ตอนที่ 2221 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (62)
“ข้าจะหาทางเอง” อวิ๋นเซียวก้มลงแตะจูบลงที่ริมฝีปากของอวิ๋นลั่วเฟิงพร้อมรอยยิ้ม “ตกลงมั้ย”
“ตกลงค่ะ”
นางเชื่อในตัวเขา เขาเป็นคนที่สามารถทำทุกอย่างตามที่ลั่นวาจาเอาไว้ได้ อวิ๋นลั่วเฟิงกอดเอวสามีเอาไว้แน่น
…
โรงเรียนอนุบาลในเมืองหลวง
อวิ๋นเนี่ยนเฟิงกำลังจับมืออวิ๋นชูเทียนวิ่งลิ่วออกจากโรงเรียนด้วยความดีใจ แต่เขาวิ่งเร็วเกินไปและบังเอิญชนเข้ากับใครบางคนดังโครมใหญ่
“เอ่อ…เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า” อวิ๋นเนี่ยนเฟิงถามอย่างรู้สึกผิดขณะที่มองดูเด็กหญิงน่ารักราวตุ๊กตาที่ล้มลงบนพื้น
เด็กหญิงตัวน้อยหน้าตาน่าเอ็นดูเหลือเกิน แต่…เมื่อเทียบกับอวิ๋นชูเทียนแล้วก็ยังนับว่าห่างชั้น
“เจ้าเด็กบ้า กล้าวิ่งมาชนลูกสาวฉันเรอะ!”
โดยไม่รอให้เด็กหญิงได้พูดอะไร แม่ของเด็กในชุดเสื้อผ้าหรูหรากรุยกรายก็วิ่งตะบึงเข้ามาคว้าตัวเด็กหญิงขึ้นจากพื้น ก่อนจะหันมาถลึงตาใส่อวิ๋นเนี่ยนเฟิงอย่างโกรธจัด “พ่อแม่ของแกเป็นใครกัน ไปบอกให้รีบออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“เนี่ยนเฟิง” อวิ๋นชูเทียนดึงมือเขา ก่อนจะใช้สายตาพยักพเยิดไปทางแม่ของเด็กที่กำลังตะโกนลั่นๆ อยู่
สายตาของอวิ๋นเนี่ยนเฟิงกวาดมองใบหน้าอีกฝ่าย ใบหน้าหมดจดอ่อนเยาว์ของเขาฉายชัดถึงความรังเกียจ
“ข้าก็ขอโทษไปแล้วไงล่ะ เจ้ายังจะต้องการอะไรอีก ลูกสาวของเจ้าโชคร้ายเสียจริงที่มีแม่อย่างเจ้า เทียนเอ๋อร์ไปกันเถอะ!”
ก่อนจะจูงมืออวิ๋นชูเทียนและทำท่าจะเดินไป
แม่ของเด็กหญิงโกรธจัด หล่อนยื่นมือออกมา หมายว่าจะผลักอวิ๋นเนี่ยนเฟิง
แต่อวิ๋นเนี่ยนเฟิงหลบและยื่นขาออกไป จนเป็นเหตุให้แม่ของเด็กสะดุดล้มลงกับพื้นพร้อมเสียงหวีดร้อง
“คุณป้าเดินระวังหน่อยสิ สะดุดล้มเองแบบนี้อย่ามาโทษข้าล่ะ” อวิ๋นเนี่ยนเฟิงทำหน้าเป็นใส่ แล้ววิ่งออกไปก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะทันลุกขึ้นได้
“แม่คะ” เด็กหญิงไม่ได้ใส่ใจแม่ของตัวเองที่กองอยู่กับพื้น ดวงตาของเธอเป็นประกายเมื่อหันมองตามอวิ๋นเนี่ยนเฟิงไปอย่างตั้งใจ “พี่ชายคนนั้นหน้าตาน่ารักจัง เสวี่ยเอ๋อร์อยากแต่งงานกับเขาค่ะ”
“เจ้าเด็กนั่นมันหยาบคายขนาดนี้ พ่อแม่ของมันก็คงไม่ใช่คนดิบดีอะไรหรอก ลูกจะต้องไม่ไปสนใจเจ้าเด็กขอทานแบบนั้นรู้ไหม!” แม่ของเด็กพ่นลมพรืดและหันไปจ้องเขม็งยังทิศที่อวิ๋นเนี่ยนเฟิงเดินไป ดวงตาของเธอดุดันขึ้นเมื่อออกคำสั่งว่า “ลุงหลี่ ไปสืบประวัติเจ้าเด็กนั่นมาซิ! แล้วก็พาฉันกลับบ้านได้แล้ว! ฉันมีงานอื่นต้องทำ”
“ครับ คุณผู้หญิง” ลุงหลี่รีบรับคำโดยเร็ว
…
