ตอนที่ 448 แม้จะเป็นเครื่องประดับก็ไม่ได้ / ตอนที่ 449 เจ้าจะยืนอยู่ข้างกายข้าไม่ได้หรือ

ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด

ตอนที่ 448 แม้จะเป็นเครื่องประดับก็ไม่ได้

 

 

หลิงอวี้จื้อรับขนมจากมือเซียวเหยี่ยน แล้วส่งให้มั่วชิงที่อยู่ข้างหลัง

 

 

“ข้าจะตั้งใจชิมฝีมือของคุณหนูเฉินอย่างดี”

 

 

“คุณหนูเฉิน ข้ามีเรื่องจะคุยกับหลิงอวี้จื้อตามลำพัง…”

 

 

เซียวเหยี่ยนยังพูดต่อไม่จบ เฉินปี้ก็โค้งตัวอย่างรู้กาลเทศะ

 

 

“ในเมื่อส่งของให้แล้ว เช่นนั้นหม่อมฉันขอตัวก่อนเพคะ”

 

 

พูดจบเฉินปี้ก็ยิ้มจากไป ใจกว้างตลอดกระบวนการ แสดงสิ่งที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ ไม่มีความไม่พอใจและไม่ยินดีมาจากตัวนางเลยแม้แต่น้อย

 

 

มั่วชิงรู้ว่าสองคนมีเรื่องจะพูดกัน จึงถือกล่องขนมออกไปรออีกด้าน

 

 

เซียวเหยี่ยนยื่นมือออกมาจูงมือหลิงอวี้จื้อ อยากจะจูงนางกลับห้องไปคุยกัน แต่หลิงอวี้จื้อดิ้นรนสะบัดมือเซียวเหยี่ยน

 

 

“คุยตรงนี้ก็ดีอยู่แล้วเพคะ”

 

 

“ข้างนอกหนาว”

 

 

“แดดส่องถ้วนทั่วขนาดนี้จะหนาวได้อย่างไรเพคะ ท่านอ๋องวางใจพูดออกมาเถิด คนอื่นอยู่ไกลขนาดนี้ แถมไม่มีหูทิพย์ ไม่ได้ยินอะไรหรอก ท่านอ๋องวางใจได้เพคะ”

 

 

ในใจโมโห น้ำเสียงของหลิงอวี้จื้อก็เยือกเย็นมาก ไม่มองหน้าเซียวเหยี่ยนเลย

 

 

เซียวเหยี่ยนรู้ว่าหลิงอวี้จื้อโกรธแล้ว เขาเดินไปตรงหน้าหลิงอวี้จื้อ จับไหล่ทั้งสองข้างของนาง

 

 

“อวี้จื้อ เจ้าฟังข้านะ”

 

 

“ข้ารู้ว่าไทเฮาให้ท่านแต่งงานกับเฉินปี้ ข้าแค่จะถามท่านคำถามเดียว ไม่แต่งงานกับเฉินปี้ได้หรือไม่”

 

 

อย่างอื่นล้วนไม่สำคัญ คำถามนี้แหละสำคัญที่สุด เธอรู้ว่าการแต่งงานนี้ไม่ใช่ความประสงค์ของเซียวเหยี่ยนแน่นอน ตรงจุดนี้หลิงอวี้จื้อยังเข้าใจเซียวเหยี่ยนอยู่

 

 

พูดจบแล้ว หลิงอวี้จื้อไม่หลบตาเซียวเหยี่ยน เงยหน้าขึ้นมองเซียวเหยี่ยน รอเซียวเหยี่ยนตอบ ขณะนี้หัวใจเธอเต้นเร็วเป็นพิเศษ ขอเพียงเซียวเหยี่ยนพูดว่าไม่แต่งงานกับเฉินปี้ เธอก็จะถือว่าไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ยังคงรอคอยการเป็นเจ้าสาวของเซียวเหยี่ยนอย่างมีความสุขเช่นเดิม

 

 

