แดนนิรมิตเทพ บทที่ 681
“เสี่ยวหยู ขอยืมเงินของเธอก่อน รอพี่พลิกเอาทุนกลับคืนมาแล้วจะคืนให้เธอทันที!” ฉีหมิงซานมองฉีเยว่หยูด้วยสีหน้าร้อนใจ

ฉีเยว่หยูส่ายศีรษะด้วยสีหน้ากังวล “พี่ ฟังคำเตือนของฉันเถอะ อย่าเดิมพันอีกเลย!”

“เธอวางใจเถอะ ถ้าพี่ได้เงินที่เสียไปกลับคืนมาแล้ว พวกเราจะไปทันที!” ฉีหมิงซานสาบานด้วยความจริงใจ

“พี่…….” ฉีเยว่หยูยังอยากจะโน้มน้าว แต่ถูกขัดจังหวะจากเสียงตะโกนด้วยความโมโหของฉีหมิงซาน “เอามา!”

เมื่อเห็นฉีหมิงซานยื่นมือออกมา ฉีเยว่หยูกัดริมฝีปากเบา ๆ แต่ไม่ขยับเขยื้อน

หวางเส้าหยู่กล่าวเยาะเย้ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คุณชายฉี ตอนนี้คุณไม่สามารถควบคุมได้แม้แต่น้องสาว เกรงว่าต่อไปธุรกิจของตระกูล คงจะไม่มีส่วนแบ่งของคุณเลย!”

สีหน้าของฉีหมิงซานเคร่งขรึม สายตาที่มองฉีเยว่หยูมีความโกรธเล็กน้อย และกล่าวเสียงดังว่า “ฉีเยว่หยู เอาบัตรธนาคารของเธอมาให้พี่เดี๋ยวนี้!”

ฉีเยว่หยูรู้สึกโมโหและมองหวางเส้าหยู่ที่แสดงสีหน้ารู้สึกมีความสุขกับความโชคร้ายของคนอื่น แล้วหันไปมองฉีหมิงซานที่บ้าคลั่งไปแล้ว เธอทำได้เพียงแอบถอนหายใจ แล้วยื่นบัตรธนาคารให้พี่ชาย

“พี่ เห็นได้ชัดว่าหวางเส้าหยู่เจตนายั่วยุพี่ พี่ต้องคิดด้วยความรอบคอบ!”

ฉีหมิงซานไม่ยอมรับฟัง และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “พี่รู้ว่าเขากำลังยั่วยุพี่ แต่พี่รู้อย่างชัดเจนว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่!”

“หวางเส้าหยู่ เดิมพันอีกเกม!”

ฉีหมิงซานไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้อีกต่อไป เพราะการพนันนั้น ยิ่งร้อนอกร้อนใจที่จะพลิกเอาทุนคืน ก็ยิ่งมีโอกาสเสียมากยิ่งขึ้น เพราะถ้าขาดสติ แล้วจะไม่แพ้ได้อย่างไร?

เขาเสียเงินที่ได้รับจากฉีเยว่หยูไปอย่างรวดเร็ว หลังจากคำนวณแล้ว ฉีหมิงซานเสียเงินพนันไปสิบกว่าล้าน

ตัวเลขนี้ แม้แต่พ่อของฉีหมิงซานก็ยังรู้สึกเจ็บปวด

หวางเส้าหยู่หัวเราะด้วยความลำพองใจ “คุณชายฉี จะเดิมพันไหม?”

“เดิมพัน!” ฉีหมิงซานกัดฟันด้วยความแค้น ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ ตอนนี้เขาเกือบจะเข้าสู่สภาวะคลุ้มคลั่งแล้ว

หวางเส้าหยู่ยิ้มเล็กน้อย และกล่าวด้วยความเหยียดหยามว่า “แต่คุณชายฉีไม่มีเงินแล้ว จะเอาอะไรมาเดิมพันกับผม?”

ฉีหมิงซานสัมผัสร่างกายตนเอง หยิบกุญแจรถออกมาจากกระเป๋าแล้ววางบนโต๊ะ “รถสปอร์ตปอร์เช่คันนี้ผมซื้อเมื่อเดือนที่แล้ว ด้วยราคาสามล้าน จะเดิมพันไหม?”

หวางเส้าหยู่ลูบคางแล้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “สามล้าน? สมราคา!”

ฉีเยว่หยูที่อยู่ด้านข้างกระทืบเท้าด้วยความร้อนใจ ถ้าเขายังคงเดิมพันแบบนี้ต่อไป มีเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอให้เขาเสียหรอก

“ยานเอ๋อร์ คุณช่วยเกลี้ยกล่อมพี่ชายของฉันด้วยเถอะ เขาน่าจะเชื่อฟังคำพูดของคุณ!” ฉีเยว่หยูรู้สึกสับสนวุ่นวาย และไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร

มู่หรงยานเอ๋อร์รู้สึกว่าตอนนี้ผีพนันเข้าสิงฉีหมิงซานแล้ว ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปมันก็จะเกิดปัญหาได้ง่าย ยังไงก็ตาม พวกเขาก็มาที่นี่มาด้วยกัน เธอจึงอยากจะช่วยเขามาก

แต่เธอไม่สามารถช่วยฉีหมิงซานได้ ตอนนี้มีเพียงเฉินโม่เท่านั้นที่สามารถช่วยฉีหมิงซานได้

เธอเหลือบมองเฉินโม่ที่กำลังนั่งอยู่ในพื้นที่พักผ่อนอย่างเงียบ ๆ มู่หรงยานเอ๋อร์แนบลำตัวไปอยู่ข้างหูฉีเยว่หยู เตือนเบา ๆ ว่า “ฉันไม่สามารถช่วยพี่ชายของคุณได้ แต่มีบุคคลหนึ่งทำได้ แต่ฉันไม่กล้ารับประกันว่าเขาจะยอมช่วยพวกคุณไหม?!”

ฉีเยว่หยูรู้สึกดีใจมากแล้วรีบถามว่า “ใครเหรอ?”

มู่หรงยานเอ๋อร์กระซิบว่า “เฉินโม่!”

“เฉินโม่!” ฉีเยว่หยูตกตะลึงชั่วขณะ สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย มองมู่หรงยานเอ๋อร์ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “เฉินโม่สามารถช่วยพี่ชายของฉันได้จริงหรือ?”

มู่หรงยานเอ๋อร์พยักหน้ายืนยัน “ขอเพียงแค่เขาอยากช่วย ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เขาทำไม่ได้!”

สำหรับมู่หรงยานเอ๋อร์แล้ว เฉินโม่เกือบจะเป็นเทพเจ้าแล้ว!

เมื่อเห็นมู่หรงยานเอ๋อร์มั่นใจในตัวเฉินโม่มากขนาดนี้ ทำให้ฉีเยว่หยูเกิดความรู้สึกเชื่อมั่นเล็กน้อย เธอรู้สึกมานานแล้วว่าเฉินโม่มีบางอย่างที่เธอไม่สามารถมองทะลุได้ บางทีเฉินโม่อาจจะมีความสามารถเช่นนั้นจริง ๆ