ตอนที่ 620

The Divine Nine Dragon Cauldron

แม้ว่าหลงจื้อชิงจะมีความปรารถนาดีมาตั้งแต่แรก เขาก็ตกหลุมพรางกับดักนี้! คนรอบๆเงียบลง อีกความหมายที่ฟู่กังซานพูดก็คือบอกว่าทุกคนควรจะร่วมมือกันกำจัดหลงจื้อชิง!

 

ผู้เฒ่าเฉินที่นำกลุ่มผู้เฒ่าตัวแข็งทื่อ เขามีความรู้สึกมากมายเกิดขึ้น ถ้าหากเขาซื่อตรงต่อตัวเอง หลงจื้อชิงในตอนนี้ก็ไม่เหมาะสมที่จะเป็นเจ้าพันธมิตร

 

แต่ในด้านความรู้สึก หลงจื้อชิงได้เป็นผู้นำพวกเขามาหลายปีและสร้างรากฐานที่พวกเขาภักดีมานาน ดังนั้นผู้เฒ่าหลายคนจึงลังเล

 

“ข้าเห็นด้วยที่จะปลดหลงจื้อชิงจากตำแหน่ง ตำแหน่งเจ้าพันธมิตรควรจะอยู่มือผู้เฒ่าที่เหมาะสมกว่า!”

 

คนที่พูดคือผู้เฒ่าจาง ครั้งนี้เขาไม่ได้มากังฟู่หงซื่อ

 

“ข้าเห็นด้วย!”

 

“ข้าก็เห็นควรด้วย หลงจื้อชิงไม่เหมาะจะเป็นเจ้าพันธมิตรอีกต่อไป!”

 

 

เหล่าผู้เฒ่าที่ถูกฟู่กังซานผูกสัมพันธ์ไดพากันเห็นด้วย นี่คือแผนปลดตำแหน่งหลงจื้อชิงที่วางมานาน!

 

“ข้าก็ด้วย!”

 

ผู้เฒ่าบางคนเริ่มตัดสินใจหลังจากที่เห็นบรรยากาศโดยรอบในตอนนี้

 

ไม่ว่าใครจะได้เป็นเจ้าพันธมิตรคนใหม่ หลงจื้อชิงก็ไม่เหมาะสมอีกต่อไปแล้ว เพราะไม่มีใครรู้ว่าใครที่จะถูกหลงจื้อชิงประหารเป็นคนถัดไป

 

สุดท้าย ผู้เฒ่าเฉินเป็นผู้เฒ่าคนเดียวที่ยังไม่เลือกข้าง แต่เวลาก็ยังผ่านพ้นไป

 

ผู้เฒ่าเฉินถอนหายใจมองหลงจื้อชิง

 

“ท่านเจ้าพันธมิตร ท่านควรจะได้พักผ่อนแล้วล่ะ คงจะดีกับท่านและคนอื่นๆด้วย!”

 

“ข้ารู้สึกแย่กับเจ้าตำหนักฉี หลินหยุนฮีและพวกคนที่เหลือที่ตายไปโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ข้ารู้สึกแย่จริงๆ”

 

หลงจื้อชิงใจเต้นแรง หัวใจของเขาสูบเลือดมาถึงลำคอ

 

นี่สินะแผนการที่แท้จริงของฟู่กังซาน!

 

ขับข้าออกจากบัลลังก์!

 

หลังจากที่ข้าถูกปลดออกไป ใครกันจะเป็นเจ้าพันธมิตรคนใหม่? มิใช่ว่าแจ่มชัดอยู่แล้วรึ?

 

เขารู้สึกโง่เขลาที่ไปหลอกฟู่กังซานเพื่อช่วยคนอื่น แท้จริงแล้วคือการตกหลุมพราง!

 

“ท่านเจ้าพันธมิตร เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย โปรดให้พวกข้าดูแลพันธมิตรต่อจากนี้เถอะ”

 

ผู้เฒ่าจางมิได้แสดงสีหน้าแปลกใจออกมาเลย

 

แต่ในใจนั้นเขากำลังหัวเราะอย่างเยือกเย็น เพราะแผนการครั้งใหญ่ของพวกเขากำลังได้ผล!