สองคนเข้าจวนพร้อมกัน เธอทำไม่ได้ หากเป็นเช่นนั้น เรื่องนี้ก็จะกลายเป็นหนามแหลมที่เธอถอนไม่ออกไปตลอดกาล

 

 

เมื่อสัมผัสกับสายตาเฝ้ารอของหลิงอวี้จื้อ ภายในใจของเซียวเหยี่ยนก็รู้สึกอึดอัดมาก

 

 

เขาเข้าใจความหมายของหลิงอวี้จื้อดี เธอตั้งใจฟังเขาตอบปฏิเสธ เขารู้ว่าคำตอบของเขาจะทำให้หลิงอวี้จื้อผิดหวัง แต่ก็ยังต้องพูดออกไป

 

 

“อวี้จื้อ ไทเฮาออกพระราชเสาวนีย์แล้ว งานแต่งครั้งนี้รู้กันไปหมดทั่วหล้า ข้ารับปากเจ้า เฉินปี้แต่งเข้ามาแล้วก็เป็นเพียงเครื่องประดับ นอกจากสถานะ ข้าก็จะไม่ให้อะไรนางเลย เช่นนี้ดีหรือไม่”

 

 

เซียวเหยี่ยนลดท่าทีของตนถึงที่สุดแล้ว แม้แต่น้ำเสียงยังระมัดระวัง ใจของหลิงอวี้จื้อเจ็บแปลบเหมือนมีเข็มมาทิ่มแทงเข้าไป เธอจ้องเซียวเหยี่ยนตรงๆ แววตาซ่อนความผิดหวังไว้ไม่มิด

 

 

“พูดเช่นนี้ แสดงว่าเฉินปี้ต้องแต่งเข้าจวนหรือ”

 

 

“ใช่”

 

 

หลิงอวี้จื้อออกแรงผลักเซียวเหยี่ยนออกไป แล้วถอยหลังไปสองสามก้าว

 

 

“เซียวเหยี่ยน หากข้าแต่งงานกับท่านแล้วขณะเดียวกันก็แต่งกับผู้ชายอีกคนหนึ่งด้วย ให้ผู้ชายคนนั้นเข้าจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์มาเป็นเครื่องประดับ ท่านจะยอมรับหรือไม่”

 

 

“อวี้จื้อ ห้ามพูดเหลวไหล”

 

 

ได้ยินหลิงอวี้จื้อพูดเช่นนี้ สีหน้าเซียวเหยี่ยนก็เปลี่ยน รีบห้ามหลิงอวี้จื้อทันที

 

 

“ท่านดูสิ ปฏิกิริยาท่านโต้ตอบรุนแรงเช่นนี้ ข้าไม่มีอำนาจบารมี แต่ความรู้สึกภายในของเรา ข้ากับท่านต่างรู้สึกเช่นเดียวกัน ท่านไม่อยากเห็นข้ากับชายอื่นเป็นสามีภรรยากันในนาม ข้าก็ไม่อยากเห็นท่านกับหญิงอื่นมีความสัมพันธ์ในนามเช่นกัน

 

 

อาเหยี่ยน ถึงแม้ว่านางจะแต่งเข้ามาเป็นเพียงแค่เครื่องประดับ ข้าก็รับไม่ได้

 

 

เครื่องประดับนี้แกว่งไกวไปมาต่อหน้าข้าตลอดวัน แล้วยังสามารถอยู่ร่วมกับข้าและท่านได้อย่างถูกต้องเปิดเผย แล้วข้ายังต้องหาวิธีกีดกันนาง แข่งกับนางแย่งกันเป็นคนโปรด ชีวิตเช่นนี้แค่คิดก็รับไม่ได้แล้ว

 

 

แก้วแหวนเงินทองหรือลาภยศสรรเสริญข้ายอมปล่อยไปได้ แต่กับท่านนั้นไม่ได้ ท่านเป็นผู้ชายของข้า ข้าจะไม่มีทางปล่อยให้คนอื่นเด็ดขาด และไม่ยอมแบ่งปันกับคนอื่นเด็ดขาด”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 449 เจ้าจะยืนอยู่ข้างกายข้าไม่ได้หรือ

