กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 806
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์หัวเราะออกมา

เวลาผ่านไปสามปีกว่าจะได้พบกับเจ้าของอีกครั้ง ทำให้มันดีใจและมีความสุขอย่างควบคุมไม่ได้

ลำตัวของงูคดเคี้ยวไปมา มันอยากจะเลื้อยออดอ้อนอยู่ในอ้อมแขนของกู้ชูหน่วนอีกครั้ง

กู้ชูหน่วนรักษาระยะห่างกับมัน “เจ้ายังไม่บอกข้า เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าสูญเสียความทรงจำ? และก่อนหน้านี้ข้าก็เคยสูญเสียความทรงจำอย่างนั้นหรือ?”

“แน่นอนสิ ก่อนหน้านี้นายท่านก็เคยสูญเสียความทรงจำ การสูญเสียความทรงจำในครั้งนี้นั้นค่อนข้างรุนแรงกว่าครั้งที่แล้วมาก”

อย่างน้อยครั้งที่แล้วก็ไม่ได้เปลี่ยนร่าง

ครั้งนี้แม้แต่ร่างกายก็เปลี่ยนไป

“เช่นนั้นแล้วเมื่อก่อนข้าเป็นคนเช่นไร? เป็นคนอ่อนแอขี้ขลาด ไม่เก่งทั้งการต่อสู้และงานวิชาการและเป็นคนไร้ประโยชน์อย่างที่พวกเขาพูดจริงๆ อย่างนั้นหรือ?”

กู้ชูหน่วนไม่เชื่อว่านางเป็นคนเช่นนั้น

หากใช่ เช่นนั้นแล้วเรื่องการปรุงกลั่นยาและตัวยาสมุนไพรที่เป็นความทรงจำในหัวของนางจะมาได้อย่างไรกัน?

ทุกสิ่งทุกอย่างที่นางเรียนรู้และเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการปรุงกลั่นยานั้น เกรงว่าจะล้ำกว่าตระกูลไป๋หลี่อย่างมาก

“นายท่านเป็นคนกล้าหาญและละเอียดอ่อน ความสามารถในการต่อสู้และด้านวิชาการก็โดดเด่น ถือเป็นอัจฉริยะที่ฉลาดและมีพรสวรรค์มากที่สุด นายท่านยังเป็นนายท่านที่ดีที่สุดในโลกอีกด้วย”

“ฮึ……..เช่นนั้นแล้วเหตุใดพวกเขาจึงพูดเช่นนั้น?”

“นั่นคงเป็นเพราะดวงตาของพวกเขาถูกปิดกั้นด้วยอุจจาระกระมัง”

“……”

เจ้างูเก้าเศียรตัวนี้ดูเหมือนว่าจะมีความกล้าหาญอยู่มาก คำพูดคำจาของมันต่างหยาบคายและตรงไปตรงมา

“เช่นนั้นแล้วเจ้าล่ะ เหตุใดเจ้าถึงได้เป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของข้า? เป็นเพราะข้ายอมจำนนต่อเจ้าหรือ?”

“ไม่ใช่ เป็นเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เองที่ยอมติดตามท่าน ตอนที่เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ยังตัวเล็กๆ ท่านได้เคยช่วยชีวิตข้าเอาไว้”

“เช่นนั้นแล้วข้าเป็นคุณหนูสามของจวนมู่อย่างนั้นจริงๆ หรือ?”

