บทที่ 117 ช่วยด้วย

ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠)

บทที่ 117
ช่วยด้วย
เมื่อชางกวนโม่มาถึงโรงพยาบาล ไป๋เสวี่ยหลี่กำลังอารมณ์เสียใส่เย่เฟิง สองคนที่เธอเกลียดมากที่สุดก็คือเย่เฟิงกับเย่หลิว เพราะพวกเขาคือเย่เฟิงและเย่หลิว พวกเขาน่ารำคาญพอๆกับชางกวนหลินและพวกเขาก็ไม่รู้วิธีที่จะดูแลหน้าที่ของตัวเองเลย แค่เพราะเธอแกล้งทำเป็นกลัวอยู่นานเขาก็เลยไม่ยอมทิ้งเธอไปไหน เขางี่เง่ามากจนไม่ยอมโทรหาพี่โม่ จนสุดท้ายเธอก็ทนไม่ไหวและสุดท้ายเธอก็เป็นคนโทรหาเขาเอง

“คุณชาย!” เย่เฟิงแทบรอไม่ไหวที่จะออกไปจากตรงนี้ เขาเองก็ไม่ชอบน้องสาวของคุณชายด้วยเหมือนกัน เธอดูเป็นผู้หญิงที่เจ้ามารยา เขาบอกไปว่ากลัวว่าจะติดไข้ไปด้วย

“นายออกไปทำงานเถอะ!” ชางกวนโม่พยักหน้าและพูดกับเย่เฟิง
เย่เฟิงถอนหายใจอย่างโล่งอกและรีบเดินออกไปแต่ก็หันกลับมามองที่ไป๋เสวี่ยหลี่ด้วย
“พี่โม่ ในที่สุดพี่ก็มาแล้ว ฉันกลัว…” ไป๋เสวี่ยหลี่ทำสายตาน่าสงสารมองไปที่ชางกวนโม่

ชางกวนโม่ถอนหายใจแล้วจึงหันไปมองไป๋เสวี่ยหลี่และพูดอย่างจริงจัง “เสวี่ยหลี่ พี่รักเสี่ยวเสวี่ย ในอนาคตพี่จะไม่อยู่กับเธอ เข้าใจหรือเปล่า?”

สีหน้าที่น่าสงสารของไป๋เสวี่ยหลี่เปลี่ยนเป็นซีดเผือดทันที คำพูดของชางกวนโม่ราวกับตบหัวแล้วลูบหลัง ไม่ว่าเธอจะทำอะไร พี่โม่ก็สนใจแต่มู่หรงเสวี่ย เธอมีความรู้สึกว่าถึงแม้โลกนี้จะไม่มีมู่หรงเสวี่ยแต่เธอก็จะยังอยู่ในใจของพี่โม่ไปตลอด แล้วเธอล่ะจะได้อะไร

“พี่โม่…”
“เสวี่ยหลี่ พี่หวังว่าเธอจะเข้าใจนะว่าเดี๋ยวในอนาคตก็จะมีผู้ชายที่ดีกว่าพี่โม่มาคอยดูแลเธอเอง…”

ไม่ ไม่มี ไม่ว่าชายคนอื่นจะดีแค่ไหนแต่ก็ไม่มีประโยชน์ถ้าไม่ใช่พี่โม่ ตอนนี้เธอเริ่มจะเสียใจนิดหน่อยแล้ว เธอไม่น่าโทรหาพี่โม่เลย ไม่น่าบอกให้เขามาเลยเธอจะได้ไม่ต้องมาฟังคำพูดที่มันโหดร้ายขนาดนี้

“พี่โม่ แม้เสี่ยวเสวี่ยจะเป็นฆาตกรพี่ก็ยังอยากที่จะอยู่กับเธองั้นเหรอ…” ไป๋เสวี่ยหลี่ถามออกไปพร้อมน้ำตา

“ไม่ว่าเสี่ยวเสวี่ยจะเป็นคนยังไง พี่ก็รักเธอ!” ถึงแม้เขาจะไม่อยากที่จะทำร้ายความรู้สึกไป๋เสวี่ยหลี่ แต่ความลังเลของเขามีแต่จะไปสร้างความหวังให้เธอแล้วในอนาคตก็จะต้องยิ่งเสียใจมากกว่านี้ งั้นเขาหวังว่าจะพูดให้ชัดเจนไปเลยเพื่อทุกคน