 

หลงจื้อชิงถูกปลดจากตำแหน่งแล้ว! จากนั้นฟู่กังซานก็จะได้เอาตำแหน่งไปเอง

 

ผู้เฒ่าคนอื่นที่กลายเป็นคนของฟู่กังซานจะได้ตำแหน่งที่สูงสุด จากวันนี้ไป พวกเขาจะได้ความมั่งคั่งและเกียรติยศไม่รู้จบ

 

เหล่าผู้เฒ่าเงียบไปนาน เพราะหลงจื้อชิงเป็นกึ่งภูติที่มีแก้วพลังชีวิตสามดวง ตอนนี้เขาเสียสติไปแล้ว คงไม่มีกฎเกณฑ์ใดที่ฉุดรั้งเขาได้อีก ทุกคนจะต้องระวังหลงจื้อชิง

 

หงจื้อชิงมิได้ตอบโต้อะไร แม้พลังของเขาจะแข็งแกร่งเท่าเดิม แต่ถ้าเขากล้าทำอะไรตอนนี้ นั่นก็จะเป็นการยืนยันกับทุกคนว่าเขาเสียสติไปแล้วจริงๆ จากนั้นฟู่กังซานก็จะใช้โอกาสนี้จู่โจมเขาให้บาดเจ็บหนัก แต่ถ้าหากฟู่กังซานไม่ปรานี เขาก็อาจจะถูกสังหาร!

 

“ถ้าเช่นนั้น ท่านเจ้าพันธมิตร โปรดส่งแก่นกฎสวรรค์มา ท่านไม่ได้อยู่ตำแหน่งที่ต้องถือครองมันอีกแล้ว”

 

ผู้เฒ่าจางยื่นมือ

 

“คงจะดีกว่าถ้าเอามันให้กับคนที่แข็งแกร่งที่สุด เผื่อมีเรื่องฉุกเฉินเกิดขึ้น”

 

คนที่แข็งแกร่งที่สุดก็ต้องเป็นฟู่กังซานอยู่แล้ว! คนรอบข้างไม่มีความเห็นอื่นในเรื่องนี้ เพราะเรื่องนี้คือความปลอดภัยของเรือรบ ดังนั้นคนที่เหมาะสมที่สุดก็คงไม่พ้นฟู่กังซาน

 

ฟู่กับซานทำหน้าตกใจ

 

“พวกเจ้าเชื่อใจข้าขนาดนี้เชียวรึ ถ้าเช่นนั้นข้าจะปกป้องแก่นกฎสวรรค์ด้วยชีวิต! ถ้ามันยังอยู่ ข้าก็จะอยู่ ถ้ามันถูกทำลาย ข้าก็จะตกตายตามกัน!”

 

คำพูดนี้ทำให้หลายคนเชื่อใจ แม้หลงจื้อชิงจะลังเล เขาก็ยื่นแก่นกฎสวรรค์ให้กับฟู่กังซาน

 

สิ่งนี้คือสิ่งที่เจ้าพันธมิตรจะได้ควบคุม และถ้าตอนนี้มันอยู่ในมือฟู่กังซาน ฟู่กังซานก็นับว่าเป็นเจ้าพันธมิตรอย่างเป็นทางการแล้ว

 

หลงจื้อชิงสูญเสียทุกอย่างไปในพริบตา! การเปลี่ยนแปลงของพันธมิตรผู้คุมสวรรค์นี้เกิดขึ้นจากแผนการที่วางมาไว้อย่างดี! ดังนั้นจึงมีหลายคนในพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ที่ยังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องนี้ขึ้น!

 

 

ในห้องของหลงจื้อชิง มีทหารที่เขาเชื่อใจห้าคนถูกส่งออกไปแล้ว คนที่เฝ้าประตูตอนนี้คือคนที่ฟู่กังซานเชื่อใจมากที่สุด

 

และห้องนี้ยังถูกปรับแต่งด้วยวัตถุดิบพิเศษที่ใช้สร้างตรวนขังภูติ ไม่มีทางเลยที่หลงจื้อชิงจะหนีออกไปได้ แม้จะถูกประกาศว่ามันเป็นแค่การกักบริเวณเพื่อดูท่าที แต่ควาจริงก็คือเจ้าพันธมิตรคนเก่าได้ถูกจองจำ!

 

“ท่านเจ้าพันธมิตร ท่านอยู่สบายหรือไม่?”

