ตอนที่ 272 แฟนหนุ่ม / ตอนที่ 273 นายจงใจ

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 272 แฟนหนุ่ม

 

 

           ซือเหยี่ยนมองเขาแวบหนึ่ง ค่อยๆ ชักมือกลับมา ซูเตอร์ชะงักค้าง ไม่ค่อยอยากจะเชื่อสายตาตัวเองเท่าไหร่

 

 

           “ซูเตอร์…ผมเพิ่งตื่นมา ยังไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่ คุณให้ผมพักผ่อนสักหน่อยได้ไหม”

 

 

           ซือเหยี่ยนพูดมาแบบนี้ ซูเตอร์ก็ปฏิเสธไม่ถนัดไปโดยปริยาย เขาทำได้เพียงพยักหน้าอย่างจนใจ “งั้นนายพักผ่อนเถอะ ฉันจะออกไปก่อน”

 

 

           ซูเตอร์ออกจากห้องมา เดินไปถึงข้างนอก ก็อัดหมัดชกใส่ประตูเต็มแรง

 

 

           ตั้งกี่วันมาแล้ว คิดไม่ถึงว่าซือเหยี่ยนจะยังไม่ยอมรับในตัวเขาอีก

 

 

           เขาหรี่ตาลง ความอำมหิตฉายสะท้อนในแววตา เขากวักมือเรียกคนสนิทเข้ามา “ไปถานโจว ช่วยฉันฆ่าเจียงมู่เฉิน อย่าให้เหลือร่องรอย”

 

 

           มีเพียงเจียงมู่เฉินตายแล้วเท่านั้น เขาถึงจะครอบครองซือเหยี่ยนได้อย่างสมบูรณ์ได้

 

 

           “ตอนนี้เหรอครับ”

 

 

           ซูเตอร์กวาดสายตามองเขาแวบหนึ่ง “เดี๋ยวนี้!”

 

 

           “ได้ครับ คุณชายน้อย ผมจะนำคนไปจัดการทันที”

 

 

           ซูเตอร์หรี่ตาลงมองออกไปยังนอกหน้าต่าง เจียงมู่เฉินนะเจียงมู่เฉิน เดิมทีไม่ได้คิดว่าจะต้องฆ่านาย แต่น่าเสียดาย เป็นนายเองที่มาชนปากกระบอกปืนของฉัน

 

 

           ‘ถึงยังไงถ้าไม่กำจัดนายแค่เพียงวันเดียว ฉันก็ไม่มีทางได้ครอบครองซือเหยี่ยน’

 

 

           ……

 

 

           ยามฟ้าใกล้จะมืด ซังจิ่งเพิ่งได้มาเคาะประตูห้องของเจียงมู่เฉิน เขาเห็นเจียงมู่เฉินทรงผมยุ่งเหยิง “มากินข้าวได้แล้ว”

 

 

           “ได้ นายรอฉันแป๊บนึงนะ ฉันเปลี่ยนชุดก่อน”

 

 

           ปัง! เจียงมู่เฉินปิดประตูลง ซังจิ่งเห็นเขาสะบัดประตูแบบนี้ก็ลูบจมูกป้อยๆ ยืนขำรออยู่ข้างนอก

 

 

           เจียงมู่เฉินท่าทางคล่องแคล่วรวดเร็ว เปลี่ยนเสื้อเชิ้ตตัวเดียวก็เดินออกมา ซังจิ่งเลิกคิ้วมองกระดุมสองเม็ดที่เขาจงใจเปิดอ้าเอาไว้

 

 

           เจียงมู่เฉินเห็นสายตาของเขาจดจ่อมาบนเรือนร่างของตัวเอง “ทำไม ประธานซังมีความเห็นอะไร”

 

 

           ซังจิ่งมองดูผิวขาวราวหิมะนั้นแล้วยิ้มหัวเราะ “นอกจากได้ชมอาหารตานิดหน่อย ก็ไม่มีความเห็นอย่างอื่นแล้ว”

 

 