ครั้งนี้เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ไม่ได้ตอบคำถามของนาง แต่กลับขดตัวเข้าหานางอย่างเชื่อฟัง

มันหัวเราะออกมา “เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์รู้เพียงว่า ท่านเป็นนายท่านของข้าตลอดไป”

ความออดอ้อนไร้เดียงสาของมันทำให้ความกังวลของกู้ชูหน่วนค่อยๆ ผ่อนคลายลง จากนั้นจึงจับมันขึ้นมาและวางไว้ในมือ

ร่างกายของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ศีรษะทั้งเก้าของมันเปลี่ยนเป็นศีรษะเดียวเพียงชั่วพริบตา ลำตัวของมันก็เปลี่ยนไปเป็นเล็กราวกับตะเกียบ จากนั้นขดตัวพันรอบข้อมือของนางอย่างสบายใจและนอนหลับไป

ท่าทางการเคลื่อนไหวของมันคุ้นชินราวกับเมื่อก่อนเคยนอนด้วยท่านี้อยู่บ่อยครั้ง

กู้ชูหน่วนยิ้ม นางลูบสัมผัสไปที่ลำตัวของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์และหัวเราะ “ต้องการให้ข้ายอมรับเจ้าก็ได้ แต่เจ้าต้องคิดวิธีนำของจากหอเจินเป่าออกมาให้ข้า”

“ใส่ไว้ในวงแหวนอวกาศก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ”

“ข้าคิดว่าเจ้าจะคิดไม่ได้เสียอีก สิ่งสำคัญก็คือหาวงแหวนอวกาศไม่เจอนี่สิ”

“ตรงไปข้างหน้าเลี้ยวขวาห้าร้อยเมตร แล้วก็เดินตรงไปอีกสามร้อยเมตร เลี้ยวซ้ายสี่ร้อยเมตร เลี้ยวขวาอีกห้าร้อยเมตรก็จะถึงห้องลับห้องหนึ่ง จากนั้นเปิดออกมา……อ่า……”

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เจ็บศีรษะ แต่กลับเห็นกู้ชูหน่วนตบศีรษะของมันอย่างไม่เกรงใจ จากนั้นกล่าวด้วยสีหน้าขุ่นเคือง

“ข้าเป็นนายท่านของเจ้า ไม่ได้เป็นทาสของเจ้าเสียหน่อย เจ้าสิต้องเป็นคนนำทาง”

“ไม่เจอกันสามปี เหตุใดนายท่านถึงใจร้ายกว่าเมื่อก่อนนะ”

“จะนำทางหรือไม่นำทาง”

“นำทางก็ได้ แต่ให้รางวัลหน่อยได้หรือไม่”

“เจ้าต้องการรางวัลเป็นอะไร?”

“หมูย่างหนึ่งร้อยตัว”

“หนึ่งร้อยตัว? เจ้าตัวเล็กเช่นนี้ เจ้าไม่กลัวอิ่มตายเลยหรือ?”

“ไม่อิ่มตายหรอก เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กินจุมาก แม้ว่าตระกูลไป๋หลี่จะทำหมูย่างอร่อย แต่ก็เทียบนายท่านไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์อยากกินที่นายท่านย่าง”

มันพูดจบก็แลบลิ้นออกมาอย่างตะกละตะกลาม โดยไม่รู้ว่ามันอยากกินหมูย่างมานานเพียงใดแล้ว

“หนึ่งร้อยตัวเยอะเกินไปแล้ว หากเจ้าสามารถช่วยข้าหาวงแหวนอวกาศได้และนำของจากที่นี่ออกไปได้ เช่นนั้นข้าจะย่างให้เจ้ากินหนึ่งตัว”

“อ๋า……ตัวเดียวเองหรือ น้อยเกินไปหรือไม่”

“เห็นว่าน้อยไปก็ไม่ต้องกิน”

สีหน้าของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์แย่ลง มันบิดลำตัวที่เย้ายวนและคร่ำครวญออกมา

สามปีก่อน หลังจากที่ดวงวิญญาณของนายท่านล่องลอยออกไปจากเผ่าหยก มันก็ล่องลอยไประหว่างสวรรค์และโลกอย่างไร้จุดหมาย

หลังจากนั้นก็ถูกใครบางคนจับไปและจงใจปรับแต่ง

โชคดีที่ดวงวิญญาณของนายท่านมีพลังแข็งแกร่งและมีความพยายามอย่างมาก จึงไม่ให้ถูกขัดเกลาไปทั้งหมด เพียงแต่ดวงวิญญาณของนางไม่เหมือนเดิมแล้ว นางถูกคนอื่นขัดเกลาจนแทบจำไม่ได้แล้ว