ไป๋เสวี่ยหลี่อดไม่ได้ที่จะร้องไห้อยู่บนเตียง มู่หรงเสวี่ยโชคดีจริงๆที่ได้ความรักทั้งหมดของพี่โม่ไป แต่แล้วเธอควรจะทำยังไงดี? เธอเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่เด็ก ถึงแม้เธอจะได้รับการอุปการะจากตระกูลชางกวน แต่เธอก็เป็นเพียงแค่ของเล่นที่พวกเขาซื้อมา มีเพียงพี่โม่เท่านั้นที่เข้ามาเล่นกับเธอจริงๆ

โลกของเธอจริงมีเพียงพี่โม่มาตั้งแต่แรก งั้นมันก็ควรที่จะจบลงที่เขาเพียงคนเดียวด้วย เขาพูดมาได้ยังไงว่าในอนาคตจะมีผู้ชายคนอื่นเข้ามาดูแลหัวใจของเธอ? เธอต้องการเพียงพี่โม่เท่านั้นที่อยากให้มาอยู่ข้างกายเธอ คนอื่นจะเหมาะกับเธอได้ยังไง

“เสวี่ยหลี่ ถ้าเธอไม่อยากอยู่ในเมืองหลวง พี่สามารถจัดให้เธอไปอยู่ต่างประเทศได้นะ…” ไป๋เสวี่ยหลี่กับมู่หรงเสวี่ยต้องอยู่แยกกัน พวกเธอไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้อีกแล้ว เขาเพียงแค่คิดว่าแทนที่จะพูดคำพูดปลอบใจ เขาจึงคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าหาวิธีจัดการปัญหานี้ซะ

ดวงตาของไป๋เสวี่ยหลี่เบิกกว้างขึ้นมาทันที “พี่โม่ พี่อยากจะไล่ฉันไปที่อื่นงั้นเหรอ?” เธอดึงแขนเสื้อของชางกวนโม่ทันที “ไม่นะ ฉันไม่อยากไปจากพี่โม่…พี่โม่ ต่อไปฉันจะไม่ขวางทางของพี่อีกแล้ว อย่าไล่ฉันไปเลยนะ…” เธอขอร้องด้วยความตื่นตระหนก นี่ไม่ใช่การแกล้งทำแต่เธอรู้สึกกลัวจริงๆ ไม่ว่าเธอทำอะไรก็อย่าให้เธอต้องจากชางกวนโม่ไปไหนเลย เธอยอมรับไม่ได้ เธอต้องตายแน่ๆ

ชางกวนโม่ตบที่ไหล่ที่ตื่นตระหนกของเธอเบาๆ “ไม่ใช่การไล่เธอไปไหน นี่เป็นแค่การถามความคิดเห็นจากเธอเท่านั้น…พี่คิดว่ามันจะดีกับเธอมากกว่าถ้าเธอไปซะ…”
“ไม่นะ…พี่โม่ ฉันไม่อยากไปไหนทั้งนั้น…”
“ได้ ได้ เธอไม่ต้องไปไหน…เธอพักก่อนเถอะ…พี่จะให้คุณป้าฟางมาดูเธอเอง…”

ไป๋เสวี่ยหลี่ร้องไห้พร้อมทั้งพยักหน้า พี่โม่อยากให้เธอไปซะ ต้องเป็นเพราะมู่หรงเสวี่ยแน่ๆที่เป็นคนพูดอะไรแบบนี้กับพี่โม่ เธอจะไม่ปล่อยเธอไปแน่ๆ ตอนที่ชางกวนโม่ไม่ได้สังเกต ดวงตาของเธอก็แวบประกายโหดร้ายขึ้นมา

หลังจากที่คุณป้าฟางเข้ามา ชางกวนโม่ก็พูดกับ ไป๋เสวี่ยหลี่ที่ยังคงร้องไห้อยู่ “หยุดร้องไห้ได้แล้ว พี่ต้องไปทำงานก่อนนะ…” เมื่อพูดจบ ชางกวนโม่ที่ไม่เห็นปฏิกิริยาของ ไป๋เสวี่ย หลี่ก็หันหลังและเดินออกไป เสวี่ยหลี่เป็นน้องสาวเขา ตอนนี้เขากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากมากๆ เขาไม่เคยรู้สึกเหนื่อยแบบนี้มาก่อนเลย ก่อนหน้านี้เขาคิดว่ามันคงจะดีกว่าที่จะรักกับน้องสาวตัวเองและอยู่กับเธอไปตลอดชีวิต