 

ฟู่กังซานยืนกอดอกอยู่หน้าประตู เขายิ้มอย่างผู้มีอำนาจ

 

เขาไม่แม้แต่จะพยายามเก็บซ่อนคำถากถาง

 

“ข้าว่าท่านคงไม่คิดว่าเจ้าพันธมิตรผู้ยิ่งใหญ่จะตกมาอยู่ในสภาพน่าสังเวชเช่นนี้!”

 

ที่นี่เต็มไปด้วยคนของฟู่กังซาน เขาไม่สนใจอยู่แล้วว่าจะถูกจับได้ ระหว่างทั้งคู่มีประตูและหน้าต่างขวางกั้น หลงจื้อชิงหันหลังให้ฟู่กังซาน ที่มุมปากของเขาแสดงถึงความขมขื่น

 

เขามิอาจเชื่อว่าตัวเองจะถูกจองจำ ความอัปยศเช่นนี้มิอาจทานทนได้ แต่เรื่องก็ผ่านมาไกลขนาดนี้แล้ว ไร้ความหมายหากเขาจะตอบโต้

 

สิ่งเดียวที่เขารู้สึกดีก็คือแม้ว่าเขาจะตกต่ำ เขาก็มั่นใจว่าเจ้าตำหนักฉี หลินหยุนฮี กับซือหยูหนีไปได้สำเร็จ เขาได้ทำความดีก่อนตายแล้ว

 

“หึหึ ต้องบอกเลยว่าแผนท่านรอบคอบนัก การแสดงของท่านก็เหนือชั้น! ใช่เลย…ฆ่าคนของข้าแล้วปล่อยให้เจ้าตำหนักฉีกับอีกสี่คนที่เหลือหนีไป…”

 

ฟู่กังซานยิ้มอย่างน่าเกลียด

 

หลงจื้อชิงตัวสั่น เขาหันไปถามทันที

 

“พูดอะไรของเจ้า? ข้าไม่รู้เรื่อง!”

 

“ฮ่าๆๆ ท่านคิดจริงๆรึว่าท่านช่วยให้พวกมันหนีไปได้? คิดว่าข้าไม่รู้เรื่องเลยงั้นรึ? ดูเหมือนท่านจะเจอคนทรยศห้าคนในคนอารักขาสิบคนของท่าน แต่ยังมีอีกคนที่ท่านไม่รู้!”

 

ฟู่กังซานหัวเราะอย่างเยือกเย็นเมื่อพูด

 

มีคนที่เขาเชื่อใจอีกคนที่ถูกติดสินบน! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมฟู่กังซานถึงมาที่ประหารในไม่นานหลังจากที่เขาลงมือ! พูดอีกอย่างคือ แผนของเขาเป็นที่รู้แก่ฟู่กังซานมาโดยตลอด แม้แต่ที่อยู่ของพวกซือหยูก็ถูกเปิดเผยแล้ว!

 

ที่รอคอยเจ้าตำหนักฉีกับคนอื่นอยู่หาใช่อิสรภาพ แต่เป็นการซุ่มโจมตี!

 

ฟู่กังซานจะต้องไม่ปล่อยให้พวกเขารอดไปแน่ เขาจะต้องทำให้แน่ใจว่าทั้งห้าคนจะต้องตายอย่างทรมาน

 

หลงจื้อชิงเจ็บปวด เขามองท้องนภาและถอนหายใจ

 

“ข้าผิดไปแล้ว…”

 

แม้เขาจะวางแผนทุกอย่างโดยละเอียด ท้ายสุดมันก็ไม่ได้อะไรเลย แผนทำให้เขาถูกปลดจากอำนาจ ที่แย่ที่สุดคือเขายังช่วยชีวิตห้าคนนั้นไม่ได้!

 

 

ร้อยลี้จากเรือรบ

 

ที่เหนือยอดเขา คลื่นพลังมิติแผ่ออก คนห้าคนปรากฏตัว เจ้าตำหนักฉีกับคนที่เหลือที่อยู่ในเรือรบมานานรู้สึกราวกับได้เห็นท้องนภาเป็นครั้งแรก

 

“น่าเสียดายนักที่เจ้าพันธมิตรยังอยู่ในเรือ ข้าหวังว่าเขาจะจัดการภาระที่นั่นได้”

 

เจ้าตำหนักฉีถอนหายใจ

 

หลินหยุนฮีถอนหายใจเช่นกัน

 

“ไปกันเถอะ เราไม่ควรจะทำให้แผนของเจ้าพันธมิตรหลงสูญเปล่า”

 

แต่ซือหยูยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน เขาหันไปหากังต้าเหล่ย

 

“ต้าเหล่ย ไปกับคนอื่นๆซะ ข้าต้องกลับไปเสียครู่หนึ่ง”

 

“อะไรนะ? กลับไปเรอะ?”