ทั้งสองคนขับรถออกไป สถานที่ซังจิ่งจองเอาไว้อยู่ในเขตเมือง ค่อนข้างเป็นสถานที่คึกคักทีเดียว

 

 

           รถมาจอดตรงทางเข้า ทั้งสองคนถึงเพิ่งได้เดินเข้าไป

 

 

           หลังจากเจียงมู่เฉินนั่งลงแล้ว ซังจิ่งก็ส่งใบเมนูอาหารต่อให้เขา “อยากกินอะไรก็สั่งได้ตามใจเลย”

 

 

           “นายสั่งเถอะ อะไรฉันก็กิน”

 

 

           พอซังจิ่งได้ยินก็ไม่พูดอะไรมากอีก เขายื่นมือไปหยิบใบเมนูอาหารกลับมา สั่งอาหารทันที

 

 

           มีคนไม่กี่คนเดินเข้าประตูมา นั่งลงที่ด้านหลังเจียงมู่เฉินพอดี

 

 

           เจียงมู่เฉินนั่งพิงดื่มน้ำอยู่ตรงนั้น ได้ยินพวกเขาเอ่ยถึง ‘แก๊งมังกรคราม’ ชื่อนี้แว่วๆ มา

 

 

           นัยน์ตาเย็นยะเยือก ระมัดระวังจับตามากขึ้น

 

 

           “เดิมทียังคิดว่าทริปนี้น่าเบื่อเกินไป คิดไม่ถึงว่าคุณชายเจียงก็อยู่ด้วย จู่ๆ กลับรู้สึกว่าสนุกขึ้นมาเยอะเลย”

 

 

           คุณชายเจียงกวาดสายตามองเขา เอ่ยอย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย “ฉันกลับรู้สึกว่าไม่มีประธานซัง จะเงียบสงบมากๆ ได้”

 

 

           ซังจิ่งชินกับนิสัยแบบนี้ของเขามาตั้งนานแล้ว ถ้าวันไหนเจียงมู่เฉินเกรงใจเขาขึ้นมา นั่นถึงจะแปลกแล้วจริงๆ

 

 

           “อยากให้ผมแยกจากคุณชายเจียงเหรอ” ซังจิ่งยักไหล่ “เกรงว่าจะไม่ค่อยยินดีเท่าไหร่”

 

 

           เจียงมู่เฉินยิ้มหัวเราะ ไม่ได้พูดอะไรต่อ

 

 

           คนไม่กี่คนข้างหลังเหมือนว่าหลังจากสั่งอาหารเสร็จแล้วก็นั่งคุยกันอย่างไรอย่างนั้น เจียงมู่เฉินเฝ้าจับสังเกตคนไม่กี่คนด้านหลังนั้นอย่างไม่กระโตกกระตาก

 

 

           “จนถึงตอนนี้แล้ว พวกนายยังดูไม่เข้าใจอีกเหรอ”

 

 

           “ดูอะไรเข้าใจเหรอ”

 

 

           “ฉันได้ยินจากในโถงใหญ่ครั้งหนึ่ง คุณชายรองถามคุณชายน้อยว่าทำไมถึงพาซือเหยี่ยนกลับมาด้วย สุดท้ายนายรู้ไหมว่าคุณชายน้อยพูดยังไงบ้าง”

 

 

            พวกที่เหลือมองเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น “คุณชายน้อยพูดว่า ซือเหยี่ยนเป็นแฟนของเขา คุณชายน้อยยังกอดซือเหยี่ยนดูท่าทีสนิทสนมกันอีก”

 

 

           “ไม่ใช่มั้ง นายพูดจริงๆ เหรอ”

 

 

           “ฉันเห็นกับตาตัวเองมาทั้งหมด จะปลอมได้ยังไง ต่อมาคุณชายรองทำอะไรไม่ได้ ก็ถอนหายใจแล้วเดินออกไปเลย”

 

 

           “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง มิน่าล่ะซือเหยี่ยนคนนี้ถึงอยู่ในแก๊งเข้าออกได้ตามสบาย ไม่มีใครกล้ายุ่ง แม้แต่คุณชายน้อยตรวจดูงาน ก็มีซือเหยี่ยนไปด้วยตลอด”