มันคิดว่านายท่านจะจากไปตลอดกาลเสียแล้ว

โชคดีที่นายท่านเป็นคนเฉลียวฉลาดและรู้วิธีใช้ร่างกายของคนอื่นเพื่อให้ความอบอุ่นและหล่อเลี้ยงวิญญาณที่บาดเจ็บสาหัส

และโชคดีที่ร่างกายของผู้หญิงคนนี้เหมาะสมที่นายท่านจะทำการหล่อเลี้ยงดวงวิญญาณ

แต่……

นายท่านไม่สามารถจำเรื่องราวในอดีตได้

หากนายท่านจำเรื่องราวทั้งหมดในอดีตได้ เช่นนั้นวิญญาณของนางจะกลายเป็นควันและเลือนหายไปในอากาศ

เมื่อนึกถึงคนที่จับวิญญาณของนายท่านเอาไว้ก็ทำให้เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์รู้สึกโกรธจนกัดฟันกรอด และอดไม่ได้จะกัดกินเขาเสีย

กู้ชูหน่วนกล่าว “แค่ให้เจ้านำทาง เจ้าต้องโกรธเคืองมากเช่นนี้เชียวหรือ? เก็บความอาฆาตของเจ้าเอาไว้ ไม่เช่นนั้นข้าจะจับเจ้าไปต้มเป็นงูตุ๋นกินเสียก่อนเลย”

“ฟ่อๆ……”

ไม่รู้ว่าเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กำลังพึมพำอะไร

กู้ชูหน่วนเตะออกไปหนึ่งครั้ง

“ตัวเจ้าเล็กเพียงนี้ เมื่อไรจะเลื้อยไปถึงกันล่ะ เปลี่ยนให้ตัวใหญ่กว่านี้หน่อยเถอะ”

“นายท่าน เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เจ็บก้นที่ถูกนายท่านเตะเหลือเกิน”

“หยุดพูดเหลวไหลได้แล้ว”

“ก็ได้ หากนายท่านยังอารมณ์ร้ายเช่นนี้อีก ต่อไปต้องไม่มีใครรักท่านแน่ๆ”

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์บ่น แต่ร่างกายของมันก็เปลี่ยนกลายร่างเป็นงูยาวกว่าหนึ่งเมตรทันที จากนั้นก็คดเคี้ยวเลื้อยไปจนถึงภายในห้องลับ

หลังจากที่เห็นเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เลื้อยไปมาอยู่สักพัก ไม่นานก็หาวงแหวนอวกาศเจอและนำมาวางไว้ตรงหน้าของกู้ชูหน่วน

วงแหวนอวกาศมีสีเหมือนกับหยก ถึงแม้ว่าจะมีขนาดในการจัดเก็บไม่มากนัก แต่อย่างน้อยก็มีประมาณยี่สิบถึงสามสิบตารางเมตรและเพียงพอที่จะบรรจุของจำนวนมากได้

“ดีมาก สมบัติแต่ละชิ้นในหอเจินเป่านั้น ข้าต่างก็รู้ว่าเก็บซ่อนอยู่ที่ใด”

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ไม่ชอบวงแหวนอวกาศนั้นเอาเสียเลย

แหวนวงนี้ เทียบกับแหวนที่อี้เฉินเฟยเคยให้นาง ช่างแตกต่างกันอย่างมาก

โชคดีที่ตระกูลไป๋หลี่ยังเห็นเป็นของล้ำค่าและแอบซ่อนไว้อย่างดี อีกทั้งยังมีค่ายกลจำนวนมากเพื่อปกป้องคุ้มครองวงแหวนอวกาศเล็กๆ นี้ไว้

แววตาของกู้ชูหน่วนเป็นประกาย “โอ้……เช่นนั้นยาอายุวัฒนะที่เจ้าไป๋หลี่เจิ้นแอบขโมยมาจากตระกูลซั่งกวน เจ้าก็รู้ว่าอยู่ที่ใดอย่างนั้นหรือ?”

