เทพธิดาคนที่ห้าไล่ตามแดร์ริลเข้าไปในป่าและเธอก็พลาดท่าติดกับอยู่ในค่ายกล แดร์ริลรีบวิ่งเข้ามาหาเธอและสะกดจุดปิดผนึกเธอแล้วเขาก็อุ้มตัวเธอกลับไปที่เต็นท์ของเขา
อย่างไรก็ตาม แดร์ริลไม่ได้คาดคิดว่าหลังจากปราบเทพธิดาคนที่ห้าแล้ว เทพธิดาคนที่สี่ ที่สาม ที่สอง จากพระราชวังฟูเหยาจะมาที่ค่ายทหารในคืนเดียวกัน พวกเธอค่อย ๆ ทยอยมาถึงกันทีละคน
แดร์ริลล่อลวงพวกเธอทั้งหมดเข้าไปในป่า ก่อนที่เขาจะจับตัวพวกเธอไว้ด้วยกับดักค่ายกลของเขา
เทพธิดาคนที่สามและสี่ เดินทางมาพร้อมกันและพวกเธอทั้งคู่ก็ตกหลุมพรางของแดร์ริลจนถูกจับตัวไป
ยกเว้นเทพธิดาคนโตสุด เจ้าพระราชวังทั้งหกคนแห่งพระราชวังฟูเหยาต่างถูกจับตัวไว้ได้ด้วยฝีมือของแดร์ริล เขาสะกดจุดปิดผนึกพวกเธอและนำตัวไปที่เต็นท์
…
อีกทางด้านหนึ่งที่หอคอยดาวปราถนา
เมื่อสำนักต่าง ๆ หลับใหลกันไปหมดแล้ว เซปไฟร์ก็แอบย่องขึ้นไปบนชั้นสองด้วยตัวคนเดียว
แดร์ริลได้บอกกับเซปไฟร์ว่าพ่อแม่ของเขาถูกขังไว้อยู่ที่ชั้นสอง ทุกคนกำลังหลับในตอนที่เซปไฟร์สืบหาชั้นสองอย่างเงียบเชียบ
ทันทีที่เขาขึ้นไปถึงชั้นสอง เซปไฟร์ก็ตกตะลึง ความเศร้าโศกและความโมโหที่อธิบายไม่ได้เกิดขึ้นในใจของเขา!
เขามองเห็นเดรกและภรรยาถูกขังอยู่ในห้องด้านข้างบันได มีเพียงแค่กองฟางอยู่ในห้อง มันไม่มีเตียงที่เหมาะสมสำหรับการนอนพักผ่อน
เดรกและภรรยาของเขาดูซีดเซียวและอิดโรย พวกเขาขดตัวอยู่ที่มุมห้องขณะนอนกอดกัน ที่น่าตกใจยิ่งไปกว่านั้นคือคู่สามีภรรยาผู้อาวุโสคู่นี้เนื้อตัวปกคลุมไปด้วยคราบเลือด! มีร่องรอยการถูกโบ้ยและเฆี่ยนตีมากมายบนร่างกายของพวกเขา!
พวกเขาถูกปฏิบัติราวกับเป็นอาชญากร!
หัวใจของเซปไฟร์เดือดดาลด้วยความโมโห เขาเดินมุ่งเข้าไปหาพวกเขาและตะคอกใส่ยามที่ยืนอยู่หน้าประตู “เปิดประตู!”
ไอ้เวรตะไล! คู่สามีภรรยาผู้อาวุโสคู่นี้กระทำการอะไรถึงต้องถูกปฏิบัติเช่นนี้? เขาคิดว่าพ่อแม่ของประมุขสำนักจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีต่อให้พวกเขาจะถูกควบคุมตัว เขาไม่เคยนึกไม่เคยฝันมาก่อนว่าพวกเขาสองคนจะตกมาอยู่ในสภาพน่าอนาถเยี่ยงนี้ เซปไฟร์โมโหจัด!
สาวกของสำนักบู๊ตึ๊งสองคนที่เฝ้าอยู่หน้าประตูต่างมองหน้ากัน “ท่านขุนพลเซปไฟร์ เราเปิดให้ไม่ได้ ถ้าหากไม่ได้รับคำสั่งมาจากท่านเจ้าสำนัก”
สาวกสองคนนั้นสังเกตุได้ว่าเซปไฟร์กำลังขุ่นเคืองเดือดดาล อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะเปิดประตูคุกโดยไม่ได้รับคำสั่งจากเจ้าสำนัก
“ไอ้เลวระยำ เปิดประตูเดี๋ยวนี้!” เซปไฟร์บันดาลโทสะเมื่อเขาแผดเสียงดังลั่น เขากระชากคอเสื้อของสาวกคนนั้น สะบัดข้อมือและกริชก็ปรากฏขึ้นอยู่ในมือ เขาวางมันกดลงไปที่คอของสาวก
“ปล่อยตัวพวกเขาไป! อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำ” เสียงของเซปไฟร์เย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง!