อย่างไรก็ตาม วันที่ไม่มีมู่หรงเสวี่ยดูเหมือนจะยากขึ้นทุกวันๆ แม้แต่ท้องฟ้าที่สดใสก็ยังดูน่าเบื่อซึ่งทำให้เขาแทบจะหายใจไม่ออก หลังจากเวลาแค่เดือนเดียวแต่เขากลับรู้สึกเหมือนเป็นหลายศตวรรษ ถ้าเป็นแบบนี้เขาก็มอบความสุขให้ไป๋เสวี่ยหลี่ไม่ได้ นอกจากเรื่องงานแล้วเขาก็ไม่รู้ว่าจะต้องจัดการอะไรยังไงเลย

แทนที่จะถ่วงชีวิตของไป๋เสวี่ยหลี่ไว้ มันก็ดีกว่าที่จะบอกความจริงเธอซะตั้งแต่ตอนนี้เพื่อที่เธอจะได้ไปเจอคนที่รักเธอได้จริงๆ

หลังจากที่ชางกวนโม่ไป ไป๋เสวี่ยหลี่ก็ทำลายข้าวของทุกอย่างโดยไม่สนใจสายตาตื่นตกใจของป้าฟางเลย พี่โม่ไม่ต้องการเธอ แล้วเธอจะรักษาภาพลักษณ์ไปเพื่ออะไร? จนถึงตอนนี้ทุกอย่างที่เธอแสดงออกมาก็เพื่อที่จะให้พี่โม่ได้เห็นว่าเธอคู่ควรกับเขามากแค่ไหน แต่พี่โม่ก็เพิ่งจะทำลายความฝันของเธอ เธอยังจำได้ตอนที่มู่หรงเสวี่ยป่วย พี่โม่ไม่ได้ทำตัวแบบนี้เลยสักนิด ในตอนนั้นพี่โม่เป็นห่วงมากจนต้องอยู่ดูแลมู่หรงเสวี่ยทั้งคืน ตอนนี้เธอเองก็ป่วยแต่พี่โม่กลับไม่สนใจเธอเลยสักนิด ซ้ำยังจะไล่เธอไปอีก ทำไมล่ะ

เมื่อวานพี่โม่ยังสงสัยในตัวมู่หรงเสวี่ยอยู่เลย ทำไมถึงเปลี่ยนไปได้ในชั่วข้ามคืนแบบนี้? ทำไม?
ป้าฟางมองไปที่ไป๋เสวี่ยหลี่ที่กำลังร้องไห้ราวจะขาดใจ เธอช่วยอะไรไม่ได้แต่ก็เดินตรงเข้าไปปลอบเธอ เธอร้องไห้ออกมาอย่างหนัก “คุณหนู ไม่ต้องร้องนะคะ…เดี๋ยวจะไม่สบายเปล่าๆ…” ป้าฟางดูแลไป๋เสวี่ยหลี่มาหลายปี เธอดูแลไป๋เสวี่ยหลี่ราวกับเป็นลูกของตัวเอง คุณชายรักน้องสาวอย่างมากและเธอไม่รู้ว่าระหว่างพกวเขาเกิดเรื่องอะไรกัน คุณหนูถึงได้เสียใจขนาดนี้เมื่อคุณชายออกไป

“ป้าฟาง พี่ชายอยากจะไล่ฉันไปที่อื่น…” ไป๋เสวี่ยหลี่ร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของป้าฟาง

ป้าฟางตกใจ “จะเป็นไปได้ยังไงคะ? มีอะไรเข้าใจผิดกันหรือเปล่าคะ? คุณชายรักคุณหนูที่สุดนะคะ…”

“ตอนนี้ไม่แล้ว เขารักผู้หญิงคนอื่นแล้ว…”
“ผู้หญิงจากครั้งที่แล้วเหรอคะ?” ป้าฟางเจอมู่หรงเสวี่ยครั้งที่แล้ว ตอนแรกเธอคิดว่าเธอเป็นหมอที่คุณชายเชิญมา เธอไม่คิดว่าคุณชายจะมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนี้ แต่ถึงแม้คุณชายจะรักอยู่กับผู้หญิงคนอื่น ก็ไม่เห็นจะมีเหตุผลที่ต้องไล่น้องสาวไปไหนเลยนี่
“ต้องเป็นเพราะเธอแน่ๆที่พูดเรื่องนี้กับพี่โม่…ไม่งั้นพี่โม่คงไม่ไล่ฉันไปแบบนี้…ฉันมีแต่พี่โม่คนเดียว…”

ป้าฟางกอดไป๋เสวี่ยหลี่ไว้ในอ้อมแขนแต่เธอก็ไม่รู้จะช่วยยังไง

“ป้าฟาง ป้ารักฉันที่สุด ป้าช่วยฉันได้ไหม? ฉันเสียพี่โม่ไปไม่ได้จริงๆ…” เธอทำสายตาอ้อนวอนไปที่ป้าฟาง

