ตอนที่ 431: เปลวเพลิง

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 431: เปลวเพลิง

 

อาณาจักรใต้พิภพมีมหาค่ายกลที่มีชื่อเสียงอยู่ นั่นก็คือมหาค่ายกลมังกรมืด ซึ่งหลายคนเพียงแต่เคยได้ยินมาเท่านั้น แต่ยังไม่เคยเห็นมาก่อน มหาค่ายกลมังกรมืดนี้ทรงพลังมาก ด้วยเป็นมหาค่ายกลระดับจงซือ การที่คิดจะทำลายมันแทบไม่มีทางเป็นไปได้เลย

 

ถ้าจะมีใครเคยเห็นมัน นั่นก็คงต้องเป็นคนที่ตายไปแล้ว

 

มหาค่ายกลมังกรมืด : มหาค่ายกลระดับจงซือ, สามารถเรียกใช้งานความแข็งแกร่งของมังกรมืดที่อยู่ใต้พื้นดิน เปลี่ยนให้เป็นร่างเงามังกรมืดเพื่อเข้าโจมตี, สามารถพ่นเปลวเพลิงใต้พิภพเพื่อเผาทำลายทุกสิ่ง, ระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นที่ 2, พลังรบ 37 ล้าน, จุดอ่อน : ทำลายมหาค่ายกล หรือใช้เปลวเพลิงอมตะเพื่อสังหารมัน!

 

มังกรมืดตัวนี้คือสิ่งที่มหาค่ายกลมังกรมืดอัญเชิญมา เทียบความแข็งแกร่งแล้ว มันมีระดับเดียวกันกับอี้เทียนหยุน ไม่ได้ด้อยไปกว่าสมบัติลับเทียนหลงเลย แต่ก็เป็นตอนที่อี้เทียนหยุนไม่ได้ใช้พลังเต็มที่ออกมา ความต่างระหว่างทั้งสองไม่ได้มีมากนัก สมบัติลับเทียนหลงสามารถปกป้องอาณาจักรเทียนหลงได้ มหาค่ายกลมังกรมืดก็สามารถแสดงร่างออกมา พร้อมกับป้องกันการโจมตีที่เข้ามาได้เช่นกัน

 

“มหาค่ายกลมังกรมืดนี้ ตราบเท่าที่ไม่ทำลายมหาค่ายกลนี้ทิ้งไป ก็คงไม่สามารถทำลายมังกรมืดตัวนี้ให้สิ้นซากได้…..” บรรพชนเผ่าภูตมีสีหน้ากังวล เจ้านี้จัดการด้วยไม่ง่ายเลย

 

“สมแล้วที่เป็นถิ่นของพวกเขา ที่นี่ทำให้เขาสามารถแสดงความได้เปรียบออกมา เทียบกับสมบัติลับเทียนหลงแล้ว มนไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่” เริ่นหลงมีสีหน้ากังวล เขารู้อยู่แล้วว่าราชครูนั้นร้ายกาจมาก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นพลังทั้งหมดของอีกฝ่าย ตามข่าวลือ มีเพียงอยู่ในถิ่นของตนเท่านั้น ราชครูจึงจะเป็นราชครูที่แท้จริง!

 

หากว่าอยู่ที่อื่น เขาคงเป็นได้เพียงผู้เชี่ยวชาญที่มีระดับดีคนหนึ่งเท่านั้น คงไม่สามารถเป็นราชครู แต่ในเมืองหลวงใต้พิภพนี้ เขาก็คือราชครูที่แท้จริง อาจารย์ของทั้งทวีป

 

แม้สีหน้าจะกังวล แต่ในสมองกำลังคิดหาวิธีต่างๆ มากมาย

 

“ราชาภูต หน้าที่ทำลายค่ายกลให้เป็นข้าเอง ตราบเท่าที่ไม่ทำลายมหาค่ายกลนี้ พวกเขาก็จะถูกมังกรมืดตนนี้ข่มอยู่อย่างนี้เท่านั้น ถ้าไม่ทำลายมัน มังกรมืดตนนี้ก็จะเข้ามาโจมตีพวกเราอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งจะสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับพวกเรา!” บรรพชนเผ่าภูตพูดแนะนำขึ้นมา

 

นี่ก็เหมือนกับการอัญเชิญมังกรสวรรค์ ตราบเท่าที่ไม่ขังมังกรสวรรค์เอาไว้ มันก็จะทำการโจมตีเข้าใส่รอบๆ อย่างบ้าคลั่ง แม้ว่าระดับของมันอาจจะไม่สูง แต่ว่ามันไม่มีทางตาย ถ้าปล่อยให้มันเข้าโจมตีรอบๆ อย่างดุร้าย มันย่อมสามารถสร้างความเสียหายที่ใหญ่มากอย่างแน่นอน

 

“ไม่ต้อง ก็แค่หนอนแมลง ไม่ได้สร้างความกดดันให้กับข้าแม้แต่น้อย” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้มไม่ใส่ใจ “การทำลายค่ายกลนั้นช้าเกินไป การจะบี้แมลงตัวนี้ ไม่ใช่ปัญหาสำหรับข้า”

 

ผู้คนพากันอ้าปากค้าง หรือว่าอี้เทียนหยุนคิดจะกลายร่างเป็นมังกรมาร?