“รู้สิ”

“รีบพาข้าไปดูเดี๋ยวนี้”

“นั่นเป็นเพียงยาอายุวัฒนะระดับขั้นสอง ไม่มีประโยชน์อะไร”

ระดับล่าง?

เป็นเพียงแค่ยาอายุวัฒนะระดับขั้นสองหรือ?

ได้ยินที่ไป๋หลี่เจิ้นพูดเสียอย่างดี

นางคิดว่าจะเป็นยาชั้นดีระดับสูงเสียอีก

เมื่อเห็นว่าเป็นยาระดับขั้นสองที่ไร้ประโยชน์ กู้ชูหน่วนก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

“มีก็ยังดีกว่าไม่มี ไปกันเถอะ เราไปดูกัน”

“ไปแย่งชิงมาล่ะสิ”

“ตึ่ง……”

กู้ชูหน่วนเคาะศีรษะของมันอีกครั้ง

“พูดตรงๆ เช่นนั้นเพื่ออะไร เราไปชื่นชมต่างหาก หากไม่เรียนรู้ดูบ้าง เช่นนั้นเราจะปรุงกลั่นยาอายุวัฒนะที่ดีได้อย่างไรกัน”

“ไม่เจอกันสามปี นับวันนายท่านยิ่งหน้าด้านขึ้นเรื่อยๆ”

ยาอายุวัฒนะขั้นสองถูกเก็บเอาไว้ลึกกว่าวงแหวนอวกาศเสียอีก

หากไม่มีเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์คอยนำทาง เกรงว่ากู้ชูหน่วนคงไม่มีทางหาเจอแน่ๆ

“มีทั้งหมดสามเม็ด ต่างก็อยู่ที่นี่ทั้งหมด” เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์สะบัดนางและสะบัดยาอายุวัฒนะให้กับกู้ชูหน่วนโดยตรง

กู้ชูหน่วนเปิดออกเพื่อดมกลิ่น ได้กลิ่นเพียงเล็กน้อยก็รู้สึกสบายไปทั่วทั้งร่างกาย

ยาอายุวัฒนะระดับขั้นสอง ถือว่าดีกว่าที่นางไปแย่งชิงมาจากหุบเขาเจียงเจ๋อซานมาก

ยาอายุวัฒนะนี้เกือบมีถึงระดับขั้นที่สามแล้ว

กู้ชูหน่วนเทเม็ดยาออกมา จากนั้นกินเข้าไป

หากเป็นคนอื่นอาจจะเป็นกังวลต่อร่างกายของกู้ชูหน่วน ที่กล้ากินยาอายุวัฒนะระดับขั้นสองไปทั้งสามเม็ด โดยไม่เกรงกลัวว่ามันจะปะทุขึ้น

แต่เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กลับไม่เป็นกังวลและหมอบรออย่างสบายใจอยู่ข้างๆ และรอกู้ชูหน่วนอย่างสงบ

“อย่าอยู่นิ่งๆ สิ นอกจากเตาเผากลั่นปรุงยาและพื่ชสมุนไพรแล้ว นำของที่อยู่ที่นี่ทั้งหมดใส่ลงไปในวงแหวนอวกาศและห้ามเหลือไว้แม้แต่ชิ้นเดียว”

ร่างกายของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์แทบทรุด

“ของทั้งหมด? เราต้องการของมากมายเช่นนี้ไปเพื่ออะไร?”

“แน่นอนว่าต้องการให้พวกมันออกไปดูโลกอีกครั้ง สมบัติล้ำค่าที่ดีเช่นนี้ จะปล่อยให้ตระกูลไป๋หลี่ครอบครองอยู่ผู้เดียวได้อย่างไร”