ในตอนนี้ หัวใจของป้าฟางอ่อนยวบไปหมด เธอไม่มีลูกของตัวเองเธอจึงมอบความรักทั้งหมดที่มีให้คุณหนูไปแล้ว ถึงแม้เธอจะช่วยได้แค่เพียงเรื่องเสื้อผ้า, อาหาร, ทำความสะอาดและเรื่องการเดินทางก็ตามเถอะ ตอนนี้คุณหนูเปราะบางและน่าสงสารอย่างมากถึงขนาดมาอ้อนวอนเธอแบบนี้ ถึงแม้คุณหนูจะบอกให้เธอไปบุกป่าฝ่าดงหรือลุยไฟเธอก็เต็มใจที่จะทำ “โอเคค่ะ ป้าจะช่วยแต่ป้าฟางไม่มีสิทธิ์อะไร และไม่รู้ว่าจะช่วยคุณหนูยังไงได้บ้าง…” เธอพูดด้วยใบหน้าเศร้า

ไป๋เสวี่ยหลี่มีความสุขแต่ก็ยังพูดออกไปอย่างน่าสงสาร “ป้าฟาง ป้าใจดีจริงๆ…ป้าเหมือนกับแม่ของฉันเลย…” เธอน่ารำคาญเหมือนกับแม่ของเธอ แม่เธอทิ้งเธอตั้งแต่เกิด…และป้าฟางก็เป็นแค่คนใช้ที่กล้ามองเธอด้วยสายตารักใคร่ ช่างไม่คู่ควรหรอก…นี่ถ้าไม่ใช่เพราะต้องการให้ช่วยนะ

ป้าฟางมีความสุขมากที่เธอได้รับเกียรติจากคุณหนูที่บอกว่าเธอเหมือนกับแม่เธอ! เธอจึงตัดสินใจใหม่ว่าจะต้องช่วยเธอให้ได้ “มีอะไรให้ดิฉันช่วยคะ?”

“ป้าฟาง ฉันว่าเราคงต้องรอไปก่อนสักพัก ตอนนี้พี่โม่อารมณ์ไม่ดี ฉันไม่อยากไปรบกวนเขา…” รอไปก่อนเถอะ พี่โม่จะต้องอยู่กับเธอคนเดียวไม่ว่าเขาจะรักเธอหรือไม่ก็ตาม เธอจะไม่ยอมให้เขาอยู่กับผู้หญิงอื่น

“โอเคค่ะ งั้นคุณหนูพักก่อนนะคะ ฉันจะเก็บกวาดเอง…” ป้าฟางพูดหลังจากที่มองไปรอบๆห้องที่เสวี่ยหลี่ทำพังไป เธอบอกว่าถ้ามีคนอื่นเข้ามาเห็นคุณหนูจะถูกมองไม่ดีได้

“ป้าฟาง ฉันขอโทษนะคะ ฉันแค่…” อันที่จริงนี่เป็นการเปิดเผยธาตุแท้ของเธอเอง…เธอมีประกายเย็นชาในสายตาและทันใดนั้นก็ทำเป็นพูดออกมาเพื่อไม่ให้ป้าฟางผิดหวัง
“ไม่เป็นไรค่ะคุณหนู ฉันรู้ว่าคุณหนูกำลังเสียใจมาก…” ป้าฟางกำลังเก็บกวาดห้องอยู่จึงไม่เห็นสายตาที่โหดร้ายของ ไป๋เสวี่ยหลี่ ถ้าเธอเห็น เธอก็คงจะคิดว่าตัวเองตาฝาดไปเอง คุณหนูเป็นเด็กสาวใสซื่อ จะมีนิสัยแบบนั้นได้ยังไง

“ป้าฟาง เดี๋ยวฉันช่วยนะคะ…” ไป๋เสวี่ยหลี่พูดแต่ก็ยังนั่งนิ่งอยู่บนเตียงไม่ขยับ

“ไม่ต้องค่ะ คุณหนูยังเจ็บอยู่ ถ้าคุณชายรู้ คุณชายจะต้องปวดใจแน่ๆค่ะ…” ป้าฟางรีบปฏิเสธ งานแบบนี้ต้องเป็นหน้าที่ของคนใช้อย่างเธอเท่านั้น เธอจะให้คุณหนูลงมาทำได้ยังไง? เธอรู้สึกตื้นตันอย่างมาก ในชีวิตนี้เธอไม่มีลูกและเธอก็พอใจอย่างมาก