 

กังต้าเหล้ยคิดว่าเขาหูฝาด

 

ฉีตงไล่ตกตะลึง

 

“เราแทบจะหนีออกมาไม่ได้ เจ้าจะกลับไปทำไมกัน?”

 

ซือหยูมองเรือรบ สายตาของเขาเย็นชา

 

“ตอนนี้ไม่มีสิ่งใดให้ข้าเป็นห่วงแล้ว ตอนนี้ต้องมีคนที่จะถูกจัดการ…”

 

หลินหยุนฮีมองซือหยูด้วยความสงสัย เขาถามด้วยเสียงที่ดูเคร่งเครียด

 

“ซือหยู บอกข้าได้หรือไม่ว่าเจ้ามีพลังระดับใด?”

 

กังต้าเหล่ยกับคนอื่นก็รู้สึกว่ามีบางเรื่องที่แปลก ราวกับว่าซือหยูไม่ได้เห็นพันธมิตรผู้คุมสวรรค์อยู่ในสายตาเลย เขาถึงได้กล้าพูดเช่นนั้นออกมา!

 

ซือหยูยักไหล่

 

“ข้าก็ไม่รู้ ข้าได้แค่ลองเท่านั้น”

 

ถ้าหากไม่ได้ต่อสู้กับภูติจริงๆ เขาก็คงไม่รู้ว่าเขาทำอะไรได้บ้าง

 

“แต่ข้าเชื่อว่าถ้าข้าอยากจะหนีออกจากพันธมิตรผู้คุมสวรรค์…จะไม่มีใครที่นั่นหยุดข้าได้ แม้จะราชาโลกดับสูญก็ตาม”

 

ซือหยูมั่นใจในเรื่องนี้มาก แม้แต่จางตี๋เก้อที่เคยเป็นจ้าวเทวะก็ต้องพยายามอย่างมากเพื่อที่จะจับตัวซือหยู

 

เฮือก!

 

ฉีตงไล่สูดหายใจเข้าลึก ในใจเต็มไปด้วยความคิดและคำถามมากมาย…

 

ช่างเป็นคำพูดที่อาจหาญนัก!

 

ที่พันธมิตรผู้คุมสวรรค์เป็นอย่างไรน่ะรึ? มันสูงส่งและทรงพลังราวกับเมฆายักษ์ใหญ่ที่เป็นรองอยู่แค่อาณาจักรทมิฬ! มันยิ่งใหญ่กว่าตระกูลโบราณทั้งแปดอย่างมาก!

 

พลังอำนาจระดับนี้คงจะมีแค่ผู้เฒ่าจิวหรือคนที่แข็งแกร่งเท่าเขาเท่านั้นที่จะก้าวข้ามได้

 

หลินหยุนฮีตกใจในบางเรื่อง

 

“หลังจากที่ได้ฝึกฝนในกระโจมเทพสวรรค์ เจ้าได้กลายเป็นคนละคนไปแล้ว”

 

กังต้าเหล่ยตกตะลึงจนหมดคำพูด ตลอดมาที่เขารู้จักซือหยู ซือหยูไม่เคยเป็นคนที่กล้าพูดว่าตัวเองสูงส่ง เขากลับอ่อนน้อมอยู่เสมอ เวลานี้ เขากล้าพูดออกมาแบบนั้น เขาจึงตระหนักได้ว่าตัวเองประเมินซือหยูต่ำเกินไปมาโดยตลอด!

 

แววตาอันงดงามของฉีหยุนเซี่ยงเปล่งประกาย ซือหยูแข็งแกร่งกว่าที่นางคิดเสียอีก! นางไม่สงสัยในเรื่องที่ซือหยูยอมอ่อนข้อเพื่อความปลอดภัยของพวกนางอีกแล้ว!