 

 

            

 

 

ตอนที่ 273 นายจงใจ

 

 

“นี่ก็ไม่ใช่ความลับอะไรแล้ว ได้ยินคนเก่าคนแก่ในแก๊งเล่าว่า หลายปีก่อนซือเหยี่ยนคนนี้เป็นบอดี้การ์ดของคุณชายน้อย ต่อมาไม่รู้ว่าทำไมถึงออกจากแก๊งไป ครั้งนี้ก็กลับมาอย่างน่าประหลาดใจอีก”

 

 

“มีคนอยู่ไม่น้อยบอกว่า ตอนนั้นที่ซือเหยี่ยนหนีไปก็เพราะว่าทะเลาะกับคุณชายน้อยจนเลิกกัน ถึงได้ออกจากแก๊งไป ตอนนี้ทั้งสองคนคืนดีกันแล้ว ก็เลยได้กลับมาโดยปริยาย”

 

 

“เอ่อใช่ ครั้งนี้ซือเหยี่ยนยังโดนยิงเพื่อช่วยชีวิตคุณชายน้อยด้วย คุณชายน้อยไม่หลับไม่นอนอยู่ข้างๆ คอยดูแลทั้งวันทั้งคืนเลย”

 

 

มือเจียงมู่เฉินที่ถือแก้วน้ำไว้กำแน่นสนิท ราวกับนาทีต่อมาจะกำแก้วนี้ให้แตกคามือไม่มีผิด

 

 

หลายปีก่อน คิดไม่ถึงว่าซือเหยี่ยนกับซูเตอร์จะเป็นแฟนกัน

 

 

ตอนนี้ยังกลายเป็นแฟนของซูเตอร์

 

 

ยังรับกระสุนเพื่อซูเตอร์อีก…

 

 

เจียงมู่เฉินยิ้มเยาะ ซือเหยี่ยนนะซือเหยี่ยน ตกลงนายปิดบังฉันไปสักกี่เรื่องแล้วกันแน่

 

 

เขารู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนโง่ไม่มีผิด โดนซือเหยี่ยนปิดหูปิดตา แม้กระทั่งจนถึงตอนนี้เป็นแบบนี้แล้ว ตัวเองได้ยินว่าซือเหยี่ยนบาดเจ็บ ก็ยังอดจะเป็นห่วงเขาไม่ได้

 

 

เจียงมู่เฉินยิ้มหัวเราะ ฟังต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เขาวางแก้วลงด้านข้างแล้วลุกยืนขึ้น

 

 

ซังจิ่งเห็นเขาไม่บอกไม่กล่าวอะไรก็เดินออกไปเลย จึงรีบลุกขึ้นเดินตามออกไป

 

 

เจียงมู่เฉินยืนอยู่หน้าประตู เงาร่างทอดยาวในยามราตรีช่างดูเดียวดายอ้างว้าง เขาเห็นซังจิ่งออกมา เสียงต่ำเอ่ยถาม “มีบุหรี่ไหม”

 

 

ซังจิ่งชะงักงัน ล้วงหยิบบุหรี่จากในกระเป๋ากางเกงออกมาส่งให้

 

 

เจียงมู่เฉินหยิบบุหรี่ออกมาจุดไฟหนึ่งมวน

 

 

ท่ามกลางควันบุหรี่คละคลุ้ง เขาหรี่ตามองดูซังจิ่ง นัยน์ตาดอกท้อคู่นี้มองความรู้สึกไม่ออก เวลาผ่านไปนาน เขาถอนหายใจเบาๆ “นายจงใจพาฉันมาที่นี่สินะ”

 

 

ซังจิ่งกำมือแน่น “ผมยอมรับ ผมจงใจอยากให้คุณได้ยิน”

 

 

เจียงมู่เฉินหัวเราะเบาๆ “เสียแรงตั้งมากมายขนาดนี้ก็แค่อยากให้ฉันรู้ข่าวคราวล่าสุดของซือเหยี่ยนแค่นั้นเหรอ”

