จนกระทั่งมาถึงชั้นที่หก ด้วยความสามารถเทวะทะลุทะลวง เขาจึงสามารถเข้าสู่ภายในได้ง่ายดาย

 

ที่ปรากฏให้เห็นเป็นสระน้ําภายในห้องโถงรับรองใหญ่ มีสตรีรัญจวนใจสวมใส่เสื้อผ้าบางกว่าสิบคนแช่กายในสระ

 

ที่โต๊ะยาวกลางห้องโถง คนกว่าสิบกําลังนั่งอยู่ เหล่านี้คือหลงฉวนอู่และคนของตระกูลหลง

 

“พี่ฉวนอู่ คิดว่าสตรีเหล่านี้ที่ข้าทํานุเลี้ยงมาเป็นเช่นไรบ้าง? ล้วนดีงามใช่หรือไม่?” ชายหนุ่มใบหน้าเหลี่ยมหัวเราะภาคภูมิ ผู้นี้คือหลงเถา

 

“วิเศษยิ่งนัก! พวกนางมีเรือนร่างและรูปลักษณ์ที่ดีเยี่ยม! ถือว่าทําให้ข้าพึงใจได้ไม่น้อย!”หลงฉวนอู่หัวเราะคิกคักขณะดื่มสุราเข้าไปอีกใหญ่

 

เซียนหมูจิ้งตัวสั่นเพราะโทสะ แม้ออร่าของนางหลุดรอดออกไป ก็ยังได้ยันเต่ผนึกซ่อนเร้นของฉินหยุนช่วยเก็บงําเอาไว้

 

หลงเถาเอ่ยถามพร้อมหัวเราะ “อย่างนั้นแล้วหากเทียบกับเซียนหมูจิ้งเล่า?”

 

บรรดาสตรีรัญจวนร่างกายเปลือยเปล่าจํานวนหนึ่ง เวลานี้คลอเคลียด้านหลังหลงฉวนอู่ที่เอนกายพักพิง

 

หลงฉวนอุ่นวดคลึงแก่พวกนางพร้อมหัวเราะดังจากใจกล่าวคํา “พวกนางย่อมดีกว่าเซียนหมูจิ้งเป็นไหน! เจ้าไม่ทราบ แม่นางผู้นั้นดุร้ายชวนสะพรึงเพียงใด! ข้ายังไม่กล้าแม้กระทั่งจูบแก้มนางหลับนอนกับนางอย่าได้พูดกล่าวถึงแล้ว!”

 

ได้ยินคําของหลงฉวนอู่ ฉินหยุนจึงลอบยินดี พร้อมกันนี้ เขายังดึงมือของเซียนหมูจิ้งไว้แน่นนางเวลานี้เปรียบดังภูเขาไฟพร้อมปะทุระเบิดออก ไม่ว่าผู้ใดเผชิญหน้าสถานการณ์เช่นตอนนี้ก็คงพร้อมระเบิดออกไม่ต่างกัน

 

“พี่ใหญ่ฉวนอู ข้าขอกล่าว ท่านช่างยอดเยี่ยมนัก! ถึงกับทําให้สตรีเช่นเซียนหมูจิ้งอยู่ในโอวาทได้!”ชายหนุ่มชุดสีน้ําเงินกล่าวเยินยอ

 

“นี่ไม่นับเป็นอะไร พวกเจ้าไม่ทราบ ย้อนกลับไปครั้งแดนเซียนอ้างว้าง… เหอะเหอะ ผู้คนต่างเรียกขานข้าเป็นจ้าวหอกมังกร! และในไม่ช้า ข้าก็จะให้สตรีเหล่านี้ได้ประสบทราบว่าจ้าวหอกมังกรนั้นยอดเยี่ยมเพียงใด! ฮ่าฮ่าฮ่า!” หลงฉวนอู่หัวเราะออกอย่างภูมิอกภูมิใจ

 

บรรดาสตรีร่างเปลือยเปล่าซึ่งเป็นที่พักพิงแก่แผ่นหลังของหลงฉวนอู่ เวลานี้ต่างเผย คําเยินยอรัญจวนพร้อมใช้ร่างกายหยอกเย้า

 

หลงเถากล่าวคํา “พี่ฉวนอู เซียนหมูจิ้งเข้มงวดกับท่านนัก เหตุใดจึงยังอยู่ร่วมกับนาง? หรือท่านคิดอยากได้นางเป็นภรรยาจริง? เช่นนั้นชีวิตไม่ขาดสีสันแย่เลยหรือไร?”

