ตอนที่ 347 ลาหยุด

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 347

ลาหยุด

“องค์จักรพรรดิ ข้าจัดการที่ค้างเอาไว้เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ”หลิวเมิ่งพูดพลางเดินเอาเอกสารที่ตรวจสอบแล้วมาวางไว้ให้ที่โต๊ะของไป๋จูเหวิน

“องค์จักรพรรดิ ข้าจัดการงานล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว”หลิวหลงเดินเข้ามาทั้งๆที่ยังสวมชุดเกราะแม่ทัพอยู่ ทำให้ไป๋จูเหวินที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ยิ้มบางๆออกมา

“พวกเจ้าไปเถอะ ไม่ต้องห่วงข้านักก็ได้”ไป๋จูเหวินหัวเราะพลางมองทั้งหลิวเมิ่งและหลิวหลง ตอนแรกพวกมันยังแค้นไป๋จูเหวินอยู่เลย มาวันนี้มันกลับห่วงงานบ้านเมืองมากกว่าการไปพบหน้าหลานชายคนแรกของพวกมันเสียอีก

หลังจากการบุกของอาณาจักรเฉินและจัดการความเข้าใจผิด ไป๋จูเหวินก็ได้ส่งตัวหลิวมู่เฉินไปอภิเษกกับองค์ชายเฉินคุณ หลังจากใช้เวลาอยู่นานในที่สุดองค์ชายเฉินคุณก็สามารถสร้างทายาทได้สำเร็จแถมยังเป็นองค์ชายอีกต่างหาก ทำให้พวกพี่น้องตระกูลหลิวดีใจกันอย่างมาก

“ถ้าพวกข้าไม่ทำเอาไว้ ท่านก็จะทำเองสินะ”หลิวเมิ่งว่าพลางจ้องไป๋จูเหวินด้วยท่าทีดุๆ นางอยู่กับไป๋จูเหวินมาหลายปี ทราบนิสัยมันดีอยู่ ขืนนางไม่จัดการงานล่วงหน้าเอาไว้ ไป๋จูเหวินจะเหมาหงานของหลิวหลงและตัวนางไปทำในช่วงที่นางไม่อยู่อย่างแน่นอน แบบนั้นนางไม่ชอบใจเลยในฐานะคนที่ต้องคอยดูแลสุขภาพของไป๋จูเหวินไปด้วย

“ท่านหลิวเมิ่งจะไปอาณาจักรเฉินเหรอเจ้าคะ”ไป๋หลินถามพลางเดินเข้ามาในท้องพระโรงพร้อมๆกับหลิวอิง ท่าทางนางจะได้ยินเรื่องหลานคนแรกของพวกมันจากหลิวอิงไปแล้วแน่ๆ

“ใช่แล้วองค์หญิง ท่านอยากจะไปด้วยหรือเปล่า”หลิวเมิ่งถามพลางยิ้มบางๆ ช่วงหลังมานี่ไป๋จูเหวินปล่อยให้ไป๋หลินได้ออกไปไหนมาไหนคนเดียวบ่อยขึ้น แม้จะยังไม่เคยออกจากอาณาจักรไป๋คนเดียวก็ตาม

“อยากไปเจ้าค่ะ ข้าชอบเด็กตัวเล็กๆ แล้วก็อยากอุ้มด้วย”ไป๋หลินตอบด้วยท่าทีตื่นเต้น ตั้งแต่นางได้อุ้มอู๋เทียนหมิงนางก็มีท่าทีจะเอ็นดูเด็กเล็กๆขึ้นมาก แม้จะชอบเข้าไปวุ่นวายจนเด็กๆรำคาญก็ตาม

“ไป๋หลิน พวกน้าเมิ่งจะไปอาณาจักรเฉินนะ”เหม่ยหลินท้วง ความจริงการเดินทางจากวังหลวงไปยังทางเหนือของอาณาจักรไป๋ที่ไป๋หลินเคยเดินทางไปนั้นไกลกว่าเดินทางไปอาณาจักรเฉินเสียอีก แต่เพราะมันอยู่คนละอาณาจักรเหม่ยหลินเลยอดเป็นห่วงไม่ได้ แถมหลิวเมิ่ง หลิวหลง หลิวอิง รวมทั้งหลิวเซียนที่อยู่เมืองหลวงเก่าเองก็ลางานไปหมด ทำให้เหม่ยหลินและไป๋จูเหวินไม่ว่างไปด้วยเลย

“ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะพระมเหสี พวกเราไปในนามแขกบ้านแขกเมือง รับรองว่าอาณาจักรเฉินต้องต้อนรับอย่างดีและรับรองความปลอดภัยอย่างมากแน่นอนเจ้าค่ะ”หลิวเมิ่งเสนอออกมาด้วยท่าทีใจดี

