บทที่ 282 จะโดนกักขังตัวอีกแล้วเหรอ

รักหวานอมเปรี้ยว

“โอเค พอได้แล้ว!” มายมิ้นท์นวดขมับของเธอ และเสียงของเธอก็เริ่มหมดความอดทน “แทนที่จะเป็นห่วงคนอื่น คุณควรห่วงตัวเองก่อนว่าจะถูกกักขังตัวหรือเปล่า!”

“กักขังตัว?” สีหน้าของขนมผิงเปลี่ยนไป “ทำไมฉันต้องกักขังตัวด้วย? ฉันมาที่สถานีตำรวจแล้วนี่นะ!”

“คุณไม่รู้จริงหรือว่าแกล้งทำเป็นไม่รู้?” ราเม็งโอบแขนของเขาไว้แล้วดมองดูเธออย่างเย็นชา “คุณให้คนไปฉายภาพแบบนั้นบนหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานของพี่มายมิ้นท์ มันคือการก่ออาชญากรรม อาชญากรรมข่มขู่โดยเจตนา!”

“ไม่ใช่……อาชญากรรมข่มขู่โดยเจตนาอะไร? ฉันไม่ได้ขู่เธอ ฉันแค่อยากแกล้งคุณเอง ทำไมถึงกลายเป็นการก่ออาชญากรรมล่ะ? มากที่สุดก็ถือเป็นเพียงการกลั่นแกล้งเท่านั้นเอง!” ขนมผิงกล่าวด้วยความตื่นเต้น

เมื่อมายมิ้นท์เห็นเธอเช่นนี้ ในใจก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้แกล้ง เธอไม่รู้จริงๆว่าพฤติกรรมแบบนี้เป็นการก่ออาชญากรรม

เคยเห็นคนไม่รู้กฎหมาย แต่ไม่เคยเห็นคนไม่รู้กฎหมายขนาดนี้มาก่อน!

มายมิ้นท์มองดูขนมผิงด้วยท่าทางสิ้นหวัง “เจ้าหน้าที่ตำรวจค่ะ ได้โปรดบอกเธอหน่อยว่า ตกลงพฤติกรรมแบบนี้ของเธอคือการก่ออาชญากรรมหรือไม่คะ!”

“ค่ะ” ตำรวจชายที่เงียบไม่พูดมานานนั้น พยักหน้าและก้าวไปข้างหน้า “คุณขนมผิงครับ คุณก่ออาชญากรรมข่มขู่โดยเจตนาจริงครับ หากคุณแค่ให้คนไปฉายภาพบนเพดานของคุณมายมิ้นท์เพียงครั้งเดียวนั้น ยังบอกได้ว่าคือการกลั่นแกล้ง แต่ทำติดต่อกันหลายครั้ง นั้นมันหมายถึงว่าคุณตั้งใจและมีจุดมุ้งหมายที่จะทำให้คนอื่นกลัวนะครับ”

“ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนกลางคืน คนส่วนใหญ่เห็นโครงกระดูกปรากฏขึ้นบนหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานในตอนกลางคืน ก็อาจตกใจจนเป็นโรคได้ หรือถ้าเบาหน่อยก็อาจล้มลงกับพื้น และถ้านักกว่านั้นหน่อยก็อาจป่วยทางจิต !” ราเม็งจ้องมองขนมผิง สายตาที่มองเธอราวกับมองของตาย

เปปเปอร์เหลือบมองท้องมายมิ้นท์ และกล่าวว่า “และอีกอย่างมายมิ้นท์กำลังตั้งครรภ์อยู่ด้วย การกลั่นแกล้งของคุณอาจทำให้เธอตกใจจนแท้งได้ ถ้าเป็นแบบนั้นคุณจะรับผิดชอบต่อผลที่ตามมาได้เหรอ?”

นั้นเป็นลูกของเขา มายมิ้นท์สามารถเลือกที่จะไม่เอาได้ แต่คนอื่นไม่มีสิธท์ที่จะมาตัดสินใจไได้ว่าลูกของเขาควรจะอยู่หรือไม่

ขนมผิงควรจะดีใจที่ลูกเขาไม่เป็นไร ไม่อย่างนั้นละก็ เขาจะไม่มีวันปล่อยตระกูลมหาเอกรัตนาไปแน่

แต่ว่าตอนนี้มายมิ้นท์ก็ยังไม่ได้เอาเด็กทิ้ง หมายความว่าเธอกลับมาอยู่กบเขาเหรอ?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ หัวใจของเปปเปอร์ก็เต็มไปด้วยความสุขและความคาดหวัง

คาดหวังการกำเนิดของลูกพวกเขา มันต้องน่ารักมากๆเลย

และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือบางทีเธออาจจะเห็นแก่ลูก แล้วยกโทษให้เขาและกลับไปคืนดีกับเขาอีกครั้งก็ได้!