 

หลงฉวนอู่หัวเราะตอบ “นางบอกต่อข้าแล้ว ว่าข้าสามารถมีนางสนมสักจํานวนหนึ่งได้! ข้าก็เพียงอยู่ร่วมกับนางเพราะพื้นเพของนาง เจ้าไม่ทราบ ว่าตระกูลของนางทรงอํานาจเพียงใดหากข้าได้มีเพศสัมพันธ์กับนาง ชีพจรวิญญาณของข้าจะได้กลายเป็นชีพจรเซียน!”

 

“นางยอดเยี่ยมเพียงนั้น?” หลงเถาและบรรดาชายหนุ่มที่เหลือต่างนิ่งอึ้ง

 

ฉินหยุนต้องลอบชื่นชมต่อเซียนหมูจิ้ง ที่แม้ได้ยินถึงเพียงนี้ก็ยังสามารถอดกลั้น ทว่าเขาก็ทราบได้จากสัมผัส มือของเซียนหมูจิ้งเกาะกุมเขาเอาไว้แน่น มันเริ่มสั่นเทิ้ม ราวกับนางเริ่มคิดสะอื้นเผยความโศก

 

ด้วยเพราะพบเห็นเรื่องราวมากเกินพอแล้ว ฉินหยุนจึงนําเซียนหมูจิ้งออกจากห้องโถงรับรอง

 

หลงฉวนอูและคณะต่างไม่ทราบ ว่าเมื่อครู่มีเซียนหมูจิ้งและฉินหยุนร่วมรับฟังบทสนทนาเวลานี้ยังคงดื่มกินร้องรํากันอย่างสนุกสนาน

 

ฟ้ามืดหม่น ฉินหยุนและเซียนหมูจิ้งออกจากหอคณิกา ระหว่างทาง เขาได้นํายันต์อัคคีออกมาจํานวนหนึ่งแปะไว้ตามทาง

 

ทันทีเมื่อออกพ้นจากหอรัญจวนกํายาน เขาจึงสั่งการให้ยันต์อัคคีเหล่านั้นมอดไหม้ เกิดซึ่งเปลวเพลิงปะทุที่ภายใน

 

เมื่อเข้ารถลากแล้ว เสียงอึกทึกพลันดังตามหลังจากหอรัญจวนกํายานก่อนพวกเขาจะเดินทางกลับ

 

“หอรัญจวนกํายานเกิดอัคคีเพลิง พี่หยุน นี่ท่านลงมือหรือ?” หลงอ คังเอ่ยถามยามพบเห็นหยุนและเขียนหลูลิ้งกลับเข้ารถลาก

 

เซียนหมูจิ้งเผยใบหน้านองน้ําตา นางเวลานี้ราวกับไร้ซึ่งเรี่ยวแรงแล้ว

 

“เร่งรีบกลับ!” ฉินหยุนกล่าวเร่ง

 

หลงอคงพบเห็นเซียนหมูจิ้งสะอื้นให้ประหนึ่งหยาดสายฝน จึงได้ตระหนักว่านางพบเจอหลงฉวนอู่กระทําอันใดที่ภายในก่อนออกมา

 

“พวกเจ้าบุรุษหาได้มีสิ่งใดที่ไม่!” เซียนหมูจิ้งสะอื้นไปพลางสบถไปพลาง “เป็นเช่นนั้น!” หลงอวดังหัวเราะ “พี่หยุน ท่านเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่?”

 

“ข้าเป็นบุคคลที่ดี หาได้ใช่สิ่งที่ดี!” ฉินหยุนเผยยิ้มตอบ

 

“ข้าย่อมไม่เชื่อแล้ว!” หลงอ คงหัวเราะคิกคักรับคํา

 

กลางดึก ฉินหยุนนําเชียนหลูลิ้งกลับไปยังห้องขัง ผู้คุมขังต่างไม่ทราบว่าพวกเขาออกไปข้างนอก

 

หลงฉวนอู่และคณะคนต่างต้องรีบเผ่นกลับเพราะอัคคีเพลิง ฉินหยุนคิดอยากจบเรื่องกับหลงฉวนอูทว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่เป็นใจ