 

 

“อวี้จื้อ บางเรื่องข้าก็ไม่สามารถทำได้ตามใจนึก คิดเสียว่ามีคนมาอยู่ในจวนเพิ่มอีกคน ไม่ต้องเอานางมาใส่ใจ รอถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว ข้าจะจัดการให้นางออกไปจากจวน เจ้าให้เวลาข้าสักหน่อย เชื่อข้า ได้หรือไม่”

 

 

เห็นเซียวเหยี่ยนยืนกรานจะแต่งงานกันเฉินปี้ หลิงอวี้จื้อก็ถูกความผิดหวังและความหดหู่ครอบงำไปทั้งใจ เหตุผลเธอเข้าใจหมด แต่เธอทำไม่ได้ เพียงนึกถึงเฉินปี้ก็ยากที่จะทำเป็นไม่สนใจ เหมือนก้างที่ติดอยู่ในคอ กลืนก็ไม่ลง หยิบก็ไม่ออก

 

 

“ท่านบอกข้าหน่อย เหตุใดต้องแต่งงานกับเฉินปี้ นางมีประโยชน์อะไรกับท่าน

 

 

นางเป็นลูกสาวท่านมหาบัณฑิต ผู้เป็นพ่อไม่มีอำนาจแท้จริงในกำมือ ถึงแม้จะมีเกียรติยศอยู่บ้าง แต่ก็ช่วยอะไรท่านไม่ได้ ท่านดึงดันจะแต่งงานกับนางเพื่ออะไรกันแน่ ไทเฮาสามารถบังคับพวกเราทุกคนได้ แต่บังคับท่านไม่ได้”

 

 

เซียวเหยี่ยนไม่ได้อธิบาย มู่หรงกวานเย่ว์บังคับเซียวเหยี่ยนเมื่อก่อนไม่ได้จริงๆ แต่เซียวเหยี่ยนในตอนนี้มีความอ่อนแอ ย่อมมีจุดอ่อนอยู่ในกำมือของผู้อื่น ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ทำอะไรก็ได้อย่างใจนึก

 

 

เขาไม่ใช่ทำไม่ได้ แต่ไม่กล้าทำ หากไม่ยุ่งไม่สนใจอะไรเลยจริงๆ เช่นนั้นคนแรกที่จะตายก็คือหลิงอวี้จื้อ เขาไม่กล้าเอานางไปเป็นเดิมพัน

 

 

คำพูดเหล่านี้เซียวเหยี่ยนไม่ได้บอกหลิงอวี้จื้อ หากนางรู้แล้ว ในใจจะต้องรู้สึกผิด คิดว่าตนเองทำให้เขาตกที่นั่งลำบาก เจาไม่อยากให้หลิงอวี้จื้อมีความรู้สึกเช่นนี้ ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เขายินยอมพร้อมใจทำ

 

 

เห็นหลิงอวี้จื้อรอคอยตนเองอธิบาย สักครู่เซียวเหยี่ยนก็เอ่ยปาก

 

 

“งานแต่งครั้งนี้ไทเฮาเป็นคนพระราชทาน ตอนนี้ยังไม่สามารถแตกหักกับไทเฮาได้ นางต้องการเช่นนี้ถึงจะพอใจ เช่นนั้นข้าจึงสงเคราะห์นาง อวี้จื้อ เรื่องที่ข้ารับปากกับเจ้า ข้าต้องทำให้ได้ เจ้าให้เวลาข้าอีกสักหน่อย ข้าจะต้องจัดการเฉินปี้ให้ถูกต้องเหมาะสม”

 

 

เจตนาของเซียวเหยี่ยนชัดเจนแล้ว เขายินดีให้เฉินปี้เข้าจวน สำหรับเขาแล้วอาจจะเป็นเรื่องเล็ก แต่สำหรับหลิงอวี้จื้อนี่เป็นเรื่องใหญ่หาใดเปรียบ