 

อี้เทียนหยุนยังไม่ทันได้ออกไป มังกรมืดก็ได้พุ่งเข้ามา ร่างขนาดมหึมาของมันทำให้ผู้คนมีสีหน้าดำคล้ำ ในระหว่างที่พวกเขากำลังถกแผนกันอยู่นั้น ราชครูก็ได้ให้มังกรมืดตัวนี้โจมตีเข้ามา เขาไม่สนใจจะให้เวลาพวกเขาคิดแผนการจนเสร็จ แต่ให้มังกรมืดโจมตีเข้ามาในทันที

 

“ข้าจะให้พวกเจ้าได้สัมผัส ถึงความเจ็บปวดที่ต้องหาทางจัดการกับมังกรสวรรค์ ที่ไม่ว่ายังไงก็ฆ่าไม่ตาย!” สีหน้าของราชครูทั้งอึมครึมและเย็นชา ก่อนหน้านี้เขาถูกมังกรสวรรค์ปั่นจนหัวหมุน ตอนนี้ในที่สุดเขาก็มีโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามได้ลิ้มลองรสชาตินี้ดูบ้างแล้ว

 

ตราบเท่าที่มหาค่ายกลมังกรมืดยังทำงานอยู่ มันก็สามารถเคลื่อนได้เป็นบริเวณกว้าง ดังนั้นจึงสามารถโจมตีจากระยะไกลได้

 

ทุกคนพากันเตรียมตัวที่จะหลบหรือว่าต้านทานมังกรมืดตัวนี้ ต่างก็พากันนำอาวุธของตนออกมา เตรียมที่จะสวนกลับอย่างเต็มกำลัง แต่ว่าอี้เทียนหยุนก็ได้ยกมือขึ้นห้าม พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจว่า “ปล่อยเรื่องนี้ให้ข้าจัดการเอง”

 

พูดจบเขาก็เดินออกไปหนึ่งก้าว จากนั้นบนมือของเขาก็ปรากฏเปลวเพลิงออกมา เปลวเพลิงที่อยู่บนมือเขานี้ไม่ได้มีรูปร่างที่ใหญ่นัก อาจจะเรียกว่าเล็กได้ด้วยซ้ำ ขนาดของมันมีประมาณเท่ากำปั้นหรือเล็กกว่า ดูแล้วไม่ได้มีอะไรพิเศษ ที่สัมผัสได้คงเป็นเพียงความแวววาวที่ส่งออกมาจากมันเท่านั้น

 

เห็นอยู่ว่าการโจมตีของมังกรมืดกำลังใกล้จะมาถึง อี้เทียนหยุนก็ยังคงมีท่าทางที่ผ่อนคลาย และในขณะที่มังกรมืดกำลังอ้าปากเตรียมจะงับเข้ามานั้น อี้เทียนหยุนก็พลันโยนเปลวเพลิงบนมือออกไปเบาๆ ส่งมันเข้าไปในปากขนาดมหึมาของมังกรมืดตัวนั้น

 

ฉากนี้ปรากฏขึ้นต่อสายตาของทุกคน ทำให้คนฝั่งศัตรูพากันหัวเราะออกมา

 

“แค่เปลวเพลิงกระจ้อยร้อย กล้าที่จะเอามาเทียบกับเพลิงใต้พิภพ ช่างรนหาที่ตายจริงๆ!”

 

“มังกรมืดกินพวกมันซะ จัดการพวกผู้รุกรานให้หมด!”

 

“ก็แค่คนโง่กลุ่มหนึ่ง ตอนนี้ดูสิว่าพวกเจ้าจะรอดได้ยังไง เมืองหลวงใต้พิภพของพวกเราไม่เคยถูกใครบุกเข้ามาได้มาก่อน!”

 

พวกเขามั่นใจในตัวมังกรมืดตัวนี้มาก มังกรมืดในสายตาของพวกเขานั้นเป็นสิ่งมีชีวิตไร้เทียมทาน ซึ่งไม่มีวันตาย ดังนั้นการโยนไฟลูกเล็กๆ นี้ ย่อมต้องไม่สามารถทำอะไรมันได้ มีแต่จะเพิ่มความโกรธให้กับมังกรมืดก็เท่านั้น

 

ราชครูพลันเปล่งคำพูดดูถูกออกมาคำหนึ่ง “คิดจะใช้ไฟต้านไฟ ข้าเคยเห็นคนโง่มามาก แต่ก็ไม่เคยเห็นคนโง่แบบเจ้ามาก่อน…..”