 

หลงเถาและคณะล้วนเป็นราชันยุทธ์ ยิ่งไปกว่านั้น เซียนหมูจิ้งที่อยู่ข้างเขาเวลานี้อยู่ในสภาวะอารมณ์ไม่มั่นคง

 

ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจยอมปล่อยวางไปก่อน เพื่อนําเซียนหมูจิ้งเดินทางกลับ อย่างไรแล้วเป้าหมายหลักของเขาก็คือการซ่อนเร้นอยู่ในคฤหาสน์ราชันมังกร ทว่าเวลานี้กลับได้ภาระเช่นเซียนหลูจิ้งที่เอาแต่ร้องไห้

 

“แม่นางเซียน ข้าเสียใจด้วยจากใจจริง! ต้องขออภัยที่ต้องมองเจ้าร้องไห้เช่นนี้ ข้าไม่ควรนําเจ้าไปยังที่แห่งนั้นเลย”ฉินหยุนก้าวเดินเข้ามานั่งข้างเซียนหมูจิ้ง

 

“เจ้าไสหัวไป!” เซียนหมูจิ้งตะโกนดัง

 

“ข้ายังจะไสหัวไปที่ใดได้? ข้าถูกขังเอาไว้ที่นี่!” ฉินหยุนอุ้ยปากกล่าวคํา

 

“เจ้านําข้าออกไปจากห้องขังยังได้! ตอนนี้คิดไปที่ใดล้วนไปได้แล้ว!” เซียนหมูจิ้งตะโกนตอบ“เร่งรีบไสหัวไปให้พ้นจากสายตาข้า!”

 

เซียนหมูจิ้งผู้ซึ่งสบถออกเสียงดังและหุนหัน ฉับพลันกลับสงบใจลง นางสูดอากาศอยู่หลายครั้งก่อนจะถาม “ตัวบัดซบ เจ้าวางแผนอันใดกันแน่? เจ้าสามารถหลบหนีไปได้ทุกเมื่อเหตุใดจึงยังต้องถูกขังอยู่ที่นี่?”

 

ฉินหยุนประหลาดใจ เขาไม่คิด ว่าเซียนหมูจิ้งผู้ซึ่งใจสลายเมื่อครู่ จะถึงขั้นทราบเจตนาของเขาได้รวดเร็วเพียงนี้ หลงอ คังเองก็คิดเรื่องนี้ยามกลับถึงบ้านพัก อย่างไรแล้วเขาก็ไม่ใช่คนโง่และยังเชื่อ ว่าฉินหยุนมีจุดประสงค์อื่น ทว่าเขาไม่ได้เอ่ยถาม เพราะฉินหยุนคือผู้ช่วยรักษาชีวิตของเขาเอาไว้

 

“ผู้ดูแลหลงเป็นสหายของข้า สถานการณ์ของเขาตอนนี้ค่อนข้างอันตรายนัก ข้าจึงไม่อาจไปจากคฤหาสน์ราชันมังกรตอนนี้ได้!” ฉินหยุนกล่าวเสริม “เขาเคยช่วยเหลือข้า เป็นปกติที่ข้าจะต้องตอบแทน!”

 

“เจ้าไม่เกรงว่าข้าจะเปิดโปงเจ้าหรือไร?” เซียนหมูจิ้งเอ่ยถามเสียงเย็น เวลานี้นางหยุดร้องไห้แล้ว

 

“เจ้าไม่ใช่คนของตระกูลหลง และหลงฉวนอู่ก็หลอกลวงต่อเจ้าถึงเพียงนั้น! เหตุใดจึงยังต้องช่วยเหลือมัน? นอกจากนี้แล้ว อย่าได้ลืมสมญานามจ้าวหอกมังกรของมันไป เจ้าคิดหรือว่าผู้อื่นของสํานักมังกรฟ้าล้วนไม่ทราบ? พวกมันทราบ ทว่าไม่บอกต่อเจ้า! เห็นได้ชัดว่าพวกมันปกปิดเพื่อช่วยเหลือมัน!” ฉินหยุนกล่าวย้ํา “เจ้าเพิ่งประสบเรื่องราว เวลานี้ยังคงสับสนทั้งยังมีความรู้สึกอันลึกล้ําต่อมัน ดังนั้นจึงไม่ทันตระหนักได้ แต่ภายหลัง จ้าก็ต้องคิดเห็นเช่นข้า!”

