ตอนที่ 442 มีเรื่องต้องจำใจทำมากขนาดนั้นเสียที่ไหน
หลิงอวี้จื้อพูดอย่างดีอกดีใจ สีหน้าสดใสมีชีวิตชีวา แววตาดูเหมือนมีประกายแวววาว เซียวเหยี่ยนมองหลิงอวี้จื้อด้วยแววตาเร่าร้อน ยิ่งมองยิ่งชอบ ขอเพียงได้เห็นรอยยิ้มของนาง ความทุกข์ภายในจิตใจก็ถูกกวาดออกไปสิ้น
อย่างเช่นตอนนี้ ตอนแรกเขามาด้วยใจที่หนักอึ้ง พอเห็นนาง ก็ลืมความทุกข์ใจทุกอย่างหมด ทำให้เขารู้สึกว่าไม่ว่าทำอะไรเพื่อนางก็คุ้มค่า ขอเพียงได้เห็นรอยยิ้มนี้ของนางไปเรื่อยๆ
หลิงอวี้จื้อเป็นคนพอใจง่ายมาก ผลไม้แช่อิ่มอร่อยๆ หนึ่งจาน เสื้อผ้าใหม่หนึ่งชุดก็ทำให้นางยิ้มสดใสดั่งดวงตะวันได้
นางไม่ใช่คนอ่อนต่อโลก แต่ไม่ว่าเรื่องใดที่เกิดขึ้นกับนาง ไม่นานก็ผ่านไป นางจะไม่จมปลักอยู่กับอารมณ์หดหู่
นี่เป็นจุดที่หลิงอวี้จื้อดึงดูดเขามากที่สุด แม้ฟ้าจะถล่มทลาย นอนสักครู่ นางก็กลับมายิ้มสู้ชีวิตได้แล้ว
เมื่อรับรู้ถึงสายตาเร่าร้อนที่หยุดอยู่บนร่างกายของตนมาตลอด หลิงอวี้จื้อก็รู้สึกร้อน
“ท่านเอาแต่จ้องข้าทำไม เห็นกันมาตั้งนานขนาดนี้แล้ว ยังดูไม่พออีกหรือ”
“ยังเหลือเวลาอีกทั้งชีวิต ตอนนี้จะดูพอได้อย่างไร”
“วันเวลาข้างหน้ายังอีกยาวไกล เนิ่นนานผ่านไปท่านจะไปชอบคนอื่นหรือไม่”
นี่เป็นคำพูดล้อเล่นของหลิงอวี้จื้อ เธอรู้สึกว่ากว่าเซียวเหยี่ยนรักใครสักคนได้ก็ยากมากแล้ว สองคนผ่านเรื่องราวมาด้วยกันตั้งมากมาย เธอเชื่อใจเซียวเหยี่ยนอย่างเต็มที่
ต้องขอบคุณการเดินทางไปอำเภอฉางหนิงคราวนี้ หากไม่มีประสบการณ์นี้ เธอก็จะไม่มีทางรู้เลยว่า เซียวเหยี่ยนสำคัญกับเธอขนาดนี้
“ไม่”
เซียวเหยี่ยนตอบสั้นกระชับ ไม่ลังเลแม้แต่น้อย
หลิงอวี้จื้อหัวเราะเอิ๊กอ๊าก
“ข้ารู้อยู่แล้วว่าไม่”
พูดจบเธอก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา พูดถึงเรื่องของหลิงจื่อเฉิงขึ้นมา
“อาเหยี่ยน ข้าจะบอกให้ พี่ชายข้าช่างร้ายเสียจริง ตอนแรกเพื่อจะขอชิงชิงแต่งงาน เขาร้องไห้อ้อนวอนขอท่านพ่อท่านแม่ แถมยังเตรียมจะหนีออกจากบ้านด้วย ต่อมาในที่สุดก็สมหวังดั่งปรารถนา นึกไม่ถึงว่าตาคนนี้จะไปมีความสัมพันธ์กับน้องสาวของหรูเยียน นั่นคือชิวจวี๋
อย่างไรท่านก็เคยเห็นนางแล้ว เขายังมีใจสงสารชิวจวี๋อีก บอกว่าตนเองดื่มจนเมา แต่ในใจยังรักชิงชิง ทุเรศจริงๆ หากรักใครสักคนจริง จะทำร้ายนางเช่นนี้หรือ ใครอยากจะแบ่งปันคนที่นอนร่วมเรียงเคียงหมอนบ้าง”
หลิงอวี้จื้อด่าด้วยความไม่พอใจ ส่วนเซียวเหยี่ยนฟังอยู่เงียบๆ ไม่โต้ตอบสักคำ จากเรื่องนี้สามารถมองเห็นทัศนคติของหลิงอวี้จื้อได้ เขาพอจะคิดออกแล้วว่าพรุ่งนี้ เมื่อหลิงอวี้จื้อได้รับพระราชเสาวนีย์แล้วจะมีท่าทีอย่างไร
