แดนนิรมิตเทพ บทที่ 675
ระหว่างทาง ฉีเยว่หยูคิดแต่เรื่องของเฉินโม่ หญิงสาวที่เฉลียวฉลาดคนนี้ ค้นพบได้อย่างง่ายดายว่าตอนนี้เฉินโม่แตกต่างจากเมื่อก่อนมาก
เมื่อก่อนเขาเป็นเด็กหนุ่มที่เหลาะแหละ เพลย์บอย สายตาที่เขามองเธอ ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามระงับความคิดระหว่างชายหญิง แต่ความเร่าร้อนที่อยู่ในดวงตาก็ไม่สามารถซ่อนได้
แต่เฉินโม่ในปัจจุบัน สุขุมและเป็นผู้ใหญ่ หลังจากผ่านไปสองปีกลับมาพบกันอีกครั้ง เขาหมดความสนใจเธอแล้ว กระทั่งรู้สึกรำคาญเล็กน้อย
นอกจากนี้ ฉีเยว่หยูยังรู้สึกถึงพลังที่แตกต่างบนร่างกายของเฉินโม่ พลังแบบนั้นเธอไม่เคยรู้สึกได้จากลูกเศรษฐีตระกูลใหญ่ที่ตามจีบเธอ
ถ้าต้องการพรรณนาพลังที่อยู่บนร่างกายของเฉินโม่แล้ว สิ่งที่ฉีเยว่หยูสามารถนึกออกคือคำว่า ‘เทพบุตร’ เท่านั้น
ฉีเยว่หยูไม่รู้ว่าช่วงสองปีที่ผ่านมาเฉินโม่ผ่านอะไรมาบ้าง ทำไมเวลาเพียงแค่สองปี ถึงได้ทำให้บุคคลหนึ่งเปลี่ยนแปลงมากขนาดนี้
สรุปแล้วเฉินโม่ในปัจจุบัน สำหรับฉีเยว่หยูแล้ว มีแรงดึงดูดที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้
สองพี่น้องตระกูลฉีคคุ้นเคยกับสถานที่นี้มาก ระหว่างทางเถ้าแก่ของแผงลอยมากมายกล่าวทักทายพวกเขา ทำให้มู่หรงยานเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนแปลงมุมมองใหม่
หลังจากเที่ยวเล่นสักครู่ ความสนใจของมู่หรงยานเอ๋อร์ลดลงไปมาก แต่ความสนใจของฉีหมิงซานยังคงอยู่ที่มู่หรงยานเอ๋อร์เสมอ เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ เขากลอกตาและแอบยิ้มด้วยความชั่วร้าย
“ความจริงแล้วสถานที่ภายนอกพวกนี้ ทำให้พวกเรารู้สึกแปลกใหม่แค่ชั่วคราวเท่านั้น ถ้าเที่ยวครั้งหนึ่งก็ไม่มีความหมายแล้ว พวกเราไปเล่นอะไรที่ตื่นเต้นกันดีไหม?!”
ฉีหมิงซานมองเฉินโม่ และกล่าวด้วยน้ำเสียงลึกลับ
ฉีหมิงซานพูดกระตุ้นจนทำให้มู่หรงยานเอ๋อร์อยากรู้อยากเห็น เธอจึงถามด้วยความสนใจว่า “อะไรที่ตื่นเต้นกว่านี้?”
“เมื่อไปถึงแล้วพวกคุณก็จะรู้เอง!” ฉีหมิงซานกล่าวด้วยสีหน้าลึกลับ
ฉีหมิงซานพาพวกเขาไปที่อาคารสี่เหลี่ยม อาคารนี้ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง และเหมือนเป็นโรงงาน แต่ทิวทัศน์ค่อนข้างดี ถ้าอยู่ภายนอกจะไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ภายในได้ ไอรีนโนเวล
ฉีหมิงซานพาพวกเขาเดินเข้าไปข้างใน แล้วทุกอย่างในห้องโถงก็ปรากฏขึ้นอยู่ตรงหน้าพวกเขาทันที
ห้องโถงที่กว้างขวาง มีเวทีมวยสิบกว่าเวที แต่ละเวทีมวยรายล้อมไปด้วยผู้คน มีนักมวยร่างสูงใหญ่กำยำต่อสู้กันอย่างดุเดือดอยู่บนเวที มีคนผิวดำ คนผิวขาว และคนผิวเหลือง
เห็นได้ชัดว่าที่นี่เป็นมวยใต้ดิน
ฉีหมิงซานมองเฉินโม่ด้วยสีหน้าเยาะเย้ย “เฉินโม่ นายกล้าเล่นสักสองเกมไหม?”
เฉินโม่ไม่สนใจเขา แต่มองมู่หรงยานเอ๋อร์ ตอนแรกเขาคิดว่ามู่หรงยานเอ๋อร์น่าจะรังเกียจการต่อสู้นองเลือดแบบนี้ แต่สิ่งที่ทำให้เฉินโม่คาดไม่ถึงก็คือมู่หรงยานเอ๋อร์ไม่เพียงแค่ไม่รู้สึกรังเกียจ แต่กลับรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
บางทีอาจเป็นเพราะเลือดของตระกูลมู่หรงที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเธอ! เฉินโม่คิดแบบนั้น
“เล่นอย่างไร?” มู่หรงยานเอ๋อร์ถามด้วยดวงตาเป็นประกาย
“ง่ายมาก แค่ไปวางเงินเดิมพันที่นั่น แต่เงินเดิมพันค่อนข้างสูง เริ่มต้นที่หนึ่งหมื่น” ฉีหมิงซานอธิบายและชี้เจ้ามือที่อยู่ทางโน้น
มู่หรงยานเอ๋อร์ดึงเฉินโม่ไปทันทีและกล่าวด้วยความคาดหวังว่า “เฉินโม่ พวกเราไปเล่นสักสองเกมเถอะ!”
เฉินโม่เหลือบมองนักมวยที่อยู่บนเวที พวกเขาค่อนข้างแข็งแกร่ง น่าจะเหมือนกับทหารราชาในกองทัพ แต่พวกเขาล้วนเป็นคนธรรมดา และไม่สามารถถือเป็นนักบู๊ได้ด้วยซ้ำ
“ผมไม่สนใจ ถ้าคุณอยากจะเล่น ก็เล่นสักสองสามเกมเถอะ” เฉินโม่ไม่แข็งใจพอที่จะทำลายความสนใจของมู่หรงยานเอ๋อร์
“เอาแบบนั้นเหรอ…….งั้นฉันก็ไม่เล่นแล้ว” มู่หรงยานเอ๋อร์รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เธอยังคงอิงเฉินโม่เป็นหลัก ในเมื่อเฉินโม่ไม่สนใจ ถ้าเธอเล่นคนเดียว มันก็จะไม่สนุก
ฉีหมิงซานมีแผนของตนเอง และแน่นอนว่าเขาไม่ต้องการให้เฉินโม่กับมู่หรงยานเอ๋อร์จากไปแบบนี้