“เปล่านะ ฉันเปล่านะ!” ขนมผิงส่ายหัวอย่างแรงแล้วก้าวถอยหลัง บนใบหน้าเต็มไปด้วยความกลัว “ฉันก็แค่อยากจะแกล้งเธอ และไม่คิดจะทำให้เธอป่วยทางจิตหรือแท้ง อีกอย่างแล้ว ตอนนี้เธอก็ไม่ได้เป็นอะไรมากไม่ใช่เหรอ? ”

ขนมผิงชี้ไปที่มายมิ้นท์ “พวกคุณดูสิ เธอไม่ได้เป็นอะไรเลย แล้วพวกคุณจะมากล่าวหาว่าฉันจงใจข่มขู่เธอได้ไง!”

ราเม็งขมวดคิ้ว และกำลังจะเอ่ยปาก

มายมิ้นท์หัวเราะเยาะเย้ย และพูดออกมาก่อน “ในโลกนี้ มักมีคนที่คิดว่าผู้ที่ถูกเขากระทำนั้นไม่ได้ประสบอุบัติเหตุอะไรมากนัก จึงทำให้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองก็ไม่ได้ทำไรผิด แต่น่าเสียดายนะ ฉันไม่ยอมรับการกระทำแบบนี้ คุณตำรวจค่ะ เธอจะได้รับโทษอะไรบ้างค่ะ?”

ตำรวจชายครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วตอบว่า:“จริงๆแล้วที่เธอพูดเมื่อกี้นี้ก็ถูกอยู่นะครับ ถึงแม้ว่าเธอจะก่ออาชญากรรมการข่มขู่โดยเจตนาจริง แต่คุณมายมิ้นท์เองก็ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นจริง ดังนั้นการลงโทษของเธอก็จะไม่ค่อยรุนแรงเกินไป จะไม่ติดคุก แค่จะกักขังแล้วอบรมสั่งสอน ส่วนระยะเวลาที่กักขังนั้น ต้องรอการแจ้งเตือนจากด้านบนก่อนครับ”

เมื่อเปปเปอร์ได้ยินเช่นนี้ ก็หรี่ตาลง ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

มายมิ้นท์พยักหน้าเล็กน้อย “โอเคค่ะ งั้นก็ขังเธอไว้ก่อน พอผลออกมาก็แจ้งให้ฉันทราบด้วยนะคะ”

“แน่นอนครับ!” ตำรวจชายยิ้มตอบ และกำลังจะไปจับขนมผิง

แต่ขนมผิงไม่อยากถูกกักขัง เธอจึงรีบถอยหลังและคิดที่จะหนีไป

แต่ในขณะที่เธอก้าวออกไปหนึ่งก้าว ราเม็งก็ยื่นเท้าออกมาข้างหนึ่ง

ขนมผิงก็สะดุดล้มกับพื้น และถูกตำรวจชายจับคุมตัว

ขนมผิงรู้ว่าเธอไม่สามารถวิ่งหนีได้ และเธอก็ตกใจมากจนน้ำตาไหล

เธอรีบมองไปที่มายมิ้นท์ “มายมิ้นท์ ฉันรู้ว่าฉันผิดไปแล้ว คุณปล่อยฉันไปเถอะ ฉันไม่อยากถูกกักขัง ฉันขอล่ะ ฉันรู้จริงๆ แล้วว่าฉันผิดฮือฮือฮือ……”

ขนมผิงร้องไห้ขี้มูกโป่ง ดูน่าสงสารเหลือเกิน

แต่ไม่มีใครเห็นอกเห็นใจเธอเลย

มายมิ้นท์มองดูเธออย่างเย็นชา “ถ้ารู้ว่าต้องเป็นแบบนี้ ก็ไม่ควรทำตั้งแต่แรก เราตั้งก็เป็นผู้ใหญ่กันแล้วผู้ใหญ่ก็ควรรับผิดชอบกับทุกสิ่งที่ตัวเองเคยทำ และฉันก็ไม่คิดว่าคุณรู้จะรู้ผิดจริงแล้วด้วย คุณแค่กลัวการถูกกักขัง ดังนั้นคุณจึงจำเป็นต้องสารภาพผิดกับฉัน แต่ในใจของคุณนั้น ก็ยังคงรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ผิด ที่ฉันพูดมันจริงหรือไม่?”

มายมิ้นท์ก้มหัวลงและเอาหน้าเข้าไปใกล้ขนมผิง

ขนมผิงสบตาของเธอที่เหมือนกับว่าสามารถอ่านใจคนได้ เสียงร้องของเธอก็หยุดลง และเธอก็หันไปมองที่อื่นด้วยความรู้สึกผิด และอ้ำๆ อึ้งๆพูดอะไรไม่ออก

มายมิ้นท์หัวเราะเยาะเย้ย “คุณพูดไม่ออกแล้วสินะ ดูเหมือนว่าฉันจะพูดถูกแล้ว!”