 

 

“ผมก็แค่ไม่อยากให้คุณถูกเขาปิดหูปิดตา”

 

 

“ปิดหูปิดตา…” เจียงมู่เฉินฝืนยิ้ม “ที่ฉันโดนเขาปิดหูปิดตาก็เป็นจุดนี้อีก”

 

 

           ซังจิ่งมองดูเจียงมู่เฉิน เขารู้จักเจียงมู่เฉินมานานขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นใบหน้าของเจียงมู่เฉิน แสดงสีหน้าความรู้สึกว้าเหว่แบบนั้นออกมาอย่างจนใจ

 

 

เจียงมู่เฉินที่เขาพบเจอเมื่อก่อน ทั้งเหมือนปีศาจแสนยั่วยวนใจ ทั้งเจ้าเล่ห์เพทุบายวางแผนไม่หยุด ทั้งจิตใจฮึกเหิมห้าวหาญแววตาเด็ดเดี่ยวทรหด

 

 

แต่ครั้งนี้ เจียงมู่เฉินดูว้าเหว่อยู่เต็มๆ ตาจริงๆ

 

 

ซังจิ่งเห็นเจียงมู่เฉินเป็นแบบนี้ หัวใจก็บีบคั้นแน่น

 

 

“ในเมื่อนายรู้ว่าวันนี้จะมีคนในแก๊งมังกรครามมาที่นี่ งั้นนายก็รู้ร่องรอยของซือเหยี่ยนได้อยู่แล้วสินะ”

 

 

ซังจิ่งมองมาทางเขา “คุณอยากเจอซือเหยี่ยน?”

 

 

“ฉันก็แค่อยากจะทำให้แน่ใจ แบบนี้จะได้ตัดใจได้”

 

 

“ช่วงนี้เขาไม่สามารถมาปรากฏตัวได้ ก็เหมือนกับที่คุณเพิ่งจะได้ยินไป เขาโดนยิงบาดเจ็บเพราะช่วยซูเตอร์”

 

 

เจียงมู่เฉินกำมือแน่น กดเก็บความขื่นขมในใจลงไปอย่างช้าๆ “ให้เร็วที่สุดเถอะ ฉันอยากเจอเขา”

 

 

ซังจิ่งพยักหน้า “ได้ ผมจะช่วยคุณ”

 

 

เจียงมู่เฉินสูบบุหรี่มวนสุดท้ายจนหมด “ไปดื่มเป็นเพื่อนฉันหน่อย”

 

 

ซังจิ่งดูสถานการณ์แล้ว ก็ทำได้เพียงขับรถพาเจียงมู่เฉินไปไนต์คลับ เขาจอดรถที่หน้าทางเข้าไนต์คลับ หลังจากเจียงมู่เฉินมองเห็นได้ชัดๆ ก็ตกตะลึงงัน

 

 

ซังจิ่งมองเขา “เป็นไรไป มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”

 

 

เจียงมู่เฉินยิ้มหัวเราะ “ไม่มีอะไร”

 

 

เขาก็แค่คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญขนาดนี้ เข้ามาไนต์คลับกันเรื่อยเปื่อย ไม่คาดคิดว่าจะเป็นร้านนั้นที่เคยมากับซือเหยี่ยนครั้งก่อน

 

 

ซังจิ่งกับเจียงมู่เฉินนั่งลงแถวเคาน์เตอร์บาร์ สั่งเหล้ามาสองแก้ว

 

 

เจียงมู่เฉินเงยหน้ามาก็ดื่มทันที ดื่มอย่างรวดเร็วมาก เขาส่งแก้วเปล่ากลับไป “เอาอีกแก้ว”

 

 

ดื่มต่อกันแบบนี้อยู่หลายแก้ว ซังจิ่งเห็นเขาเอาแต่ซื้อเหล้ามาดื่มแบบนี้ก็ทนไม่ไหวยื่นมือไปห้ามปราม “คุณชายเจียง เหล้าตัวนี้แรงมาก ระวังจะเมาได้”