แดนนิรมิตเทพ บทที่ 679
“คุณชายหวาง ถึงแม้ว่าคุณอยากจะแพ้ให้กับผม แต่ไม่ต้องแสดงชัดเจนขนาดนี้” ฉีหมิงซานมองนักมวยผอมบางที่หวางเส้าหยู่เลือก หัวเราะเยาะด้วยสีหน้าเหยียดหยาม

“ผมสงสัยว่านักมวยที่คุณเลือก จะสามารถต้านหมัดหนึ่งของเป้าหลงได้หรือเปล่า!” ชายผิวดำที่ฉีหมิงซานเลือกชื่อเป้าหลง

บรรดาคนที่กำลังเฝ้ามองด้วยความสนุกที่อยู่รอบ ๆ เริ่มสนทนากัน พวกเขามองหวางเส้าหยู่ด้วยสายตาสงสัย และไม่มีใครตั้งความหวังกับนักมวยผอมบางคนนี้

ความจริงแล้ว แม้แต่หวางเส้าหยู่เองก็ไม่ได้ตั้งความหวังกับนักมวยที่ชื่อเซี่ยหลางเช่นกัน การที่เขาเลือกเซี่ยหลางเป็นเพราะคำขอของหวงไต้ซือ

สำหรับหวงไต้ซือแล้ว หวางเส้าหยู่ไม่มีข้อสงสัย เพราะเขาไม่ใช่นักตุ้มตุ๋นในยุทธภพ แต่เป็นปรมาจารย์นักบู๊อย่างแท้จริง เป็นหนึ่งในสิบพยัคฆ์ที่มีชื่อเสียงของไห่ตงในช่วงปลายราชวงศ์ชิง และเป็นทายาทสืบทอดของหมัดเก้าพยัคฆ์

หวงไต้ซือเองก็เป็นยอดฝีมือแดนในชั้นสมบูรณ์อีกด้วย

แน่นอนว่าหวางเส้าหยู่ไม่ทราบความแข็งแกร่งเฉพาะของหวงไต้ซือ เพียงแต่พ่อของเขาเคยเห็นหวงไต้ซือต่อสู้กับคนห้าสิบกว่าคนและช่วยเขาออกมา

ในเมื่อหวงไต้ซือบอกว่าเขาทำได้ ถ้าเช่นนั้นเขาจะต้องทำได้อย่างแน่นอน

เมื่อเผชิญกับการเยาะเย้ยและความสงสัยของทุกคน หวางเส้าหยู่ทำได้เพียงแกล้งทำเป็นเย่อหยิ่งและกล่าวเยาะเย้ยว่า “คนเราไม่สามารถมองคนจากรูปลักษณ์ภาพนอกได้ ยอดฝีมือที่แท้จริง ไม่ใช่คนบ้าระห่ำสามารถเทียบได้ แล้วพวกคุณรู้ได้อย่างไรว่าเซี่ยหลางไม่ใช่ยอดฝีมือที่ปิดบังฝีมือของตนเองเอาไว้ล่ะ?”

“ฮ่า ๆ สภาพแบบนั้น ยังมีหน้ามาบอกว่าเป็นยอดฝีมืออีก เกรงว่าไม่เพียงพอให้เป้าหลงชกหนึ่งหมัดเสียด้วยซ้ำ!” ฉีหมิงซานหัวเราะเยาะ แล้วตะโกนใส่ฝูงชนที่เฝ้ามองด้วยความสนุกอยู่ด้านหลังว่า “ทุกคนอย่าพลาดโอกาส มีคนยินดีที่จะเป็นคนโง่ที่ยอมเสียเงินเปล่า ๆ ถ้าไม่หากำไรจากเขา ก็จะผิดต่อโอกาสที่ดีเช่นนี้!”

