ตอนที่ 412 ผมชอบเธอ / ตอนที่ 413 เธอมีผม

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 412 ผมชอบเธอ 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเชื่อคำพูดของกงจวิ้นฉือ รู้ว่าเขาเป็นคนที่พูดได้ก็ทำได้ 

 

 

           หลายปีมานี้ ทุกอย่างที่เข่เคนรับปากกับเธอเขาล้วนทำได้ ที่ผ่านมาไม่เคยผิดสัญญาเลย อีกทั้งเธอก็ไม่เคยสงสัยในความดีที่เขามีต่อเธอเลย 

 

 

           หลังจากกงจวิ้นฉืออยู่กับฉู่เจียเสวียนในห้องคนไข้ครู่หนึ่งแล้ว โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เขาตัดสายแล้วเดินออกไปข้างนอก 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนรู้สึกว่านอนอยู่บนเตียงนานแล้ว อีกทั้งตอนนี้เธอก็ไม่ได้มีอะไร จึงอยากออกไปเดินเล่นข้างนอก เพิ่งจะออกไปข้างนอกก็เห็นเงาของกงจวิ้นฉือ เขากำลังเดินไปยังทางเดิน และไม่รู้ว่ากำลังจะไปไหน 

 

 

           หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้ว ฉู่เจียเสวียนก็ตามหลังเขาไป 

 

 

           เห็นเขาลงไปตรงบันไดหนีไฟ ฉู่เจียเสวียนก็ตามเข้าไปด้วย ทันทีที่เข้าไปก็ได้ยินเสียงที่เยือกเย็นดังมาจากทางบันได 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ย? 

 

 

           “กงจวิ้นฉือ คุณอยู่ห่างเจียเสวียนไว้หน่อย ผมจะไม่อนุญาตให้คุณได้อยู่ด้วยกันกับเธอ ที่คุณอยากเข้าใกล้เธอเพราะต้องการจะแก้แค้นผมเรื่องที่พ่อคุณตายใช่ไหม” เผยหนานเจวี๋ยมองกงจวิ้นฉือพร้อมเอ่ยปากเย็นชา น้ำเสียงมีความเฉียบคม 

 

 

           เขารู้? ฉู่เจียเสวียนได้ยินคำพูดของเผยหนานเจวี๋ยแล้วคิดสงสัยในใจ เงี่ยหูฟัง 

 

 

           “คุณเผย คุณใจเย็นหน่อย ตอนนี้คุณโมโหขนาดนี้ไปเพื่ออะไร สามปีก่อน ที่ผมเข้าใกล้เธอเพราะว่าอยากต่อสู้กับคุณ แต่ว่าตอนนี้ผมชอบเธอจริงๆ อย่าลืมสิ ตอนนั้นคุณเป็นคนบังคับให้เธอหย่า ตอนนี้คุณมีสิทธิ์อะไรมาพูดกับผมแบบนี้” เสียงที่อบอุ่นแต่เย็นชาของกงจวิ้นฉือลอยเข้าหูของฉู่เจียเสวียน 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนก้มหน้า ก็เห็นเผยหนานเจวี๋ยที่มองกงจวิ้นฉือด้วยสีหน้ามืดมน แต่กงจวิ้นฉือกลับมีท่าทางที่สงบและผ่อนคลาย 

 

 

           “กงจวิ้นฉือ!” แววตาของเผยหนานเจวี๋ยมีความเยือกเย็น เดิมทีเขาต้องการจะยอมแพ้ แต่ว่าเขาพบว่าเขาทำไม่ได้ โดยเฉพาะตอนที่เขารู้ว่าพ่อของกงจวิ้นฉือตายเพราะครอบครัวของเขาแล้ว เขาก็รู้สึกว่าการที่กงจวิ้นฉือเข้าใกล้ฉู่เจียเสวียนนั้นจะต้องมีเป้าหมายอย่างแน่นอน 

 

 

           “เผยหนานเจวี๋ย ผมชอบฉู่เจียเสวียน เมื่อก่อนคุณไม่รู้จักดูแลฉู่เจียเสวียน เธอก็เลยจากคุณไป แต่ผมไม่เหมือนกับคุณ ผมชอบเธอมากจริงๆ” กงจวิ้นฉือเอ่ยปาก บนใบหน้ายัคงมีรอยยิ้มอ่อนๆ 

 

 

           เมื่อได้ยินเขาพูดถึงพ่อของตัวเองแล้ว ความมืดมนวูบผ่านดวงตาของกงจวิ้นฉือ 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนได้ยินคำพูดของกงจวิ้นฉือแล้ว ดวงตาเปื้อนรอยยิ้ม เธอรู้ว่าการที่กงจวิ้นฉือเข้าใกล้เธอในตอนแรกนั้นมีเป้าหมาย เขาเคยบอกกับเธอเรื่องนี้ ฉะนั้นเมื่อได้ยินอีกครั้งแล้ว เธอก็ไม่ได้รู้สึกอะไร 