 

“อย่าได้แสร้งทําตัวเป็นคนดี เจ้าหาได้มีอันใดดีไม่! เจ้ามันก็แค่บุรุษเจ้าชู้ล่อลวงสตรี!” เซียนหมูจิ้งเริ่มร้องไห้ออกอีกครั้ง

 

“ใช่ ข้าชอบล่อลวงสตรี! แต่แล้วมันมีอันใดข้องเกี่ยวกับเจ้า? เจ้าหาได้ใช่ภรรยาข้าไม่!” ฉินหยุนเผยยิ้มไม่ยี่หระ

 

ฉินหยุนรู้สึก ว่าตนเองอย่างไรก็ดีกว่าหลงฉวนอู่ เขาเพียงเล่นกับความรู้สึกผู้อื่น หาได้เคยละเล่นทางกามกับพวกนางเหล่านั้นไม่

 

เซียนหมูจิ้งพลันยืนขึ้น นําเอาดาบเซียนของนางออกมาชี้ที่ลําคอของฉินหยุน “เจ้ากล่าวว่ามีภรรยาแล้ว!เป็นเจ้าปิดซ่อนเรื่องนี้จากนางว่าเจ้าไปล่อลวงสตรีอื่น! เพราะเรื่องนี้ข้าจะสังหารเจ้าเสียที่นี่!”

 

“แม่นางเซียน โทสะเจ้าอย่าได้นํามาลงที่ข้า!” ฉินหยุนส่ายศีรษะพร้อมหัวเราะ “เจ้าไม่ใช่กล่าวหรือว่าหลงฉวนอู่สามารถมีนางสนมได้สักจํานวนหนึ่ง? ภรรยาของข้าเองก็เช่นกัน!”

 

“ข้าจึงไม่เชื่อ จนกว่าเจ้าจะนําภรรยาเจ้าออกมากล่าวยืนยันต่อข้า!” เซียนหมูจิ้งกล่าวคําดัง

 

“ก็ได้ ข้าจะให้ภรรยาข้าออกมาพบเจ้า!” ฉินหยุนพลันหารือกับเชี่ยวเย่ว์เหม่ยที่ภายใน วิญญาณเทวะเก้าตะวัน

 

เขาบอกต่อเชียวเย่ว์เหม่ยโดยคร่าว ว่าเซียนหมูจิ้งพบเจออันใดมาบ้าง ดังนั้นเชี่ยวเย่ว์เหม่ยจึงปรากฏตัวขึ้นเป็นผลให้เซียนหลูจึงต้องตื่นตะลึงไม่น้อย

 

“นี่คือภรรยาข้า!” ฉินหยุนหยิกที่แก้มเชี่ยวเย่ว์เหม่ยพลางยิ้ม “ซึ่งงดงามยิ่งกว่าเจ้า!”

 

เซียนหมูจิ้งต้องลอบตื่นตะลึงยามมองที่เชี่ยวเย่ว์เหม่ย เพราะนางคือผู้งดงามอย่างแท้จริงทั้งยังมีเสน่ห์อันมากล้นอย่างที่ไม่มีใดสามารถปิดบัง แม้นางยืนท่ามกลางความวุ่นวายกลางเมืองใหญ่ กระนั้นความงามของนางก็สามารถพบพานได้ นี่จึงเป็นเอกลักษณ์ที่จะทําให้ผู้คนต่างต้องสูด ลมหายใจเข้าลึกยามรับชม

 

เซียนหมูจิ้งพบเห็นสตรีที่งดงามในหอรัญจวนกํายานมาเมื่อครู่ไม่น้อย กระนั้นล้วนไม่มีผู้ใดที่ให้บรรยากาศเช่นนี้ออกมาได้ สตรีตรงหน้าของนางผู้นี้ จึงเป็นผู้กระชากจิตวิญญาณผู้คนโดยแท้จริง

 

“พี่สาว เหตุใดจึงต้องการสังหารสามีข้าด้วยกันเล่า?” พบเห็นเซียนหมูจิ้งถือดาบเซียน เชียวเย่ว์เหม่ยจึงกล่าวถามด้วยอาการตระหนก

 

“ข้า… เป็นมันที่หลอกลวง! เขาไม่คู่ควรกับเจ้า!” เซียนหมูจิ้งกล่าว

 