ที่นอกโรงเรียน เมื่ออวิ๋นเนี่ยนเฟิงเห็นว่าไม่มีใครไล่ตามมาแล้วก็นิ่วหน้า “เราโชคร้ายจังนะที่ต้องมาอยู่โรงเรียนเดียวกันกับลูกสาวของผู้หญิงแบบนั้นน่ะ”
“ท่านพี่ ท่านแม่บอกแล้วไม่ใช่หรือเจ้าคะว่า อวิ๋นเทียนฉีกับหลี่ชุ่ยชุ่ยน่ะจะมีชีวิตอยู่อีกไม่เกินอีกสองสามวันเท่านั้น พวกเราก็อดทนเพื่อท่านแม่สักสองสามวันเถอะนะคะ” อวิ๋นชูเทียนยิ้ม แลเป็นฟันซี่นิดๆ น่ารัก
จริงสินะ คนที่พวกเขาบังเอิญได้พบก่อนหน้านี้คืออวิ๋นเทียนฉีกับหลี่ชุ่ยชุ่ย
เมื่อได้ยินเช่นนั้น อวิ๋นเนี่ยนเฟิงก็ยิ้มกว้างขึ้นไปอีก “เราไม่จำเป็นต้องมาโรงเรียนต่ออีกสองสามวันแล้วละ ข้าเกลียดที่ต้องมาอยู่กับเด็กๆ พวกนี้! น่าเบื่อจะตายไป”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น อวิ๋นชูเทียนก็กลอกตา พูดอย่างกับว่าตัวเองไม่ใช่เด็กอย่างงั้นแหละ…
“ไปกันเถอะ เทียนเอ๋อร์ กลับบ้านกับพี่ชายดีกว่า” อวิ๋นเนี่ยนเฟิงจับมืออวิ๋นชูเทียนไว้ กระเป๋าสะพายหลัง และออกเดินกลับบ้าน ถึงยังไง ทนไปอีกแค่ไม่กี่วันพวกเขาก็จะได้ไปจากที่นี่แล้ว…แต่เขากำลังสงสัยว่าแผนการของมารดาคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว…
ตอนที่ 2222 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (63)
ในร้านกาแฟ สายตาของหลินฉิงเต็มไปด้วยความกังวลขณะที่คอยกวาดสายตามองผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาไม่ขาดระยะ เธอกัดริมฝีปากแน่น ใบหน้าซีดเผือด
อยู่ๆ เธอก็รู้สึกปวดฉี่ขึ้นมา หญิงสาวจึงลุกขึ้นเดินตรงไปยังห้องน้ำ เมื่อเดินเข้ามาถึงเธอก็รู้สึกโล่งใจ แต่ปรากฏว่าในเวลานั้นประตูห้องน้ำกลับถูกกระแทกปิดโครมใหญ่
“ใครอยู่ในนั้นน่ะ” หลินฉิงสีหน้าเปลี่ยนทันควัน เธอรีบหันซ้ายหันขวาอย่างร้อนรน
จนกระทั่งเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีผ้าปิดหน้ายืนอยู่ตรงนั้น “คะ…คุณเป็นใครน่ะ”
ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะออกมา “เธอคิดว่าฉันเป็นใครล่ะ”
เสียงนั้นคุ้นหูเหลือเกิน คุ้นมาก คุ้นเสียจนหลินฉิงต้องเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ แทบจะเอนร่างพิงอ่างล้างหน้าที่อยู่ข้างหลัง
“นะ…นี่เธอมาทำอะไรที่นี่น่ะ อย่าลืมนะว่าหลักฐานยังอยู่กับเพื่อนฉัน”
หลี่ชุ่ยชุ่ยพ่นลมพรืดก่อนจะเดินเข้าไปใกล้หลินฉิง “เมื่อห้าปีก่อนฉันมันโง่สิ้นดีที่โดนเด็กผู้หญิงอย่างเธอหลอกเอาได้ ฉันสืบมาแล้ว และไอ้หลักฐานนั่นก็ไม่ได้อยู่กับเพื่อนเธอด้วย แต่เธอเป็นคนซ่อนมันเอาไว้มาโดยตลอดต่างหากล่ะ ถ้าเธอตายไปซะ คิดเหรอว่าจะมีใครได้เห็นหลักฐานนั่นน่ะ”
หลินฉิงตัวสั่น ดวงตาเต็มไปด้วยความพรั่นพรึง “อย่านะ!”