 

 

           อีกทั้งกงจวิ้นฉือก็เคยบอกกับเธอว่าตอนนี้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนแล้วว่าตอนนั้นที่พ่อเขาตาย ที่จริงมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเผยหนานเจวี๋ยเลย ในโลกที่ผู้แข็งแกร่งกินผู้อ่อนแอเช่นนี้ ผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด ตอนนั้นต้องโทษที่พ่อของเขาอ่อนแอเกินไป 

 

 

           “คุณ…” ชีพจรบนมือของเผยหนานเจวี๋ยเต้นตุบๆ แววตาที่มองกงจวิ้นฉือราวกับว่าต้องการกลืนกินเขาอย่างไรอย่างนั้น 

 

 

           “คุณเผย พวกเราร่วงงานกัน อย่าทำลายความสามัคคีกันเพราะผู้หญิงคนนึงเลย ตอนนี้เจียเสวียนคือแฟนของผม ผมหวังว่าคุณจะรักษาระยะห่างจากเธอสักหน่อยนะ” เสียงอบอุ่นของกงจวิ้นฉือดังขึ้นอีกครั้ง และลอยมาเข้าหูของฉู่เจียเสวียน  

 

 

           ฉู่เจียเสวียนฟังถึงตรงนี้ก็ไม่ต้องการฟังต่อไปแล้ว จึงหันหลังจากไป 

 

 

           ตอนกลางคืน ฉู่เจียเสวียนยังคงอยู่ในโรงพยาบาล เพราะว่ากงจวิ้นฉือเป็นห่วงสุขภาพของฉู่เจียเสวียน จึงบังคับให้เธออยู่ที่นี่ต่ออีกวัน 

 

 

           ในตอนนี้ กงจวิ้นฉือนำซุปไก่ที่เพิ่งซื้อเข้ามา ยื่นเป่าอยู่ตรงหน้า 

 

 

           “มา เจียเสวียน คุณต้องบำรุงร่างกายให้ดี คุณดูคุณสิ ช่วงนี้ผอมแย่แล้ว” กงจวิ้นฉือเอ่ยปาก เอาซุปจรดปากแล้วเป่า จากนั้นก็ยื่นไปที่ปากของเธอ 

 

 

 

 

 

       ตอนที่ 413 เธอมีผม 

 

 

           ท่าทางที่คลุมเครือของกงจวิ้นฉือแบบนี้ทำให้ฉู่เจียเสวียนรู้สึกเขินอาย ในขณะนั้นเองจะอ้าปากก็ไม่ได้จะไม่อ้าปากก็ไม่ได้ 

 

 

           “ฉันดื่มเองเถอะ” ฉู่เจียเสวียนยื่นมือต้องการจะรับถ้วยซุปมาจากมือของกงจวิ้นฉือ แต่ว่ากงจวิ้นฉือกลับหลบ 

 

 

           “ผมป้อนคุณ มา อ้าปาก” กงจวิ้นฉือราวกับว่ากำลังกล่อมเด็กเล็กๆ อย่างไรอย่างนั้น ในดวงตามีความนุ่มนวลที่ทำให้ละลายได้ 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนยิ่งรู้สึกเขินอาย แต่ก็ยังเชื่อฟังอ้าปากดื่มซุปที่กงจวิ้นฉือยื่นมาจรดปากของเธอ 

 

 

           “อร่อยไหม” เสียงอบอุ่นของกงจวิ้นฉือดังขึ้น ยื่นมือเอาผมที่ปรกใบหน้าของฉู่เจียเสวียนเกี่ยวหู 

 

 

           ฉู่เจียนเสวียนพยักหน้า น้ำซุปมีรสชาติหวานและไม่เลี่ยน 

 

 

           ในเวลานี้เอง จู่ๆ ประตูห้องคนไข้ก็เปิดออก ฉู่เจียเสวียนเงยหน้าขึ้นก็เห็นเผยหนานเจวี๋ยเดินเข้ามาพร้อมถือข้าวกล่องในมือ 

 

 

           เมื่อเห็นกงจวิ้นฉืออยู่ในห้องคนไข้แล้ว เขาไม่ประหลาดใจเลยสักนิด แต่เมื่อเห็นว่ากงจวิ้นฉือกำลังป้อนซุปเธออยู่นั้น ความโกรธวูบผ่านในดวงตาของเขา 

 

 

           เขาก้าวเข้ามาข้างหน้า ไม่พูดไม่จากเอาถ้วยซุปในมือของกงจวิ้นฉือกับข้าวกล่องที่วางอยู่บนโต๊ะทิ้งลงถังขยะแล้ว ทุกการกระทำเกิดขึ้นภายในรวดเดียว 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนกับกงจวิ้นฉือรู้สึกโกรธกับการกระทำที่แปลกประหลาดของเขา 

 

 

           คนคนนี้ประสาทหรือเปล่า 

 

 

