ตอนที่ 327 กลยุทธ์ทุกข์กาย
เจี่ยงฮูหยินไม่ได้ระบายความโกรธกลับเอาความโกรธไปเพิ่มอีก ก่อนจะไปน่าอวี้ยังเยาะเย้ยนาง “หากจะไม่ให้ใครรู้ก็ต้องไม่กระทำ ในเมื่อเจี่ยงฮูหยินจะไป ก็คือเลือกทางที่สามแล้ว เช่นนั้นข้าก็จะรอข่าวดีแล้วกัน”
นางยั่วสวาท! นางยั่วสวาท! เจ้าเด็กนี่เป็นปีศาจสร้างหายนะ นึกไม่ถึงว่าได้เลี้ยงคนเนรคุณเอาไว้ ไม่อาจแก้แค้นให้ลูกชายแถมยังเสียเปรียบนางอีก หรือว่าหลังจากนี้จะถูกนังเด็กนี่ข่มขู่ไปตลอดแล้วหรือ
น่าอวี้ถูกฟาดด้วยแส้ไปสองครั้งและอีกหนึ่งฝ่ามือแต่กลับไม่มีน้ำตาร่วงลงมา อวี๋เอ๋อร์กลับร้องไห้อย่างหนัก นางเป็นกังวลแผลของน่าอวี้ แต่ก็ไม่กล้าแตะตัวนาง นางแก้มัดให้น่าอวี้ นางกลั้นไว้ไม่อยู่ ยิ่งร้องหนักขึ้นไปอีก “นางปีศาจนี่ ลงมือเ**้ยมโหดเหลือเกิน คุณหนู ท่านเจ็บหรือไม่ ข้า… ข้าจะไปเรียกท่านหมอให้”
“ประคองข้าขึ้นมาก่อน” แส้ที่แช่น้ำเกลือมา พอฟาดลงไปเกิดเป็นรอยแผล ความเจ็บนั้นลึกลงถึงกระดูก อวี๋เอ๋อร์ประคองนางขึ้นมาอย่างระมัดระวัง สูดจมูกไปพลางถามไปพลางว่า “คุณหนู ท่านรู้ได้อย่างไรว่าที่บ้านเจี่ยงมีห้องลับ ยังมีหลักฐานที่เจี่ยงเหว่ยโกงเงินอีก ท่านเริ่มหาหลักฐานตั้งแต่เมื่อใด ไฉนข้าถึงไม่รู้อะไรเลย”
น่าอวี้ยิ้มตบมืออวี๋เอ๋อร์เบาๆ “ต้องบอกว่าบ้านเจี่ยงเหว่ยทั้งบ้านล้วนเป็นคนโง่ทั้งสิ้น ข้าหลอกนาง ที่พูดไปเมื่อครู่ข้าล้วนแต่งขึ้นมาเอง เดือนก่อนมีคนที่บอกว่าตัวเองเป็นเถ้าแก่ค้าผ้ามาหาเจี่ยงเหว่ยเจ้ายังจำได้หรือไม่ ตอนที่ข้าส่งชาไปให้เห็นมือของเถ้าแก่ค้าผ้านั่น เหมือนเถ้าแก่ค้าผ้าเสียที่ไหน จึงสังเกตขึ้นมา ตอนหลังข้าเห็นสมุดบัญชีเล่มหนึ่งในห้องหนังสือของเจี่ยงเหว่ย ในนั้นบันทึกว่าวันนี้ซื้อเกลือมาเท่าใด ในบ้านจะกินเกลือไปได้มากมายเพียงใด เขาซื้อมามากมายในคราวเดียว ไม่ใช่ลักลอบขายเกลือแล้วจะเป็นอะไร”
“ยังมีอีก เขาทำเรื่องชั่วๆ มากมายเช่นนี้ สมุดบัญชีจะต้องหาที่ซ่อน ดังนั้นข้าจึงเดาว่ามีห้องลับ นึกไม่ถึงว่าข้าจะเดาถูกเข้าให้ แม้ว่าจะถูกฟาด เพียงแต่ก็สามารถแลกสินเดิมมากมายได้ พวกเราไปแล้วชีวิตก็จะได้ดีขึ้นสักหน่อย” พูดถึงตรงนี้นางก็เกิดความรู้สึกเศร้าขึ้นมา “เพียงแต่ไม่รู้ว่าน่ายงถูกพวกเขาซ่อนไว้ที่ใด เขายังไม่หย่านมเลย ก็ไม่รู้ว่ามีคนเลี้ยงเขาหรือไม่ ยามนี้จะอยู่ดีหรือไม่”
อวี๋เอ๋อร์ร้องไห้ขึ้นมาไม่จบไม่สิ้น ร้องไปพลางยังปลอบไปพลางว่า “ท่านวางใจเถิด นายน้อยต้องไม่เป็นอะไร เรื่องมาถึงเช่นนี้แล้ว ท่านก็เป็นห่วงตัวเองก่อนเถิด รอยแผลบนตัวนี้ บ่าวเห็นแล้วช้ำใจยิ่งนัก”
น่าอวี้บ่นนาง “พอได้แล้ว เลิกร้องได้แล้ว ข้ายังไม่ตาย หากเจ้าไม่อยากให้ข้าตายละก็รีบไปหาหมอให้ข้า ช้าไปนิดเดียว ข้าคงได้ตายแล้วจริงๆ”