“ไม่ต้องห่วง มีข้าไปด้วยไม่ปล่อยให้องค์หญิงบาดเจ็บหรอก”หลิวหลงว่าพลางยิ้มออกมา อย่างที่พวกมันบอกคราวนี้ไม่ใช่การเดินทางคนเดียว แต่เป็นการเดินทางกับเหล่าขุนนางต่างหาก

“ก็ได้ แต่เจ้าห้ามก่อเรื่องให้พวกน้าๆนะ”เหม่ยหลินเห็นไป๋หลินทำตาเหมือนจะบอกว่าพวกน้าๆพูดขนาดนี้แล้วท่านแม่ยังไม่ยอมอีกหรือก็ได้แต่ถอนหายใจ

“เย้ พี่ไป๋ไป่ พี่ชิว ไปเก็บของกันเถอะ”ไป๋หลินว่าพลางวิ่งกลับไปที่ห้องของตนเอง ทำเอาพวกน้าๆตระกูลหลิวได้แต่ยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู

“ไป๋น้อย ทำไมเจ้าดีใจขนาดนั้นกัน”ไป๋ไป่ถามพลางเดินตามไป๋หลินมาด้วยท่าทีสงสัย ปกติไป๋หลินก็ดีใจออกมาทางสีหน้าอยู่แล้ว แต่คราวนี้เหมือนจะลิงโลดกว่าปกติ

“โถ่ พี่ไป๋ไป่ อาณาจักรเฉินไม่ได้มองข้าเป็นองค์หญิงนี่นา ถ้าไปที่นั่นประชาชนคงไม่รู้แน่ๆว่าข้าเป็นองค์หญิง”ไป๋หลินว่าพลางหัวเราะคิดคักด้วยท่าทีมีความสุข ถึงจะได้เดินทางมากขึ้นแต่ในอาณาจักรไป๋ อาณาจักรอู๋ และ อาณาจักรชิน ไป๋หลินแทบไม่มีทางเดินตลาดได้โดยไม่ปิดหน้าปิดตาแน่ๆ เพราะไม่ว่าจะที่ไหนใน 3 อาณาจักรนี้ไป๋หลินก็คือองค์หญิงทั้งสิ้น แต่หากเป็นอาณาจักรอื่นอย่างอาณาจักรเฉินละก็ นางสามารถเดินกลางตลาดได้โดยไม่โดนคนอื่นจับได้แน่ๆ

“องค์หญิง ท่านจะหนีเที่ยวอีกแล้วหรือขอรับ”ชิงชิวถามพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีจับผิด

“เปล่า ข้าแค่จะไปเยี่ยมชมบ้านเมืองของเพื่อนบ้านเท่านั้นเอง”ไป๋หลินตอบพลางหลบสายตาชิงชิว

“ก็ได้ขอรับ แต่ต้องไปหลังจากงานฉลองจบแล้วนะขอรับ”ชิงชิวว่าพลางยิ้มบางๆ แม้มันจะมีหน้าที่คอยจับตามองไม่ให้ไป๋หลินหนีเที่ยว แต่หากเป็นช่วงเวลาที่ทำได้ไม่กระทบคนอื่น ชิงชิวก็มีปล่อยไป๋หลินไปบ้างเช่นกัน

“เจ้าค่ะ”ไป๋หลินยิ้มหวานพลางกลับห้องมาจัดของอย่างร่าเริง พอได้ไปเที่ยวทีไรไป๋หลินก็ร่าเริงเช่นนี้ตลอด แน่นอนว่าคราวนี้เป็นกรณีพิเศษ

.

.

การเดินทางไปอาณาจักรเฉิน สามารถเดินทางไปเมืองชายแดนทาวตะวันตกเฉียงเหนือได้ทันที แต่เพราะหลิวเซียนยังทำงานอยู่ที่เมืองหลวงเก่าของอาณาจักรไป๋ ทำให้พวกหลิวหลงตัดสินใจเดินทางไปเมืองหลวงเก่าก่อนจะเดินทางไปอาณาจักรเฉิน

“ท่านป้ารูบี้”ไหนๆก็มาถึงเมืองหลวงเก่าแล้ว ไป๋หลินก็มาหารูบี้ที่โรงงานผลิตด้วยเช่นกัน แม้หัวรถจักรจะสร้างเสร็จไปแล้ว แต่รูบี้ก็ยังรั้งอยู่อาณาจักรไป๋ไม่ได้ไปไหน นั่นเพราะยังมีงานอีกมากมายที่นางอยากจะทดลองเพิ่ม ล่าสุดนางผลิตแสงไฟที่สามารถใช้พลังงานจากแร่ธาตุสายฟ้าชนิดหนึ่งในการสะสมพลังวิญญาณให้ดวงไฟสามารถใช้ได้ตลอดทั้งคืน มันสว่างกว่าคบเพลิงมาก หากทำสำเร็จรูบี้บอกว่าหากเปิดดวงไฟทั้งหมดพร้อมกัน ทั้งเมืองจะสว่างไม่ต่างจากตอนกลางวันเลย

