ตอนที่ 1657 มอนสเตอร์ระดับจ้าวเทวะ

Monster Paradise

ตอนที่ 1657 มอนสเตอร์ระดับจ้าวเทวะ

 

หลังกลับออกเขตแดนเทพมายังดาวริคกี้อีกครั้ง หลินฮวงก็เทเครื่องดื่มให้ตัวเองอีก

 

ครั้งนี้ เขาไม่ไประเบียง เขากลับนั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่นและเริ่มครุ่นคิด สายตาของเขาไม่ได้มองอะไรเป็นพิเศษ

 

ก่อนหน้านี้เขาตั้งคําถามเกี่ยวเฮยเรื่องการยกระดับพลังและเลื่อนชนชั้นของมอนสเตอร์ คําตอบของเสี่ยวเฮยคือไร้ผลข้างเคียง

 

สักพักเสี่ยวเฮยก็อธิบายว่าทําไมถึงไร้ผลข้างเคียง

 

การ์ดทั้งหมดที่เสี่ยวเฮยสร้างมาจากพลังงานของหลินฮวง

 

ความต่างระหว่างการสร้างการ์ดมอนสเตอร์และการ์ดคุณสมบัติคือการ์ดมอนสเตอร์ จะครอบครองสํานึกรู้ของตัวเอง สํานึกรู้นี้ไม่อาจสร้างขึ้นมาเองได้ เสี่ยวเฮยต้องแบ่งเมล็ดพันธุ์จิตสํานึกออกมาเพื่อฝังลงในการ์ดเหล่านี้

 

แต่ทว่า หลังเมล็ดพันธุ์จิตสํานึกเข้าการ์ดมอนสเตอร์ต่างๆ พวกมันจะเติบโตเป็นนิสัยทุกประเภทหลังดูดซับแก่นของความทรงจําและมรดก

 

พูดง่ายๆ การ์ดมอนสเตอร์ทั้งหมดที่เสี่ยวเฮยสร้างผ่านการจับพลังงานต้นกําเนิดคือร่างโคลนของมัน

 

พูดตามตรง ไม่ว่าจะเป็นไป แลนเซล็อต ไคลี่หรือชาโคลทั้งหมดก็คือร่างจําแลงของเสียวเฮยบนโลกวัตถุที่มีลักษณะนิสัยต่างกันเท่านั้นเอง

 

ดังนั้น พวกไปจึงสามารถเลื่อนระดับได้โดยไม่มีผลข้างเคียง พวกมันสามารถสืบทอดห่วงโซ่ลําดับเทพกับพลังกฏเทพได้โดยไร้ภาระ

 

ตราบเท่าที่มีพลังงานต้นกําเนิดพอและเสี่ยวเฮยก็มีอํานาจพอ พวกมันจะสามารถเลื่อนเป็นสี่งมีชีวิตที่สูงกว่าจ้าวเทวะได้โดยไร้ผลข้างเคียง

 

ไม่ช้าหลินฮวงก็ถูกดึงออกจากภวังค์ด้วยคลื่นพลังงานภายในวังจอมเทพ

 

ต้องขอบคุณกระแสเวลาที่เร่งเร็วขึ้นหมื่นเท่า พวกแลนเซล็อตกลายเป็นจ้าวเทวะในเวลาไม่ถึงห้านาทีในโลกภายนอก

 

หลินฮวงกลับไปวังจอมเทพในชั่วพริบตา

 

หลังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของมอนสเตอร์ทั้งสามที่กลายเป็นจ้าวเทวะแล้ว หลินฮวงถึงสบายใจ

 

เขาตรวจสอบการ์ดพวกมันใหม่

 

ทั้งสามสร้างผนึกเต่ําสําเร็จแล้ว แม้จะเป็นแค่ผนึกเต๋ระดับหนึ่ง แต่ก็มีตราประทับเต๋ากว่าสองหมื่นบนผนึกเต่พวกมัน

 

นี่เทียบได้กับจ้าวเทวะขั้นต่ําหลายคนที่สร้างผนึกเต๋สิบอันแล้ว

 

มันยังหมายความว่าความสามารถพวกมันถือว่าเป็นจุดสูงสุดของจ้าวเทวะขั้นต่ําแล้ว

 