 

 

เซียวเหยี่ยนคิดว่าใช้เฉินปี้มาปลอบใจมู่หรงกวานเย่ว์นั้นคุ้มค่า เธอไม่ได้เป็นคนใจดีเห็นใจคนอื่นขนาดนั้น หากนี่เป็นหนึ่งในเรื่องที่พระชายาที่มีคุณสมบัติควรทำ เช่นนั้นทั้งชีวิตนี้ เธอก็คงเป็นพระชายาที่มีคุณสมบัติไม่ได้

 

 

กล่าวโดยสรุป เซียวเหยี่ยนก็ยังเข้าใจเธอไม่พอ หากเข้าใจจริงๆ จะไม่รู้ได้อย่างไรว่า ไม่ว่าอย่างไรเธอก็รับเรื่องเช่นนี้ไม่ได้

 

 

สถานะเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับผู้หญิง โดยเฉพาะที่แคว้นเว่ยตะวันตก แต่งกับท่านแล้ว ทั้งชีวิตที่เหลืออยู่ก็เป็นคนของท่าน ตายแล้วก็เป็นผี เฉินปี้เป็นเมียของเซียวเหยี่ยนผู้ยิ่งใหญ่ เมียน้อยก็เป็นเมีย ไม่นับถือว่าเป็นมือที่สามเลยด้วยซ้ำ

 

 

หากเธอไม่ยอมให้เฉินปี้เข้าใกล้เซียวเหยี่ยน ทุกคนก็จะหาว่าเธอทำไม่ถูก ดูก็รู้ว่าเฉินปี้ไม่ใช่ตะเกียงที่ประหยัดน้ำมัน จะต้องเป็นคนประเภทที่ใช้ทุกโอกาสให้เกิดประโยชน์

 

 

ถึงตอนนั้นชีวิตของเธอจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด ระหว่างเธอกับเซียวเหยี่ยนจะเกิดรอยแยกที่ก้าวผ่านไปไม่ได้เพราะเรื่องนี้

 

 

พระชายาเช่นนี้ เธอยังต้องการเป็นไหม

 

 

หลิงอวี้จื้อเริ่มย้อนถามตนเอง

 

 

“เซียวเหยี่ยน เพื่อบรรลุเป้าหมายของท่าน คราวที่แล้วท่านก็ไหว้ฟ้าดินกับเฟิงอิ๋นไปแล้ว คราวนี้ท่านตัดสินใจจะแต่งผู้หญิงอีกคนเข้าจวน

 

 

ตอนอยู่ที่อำเภอฉางหนิง ข้าเคยบอกท่านแล้วว่า ครั้งนั้นจะเป็นครั้งสุดท้าย ใจของข้าเจ็บปวดจริงๆ

 

 

ท่านใช้เรื่องอื่นมาทำให้ตนเองบรรลุเป้าหมาย ข้ายอมรับได้ทั้งนั้น แต่มีเพียงความรักเรื่องเดียวเท่านั้นที่ใช้ไม่ได้ ข้ารับไม่ได้

 

 

ท่านแต่งงานกับเฉินปี้ได้อยู่แล้ว ข้าปฏิเสธไม่ได้ ท่านจะให้ข้ายินดีมีความสุขด้วย เช่นนั้นเป็นไปไม่ได้ ข้าไม่ได้ใจกว้างขนาดนั้น เซียวเหยี่ยน ท่านไม่เข้าใจข้าเลย”

 

 

พูดจบแล้ว หลิงอวี้จื้อก็ไม่มองเซียวเหยี่ยนอีก หมุนตัวจะไป เดินไปไม่กี่ก้าว ก็มีเสียงของเซียวเหยี่ยนแว่วมา

 

 

“เรื่องคราวที่อยู่ที่สำนักอู๋จี๋ ข้าทำไม่ถูกจริงๆ อวี้จื้อ คราวนี้เจ้าจะยืนอยู่ข้างกายข้าไม่ได้หรือ”