           “เผยหนานเจวี๋ย คุณทำอะไรน่ะ” ฉู่เจียเสวียนมองดูถ้วยซุปที่กงจวิ้นฉือเอามาให้เธอ ตอนนี้กำลังนอนแน่นิ่งอย่างน่าสงสารอยู่ในถังขยะ เธอก็อดไม่ได้ที่จะโมโห 

 

 

           แววตาของกงจวิ้นฉือก็ข่มความโมโหเอาไว้เช่นกัน มองดูการกระทำที่ไร้เหตุผลของเผยหนานเจวี๋ยเช่นนี้แล้ว เขาอยากจะลงมือจริงๆ 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยสีหน้าบึ้งตึง ยื่นข้าวกล่องในมือมาตรงหน้าฉู่เจียเสวียน เสียงทุ้มต่ำที่ดังขึ้นนั้นเจือปนการออกคำสั่ง “ดื่ม” 

 

 

           เมื่อฉู่เจียเสวียนได้ยินแล้วก็เงยหน้ามองเผยหนานเจวี๋ย แววตามีความเยือกเย็น 

 

 

           ผู้ชายคนนี้เอาแต่ใจอยู่ตลอดเวลาจริงๆ เขาเอาแต่ใจจนเหมือนกับป่วยเล็กน้อย 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนโมโห กระชากกล่องข้าวที่เขายื่นมาตรงหน้าเธอแล้วทิ้งลงถังขยะ “ใครจะอยากกินของคุณ คุณกลับไปเถอะ” 

 

 

           ข้าวกล่องถูกฉู่เจียเสวียนทิ้งลงถังขยะอย่างไร้เมตตา กลิ่นหอมของอาหารกระจายออกไปทั่วห้องทันที 

 

 

           ในเวลานี้บรรยากาศเหมือนจะแข็งตัวไปชั่วขณะ ไม่มีใครที่อยู่ในห้องคนไข้พูดอะไรทั้งนั้น สีหน้าของเผยหนานเจวี๋ยมืดมนจนถึงขีดสุด ในดวงตามีแสงสลัว 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเห็นสีหน้าที่น่าเกลียดขึ้นเรื่อยๆ ของเผยหนานเจวี๋ย ริมฝีปากเม้มกันแน่น 

 

 

           “ประธานเผยกลับไปเถอะ เจียเสวียนทางนี้มีผม” จู่ๆ เสียงของกงจวิ้นฉือดังขึ้น ทำลายความเงียบ 

 

 

           แต่ว่าดวงตาของเผยหนานเจวี๋ยยังคงจับจ้องอยู่ที่ฉู่เจียเสวียน ทำให้หัวใจของฉู่เจียเสวียนหวาดกลัวเล็กน้อย กงจวิ้นฉือเห็นสีหน้าที่มืดครึ้มของฉู่เจียเสวียน ยืนบังอยู่ด้านหน้าของเธออย่างสงบ ราวกับกลัวว่าเผยหนานเจวี๋ยจะทำร้ายฉู่เจียเสวียนอย่างไรอย่างนั้น 

 

 

           เมื่อวิสัยทัศน์ถูกบดบัง เผยหนานเจวี๋ยก็มองกงจวิ้นฉือแทน หลังจากสงบสติอยู่พักหนึ่งแล้วก็หันหลังจากไป 

 

 

           เห็นเงาของเผยหนานเจวี๋ยจากไปแล้ว ฉู่เจียเสวียนสูดหายใจลึก ก้มหน้ามองดูข้าวกล่องที่อยู่ในถังขยะ รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยอย่างอธิบายไม่ได้ 

 

 

           “เจียเสวียน คุณไม่เป็นไรนะ” กงจวิ้นฉือนั่งลงข้างเตียง สายตาสำรวจสีหน้าของเธออย่างละเอียด 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนส่ายหน้า ยิ้มให้กับกงจวิ้นฉือ แสดงออกว่าตัวเองไม่เป็นอะไร 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนไม่รู้ว่าจะอธิบายอารมณ์ของเธอในขณะนี้ว่าอย่างไร 

 

 

           วันที่สอง คุณหมอตรวจร่างกายของฉู่เจียสวียน หลังจากยืนยันว่าไม่เป็นอะไรแล้ว กงจวิ้นฉือก็พาฉู่เจียเสวียนจากไป 

 

 

           หลังจากขึ้นรถแล้ว ขณะที่รถกำลังออกตัวนั้น ฉู่เจียเสวียนเห็นสายตาที่เจ็บปวดมองมาที่เธอตรงหน้าโรงพยาบาล 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนสะดุ้งโหนง ยกมือขึ้นมาขยี้ตา ขณะที่มองไปอีกครั้งนั้น ก็พบว่าตรงนั้นไม่มีใครแล้ว 

 

 

           เธอจะต้องมองผิดอย่างแน่นอน เผยหนานเจวี๋ยจะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร อีกทั้งเมื่อครู่เธอมองเห็นความเจ็บปวดจากตัวเขางั้นเหรอ