ที่ถูกฟาดไปสองทีนั้นคือถูกฟาดสุดแรงเกิด ยามนี้นางจะขยับแขนก็ยังไม่ได้เลย เจ็บจนกัดฟัน วันมะรืนนี้ก็เป็นวันแต่งงานแล้ว เฝิงเยี่ยไป๋ป่วยอยู่ คงไม่อาจไปดูทีละห้อง เกรงว่าร่วมหอก็ยังไม่ได้ ยามนี้ก็ต้องให้ตัวเองไปหาแล้ว เพียงแต่จะเปิดเผยเกินไปไม่ได้ บางทียามนี้เฝิงเยี่ยไป๋ก็อาจจะเริ่มสงสัยแล้วว่าตัวเองเป็นคนที่ฮ่องเต้ส่งมาหรือไม่ เพียงแต่พอคิดอีกที วันนี้ที่ถูกฟาดไปก็ใช่ว่าจะไม่ได้ผลดีใดๆ เลย กลยุทธ์ทุกข์กาย ต่อให้เป็นเฝิงเยี่ยไป๋ หลังจากที่ได้เห็นแล้วจะมากจะน้อยก็ต้องสงสารบ้าง
เพียงแต่สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่ใช่ปัญหา ที่มีปัญหาคือเว่ยเฉินยาง แม่นางผู้นี้ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมแม้แต่น้อย นางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตน แต่ในใจเฝิงเยี่ยไป๋มีแต่นาง การมีอยู่ของนางก็จะต้องเป็นปัญหาใหญ่สำหรับตนแน่ๆ
——
ตอนที่ 328 ข้าห้ามเขาได้หรือ
เว่ยเฉินยางเป็นภรรยาคนแรกที่เฝิงเยี่ยไป๋แต่งเข้ามาตามพิธี ทั้งยังเป็นพระชายา เฝิงเยี่ยไป๋จะแต่งผู้หญิงคนอื่นเข้ามา นางก็ต้องนั่งในตำแหน่งภรรยาหลวงให้ทุกคนคำนับ
สามีตัวเองแต่งผู้หญิงคนอื่นเข้าบ้าน นางยังต้องปั้นหน้ายิ้มต้อนรับพวกนาง นี่คือความเศร้าของผู้หญิง ผู้ชายของเจ้ามีภรรยาสามคนสี่คนเป็นเรื่องดี หากเจ้าไม่พอใจ ชักสีหน้าในวันแต่งงาน นั่นก็คือคนขี้อิจฉา จะถูกคนด่าเอาได้
ไม่ใช่เพียงเท่านั้น นางยังต้องสวมชุดสีแดง เฝิงเยี่ยไป๋แกล้งป่วยได้แนบเนียนนัก สีหน้าของเขาขาวซีด ยามที่เผยโฉมต่อหน้าทุกคนนั้นท่าทางเกือบจะสิ้นชีพ ดูไปแล้วก็เหมือนจะเป็นเรื่องจริงเช่นนั้น เหล่าพระชายารองต่างเข้ามาในจวน เฝิงเยี่ยไป๋ดื่มเหล้าไม่ได้ ย่อมให้เหลียงอู๋เย่ว์ทำแทน เขาถอยออกไปอย่างรวดเร็ว กลับทำเอาตัวเองสบายนัก
เว่ยหมิ่นและเฉินยางนั่งคุยอยู่ด้วยกัน เฉินยางฝืนยิ้ม เรียกเว่ยหมิ่นไปกินดื่ม เล่าเรื่องต้าหมี่เป็นเช่นนั้นเช่นนี้ และก็เล่าเรื่องตลกที่ซั่งเหมยเล่าให้นางฟัง พูดคุยทุกเรื่อง ก็คือไม่พูดถึง ‘คนเหล่านั้น’
เว่ยหมิ่นรู้ว่าในใจนางรู้สึกแย่ นางคุยอยู่เป็นเพื่อนเฉินยางอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็กุมมือนาง ชิงถามนางว่า “ข้าได้ยินเหลียงอู๋เย่ว์เล่า ผู้หญิงเหล่านี้ล้วนเป็นเจ้าที่เลือกให้เขา”
เฉินยางทำเสียงหึเบาๆ ด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด “เป็นเขาที่ให้ข้าเลือกให้เขา”
เจ้าเด็กนี่… เว่ยหมิ่นไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี เฝิงเยี่ยไป๋ให้นางเลือกคือหมายถึงเช่นนี้หรือ นางคิดเป็นจริงไปเสียแล้ว?