ทันใดนั้น เธอก็รวบรวมเอาเรี่ยวแรงจากไหนก็ไม่รู้ และผลักหลี่ชุ่ยชุ่ยออกไปเต็มกำลัง หญิงสาวฉวยโอกาสตอนที่หลี่ชุ่ยชุ่ยยังล้มอยู่บนพื้นห้องน้ำพยายามหนีออกมา ทว่าประตูห้องน้ำกลับถูกล็อคแน่น และตอนนี้ก็ไม่มีทางอื่นให้เธอหนีได้อีกแล้ว
หลี่ชุ่ยชุ่ยขมวดคิ้ว ริมฝีปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะ “ลองหนีดูสิ วันนี้เธอไม่มีทางรอดไปได้หรอก ทีแรกฉันก็ตั้งใจว่าจะไว้ชีวิตเธอหรอกนะ แต่เธอกลับเป็นฝ่ายลงมือก่อนแล้วก็รนหาที่เองแท้ๆ”
เมื่อพูดจบ หลี่ชุ่ยชุ่ยก็ชักมีดออกมา ใบมีดคมกริบสะท้อนอยู่ในดวงตาที่กำลังเบิกโพลงของหลินฉิง
ความกลัวตายพุ่งเข้าจู่โจมหัวใจ ทำเอาหญิงสาวตัวสั่นเทา และนึกเสียใจอย่างสุดชีวิตอยู่ข้างใน คงจะดีถ้าเธอไม่ต้องกู้เงินนอกระบบมาตั้งแต่ต้น ถ้าเป็นแบบนั้นเธอก็ไม่ต้องมาฟังคำสั่งของหลี่ชุ่ยชุ่ยและวางแผนใส่ร้ายอาจารย์ของตัวเองแบบนี้
พรึ่บ!
ทันใดนั้น หลอดไฟในห้องน้ำก็เริ่มกะพริบอย่างบ้าคลั่ง เดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่าง
“กรี๊ด!” ด้วยความกลัวสุดชีวิต หลินฉิงกรีดร้องและทุบประตูสุดแรงเกิด
แต่ประตูนั้นถูกล็อคจากด้านนอกและไม่มีทางเลยที่เธอจะหนีรอดไปได้ หญิงสาวอยากเป็นลม ถึงแม้ว่าเธอจะได้ยินเสียงผู้คนที่กำลังพูดคุยกันอยู่ด้านนอกได้อย่างชัดเจนก็ตาม
“เอ๊ะ แปลกจริง ประตูห้องน้ำพังเหรอเนี่ย ทำไมฉันถึงเปิดไม่ได้ล่ะ”
“ไปตามพนักงานเสิร์ฟในร้านดีกว่า ให้พวกเขาหาคนมาซ่อม”
สุ้มเสียงของคนสองคนที่คุยกันอยู่ด้านนอกฟังดูปกติมาก ราวกับว่าพวกเธอไม่ได้ยินว่ามีใครบางคนกำลังกระหน่ำทุบประตูอยู่ข้างใน
หลินฉิงรีบตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจนสุดเสียง “ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!”
บางทีเสียงร้องของเธออาจจะพอทำให้เกิดปฏิกิริยาได้บ้าง เพราะมันทำให้คนสองคนที่อยู่ข้างนอกชะงักฝีเท้า
“เธอได้ยินเสียงใครพูดอะไรมั้ย”
“เธอคงหูฝาดไปแล้วละ ทำไมฉันถึงได้ยินเหมือนเสียงลมเลยล่ะ”
เสียงบทสนทนานั้นดังห่างออกไป ฝีเท้าก็ค่อยๆ เลือนหาย ขาของหลินฉิงเริ่มอ่อนเปียกจนแทบจะล้มพับลงกับพื้น
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ เธออุตส่าห์ส่งเสียงดังขนาดนั้นแล้ว ทำไมคนที่อยู่ข้างนอกถึงยังไม่ได้ยินอีก หรือว่าจะเป็น…เป็นเพราะคนพวกนั้นถูกผู้หญิงคนนี้ส่งตัวมาที่นี่ แล้วก็ตั้งใจที่จะทำเป็นไม่ได้ยินเธอ
หลินฉิงรีบหันขวับไปมองหลี่ชุ่ยชุ่ย แต่ก็พบว่าดวงตาของอีกฝ่ายก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวเช่นกัน
นี่มัน…นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่