 

“เอาล่ะ เราจะรอเจ้าในระยะปลอดภัยในทิศทางนี้”

 

ฉีตงไล่มองซือหยูและแอบถอนหายใจ ย้อนกลับไปเมื่ออยู่ในคุก เขายังไม่ได้สัญญาจากปากซือหยูว่าจะแต่งงานกับฉีหยุนเซี่ยง และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีทางเกิดขึ้น

 

ซูม

 

แต่จากนั้น ในระยะห้าสิบลี้ เมฆาทมิฬพุ่งมาหาพวกเขา! เมื่อมองลึกเข้าไป มันมิใช่เมฆา แต่เป็นกลุ่มกึ่งภูติที่มีแก้วพลังชีวิตสองดวงมากกว่าสิบคน! คนเหล่านี้คือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในพันธมิตรผู้คุมสวรรค์!

 

หัวหน้าเป็นชายหนุ่มในชุดหลากสี เขาพบตัวซือหยูกับคนที่เหลือและหัวเราะเสียงดังด้วยความโล่งใจ

 

“พวกเจ้ามาอยู่ที่นี่สินะ! ปล่อยให้พวกข้าหาจนทั่ว!”

 

แม้ว่าพวกเขาจะแอบมาซุ่มล่วงหน้า เวทยักย้ายก็ส่งตัวคนทั้งห้าแบบสุ่ม พวกเขาไม่แน่ใจว่าทั้งห้าคนจะถูกส่งตัวไปยังตำแหน่งไหน

 

ดังนั้นพวกเขาต้องทำการค้นหาในระยะร้อยลี้จากเรือรบ เมื่อพวกเขาพบตัวกลุ่มซือหยูแล้วจึงได้วางใจ

 

ซูม

 

ความเร็วของกึ่งภูติที่มีแก้วพลังชีวิตสองดวงนั้นแทบจะมองตามไม่ทัน พริบตาเดียวพวกเขาก็ล้อมพวกซือหยูเอาไว้

 

“ฟู่หงซื่อ! เจ้ารู้ได้ยังไงว่าเราอยู่ที่ไหน?”

 

ฉีหยุนเซี่ยงตกใจมาก คนที่นำมาคือฟู่หงซื่อที่มาซุ่มรอก่อนหน้านี้

 

“หึหึ เจ้าคิดว่าแผนของหลงจื้อชิงสมบูรณ์แบบ แต่เจ้าไม่รู้ว่าเขาต้องกับดักพวกข้า! ฮ่าๆๆ”

 

ฟู่หงซื่อหัวเราะเสียงดัง

 

หลินหยุนฮีใจหายใจทันที

 

“เจ้าจะพูดอะไร? เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าพันธมิตรหลง?”

 

ฟู่หงซื่อหัวเราะและบอกความจริงกับคนทั้งห้า

 

“ข้าต้องพูดอีกรึ? แน่ล่ะ เจ้าพันธมิตรหลงถูกเหล่าผู้เฒ่าปลดจากตำแหน่ง เขาไม่ได้เป็นเจ้าพันธมิตรอีกแล้ว มันควรจะจบแล้วล่ะ จะเป็นตายข้าไม่รู้หรอก”

 

อะไรนะ? ฉีตงไล่กับหลินหยุนฮีตาค้าง หลงจื้อชิงถูกปลดจากตำแหน่ง และความเป็นความตายยังบอกไม่ได้อีกรึ? พวกเขาไม่รู้เรื่องนี้เลย

 

“ถ้าเจ้าบอกพวกข้าเรื่องนี้ เช่นนั้นเจ้าก็ไม่คิดจะปล่อยให้พวกข้ามีชีวิตรอดสินะ?”

 

ฉีหยุนเซี่ยงฉลาดมาก นางรู้ทันทีว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ใด

 

ฟู่หงซื่อตอบด้วยราคะ

 

“ใช่แล้ว! พวกเจ้าทุกคนต้องตาย! เพื่อแผนของท่านปู่ หยุนเซี่ยงเอ๋ย ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากทำลายบุพผาที่กำลังเบ่งบาน แต่เจ้าไม่ต้องห่วง ก่อนเจ้าตาย ข้าจะดูแลเจ้าอย่างดี!”

 

ฟู่หงซื่อเข้าใกล้นางโดยมีการคุ้มกันจากกึ่งภูติสองคน…