“หลินเอ๋อ เจ้ามาด้วยงั้นเหรอ”รูบี้ถามพลางรับกอดหลานสาวอย่างยินดี ส่วนทางด้านหลิวหลงและพี่น้องตระกูลหลิวแยกไปหาหลิวเซียนอีกมุมหนึ่ง ทำให้ชิงชิวเลือกที่จะเดินชมสิ่งประดิษฐ์ที่วางกองอยู่บนโต๊ะ

“สนใจงั้นเหรอ”เพิร์ลที่ยืนอยู่ข้างๆถามพลางมองมาทางชิงชิวที่กำลังมองสิ่งประดิษฐ์ของรูบี้ด้วยท่าทีสนใจ

“ขอรับ ข้าประทับใจรถไฟมากเลยขอรับ เพราะมันอาณาจักรเราเลยเหมือนแคบลง”ชิงชิวตอบพลางยิ้มออกมา การเดินทางที่สะดวกสะบายและรวดเร็วทำให้เมืองใกล้ๆกันรู้จักกันมากขึ้น ทุกวันนี้ข่าวของทางเหนือมาถึงทางใต้ในเวลาไม่นานเสียด้วยซ้ำ

“งั้นเหรอ สนใจชิ้นไหนบอกข้าได้นะ”เพิร์ลยิ้มพลางเดินเข้าไปใกล้ชิงชิว บอกตามตรงว่าตอนแรกชิงชิวอึ้งกับความเหมือนกันของเพิร์ลกับองค์จักรพรรดิมากกว่าสิ่งประดิษฐ์อีก หากไม่ใช่เพราะองค์หญิงไป๋หลินเล่าให้ฟังมาก่อนมันคงงงไปแล้ว

“เจ้านี่…คืออะไรหรือขอรับ”ชิงชิวถามพลางมองเม็ดยาที่วางอยู่บนโต๊ะ เจ้านี่ไม่เข้ากับของบนโต๊ะที่สุดแล้ว เพราะของชิ้นอื่นๆเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ทำจากแร่ต่างๆ มีเพียงเม็ดยาเม็ดนี้เท่านั้นที่ต่างไป

“เจ้านี่เหรอ มันคือยาหลอมรวมอสูร”เพิร์ลตอบพลางหยิบเม็ดยาขึ้นมา ตัวมันนอกจากดูแลอาณาจักรทางเหนือให้ไป๋จูเหวินแล้วก็ทำตัวเหมือนผู้ช่วยของรูบี้เกือบตลอดเวลา ทำให้มันทราบรายระเอียดของสิ่งประดิษฐ์มากทีเดียว

“ยาหลอมรวมอสูร?”ชิงชิวไม่เคยได้ยินเรื่องยาเม็ดนี้มาก่อน มันเลยไม่เข้าใจว่าเพิร์ลหมายถึงอะไร

“เจ้ารู้จักกลุ่มนักล่าอสูรหรือเปล่า”แค่มองหน้าชิงชิวเพิร์ลก็เข้าใจแล้วว่าอีกฝ่ายไม่เข้าใจเลยถามออกไปเพื่อจะอธิบายต่อ

“ขอรับ”ชิงชิวพยักหน้า กลุ่มนักล่าอสูรเป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงกับองค์มเหสี โดยมีอสูรขององค์จักรพรรดินามหงเยว่ควบคุมดูแล ในอาณาจักรอื่นพวกมันมีหน้าที่เข้าไปในเขคอสูรเพื่อล่าเอาวัตถุดิบจำเป็นออกมา ส่วนในอาณาจักรไป๋ พวกมันมีหน้าที่สำรวจการเติบโตของค่ายกลอสูร ทำให้ตำแหน่งของพวกมันในอาณาจักรไป๋เหมือนผู้ตรวจการมากกว่านักล่าเสียอีก

“ยาต้นแบบของยาเม็ดนี้เป็นยาที่ทำให้กลุ่มนักล่าอสูรสามารถกลืนแก่นอสูรและซึมซับพลังอสูรได้”เพิร์ลตอบพลางยิ้มบางๆ

“ต้นแบบ? งั้นหมายความว่าเม็ดนี้ไม่เหมือนต้นแบบหรือขอรับ”ชิงชิวถามด้วยท่าทีสนใจ มันทราบมานานแล้วว่ากลุ่มนักล่าอสูรมีการใช้พลังอสูรด้วย แต่มันก็พึ่งทราบนี้เองว่าที่มาของพลังอสูรนั้นมาจากยาเม็ดนี้เอง