“เขาให้เจ้าเลือกเจ้าก็เลือกให้เขาเสียจริงแล้ว? ไม่โกรธ? ไม่วุ่นวายกับเขา?”
“ข้าจะโกรธอะไรเล่า ข้าห้ามเขาได้หรือ” นางบุ้ยปาก เสียงสะอึ้น ใบหน้าที่ยิ้มอยู่กลายเป็นน้อยใจ
เว่ยหมิ่นตบไหล่นางเบาๆ “ไฉนถึงห้ามไม่ได้ เจ้าไม่ลองดูจะรู้ได้อย่างไรว่าไม่ได้ เจ้าวุ่นวายกับเขาเลย! ชี้จมูกด่าเขา หากเจ้ากล้าแต่ง ข้าจะฆ่าผู้หญิงพวกนั้นให้หมด ผู้ชายล้วนชอบบอกว่าผู้หญิงไร้เหตุผลไม่ใช่หรือ เช่นนั้นเจ้าก็ไร้เหตุผลใส่เขา มีเหตุผลแล้วคนอื่นยังคิดว่าเจ้ารังแกง่ายด้วยซ้ำ!”
เฉินยางทำหน้าบูดบึ้ง “ฮ่องเต้มีราชโองการพระราชทานงานสมรส ข้าจะวุ่นวายอะไรได้เล่า ขัดราชโองการเป็นความผิดใหญ่ อย่ารอให้สุดท้ายแล้วทำเขาลำบากอีก”
“ถึงยามนี้แล้วเจ้ายังคิดเพื่อเขาอยู่อีก!” เว่ยหมิ่นชูมือทำท่าเจ้าเก่งจริงๆ ใส่นาง แล้วส่ายหน้าถอนหายใจไม่หยุด “พระหัตถ์ของฝ่าบาทยาวเพียงใด จะยุ่งเรื่องในบ้านของคนอื่นก็ขาดเหตุผล เจ้าน่ะ… จะให้ข้าว่าเจ้าอย่างไรดี เจ้าอ่อนแอเกินไป หากเป็นข้า ไม่ให้เข้าบ้านแม้แต่คนเดียวเลย”
เฉินยางยื่นมือไปเอาต้าหมี่มากอดไว้แล้วลูบ จู่ๆ ก็ทำท่าเ**้ยมโหดพูดว่า “พวกนางจะให้ดีก็อย่าได้มายุ่งกับข้า และอย่าได้คิดว่าข้ารังแกได้ง่ายนัก ไม่เช่นนั้นข้าจะให้พวกนางอยู่ไม่สุข” พูดจบนางหยุดเล็กน้อยก็พูดอีกว่า “เพียงแต่น่าอวี้ไม่เป็นไร นางมาแล้วข้าก็รู้สึกดีใจอยู่ วันหลังอยากจะเจอก็ไม่ต้องรอ สามารถเจอได้ทุกวัน”
น่าอวี้ก็อยู่ในนั้น จุดนี้กลับทำให้เว่ยหมิ่นประหลาดใจ เพียงแต่แม่นางผู้นี้ก็ซื่อสัตย์ นิสัยอ่อนโยน สำหรับเฉินยางแล้ว อย่างน้อยก็ไม่ได้เป็นศัตรู เพียงแต่อย่างไรเสียก็แต่งงานกับชายคนเดียวกัน ก็ต้องมียามที่รักคนใดมากกว่า ยามนี้ยังเรียกพี่เรียกน้อง ชีวิตหลังจากนี้อีกยาวไกล ต้องมียามที่ความสัมพันธ์จืดจางลง
เฉินยางเป็นคนโง่ที่คนอื่นพูดเอาใจนางเล็กน้อยนางก็จะให้ใจไปทั้งหมด เว่ยหมิ่นกลัวนางจะถูกเอาเปรียบ จึงทำสีหน้าเคร่งเครียดแล้วพูดว่า “ต่อให้เป็นน่าอวี้ เจ้าก็ต้องระวังนางเสียหน่อย ใจคนยากจะคาดเดา โดยเฉพาะผู้หญิง เข้าใจหรือไม่”