“คนร่วมหมอนแบ่งกันไม่ได้จริงๆ แต่บางครั้งก็มีเรื่องที่ต้องจำใจทำ”
“อาเหยี่ยน เหตุใดถึงพูดแทนพี่ชายข้า เขามีเรื่องที่ต้องจำใจทำเสียที่ไหน ชิวจวี๋เป็นคนอย่างไรพวกเราก็รู้ มีแต่เขาที่ไม่รู้ คิดอยู่นั่นแหละว่านางน่าสงสาร ผู้ชายอาจจะคิดว่ามีผู้หญิงเพิ่มมาอีกสักคนไม่มีอะไร แต่สำหรับผู้หญิงที่รักเขาแล้ว นี่เป็นความเจ็บปวดถึงแก่ชีวิต”
“จื่อเฉิงสติเลอะเลือนไปเสียแล้ว”
“ไม่ใช่แค่สติเลอะเลือน แต่กลับกลอกด้วย
เขาไม่ได้รักชิงชิงเหมือนเมื่อก่อนแล้ว มิเช่นนั้นเขาคงไม่ปฏิบัติต่อชิวจวี๋เช่นนี้
เมาสุราครั้งนั้นอาจพูดได้ว่าถูกคนวางยา ตอนนี้ความสงสารที่เขามีต่อชิงจวี๋ ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ไม่มีเหตุผล เรื่องของเขาข้าก็ไม่ยุ่งแล้ว
ชิงชิงเองก็เหมือนจะตัดใจจากเขาแล้ว ต่อไปไม่ขอเจอหน้าเขาอีก พวกเขาสองคนจะไม่เป็นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ตรงจุดนี้ข้ายังชื่นชมชิงชิงเลย ควรจะทำเช่นนี้แหละ ขออภัยข้าหรือ ขอโทษนะ เจ้าไสหัวออกไปได้แล้ว ไม่ประนีประนอมเป็นอันขาด”
“เจ้ายุ่งเรื่องคนอื่นให้น้อยๆ หน่อย พวกเขาต่างก็มีข้อสรุปในใจของตนเอง ผลไม้แช่อิ่มยังกินไม่หมด กินอีกสองเม็ดสิ”
เซียวเหยี่ยนกลายเป็นมีอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมา ไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเหล่านี้กับหลิงอวี้จื้ออย่างไร อวี้จื้อ เจ้าจะตำหนิข้าเช่นกันใช่หรือไม่
ตอนที่ 443 หน้าด้านไปหน่อยหรือไม่
หลิงอวี้จื้อพูดจบเห็นเซียวเหยี่ยนไม่พูดอะไรเลย เธอกลืนผลไม้แช่อิ่มในใปาก ถามเสียงเบา
“อาเหยี่ยน เป็นอะไรไปหรือ”
“ไม่มีอะไร”
หลิงอวี้จื้อรู้สึกได้ว่าเซียวเหยี่ยนเก็บอะไรไว้ในใจ ช่วงนี้เมืองหลวงก็เหมือนจะไม่ได้เกิดเรื่องอะไร เธอคิดว่าเขาอาจจะเจอเรื่องกวนใจอะไรในราชสำนัก จึงหยิบพุทราเชื่อมหนึ่งเม็ดป้อนเข้าไปในปากเซียวเหยี่ยน
เซียวเหยี่ยนรับพุทราเชื่อมที่หลิงอวี้จื้อส่งมาอย่างร่วมมือดี เซียวเหยี่ยนเคี้ยวสักครู่ ก็กลืนพุทราเชื่อมลงไป หลิงอวี้จื้อยิ้มพลางถามว่า
“เอาอีกหรือไม่”
“เจ้าก็กินน้อยๆ หน่อย อย่าตามใจปากมาก”
“ข้าฟังท่าน กินเยอะไปก็เลี่ยน”
หลิงอวี้จื้อเก็บจานผลไม้ เช็ดมือ แล้วยื่นมือออกไปโอบคอเซียวเหยี่ยน
“ข้ารู้ว่าตอนนี้ท่านอารมณ์ไม่ดี อาเหยี่ยน ท่านจำไว้นะ ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าก็จะอยู่ข้างกายท่าน”
เซียวเหยี่ยนใจชื้น เขาไม่เคยคิดจะทำให้หลิงอวี้จื้อผิดหวัง เขาจะไปเจอเฉินปี้ ไปดูสักหน่อยว่าแท้จริงแล้วเฉินปี้คิดอย่างไร มู่หรงกวานเย่ว์เป็นคนจัดแจงหรือว่าเป็นเจตนาของนางเอง