ถ้าพวกมันเจอจ้าวเทวะขั้นต่ําที่มีสิบผนึกเต๋ ต่อทั้งสามจะไม่อาจเอาชนะได้ พวกมันก็มีความสามารถปะทะซึ่งๆหน้า

 

แต่ทว่า เพื่อป้องกันทั้งสามจากการหยิ่งเกินไป หลินฮวงจึงปกปิดความจริงเอาไว้

 

“ความสามารถปัจจุบันของพวกเจ้าคือจ้าวเทวะขั้นต่ําแล้ว นั่นถือว่าทรงพลังพอสมควร แต่ทว่า ในมหาพิภพ มีจ้าวเทวะที่มีเจ็ดหรือแปดผนึกเต๋ อย่าเพิ่งคิดว่าตัวเองไร้เทียมทานแล้ว”

 

ชาโคลพยักหน้าทันทีหลังได้ยินเช่นนั้น ข้างมัน แลนเซล็อตไม่พูดอะไร ส่วนตัวตลกนั้นกระตือรือร้นที่จะลองความสามารถใหม่

 

หลังทั้งสามกลายเป็นจ้าวเทวะ มรดกภายในตัวพวกมันก็ยิ่งปลด พวกมันยังตระหนักการแบ่งชนชั้นในหมู่จ้าวเทวะ พวกมันรู้ว่าพวกมันสร้างได้แค่ผนึกเตเดียว ความสามารถพวกมันจึงเทียบไม่ได้กับจ้าวเทวะที่มีผนึกเต๋ามากกว่าแน่

 

แต่ทว่า สิ่งที่พวกมันไม่รู้คือผนึกเต๋ที่พวกมันสร้างได้นั้นทรงพลังกว่าผนึกเต๋ของคนอื่น

 

“อย่าสร้างปัญหาหลังกลับไปแดนเทพ” หลินฮวงจับจ้องตัวตลกเป็นพิเศษ” พวกเจ้าควรไปรวบรวมทรัพยากรกันเพิ่ม พวกเจ้าต้องการทรัพยากรจํานวนมากเพื่อสนับสนุนการบ่มเพาะตอนเราไปจักรวาลในอนาคต”

 

หลังให้คําเตือน หลินฮวงก็นําทั้งสามออกวังจอมเทพ

 

ครั้งนี้ มอนสเตอร์ทั้งสามสัมผัสได้ชัดเจนว่ามังกรไฟโบราณที่ประตูกับอีกาทองคําสามขาไม่อาจคุกคามพวกมันได้อีกแล้ว

 

สีหน้าของชาโคลดูภาคภูมิขณะเดินผ่านอสูรพิทักษ์เหล่านั้น มันยังยกหางสูงเหมือนนกยูงชายที่เอาชนะคู่แข่งในด้านความรักได้

 

หลินฮวงมองท่าที่ของมัน แต่ไม่หยุด

 

มันกลับรอให้ชาโคลอวดเบ่งเสร็จก่อนพาทั้งหมดกลับไปดาวริคกี้

 

หลังกลับดาว หลินฮวงก็เตือนพวกมันอีก เขายังส่งคลื่นเสียงหาแลนเซล็อต บอกให้มันช่วยจับตาดูตัวตลกไว้ให้ดี

 

หลินฮวงขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะมองส่งทั้งสาม เขาไม่รู้ว่าทําไม แต่เขารู้สึกว่าตัวตลกต้องสร้างปัญหาใหญ่แน่

 

หลังส่งทั้งสามไป หลินฮวงก็คิดสักพัก จากนั้นก็บอกประตูทุกอาณาจักรให้เป็นช่องทางไปอาณาจักรเสมือน

 

ก่อนจะตั้งกระท่อมอาณาจักรเสมือน เขาต้องไปกําจัดวอยด์ใกล้ๆก่อน

 

เขาก้าวผ่านอุโมงค์มิติด้วยกายเสมือนและเข้าอาณาจักรเสมือน

 

ทันทีที่เขาเข้าไป เขาก็สัมผัสได้ถึงการต่อสู้รุนแรงที่ส่งผ่านมา

 

เขาเงยหน้ามองและตกตะลึง

 

มันเป็นการต่อสู้ของภูเขาดํากับสายลับที่เขาฆ่าไปก่อนหน้า ส่วนพูดพล่ามกับจ้าวเทวะขั้นต่ําอีกสามเอาแต่ยืนตัวสั่นด้านข้าง

 

“ทําไมพวกมันถึงเผยตัวบนดาวริค” หลินฮวงสับสน หรือเพราะศพพวกมันอยู่กับข้า?”