“ใช่ นี่เป็นยาที่องค์จักรพรรดิส่งมาให้ท่านหลิวเซียนช่วยพัฒนา ถึงจะยังไม่สำเร็จแต่ก็มาไกลทีเดียว”เพิร์ลโยนเม็ดยาขึ้นฟ้าพลางรับกลับเข้ามาในมือ แต่เดิมยาที่ใช้หลอมรวมกับแก่นอสูรสามารถใช้กับแก่นอสูรระดับต่ำเท่านั้น ต่อมาไป๋จูเหวินพัฒนามันให้สามารถรวมกับแก่นอสูรระดับหยกได้ และเมื่อส่งมาให้หลิวเซียนขัดเกลาอีกครั้ง ตอนนี้ตัวยามีโอกาสหลอมรวมกับแก่นอสูรระดับมายาได้เลยทีเดียว หรือก็คือมันสามารถสร้างผู้มีพลังอสูรระดับเหม่ยหลินขึ้นมาได้ แต่เพราะยังไม่เสร็จสมบูรณ์มันเลยยังมีโอกาสสำเร็จเพียง 3 ใน 10 ส่วนเท่านั้น

“ยอดไปเลยขอรับ ข้าเองก็อยากมีพลังอสูรบ้าง”ชิงชิวว่าพลางทำตาโต อาณาจักรไป๋ตอนนี้เป็นอาณาจักรที่มนุษย์และอสูรอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียว ตัวตนของนักล่าอสูรเหมือนดั่งตัวตนที่อยู่ตรงกลางระหว่าง 2 ฝ่าย

“งั้นก็ลองดูสิ เอาไว้เจ้าหาแก่นอสูรดีๆได้ก็ลองดู แต่เจ้าต้องเลือกดีๆล่ะ”เพิร์ลยิ้มพลางส่งเม็ดยาให้ชิงชิวไป

“จะดีหรือขอรับ”ชิงชิวอึ้งไปครู่ใหญ่ เพราะการเข้ากลุ่มนักล่าอสูรในตอนนี้นั้นยากเสียยิ่งกว่ายาก มันต่างกับการเข้าร่วมกองทัพที่ต้องใช้กำลังกาย เพราะการเข้ากลุ่มนักล่าอสูรต้องศึกษาข้อมูลของอสูรและเขตอสูรเป็นจำนวนมากถึงจะสามารถสอบเข้าได้ แถมตำแหน่งยังไม่ค่อนว่างอีกต่างหาก

“เม็ดนี้มันเป็นผลงานที่ผิดพลาด ของแบบนี้ในมิติของข้ามีอีกเป็นร้อยเม็ดเลย”เพิร์ลว่าพลางหัวเราะออกมา ที่เอามาตั้งไว้ตรงนี้ก็แค่เอามาประดับผลงานเท่านั้นเอง

“ขอรับ งั้นข้าไม่เกลงใจนะขอรับ”ชิงชิวยิ้มพลางรับยามาอย่างยินดี

.

.

“เพิร์ล เจ้าเห็นยาหลอมรวมอสูรที่วางอยู่บนโต๊ะไหม”หลังจากพวกพี่น้องตระกูลหลิวเดินทางไปขึ้นรถไฟแล้ว รูบี้ก็พึ่งสังเกตุว่าบนโต๊ะไม่มีเม็ดยาที่วางทิ้งเอาไว้

“ข้าให้เจ้าหนูที่เป็นองครักษ์ของไป๋หลินไป มีอะไรงั้นเหรอ”เพิร์ลถามพลางทำงานในมือต่ออยางสบายอารมณ์

“อย่าบอกนะว่าเจ้าให้มันกิน”รูบี้หน้าซีดทันที ทำเอาเพิร์ลต้องหยุดมือจากงานที่ทำอยู่

“ก็ใช่..ยานั่นมีโอกาสสำเร็จแค่ 3 ใน 10 ส่วนไม่ใช่เหรอ”เพิร์ลตอบพลางกระพริบตาปริบๆ

“ก็ใช่…..แต่ถ้าหลอมรวมกับแก่นอสูรไม่สำเร็จ เด็กคนนั้นจะตานเลยนะ”รูบี้ตัวสั่นสะท้านด้วยความตกใจ อาจจะเพราะผลงานชิ้นนี้เป็นของหลิวเซียน เพิร์ลเลยไม่ได้จดจำรายระเอียดให้ดี ที่ยาเหล่านี้ยังไม่ถูกส่งกลับไปให้ไป๋จูเหวินเพราะโอกาสสำเร็จยังน้อย แถมถ้าพลาดก็เท่ากับฆ่าคนที่กินลงไปเลย

“เจ้าพูดจริงงั้นเหรอ แย่แล้ว”เพิร์ลลุกพรวดไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ ก่อนจะรีบเขียนจดหมายไปหาหลิวเซียนทันที หากส่งไปตอนนี้น่าจะยังทัน