“เย่ว์เหม่ย บอกไปว่าข้ามีสตรีกี่คน!” ฉินหยุนกล่าว

 

“กว่าสิบ! แล้วอย่างไร?” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าวเฉยชา

 

เขียนหมูจิ้งกระทืบเท้ากับพื้นโกรธแค้นพร้อมเก็บดาบ “ก็เท่านี้” ฉินหยุนคิด ว่าเชี่ยวเย่ว์เหม่ยอาจสร้างปัญหาใดเพิ่ม ดังนั้นจึงเร่งรีบส่งนางกลับ

 

เซียนหมูจิ้งปาดเช็ดคราบน้ําตา นางครวญครางออก “ถือว่าเจ้ารอดพ้นเภทภัยครั้งนี้ไปได้!

 

ฉินหยุนยิ้มกล่าว “แม่นางเซียน เจ้าไม่ควรใจสลายเช่นนี้! บุคคลเช่นเจ้าย่อมสามารถพบพานบุรุษที่ดีกว่าหลงฉวนอู่ได้เป็นล้นพ้น!”

 

“ข้าจึงไม่คิดหาแม้ผู้ใด! ข้าจะครองโสดไปตลอดชั่วชีวิตนี้!” เซียนหมูจิ้งก้าวเดินไปยังประตูเลื่อนพร้อมกล่าว“ข้าคิดออกไปแล้ว เจ้าคิดอยากอยู่ที่นี่ก็จงอยู่ต่อไป!”

 

“ไม่เปิดโปงข้าแล้ว?” ฉินหยุนเอ่ยถาม

 

“ไม่แล้ว! ข้าจะไปให้พ้นจากคฤหาสน์ราชันมังกร จะไปให้ไกลพ้นจากสถานที่แห่งนี้!” เซียนหลูลิ้งกล่าวพร้อมทุบประตูรุนแรง

 

“จะบอกว่าเจ้าไม่คิดสอนสั่งบทเรียนแก่หลงฉวนอู่อย่างนั้นหรือ?” ฉินหยุนเอ่ยถามอย่างผิดหมด

 

“ข้าไม่คิดพบเจอหน้ามันอีก!” เซียนหมูจิ้งกล่าวตอบกราดเกรี้ยว

 

ประตูพลันเปิดออก เซียนหมูจิ้งจากไปแล้ว ประตูจึงปิดลงแน่นอีกครั้ง

 

“เสี่ยวหยุน นี่ออกจะขัดกับแผนการที่วางไว้ ข้านึกว่านางจะไปสอนสั่งบทเรียนครั้งใหญ่แก่หลงฉวนอู่เสียอีก!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว

 

ฉินหยุนส่ายศีรษะ นั่งลงที่มุมห้อง คิดอ่านถึงการลงมือขั้นตอนถัดไป แต่ทันใดนี้ เขาสัมผัสได้ถึงออร่าที่พุ่งเข้ามาพื้นที่ละแวกนี้กลับกลายเป็นต้องสั่นเพิ่ม

 

“ออร่าที่แข็งแกร่งนัก!” ฉินหยุนอุทานตระหนก

 

“เสี่ยวหยุน ที่นี่คือแดนต้องห้ามของสถานที่คุมขัง ค่ายอาคมและม่านพลังของสถานที่คุมขังแห่งนี้ย่อมต้องใช้แหล่งพลังงานมหาศาลอย่างแน่นอน! ออร่านี้สมควรเชื่อมต่อกับแหล่งพลังงานหลักของตระกูลหลง!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าวอย่างนึกถึง

 

“แรงสั่นเมื่อครู่ มาจากแหล่งกําเนิดพลังงาน? เป็นต้นกําเนิดเซียนหรือ?” ฉินหยุนพบว่าเรื่องราวน่าสนใจเกินคาด

 

“ไม่น่าใช่ ต้นกําเนิดเซียนมีเสถียรภาพสูงล้ํา พลังงานที่นี้หาได้มีเสถียรภาพไม่! บางทีออร่าดังกล่าวคงเป็นการปะทุออก! สมควรเป็นสิ่งที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าต้นกําเนิดเซียน! เจ้าควรตามรอยมันไปรับชม!” หลิงหยุนเอ๋อเผยยิ้มซุกซนกล่าวเร่ง