สาวกกลัวจนตัวสั่น เหงื่อที่เย็นยะเยือกไหลย้อยจนทำให้ตัวเขาเปียกโชก!
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาจากทางบันได “ใครกันช่างเหิมเกริมมาสร้างปัญหาที่ตรงนี้?”
ร่างสองคนก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นอย่างช้า ๆ เมื่อพวกเขาสองคนเดินขึ้นมาถึงที่ชั้นสองก็พบว่าเป็น เคนท์และเมแกน
คนที่กล่าวคือเคนท์
สำนักจอมยุทธทั้งหมดต่างมารวมตัวกันที่หอคอยดาวปราถนา เพื่อปกป้องจักรวาลโลกจากกองทัพโลกใหม่ เคนท์มาที่นี่ก็เพื่อเยี่ยมเยือนเมแกน
เคนท์แวะมาเยี่ยมเมแกนอีกครั้งในคืนนี้ พวกเขากระซิบกระซาบกันและไม่ทันได้คาดคิดว่าจะเจอกับเซปไฟร์
“แกเป็นใคร? แกรู้ไหมว่าพวกเขาเป็นใครและทำไมพวกเขาถึงถูกจับตัวมา? แกจะมาสั่งให้ปล่อยตัวพวกเขาไปง่าย ๆ ได้ยังไง?” เคนท์เดินเข้าไปหาพวกเขา
เคนท์ไม่รู้จักตัวตนจริง ๆ ของเซปไฟร์ เขาเหมารวมไปว่าเซปไฟร์เป็นคนธรรมดา
น้ำเสียงที่เหลืออดของเคนท์ยิ่งทำให้เซปไฟร์โกรธมากขึ้นไปอีก เซปไฟร์แสยะ “ถ้าอย่างนั้น ทำไมนายไม่บอกฉันมาล่ะ ว่านักโทษสองคนนี้คือใคร?”
“พวกเขาเป็นพ่อแม่ของแดร์ริล พ่อแม่ของไอ้คนจัญไร” เคนท์กล่าวขณะเขาแค่นเสียง “สิ่งที่แดร์ริลทำมันให้อภัยไม่ได้ เขาสมรู้ร่วมคิดกับกองทัพโลกใหม่ พ่อแม่ของเขาก็คงไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอนถ้าหากพวกเขาเลี้ยงดูแดร์ริลเติบโตมากลายเป็นคนแบบนั้น พวกเขาสมควรได้รับบทลงโทษที่รุนแรงมากกว่าแค่ถูกขังในคุก!”
เคนท์เกลียดแดร์ริลเข้าไส้ ดังนั้นเขาจึงเหี้ยมโหดและฉุนเฉียวกับการแสดงความคิดเห็นของเขา
เมแกนก็มีท่าทีเย็นชาแสดงเด่นชัดอยู่บนใบหน้าของเธอ สายตาของเธอไม่แยแส
เมแกนเห็นด้วยกับเคนท์ พ่อแม่ของแดร์ริลสมควรได้รับการลงโทษที่รุนแรงกว่านี้ในการเลี้ยงดูสั่งสอนคนอย่างแดร์ริลให้เติบโตขึ้นมา
หลังจากที่เขาได้ยินสิ่งที่เคนท์กล่าว ดวงตาของเซปไฟร์ก็กลายเป็นสีแดงเถือกในทันที เขาเดินเข้าไปหาเคนท์ด้วยความระมัดระวังและสุขุมรอบคอบ
ความเดือดดาลคุกรุ่นอยู่ในตัวเขา
‘ท่านประมุขสำนักได้ละทิ้งความคับข้องใจในอดีตของเขาและรับสั่งให้บรรดาสาวกสำนักประตูสุราลัย ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับสำนักเหล่านี้เพื่อปกป้องเมืองตงไห่’
‘ท่านประมุขสำนักคือวีรบุรุษตัวจริงในสถานการณ์ภาพรวมทั้งหมด! ยังไงก็แล้วแต่ คนเหล่านี้ยังดูหมิ่นดูแคลนเขาที่ลี้ภัยไปในค่ายของอริศัตรูและถึงขั้นจับตัวพ่อแม่ของเขามาซ้อมทรมานอย่างโหดเหี้ยม!’