เซียวเหยี่ยนชอบลูบหัวหลิงอวี้จื้อมาก ยื่นมือออกไปลูบผมดำที่นุ่มละมุนดุจแพรไหมของนางซึ่งมีกลิ่นหอมจางๆ เห็นข้างนอกฟ้ามืดแล้ว เขาก็ก้มตัวแนบหูหลิงอวี้จื้อ พูดเสียงต่ำว่า
“อวี้จื้อ ข้ากลับก่อนนะ”
“เร็วจริง”
หลิงอวี้จื้อยังไม่อยากให้เขาไป ยังไม่รู้ตัวเลยว่าข้างนอกมืดหมดแล้ว
“เจ้าอยากให้ข้าค้างแรมหรือ”
“ข้าหมายความเช่นนั้นเสียที่ไหน อาเหยี่ยน ท่านอย่าจงใจตีความเจตนาข้าผิด”
หลิงจื้อพูดจบก็เงยหน้าขึ้น เห็นข้างนอกฟ้ามืดหมดแล้ว ถึงได้รู้ว่าค่ำแล้ว เธอปล่อยเซียวเหยี่ยน แล้วเสมองไปทางอื่นอย่างเขินอาย นึกไม่ถึงเลยว่าเมื่อสองคนอยู่ในห้องด้วยกันแล้ว เวลาจะผ่านไปเร็วเช่นนี้ เพียงชั่วพริบตาเดียวฟ้าก็มืด
เซียวเหยี่ยนลุกขึ้น เดินไปข้างๆ หลิงอวี้จื้อ เขายังอยากอยู่ต่อจริงๆ ตอนที่นอนร่วมเตียงเคียงหมอนกันครั้งนั้น หลิงอวี้จื้อยังไม่ได้เป็นว่าที่พระชายาของเขา เขายังควบคุมตนเองได้
เซียวเหยี่ยนจูบติ่งหูของหลิงอวี้จื้อเบาๆ หลิงอวี้จื้อสะดุ้งเล็กน้อย ราวกับมีกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านตัว ทำให้เธอรู้สึกชาๆ
“ข้าไปกลับก่อน อวี้จื้อ ค่ำแล้วรีบนอนพักผ่อนนะ”
“อื้ม”
หลิงอวี้จื้อตอบเขินๆ
ไม่นานเซียวเหยี่ยนก็ออกไปแล้ว หลิงอวี้จื้อยังยืนใจลอยอยู่ที่เดิม ยกมือขึ้นลูบๆ ติ่งหูของตัวเอง อืม เซียวเหยี่ยนวันนี้ผิดปกติจริงๆ แต่เธอก็ชอบ หากเธอจะบอกว่าตอนนี้เธอชอบให้เซียวเหยี่ยนจูบเธอมาก แบบนี้จะหน้าด้านไปหน่อยหรือไม่นะ
คิดถึงตรงนี้ หลิงอวี้จื้อก็หัวเราะฮ่าๆ ดังลั่น หน้าด้านก็หน้าด้านไปเถอะ อย่างไรเรื่องน่าขายหน้าก็เคยทำไปหมดแล้ว เธอไม่กลัวแล้ว
ตอนบ่ายกินของว่างไปเยอะ ตอนเย็นเธอจึงไม่หิวเลยสักนิด
เธอยืนอยู่ริมหน้าต่าง เหม่อมองท้องฟ้าที่ดำมืด วันแต่งงานกำหนดไว้เมื่อไหร่กันแน่นะ
เหตุใดมู่หรงกวานเย่ว์ยังไม่มีพระราชเสาวนีย์ลงมา คงไม่ได้จงใจประวิงเวลาหรอกนะ!
เคยบอกไปก่อนหน้านี้ว่าต้นปี ตอนนี้ผ่านวันหยวนเซียวไปแล้ว แต่ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เธออยากแต่งงานกับเซียวเหยี่ยนเร็วๆ หน่อย ถึงแม้จะรู้สึกอายที่จะบอกเรื่องนี้กับเซียวเหยี่ยน แต่ตนเองก็คิดว่าควรจะบอกได้แล้ว
คืนนี้ขนาดในฝัน หลิงอวี้จื้อยังฝันถึงฉากงานมงคลสมรสของทั้งสองคน ในความฝันยังอดหัวเราะเสียงดังไม่ได้ นอนหลับฝันดีสุด ๆ
วันต่อมา พระราชเสาวนีย์ของมู่หรงกวานเย่ว์ก็มาถึงจวนมหาเสนาบดี งานมงคลสมรสกำหนดไว้เป็นวันที่ห้าเดือนสอง หลิงอวี้จื้อคุกเข่าคำนวณสักครู่ ยังมีเวลาอีกสิบห้าวันพอดี วันนี้เป็นวันที่ดีจริงๆ