 

“แต่ทําไมพวกมันถึงสู้กันเอง?” หลินฮวงยิ่งสับสนกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม ความสับสนของเขาอยู่ไม่นานก่อนเขาจะพบว่าเขาตกเป็นเป้า

 

พอสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของหลินฮวง การต่อสู้ระหว่างภูเขาดํากับสายก็หยุดลง ทั้งสองหันมามองเขา

 

หลินฮวงไม่รู้ว่าทําไมแต่เขาสามารถสัมผัสได้ถึงเจตนาร้ายที่แผ่จากวอยด์เหล่านี้ มันไม่ใช่แค่ภูเขาดํากับสาย แม้กระทั่งพูดพล่ามกับคนอื่นที่ดูการต่อสู้อยู่ก็ยังหันมามองเขาด้วยจิตสังหาร

 

ทันทีที่หลินฮวงสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของพวกมัน ภูเขาดํากับสายก็โจมตีแทบพร้อมกัน ครั้งนี้ เป้าหมายคือหลินฮวง

 

หลินฮวงแค่นเสียงเย็นและสะบัดแขนเสื้อ สายฟ้าสีแดงเลือดนับไม่ถ้วนพุ่งออกไป

 

มันมีนับล้าน

 

แต่ละเล่มชักนําโดยผนึกดาบกับพลังลําดับเทพกว่าห้าหมื่นสาย

 

ภูเขาดํากับสายรีบถอยพอเห็นเช่นนี้

 

แต่ทว่า พวกพูดพล่ามกลับหลบไม่ทัน พวกมันโดนสายฟ้าสีแดงเลือดเจาะจนพรุนและตายคา

 

สายลับแปลงร่างเป็นดิจิทัลและหลบการโจมตีของหลินฮวงไปได้ทัน

 

แต่ทว่า ภูเขาดํากลับหลบและใช้เทคนิคป้องกันเพื่อป้องกันตัวเอง

 

“ตามคาด มันยังยากที่จะฆ่าจ้าวเทวะขั้นกลางในทันที” หลินฮวงตระหนักดีถึงความสามารถของเขา

 

วินาทีต่อมา เขาไม่ทนอีกและอัญเชิญวิญญาณต่อสู้ทั่วงสิบ

 

แม้วิญญาณต่อสู้จะมีร่างกายจับต้องได้ของรูปแกะสลักเทพ แต่โดยแก่น พวกมันคือวิญญาณต่อสู้และเป็นส่วนหนึ่งของหลินฮวง โดยธรรมชาติ เขาจึงพาพวกมันเข้าอาณาจักรเสมือนได้

 

ทันทีที่วิญญาณต่อสู้ทั้งสิบถูกอัญเชิญ หลินฮวงก็สัมผัสได้ชัดถึงจิตสังหารที่เพิ่มพูนของภูเขาดํากับสาย

 

“ข้าคิดว่าวอยด์จะไม่มีความทรงจําจากอาณาจักรวัตถุซะอีก?” หลินฮวงไม่เข้าใจจริงๆ แต่ทว่า เขาก็พลันตระหนักว่าทําไมภูเขาดํากับสายถึงสู้กัน

 

ในอาณาจักรเสมือน ทั้งคู่ไร้ความทรงจํา ตอนนี้ที่พวกเขาอยู่ในมิติเดียวกัน มันจึงเป็นปกติที่จะสู้กันเอง

 

ทันทีที่วิญญาณต่อสู้เข้าร่วมการต่อสู้เคียงข้างอาวุธนับล้านของหลินฮวง ภูเขาดําก็โดนสะกดข่มทันที

 

หลังภูเขาดําตาย ไม่ช้าสายก็โดนจับและผนึกโดยอสรพิษพันธนาการ และโดนฆ่าตายคาที่

 

ภายในเวลาไม่ถึงสองนาที หลินฮวงสามารถได้รับพลังงานต้นกําเนิดหกส่วน

 

ท่ามกลางนั้นยังมีสองคนที่มีพลังของจ้าวเทวะขั้นกลาง

 

รางวัลที่เขาได้รับครั้งนี้ถือว่ามากพอสมควร