 

พวกเขาเห็นว่าเมื่อมังกรมืดกินไฟลูกนั้นเข้าไป จากนั้นก็ทำท่าจะงับเข้าใส่อี้เทียนหยุนต่อ บรรพชนเผ่าภูตก็พลันมีสีหน้าเปลี่ยนไป คิดจะเข้าไปขวางเพื่อช่วยเขาออกมา นอกจากบรรพชนเผ่าภูตแล้ว เริ่นหลงกับพวกก็คิดจะเข้าไปช่วยเช่นกัน แม้จะรู้ว่าระดับของอี้เทียนหยุนนั้นย่อมสามารถปกป้องตนเองได้ แต่สติใต้สำนึกของพวกเขาก็สั่งให้พวกเขาพุ่งเข้าไปโดยที่ไม่ทันได้ไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน

 

“ฟรึบ!”

 

และในจังหวะที่มังกรมืดกำลังจะงับเข้ามานั้น ทันใดนั้นร่างของมันก็ลุกไหม้ ร่างขนาดมหึมาของมันเริ่มลุกไหม้อย่างบ้าคลั่ง ไฟเริ่มลามตั้งแต่ส่วนหัว จนกระทั่งลามไปทั่วทั้งตัวอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนให้มันกลายเป็นกองเพลิงกองใหญ่โดยสมบูรณ์!

 

และหลังจากนั้น มังกรมืดตนนี้ก็ถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน กระทั่งพลังงานที่เหลืออยู่ยังถูกเผาจนไม่มีเหลือ เหลือก็แต่เปลวเพลิงนิรันดร์ก้อนใหญ่ที่กำลังร่วงลงจากพื้น ราวกับกลุ่มลูกบอลไฟ ตกลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเผาพื้นจนลุกไหม้ขึ้นอีกครั้ง

 

พริบตา ที่นี่ก็พลันกลายเป็นทะเลเพลิงไป มันเผาไหม้ลงไปถึงในดิน ทำให้มหาค่ายกลจำนวนมากที่ตกอยู่ภายใต้การเผาไหม้ของเปลวเพลิงนิรันดร์นี้ ต่างก็เริ่มเกิดความเสียหาย อีกไม่นานคงพังทลายไป

 

“ข้าบอกแล้วว่าไม่ต้องมาช่วย ที่นี่ให้ข้าจัดการเอง ก็แค่หนอนแมลงตัวหนึ่ง กล้าดียังไงถึงได้มาทำอวดดีต่อหน้าข้า?” อี้เทียนหยุนส่งยิ้มสงบออกมา จากนั้นก็ก้าวออกไป เดินเข้าไปยังอาณาเขตของมหาค่ายกลนี้

 

นี่ทำให้ทุกคนต่างก็มองมาด้วยความตื่นตะลึง แค่เปลวเพลิงลูกเล็กๆ กลับสามารถแผดเผามังกรมืดที่ตัวใหญ่ขนาดนั้นลงได้ นี่มันช่างไม่น่าเชื่อจริงๆ! ควรพูดว่า เป็นเพราะถูกไฟลูกเล็กๆ ลูกนั้นกลืนกินเข้าไปถึงจะถูก จนทำให้ตัวของมังกรมืดถูกเผากลับจนไม่เหลือซาก

 

“นี่เป็นไปได้ยังไง เปลวเพลิงใต้พิภพของข้า ทำไมถึงไม่สามารถจัดการกับไฟลูกเล็กๆ นั้นได้!” ราชครูตกใจ เขาสัมผัสได้ว่าไฟลูกเล็กๆ นั้นมีรูปลักษณ์ที่อ่อนแอเป็นอย่างมาก แต่ไม่คิดว่าฝั่งเขาจะถูกกำราบจนอยู่หมัดแทน!

 

เปลวเพลิงนิรันดร์นี้ถึงจะเป็นเปลวเพลิงอมตะที่แท้จริง ส่วนเปลวเพลิงใต้พิภพออกจะตุ้งติ้งเกินไป พลังของมันยังคงอ่อนกว่ามาก ทำให้ภายใต้การเผาไหม้ของเปลวเพลิงอมตะ ตัวมันจึงถูกจัดการในพริบตา

 

อี้เทียนหยุนคร้านจะพูดกับอีกฝ่าย สายตาของเขาเป็นประกาย นัยน์ตาทั้งสองข้างเปล่งแสงสีฟ้าออกมา เปิดใช้งานเนตรสวรรค์ ตอนนี้ ที่ปรากฏต่อสายตาของเขาคือมหาค่ายกลระดับจงซือขนาดใหญ่ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถซ่อมแซมหรือว่าสร้างมันขึ้นมา แต่หากจะให้ทำลายแล้วล่ะก็ มันง่ายกว่าการสร้างขึ้นมาเยอะ!

 

ที่เขาต้องการจะทำในตอนนี้ ก็คือการทำลายมหาค่ายกลนี้ เพื่อทำลายป้อมปราการนี้ให้สิ้นซาก!