ริมฝีปากของขนมผิงขยับเล็กน้อย ราวกับว่าเธอต้องการจะพูดอะไร แต่ท้ายที่สุดเธอก็ไม่พูดอะไรและก้มหัวลงและยอมรับชะตากรรมของตัวเอง

ตำรวจชายนำตัวเธอออกไปและพาเธอไปที่ห้องสอบสวน อยู่กับเอส พวกเขายังต้องทำบันทึกรายละเอียด

มายมิ้นท์เป็นคนแจ้งตำรวจ สามารถกลับไปได้แล้ว และรอผลการสอบสวนคดีของขนมผิงออกมาก่อนแล้วค่อยมา

“พี่ เรากลับกันเถอะ” ราเม็งพูดกับมายมิ้นท์

มายมิ้นท์พยักหน้า “อืม เรากลับกันเถอะ”

“เดี๋ยวผมค่อยไปทีหลัง ผมยังมีเรื่องหน่อย” ขณะนี้ เปปเปอร์ก็พูดกับมายมิ้นท์

ราเม็งหรี่ตาลงและมองดูเขาอย่างไม่พอใจ “ประธานเปปเปอร์ คุณจะไปหรือไม่ไปมันก็เป็นเรื่องของคุณ ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกผม คุณไม่จำเป็นต้องบอกพวกผมหรอก”

มายมิ้นท์พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของราเม็ง

ดวงตาของเปปเปอร์มืดลง และเหลือบมองราเม็งอย่างเย็นชา จากนั้นก็หันมามองมายมิ้นท์ เสียงของเขาอ่อนโยนลง “ผมมีเรื่องจะบอกคุณ”

“เรื่องอะไร?” มายมิ้นท์มองเขาอย่างสงสัย

“ที่นี่ไม่สะดวก ไปทางนู้นดีกว่า” เปปเปอร์ชี้ไปที่มุมด้านหน้า

มายมิ้นท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่

เปปเปอร์มองออกมาเธอไม่ค่อยเต็มใจ จึงดึงแขนเธอ “ตามผมมา!”

ว่าแล้ว เขาก็จะดึงเธอไป

ราเม็งเห็นเช่นนี้ ใบหน้าของเขาก็เย็นชา เขาก็เอื้อมมือออกไปและดึงแขนอีกข้างของมายมิ้นท์ไว้ “พี่ อย่าไปเลย”

ก่อนที่มายมิ้นท์จะตอบกลับ ดวงตาของเปปเปอร์ก็มองไปที่มือของราเม็ง และพูดอย่างเสียงดังเย็นชาว่า “ปล่อยเธอ!”

“คุณแหละที่ต้องปล่อย คุณนั่นแหละเป็นคนที่ไม่มีสิธท์ที่จะแตะต้องพี่สาวผมที่สุด!” ราเม็งไม่ได้ปล่อยมือ แต่กลับกำมือแน่นขึ้น มองเปปเปอร์แล้วพูด

เปปเปอร์รู้สึกโมโหกับคำพูดของราเม็งมาก หน้าของเขาก็มืดลง และรอบตัวของเขาก็เย็นจนทำให้คนกลัวจนสั่น

ราเม็งก็ไม่คิดยอดแพ้เขาเหมือนกัน

ชายทั้งสองก็จ้องหน้ากันแบบนี้ สายตาของทั้งคู่นั้นน่ากลัวพอๆ กันเลย

แต่หลังจากนั้นไม่นาน ราเม็งก็ค่อยๆถูกเปปเปอร์ระงับ

ยังไงเขาก็ไม่เหมือนกับเปปเปอร์ที่สู้รบปรบมือในวงการธุรกิจเป็นเวลานาน ชินกับแรงกดดันและการชิงฐานันดรศักดิ์มาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง

ดังนั้นราเม็งจึงพ่ายแพ้ลงอย่างรวดเร็ว

สีหน้าของราเม็งผู้พ่ายแพ้นั้นก็ดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ และคลื่นความอยากทำลายทุกสิ่งก็พุ่งเข้ามาในใจของเขา จนมือของเขาที่จับแขนของมายมิ้นท์นั้นก็แน่นขึ้นเรื่อยๆ แน่จนราวกับว่ากำลังจะหักแขนของมายมิ้นท์

“โอ๊ย……เจ็บ!” มายมิ้นท์ขมวดคิ้วและร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ก้มหัวมองดูมือของราเม็ง และรีบพูดว่า:“ราเม็ง คุณปล่อยฉันนะ คุณทำฉันเจ็บแล้ว!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ราเม็งที่เกือบจะเป็นบ้าก็ตื่นขึ้นในทันใด ทันใดนั้นเองเขาก็ตระหนักได้ว่าสิ่งเขาทำอะไรลงไป นัยน์ตาของเขาหดตัวลง และรีบกล่าวขอโทษ “พี่ ผมขอโทษครับ!”

เขากำลังจะปล่อยมือออก ก็ถูกเปปเปอร์ดึงมืองของเขาออกจากแขนของมายมิ้นท์อย่างแรง

“คุณเป็นอะไรไหม?” เปปเปอร์มองมายมิ้นท์และถามอย่างกังวล

มายมิ้นท์ดูความกังวลในดวงตาของเขาออก และเธอก็หันหน้าไป “ไม่เป็นไร”

“ให้ผมดูหน่อยสิ” เปปเปอร์ยังคงกังวลเล็กน้อยและอยากจะจับแขนเสื้อของเธอ