ผู้ชมต่างตื่นเต้นและวางเดิมพันทีละคน และพวกเขาเกือบทั้งหมดเดิมพันว่าเป้าหลงจะเป็นฝ่ายชนะ

ฉีหมิงซานมองมู่หรงยานเอ๋อร์ที่ยังคงเฝ้ามองอยู่ และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณหนูยานเอ๋อร์ คุณยังลังเลอะไรอีก แตกต่างกันมากขนาดนี้ แม้กระทั่งนักเดิมพันมือใหม่ที่ไม่รู้อะไร ก็รู้ว่าควรจะเดิมพันว่าใครเป็นฝ่ายชนะ!”

มู่หรงยานเอ๋อร์ยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์ และกล่าวทันที “โอเค ฉันจะเดิมพันหนึ่งล้าน…….อืม เซี่ยหลางเป็นฝ่ายชนะ!”

เมื่อได้ยินว่ามู่หรงยานเอ๋อร์เดิมพันหนึ่งล้าน ฉีหมิงซานรู้สึกตกตะลึง หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกดีใจมาก ดูเหมือนว่ามู่หรงยานเอ๋อร์ไม่เพียงแค่หน้าตาสวยเท่านั้น แต่ฐานะครอบครัวยังไม่ธรรมดาอีกด้วย ผู้หญิงแบบนี้ เขาฉีหมิงซานจีบอย่างแน่นอน

เพียงแต่เมื่อได้ยินคำพูดสุดท้ายของมู่หรงยานเอ๋อร์แล้ว ความดีใจบนใบหน้าของฉีหมิงซานกลายเป็นความอึดอัด และเปลี่ยนเป็นความเคร่งขรึม

มู่หรงยานเอ๋อร์บอกว่าเดิมพัน เธอก็เดิมพันอย่างรวดเร็ว โดยไม่ความลังเลแม้แต่น้อย ราวกับว่าเงินหนึ่งล้านสำหรับเธอแล้ว เป็นเหมือนเงินหนึ่งหรือสองหยวนเท่านั้น ซึ่งสามารถละทิ้งได้ทุกเมื่อ

คนหนุ่มสาวที่อยู่รอบ ๆ รู้สึกตกตะลึง และต่างเดาสถานะครอบครัวของมู่หรงยานเอ๋อร์

หวางเส้าหยู่หัวเราะอย่างมีความสุข มองมู่หรงยานเอ๋อร์และกล่าวชมว่า “สาวสวยคนนี้สายตาเฉียบแหลมมาก ไม่เหมือนคนบางคนที่มองการณ์ตื้นเขิน!”

ฉีหมิงซานรู้สึกโกรธมาก แต่เขาไม่กล้าโกรธคุณหนูยานเอ๋อร์ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเกลี้ยกล่อมด้วยรอยยิ้มขมขื่นว่า “คุณหนูยานเอ๋อร์ ถึงแม้ว่าคุณจะมีเงิน แต่คุณไม่ควรฟุ่มเฟือยแบบนี้ แค่มองแวบเดียวก็สามารถมองเห็นความแข็งแกร่งของเซี่ยหลางกับเป้าหลงได้แล้ว การที่คุณแบบนี้ เหมือนตั้งใจโยนเงินเข้าไปในกองไฟ?”

มู่หรงยานเอ๋อร์ไม่สนใจเขา เธอเพียงแค่กล่าวว่า “ฉันตัดสินใจแล้ว รีบเริ่มแข่งขันกันเถอะ!”

ฉีหมิงซานมองเฉินโม่ซึ่งกำลังนั่งเงียบ ๆ ในพื้นที่พักผ่อนด้วยสายตาเกลียดชัง เขารู้สึกว่าการที่มู่หรงยานเอ๋อร์ทำแบบนี้ ต้องได้รับคำสั่งจากเฉินโม่แน่นอน เพื่อตั้งใจทำให้เขาอับอาย

“ฮึ่ม อีกสักครู่เมื่อคุณสูญเสียเงินไปหนึ่งล้าน ผมจะคอยดูว่าคุณจะยังเชื่อฟังไอ้คนไร้ประโยชน์อีกไหม!”